Gate of God – ตอนที่ 698 ลองไปด้วยกัน

ตอนที่ 698 ลองไปด้วยกัน

  ความร้อนมหาศาลพวยพุ่งออกมาอากาศทั่วบริเวณของแท่นบูชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพลิงพันปี!
หนึ่งในสิ่งล้ำค่าที่สุดของเก้าขุนเขาเทียนซิงจำมันได้อย่างแน่นอน
”ฉือกูเหยียน จะขู่ข้าหรือ?!”น้ำเสียงของเทียนซิงเปลี่ยนไป พร้อมขมวดคิ้ว
เพลิงพันปีสมุนไพรรักษาชั้นสูง
อย่างไรก็ตามมันเต็มไปด้วยพลังของสวรรค์มันจึงไม่สามารถกินเข้าไปโดยตรงได้
เทียนซิงไม่คิดว่า ฉือ กูเหยียน จะใช้มันรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง เพราะนั่นเท่ากับฆ่าตัวตาย

มีความเป็นไปได้เพียงทางเดียวเท่านั้น
ข่มขู่  นางจะขู่ทำลายเพลิงพันปี
”นั่นคือเพลิงพันปีจริงๆ!”เสียงที่ด้านหลังเทียนซิงดังขึ้นร่างๆหนึ่งปรากฎตัวออกมา
ศิษย์อันดับหนึ่งของหอหยิงหยางว่าน เล่ย
หลังจากได้เห็นเพลิงพันปีในมือของฉือ กูเหยียน ดวงตาของเขาก็จับจ้องและเต็มไปด้วยความต้องการ แต่ก็ระงับความต้องการนั้นไปอย่างรวดเร็ว
แม้การกินเพลิงพันปีเข้าไปโดยตรงจะพอมีความเป็นไปได้อยู่บ้างแต่ ว่าน เล่ย คงไม่โง่พอจะทำเช่นนั้นในตอนนี้
เพราะเพลิงพันปีในตอนนี้ ทั้ง มู่ ฉิงเฟิง และเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ รวมไปถึงเก้าขุนเขาต่างจ้องมองไปที่มัน
”นั่นคือเพลิงพันปี?”
”พี่หญิงได้เพลิงพันปีมาจริงๆ!”
”นั่นหมายความว่านางเอาชนะเซียนทั้งสามคนที่เกาะจันทราดำสมแล้วที่นางคือผู้ถูกเลือก!”
เหล่าศิษย์ของเก้าขุนเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้น
เพลิงพันปีเป็นสมบัติล้ำค่าที่ได้รับการปกป้องจากเซียนสามคนมีเพียงช่วงเวลาที่เกิดเหตุร้ายแรงเท่านั้น ผู้นำเก้าขุนเขาถึงจะใช้มัน และใช้เพียงเศษเสี้ยวของมันเท่านั้น
ในส่วนเล็กๆเพื่อเยียวยาบาดแผล
การถอนมันออกมาทั้งรากแบบนี้…
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคิดจะทำแม้แต่คนเดียว
แต่ในตอนนี้?
มันถูกถอนออกมาทั้งต้นไม่เหลือแม้แต่โคนรากให้เติบโตต่อไปได้แม้จะได้มันคืนไปก็นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้นฉือ กูเหยียน ยังคิดจะทำลายมันเพื่อข่มขู่เทียนซิง เรื่องนี้จะไม่ทำให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร?
”ชั่วร้าย!”
”แม้ฉือ กูเหยียน จะเป็นผู้ถูกเลือก พวกเราก็จะไม่มีวันยอมให้นางมาขโมยสมบติล้ำค่าและทำลายเกาะของเราเช่นนี้!”
”ถูกต้องศาลาเต๋าสวรรค์ต้องชดใช้กับเรื่องนี้!”
ศิษย์ของเก้าขุนเขาต่างหยิบอาวุธออกมาด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตามฉือ กูเหยียน ไม่ได้ตอบเทียนซิงแมแต่คำเดียว นางกัดริมฝีปากแน่น
ในหน้าที่งดงามของนางขาวซีดจนกลายเป็นสีม่วงชุดสีชมพูพริ้วไหวไปตามสายลม
นางไม่ได้หันมองเทียนซิงและ ว่าน เล่ย แม้แต่น้อย นางก้มหัวเล็กน้อย มองดูใบหน้าที่ซีดจางของ ฟาง เจิ้งจือ ในอ้อมกอด
”ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่เสียที…”ฉือ กูเหยียน พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอมาก
จากนั้นนางก็ค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆปาดเหงื่อที่หน้าผากของ ฟาง เจิ้งจือ เล็กน้อย
คำพูดของฉือ กูเหยียน แปลกมาก ทั้งเทียนซิง ว่าย เล่ย ศิษย์ของทั้งสองสำนักต่างรู้สึกสับสน  แต่ฉือ กูเหยียน ก็ไม่ได้สนใจพวกเขา แววตาของนางมองเพียง ฟาง เจิ้งจือ ในอ้อมแขนอยู่เงียบๆ
อย่างไรก็ตามนางก็ได้สติอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเปล่งเสียงที่โกรธแค้นและเศร้าโศกออกมา
”เจ้าไร้ยางอาย!”ฉือ กูเหยียน เปล่งเสียงออกมา
”ฉือกูเหยียน อย่าคิดว่าเจ้าแค่ใช้เพลิงพันปีขู่ข้า แล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไร ถ้าเจ้ากล้าทำลายเพลิงพันปี เก้าขุนเขาจะถือว่าศาลาเต๋าสวรรค์เป็นศัตรู!”เทียนซิงเหลือบมอง ฉือ กูเหยียน ที่พึมพำอะไรบางอย่าง เขารู้สึกหมดความอดทนแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายังคงกลัวอยู่เรื่องหนึ่ง
ในตอนนี้เพลิงพันปีอยู่กับฉือ กูเหยียน
เพียงแค่นางบีบมือเล็กน้อย
เพลิงพันปีก็จะสูญสลายในทันทีเก้าขุนเขาไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
”ผู้นำเทียนอย่ากังวลไปเลย ฉือ กูเหยียน ใช้ความพยายามอย่างมากในการได้เพลิงพนปี นางจะทำลายมันทิ้งได้อย่างไร?ให้ข้าช่วยท่านเอง!”ดวงตาของ ว่าน เล่ย เปล่งประกายและเกิดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก
เขาเริ่มเคลื่อนไหว
ความรวดเร็วดุจสายฟ้าพุ่งตรงไปที่ฉือ กูเหยียน
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเอง เงาที่ดูอ่อนแอด้านหลังของ ฉือ กูเหยียน ก็จ้องมองไปที่เขา แววตาที่น่ากลัวปล่อยแรงกดดันออกมา แม้แต่ ว่าน เล่ย ก็เหงื่อตก
หลังจากนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
”ผนึก!”
จากนั้น…
ความเร็วของว่าน เล่ย ก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าเขาค่อยๆคลานเข้าหา ฉือ กูเหยียน
ตอนนั้นว่าน เล่ย แปลกใจอย่างมาก
”ฉือกูเหยียน เจ้าคงไม่คิดว่าจะหยุดพวกเราได้ทั้งหมดใช่ไหม?”ว่าน เล่ย เหมือนจะไม่กังวลแม้แต่น้อย สายตาของเขายังคงสงบนิ่ง
อย่างไรก็ตามฉือ กูเหยียน ไม่สนใจ ว่าน เล่ย แม้แต่น้อย
อย่างที่ว่าน เล่ย พูด การที่จะรับมือ เทียนซิง และ ว่านเล่ย พร้อมกันนั้นยากมาก
”เจ้าไร้ยางอาย…แค่ก!”ฉือ กูเหยียน เริ่มกระอักเลือดออกมา แต่นางก็ไม่หยุดพูด “ความจริงแล้วข้าตั้งใจจะกลับมาให้เร็วกว่านี้ แต่ก็สายเกินไป… เพลิงพันปียังไม่สามารถทำเป็นยาได้ ข้า… ข้าเริ่มไม่มั่นใจ…”
”หมายความว่าอะไร?ฉือ กูเหยียน จริงๆเจ้าพยายามจะทำอะไรกันแน่? และชายคนนั้นเป็นใครกัน?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ในที่สุด ฉือ กูเหยียน ก็เงยหน้ามอง เทียนซิง ที่จ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ
”ไม่ใช่ว่า… ไม่ใช่ว่าเจ้าได้ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ให้กลายเป็นจริงอยู่เสมองั้นหรือ? ถ้างั้น แค่ช่วย …ลอง …แค่ลองดู …แค่ก” ฉือ กูเหยียน ยังคงกระอักเลือดออกมา ร่างของนางล้มไปข้างหน้า เข่าทรุดลงไปที่พื้น  ”ให้ลอง?ลองอะไร? ฉือ กูเหยียน อย่าบอกนะว่าเจ้า…” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทีของ เทียนซิง ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
จากนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง
ฉือกูเหยียน ยกมือขึ้น คราวนี้เป็นมือที่ถือเพลิงพันปี มือของนางสั่นเทาเล็กน้อยแต่ยังคงกุมเพลิงพันปีเอาไว้แน่น
”มาลองด้วยกัน… ข้า … ข้าไม่อยากให้เจ้าตายจริงๆ!”ดวงตาของ ฉือ กูเหยียน เริ่มพร่ามัว ราวกับดวงดาวที่เสียแสงสว่างไป
อย่างไรก็ตามมือของนางพยายามเปิดปากของ ฟาง เจิ้งจือ และใส่เพลิงพันปีเข้าไปในปากของเขาอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเอง…
ดวงตาที่หลับสนิทมาตลอดวเวลาก็เบิกกว้างขึ้น และเป็นดวงตาที่มืดสนิท ดวงตาทั้งสองดวงนิ่งสงบ
อย่างไรก็ตามความสงบนั้นกลายเป็นความประหลาดใจอย่างรวดเร็ว  ”อึก… ” ราวกับว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังสำลักเจียนตาย ลูกตาทั้งสองเหลือกเข้าไปด้านหลังศีรษะ
”ฉือกูเหยียน เจ้ารนหาที่ตาย!”เทียนซิงโกรธอย่างแท้จริง เมื่อเขาได้ยินนางพึมพำบางอย่าง เขาก็เกิดลางสังหรณ์อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามลางสังหรณ์ก็เป็นเพียงลางสังหรณ์
เขาไม่คิดว่าฉือ กูเหยียน จะทำเช่นนั้นจริงๆ
ทำลายมัน!
นางอยากทำลายมันมากกว่าส่งคืนให้ข้า?!
”ฉือกูเหยียน เจ้าประมาทวัตถุดิบของสวรรค์มากเกินไปแล้ว!”ว่าน เล่ย สั่นสะท้าน แขนข้างหนึ่งของเขายื่นออกไปด้านหน้า พยายามดึงเพลิงพันปีออกจาก ฟาง เจิ้งจือ “เร็วเข้า เอาเพลิงพันปีออกมา ถ้าเจ้าทำเช่นนี้ เท่ากับว่าเจ้าทำลายชีวิตเขา”

”เพลิงพันปี? ทำลายชีวิตข้า?”ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกแปลกๆ ความจริงแล้ว เขารู้สึกถึงว่ามีหินร้อนลุกไหม้อยู่ที่ลำคอ
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกแปลกๆ
เขาไจำได้ว่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ต้องการฆ่า เหยียน ซิว จากนั้นความโกรธในจิตใจของเขาก็พวยพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดจนเกือบเสียสติ
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะหมดสติไป เขาจำได้ว่าเห็นใครบางคน
มู่ฉิงเฟิง
ผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์
จากนั้นก็รู้สึกว่าดาบไร้ร่องรอยถูกช่วงชิงออกไป
จากนั้น… ไอลีนโนเวล
มู่ฉิงเฟิง ดูเหมือนจะยัดอะไรเข้าปากเขา จนทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวมากขึ้น
มู่ฉิงเฟิง ช่วยข้าหรือ? ฟาง เจิ้งจือ เริ่มสงสัย
แล้วฉือ กูเหยียน ที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ล่ะ? เขามาอยู่ในอ้อมกอดของนางได้ยังไง?นอกจากนี้ทำไมนางดูเหมือนกำลังจะตาย
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกสับสนมาก
สิ่งที่ทำให้สับสนมากขึ้นคือเสียงที่อยู่รอบตัวเขา
เพลิงพันปี!
”หินร้อนที่ลุกไหม้ในคอของข้าคือเพลิงพันปี?!”ฟาง เจิ้งจือ กลืนน้ำลายของเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วรู้สึกว่าหินในปากของเขาไหลลงไปอีกเล็กน้อย
มันติดอยู่ที่คอของเขา
มันทำให้เขาหายใจไม่ออก
เพลิงพันปีคืออะไร?เหมือนข้าได้ยินว่ามันเป็นวัตถุดิบชั้นสูงและทรงคุณค่า แต่มันไม่ควรถูกทำให้เป็นของเหลวก่อนกินเข้าไปหรือ?
ทำไมมันรู้สึกเหมือนหินในปากของเขา…
สิ่งนี้มันยากและร้อนมากมันจะกินได้อย่างไร?   เมื่อเขาคิดเช่นนั้นจู่ๆฟาง เจิ้งจือ ก็สังเกตุเห็นหัวของ ฉือ กูเหยียน ตกลงเล็กน้อย ดวงตาที่สดใสของนางดูพร่ามัว เลือดไหลออกที่มุมปาก
”เกิดอะไรขึ้น?!”ฟางเจิ้งจือ อยากจะร้องลั่นออกมา แต่ก็ทำไมได้เพราะเพลิงพันปีในลำคอ ความจริงแล้วในตอนนี้ร่างกายของเขาอ่อนแอลงมากจนแทบจะขยับตัวไม่ได้
เขาดิ้นรน
แม้เขาพยายามจะเตะนางออกไปแต่หัวของ ฉือ กูเหยียน ก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ รอยเลือดที่มุมปากของนางไหลเลอะร่างของเขา
ทันใดนั้นเอง…
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม มันเต็มไปด้วยความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม
”ข้าถูกบังคับอีกแล้ว?โดย ฉือ กูเหยียน อีกครั้ง!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ เขาชอบที่จะได้คิด
แต่เห็นได้ชัดเลยว่าฉือ กูเหยียน ไม่ตระหนักเรื่องนั้นเแม้แต่น้อย  มันคือจูบ
ในตอนที่ฉือ กูเหยียน จูบเขา ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลบางอย่าง ความชุ่มและกลิ่นของเลือดเข้ามาในปากของเขา
และมันยิ่งผลักดันเข้าไป…
ดันสิ่งที่อยู่ในคอของเขาจนในที่สุดเขาก็กลืนเพลิงพันปีลงไป
”การจูบครั้งนี้เพื่อป้อนเพลิงพันปีให้กับขางั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ครุ่นคิด แม้เขาจะรู้สึกสูญเสียเล็กน้อย
ความจริงแล้วนางควรจะหยุดจูบได้แล้ว
แต่…
นางไม่หยุด
ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มยังคงประทับอยู่ที่ปากของเขาแม้กระทั่งลิ้นที่อ่อนระทวยก็ยังไม่กลับคืนสู่ปากของนาง มันยังคงอยู่ในปากของเขา
”ผู้หญิงคนนี้อยากจูบข้างั้นหรือ?”ฟางเจิ้งจือ อยากจะถาม ฉือ กูเหยียน ว่า “ตอนนี้เจ้าพร้อมจะยอมแพ้ และเป็นผู้หญิงของข้าแล้วงั้นหรือ?”   อย่างไรก็ตามก่อนเขาจะได้ถามออกมา คลื่นความร้อนก็ระเบิดไปทั่วร่าง
ร้อน…
นั่นคือทั้งหมดที่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกได้ในตอนนี้
ราวกับว่าความร้อนได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายกระจายไปยังอวัยวะทุกๆส่วน
”ฮึกฮึก ฮึก … ” ฟาง เจิ้งจือ อยากจะกรีดร้อง แต่ริมฝีปกของเขาจะแนบแน่นอยู่กับริมฝีปากของ ฉือ กูเหยียน เขาจึงได้แต่ทำเสียงอู้อี้เท่านั้น
เขาต้องการจะดิ้นรน
อย่างไรก็ตามแขนและร่างของ ฉือ กูเหยียน ยังคงกดทับร่างเขาไว้อย่างแน่นหนา ความแข็งแกร่งที่อ่อนโยนกดทับอยู่บนร่างกายของเขาจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ในที่สุดเขาก็นึกคำอีกคำหนึ่งขึ้นได้
ทำลายชีวิตของข้า!
”ฉือกูเหยียน เจ้าพยายามจะฆ่าข้า!”ฟาง เจิ้งจือ กรีดร้องอยู่ในภายในใจ แต่เนื่องจากความร้อนภายในร่างกายมันทำให้สีผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงในพริบตา
หมอกควันระเหยขึ้นในทันทีไอน้ำจากความร้อนในร่างกาย …
เมื่อน้ำในร่างกายของเขาระเหยออกมาเช่นนี้เขาจะยังมีชีวิตรอดใช่ไหม?
.

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท