Gate of God – ตอนที่ 635 เวลาที่เหลืออยู่

ตอนที่ 635 เวลาที่เหลืออยู่

หลังจากที่ได้ยินคัง เยว่ พูด ฟาง เจิ้งจือ ก็ยืนนิ่ง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจพูด… ”
ถ้าปิง หยาง เป็นอะไรไปก่อนที่จะได้เจอแม่ ข้าจะไปฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน!ต่อให้เจ้าซ่อนอยู่ในหอคอยหลิงหยุน ข้าก็จะฆ่าเจ้า!”ฟาง เจิ้งจือ กล่าวในขณะที่จ้องไปทาง คัง เยว่
”ฆ่าข้า?ฮ่าฮ่า, ฟาง เจิ้งจือ ข้าแนะนำให้เจ้าดูแลตัวเองให้ดี และเพลิดเพลินกับชีวิตที่เหลือซะ ข้าคงไม่ต้องพูดย้ำเรื่องเวลาที่เหลือของเจ้าหรอกนะ?ครึ่งปีคือเวลาที่นานที่สุดแล้ว เจ้าเข้าใจใช่ไหม?”คัง เยว่ หัวเราะในขณะที่นางพูด
ฟางเจิ้งจือ เงียบลง
ไม่มีอะไรต้องพูดอีกต่อไปอย่างที่นางพูด เหลือเวลาเพียงแค่ครึ่งปี เขาจะเข้าถึงระดับเซียนได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ จ้องที่ คัง เยว่ โดยไม่รู้ตัว
เซียน!
พลังที่ผู้คนใฝ่ฝันอย่างไรก็ตามต่อหน้า คัง เยว่ ดูหมือนจะไม่มีความหมาย
ยิ่งไปกว่านั้นนางยังมีหอคอยหลังหยุนคอยสนับสนุน
นี่คือความห่างของพลังระหว่างพวกเขา
หลายครั้งที่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าพลังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ความฉลาดเฉลียว หรือความโชคดี อาจอยู่เหนือยิ่งกว่า
อย่างไรก็ตามคราวนี้…
เขารู้สึกได้ถึงพลังที่แตกต่างอย่างชัดเจน
หอคอยหลิง หยุน!
ครึ่งปี?
เขาจะได้เห็นปิง หยาง อีกครั้งไหม?
”เจ้าไร้ยางอายต่อให้คนอื่นไม่เชื่อ แต่ข้าเชื่อ ข้าจะรอเจ้านะ! ต่อให้เจ้าไม่มาในครึ่งปี ข้าก็จะรอเจ้าต่อให้เป็นอีกหนึ่งปี สองปี หรือสามปีก็ตาม…”ดวงตาของ ปิง หยาง เปล่างประกายขณะพูดออกมา
”ปิงหยาง…” ฟาง เจิ้งจือ จ้องมอง ปิง หยาง ด้วยความจริงจังเป็นครั้งแรก เขาจดจำชุดสีแดงสดพร้อมกับดวงตาที่งดงามของนาง
ตูม!เสียงฟ้าผ่าดังก้อง
ความจำทุกอย่างผุดขึ้นมาในหัวเขาคำสัญญาที่เขามอบให้กับ ปิง หยาง สัญญาที่ให้ไว้กับ ฉือ กูเหยียน ว่าจะประลองกับนางที่ศาลาเต๋าสวรรค์ เขายังดูแลพ่อและแม่ของตัวเองไม่ดีพอ ทั้งความเชื่อใจจาก เหยียน ซิว และ ฉาน ยู่ อีก เงื่อนไขของ วู่ จวี้เอ๋อ และสิ่งที่เขาสูญเสียให้ หยุน ชิงวู
เขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ
ถ้าเขาทำไม่สำเร็จเขาจะต้องตาย
ฟางเจิ้งจือ กำหมัดแน่นก่อนจะพูดออกมา “ถ้าสวรรค์กำหนดให้ข้าตาย ข้าคงทำได้แค่ฝืนเปลี่ยนโชคชะตาตัวเองเท่านั้น!”

เสาแสงค่อยๆหายไปพร้อมกับร่างสองร่างราวกับพวกเขาไม่มีตัวตนอยู่อีกแล้ว
ท้องฟ้าสว่างขึ้นแม้ว่าฝนจะตกอย่างต่อเนื่อง
เหล่าทหารเริ่มทำความสะอาดสนามรบด้วยความเงียบเชียบไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย
พวกเขาได้รับชัยชนะพวกคนเถื่อนและราชาอสูรได้พ่ายแพ้
อย่างไรก็ตามไม่มีใครมีความสุขกับมันเพราะผู้คนจำนวนมากได้ล้มตาย แม้แต่ราชาหลี่ฉิน ผู้เป็นดั่งตำนานก็ตาม
เหยียนเฉียนหลี่ เดินไปที่ร่างของเขาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะถอดผ้าคลุมออกและวางคลุมร่างของราชาหลี่ฉิน
ร่างของหลิน มู่ไป่ สั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงต่อหน้าราชาหลี่ฉืน เขากำหมัดแน่น
ความโศกเศร้าอัดแน่นในหัวใจเขาเมืองหลวงที่พังเขาสามารถซ่อมแซนได้
อย่างไรก็ตาม…
การตายของราชาหลี่ฉินการกบฎขององค์รัชทายาทรวมถึงราชาต้วน เขาไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่น้อย
ที่สำคัญที่สุดคือปิง หยาง ถูกพาตัวไปโดย คัง เยว่ มันทำให้ หลิน มู่ไป่ รู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมา
แม้ผู้ครองบัลลังก์ต้องเด็ดขาดแต่ใช้ว่าเขาจะไร้อารมณ์
”ข้าจะเชื่อใครได้อีกต่อไป?”หลิน มู่ไป่ เงยหน้าปล่อยให้สายฝนชะล้างความเศร้า เขาสูญเสียทุกสิ่งที่เขารัก คนที่เขารัก
ตัวเลือกสุดท้ายของเขาอาจจะเป็นซิง หยวนกัว
อย่างไรก็ตามซิง หยวนกัว อยู่ในกองทัพ รวมถึงเป็นหัวหน้าของสิบสามกองตรวจการ เขาไม่มีทางเข้ามายุ่งเรื่องการเมือง
ร่างกายของเขารู้สึกอ่อนแอเป็นอย่างมากเขาสามารถยืดหยัดได้ด้วยการสนับสนุนของ เฉิน เฟยฮัว
”ฑูตมังกรคนแรกอยู่ไหน?”
”ข้าอยู่นี่ฝ่าบาท!” หยาน ฉิง เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
”นอกจากราชาต้วนและหลิน เทียนหลง แล้วลูกๆคนอื่นของข้าอยู่ที่ไหน?”
”้เท่าที่ข้ารู้องค์ชายเจ็ดได้พาทหารไปต่อสู้ที่ประตูวังทางทิศตะวันตกอย่างไรก็ตามเขามีจำนวนทหารไม่มากทำให้ป้องกันไม่สำเร็จ ส่วนองค์ชายสิบเอ็ดอยู่ในเมืองเพื่อปลอบใจประชาชน สำหรับองค์ชายเก้า…”
”เขาอยู่ไหน?”หลิน มู่ไป่ รู้สึกผิดปกติจึงขมวดคิ้ว.Aileen-novel.
”เขา…ออกจากเมืองไปแล้วตั้งแต่ที่พวกคนเถื่อนเข้าโจมตีเมืองเขาก็ออกไปแล้ว!”
”หา?เจ้าเด็กเหลือขอไร้ประโยชน์นี่คิดจะละทิ้งหน้าที่ตัวเองงั้นหรือ?” หลิน มู่ไป โกรธเกรี้ยว เขากลับทิ้งเมืองไปในตอนที่ตัวเขาเองเป็นที่ต้องการมากที่สุด”
”ฝ่าบาทโปรดใจเย็น” หยาง ฉิง เตือน นอกจากทำหน้าที่เป็นฑูตมังกรแล้วเขายังมีหน้าที่จับตาองค์ชายทุกคนด้วย
”ไม่เป็นไรปล่อยเขาไป!”หลิน มู่ไป่ ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยหน่าย เขาเหนื่อยที่จะใช้อารมณ์ใดๆอีกแล้ว
”ฝ่าบาทข้าเกรงว่าการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ!” ทันใดนั้น ซิง หยวนกัวก็ปรากฎตัวต่อหน้า หลิน มู่ไป่ เขาขมวดคิ้วมองไปยังขอบฟ้าไกล
”หมายความว่ายังไง?”หลิน มู่ไป่ ถามขึ้นมา
”ข้าสังเกตุเห็นไฟสูงสุดถูกจุดขึ้นทุกกองทัพคงกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ ข้ากังวลเกี่ยวกับพื้นที่ในแดนเหนือ…กองตรวจการทั้งห้า ซู ฉิง เป็นผู้ควบคุม ถ้าข้าเดาไม่ผิดพวกกองทัพคนเถื่อนน่าจะ…”
”อืมนั่นคือสิ่งที่ข้ากังวลเช่นกัน พวกกองทัพคนเถื่อนน่าจะถอยทัพไปถึงแถวนั้นแล้ว สงครามครั้งนี้ยังไม่จบอย่างแท้จริง” หลิน มู่ไป่ พยักหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา
ฝนที่ตกอย่างรุนแรงช่วยชำระคลาบเลือดในสนามรบ
ฟางเจิ้งจือ อารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก เมื่อเขาเห็น ซิง หยวนกัว และ หลิน มู่ไป่ เดินเข้ามา เขาก็โค้งตัวให้อย่างสุภาพ
”เจิ้งจือ…ข้าในฐานะจักรพรรดิขอขอบคุณแทนพลเมืองของอาณาจักรเซี่ยทุกคน!” หลิน มู่ไป่ มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน
”ซูฉิง หนีไปแล้วงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังทิศที่แดนเหนือตั้งอยู่ทันทีก่อนจะถามขึ้นมา
”ใช่”
”ข้าอยากไปที่หมู่บ้านทางเหนือก่อน”
”เข้าใจแล้วแต่ตอนนี้แดนเหนือไม่ปลอดภัยอีกแล้ว หากเจ้าไม่รังเกียจเจ้าสามารถเดินทางไปพร้อม ซิง หยวนกัว ได้ ข้าจะส่งหนว่ยเกราะมังกรไปด้วย”
”ขอบคุณแต่ เหยียน ซิว คนเดียวก็เพียงพอแล้ว” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวและปฏิเสธอย่างสุภาพ
”หืมเจิ้งจือ ข้ารู้ว่าเจ้า…” ขณะที่ หลิน มู่ไป่ จะพูดขึ้นมานั้นเองก็ถูกขัดขึ้นมา
”ข้าต้องการเข้าพบองค์จักรพรรดิ!”
”ฝ่าบาท!”
หลินมู่ไป่ ขมวดคิ้วก่อนจะหันไปด้านหลัง
ชายร่างเล็กคนหนึ่งกำลังดิ้นอยู่ในแขนของทหารคนหนึ่งเขาถือจดหมายโบกไปมา
”ฝ่าบาทเขาอ้างว่าเป็นข้ารับใช้ขององค์ชายเก้า และยังบอกอีกว่าองค์ชายเก้ามีจดหมายถึงท่าน!” ทหารคนนั้นรายงานอย่างรวดเร็ว
”เจ้าเด็กเหลือขอนั่นยังทิ้งจดหมายไว้อีกงั้นรึข้าไม่อยากอ่านมัน!” หลิน มู่ไป่ โบกมือไล่ทันที
”องค์ชายเก้าไม่ได้หนีไป!ฝ่าบาทหลังจากท่านอ่านจดหมายนี้้ท่านต้องเข้าใจแน่นอน!” คนรับใช้รีบตะโกนขึ้นมาทันที
หลินมู่ไป่ ไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาในที่สุด”ส่งจดหมายมาให้ข้า!”
”รับทราบ!”ทหารอีกคนรีบดึงจดหมายจากมือคนรับใช้ให้ หลิน มู่ไป่ ทันที
ฟางเจิ้งจือ ยังคงนิ่งเงียบเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
เหยียนซิว และ ฉาน ยู่ ก็ยืนเงียบเช่นกัน พวกเขายืนอยู่ข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยสีหน้าแปลกๆ
สำหรับวู่ จวี้เอ๋อ นางกำลังมองไปยังทิศตรงข้ามพร้อมกับจมอยู่ในห้วงความคิด
จดหมายถึงมือของหลิน มู่ไป่แล้ว
เขาไม่ลังเลฉีกจดหมายเปิดอ่านทันทีเขาอ่านผ่านๆคิ้วที่ขมวดอยู่ค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆ
”ฝ่าบาทองค์ชายเก้าไปที่แดนเหนือใช่ไหม?” ซิง หยวนกัว ถามขึ้นมา
”ใช่เขาไปที่เมืองเกล็ดทอง!” หลิน มู๋ไป่ ตอบหลังจากยืนเงียบงันไปครู่หนึ่ง
”อืมก็ถือว่าเขาทำเรื่องที่ดี ต่อให้ ซู ฉิง จะเป็นหัวหน้ากองตรวจการทั้งห้า แต่องค์ชายเก้าเป็นเชื้อพระวงศ์ เมื่อเขาไปถึงเมืองเกล็ดทอง กองทัพในเมืองต้องฟังเขาแน่นอน!”
”ใช่”หลิน มู่ไป่ พยักหน้าด้วยความพอใจ
จดหมายฉบับนี้เขียนเป็นการขอโทษที่ปลอมแปลงคำสั่งจากองค์จักรพรรดิมันชัดเจนว่าองค์ชายเก้าอ้างองค์จักรพรรดิเพื่อยึดเมืองเกล็ดทอง
มันเป็นความผิดที่ค่อนข้างหนักเอาการ
อย่างไรก็ตามหลิน มู่ไป่ ไม่สามารถตำหนิเขาได้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ทำแบบนั้น แต่มันยังทำให้เขาได้รู้ว่ายังพอมีคนที่มีประโยชน์อยู่ข้างๆเขาบ้าง…

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท