ผู้อาวุโสหกข้าพบศัตรูอยู่ด้านหน้าศาลาเต๋าสวรรค์ เร็วเข้า เร็วเข้า! ฟาง เจิ้งจือ ตะโกน
หืม? ชายในชุดดำทั้งสี่ตกใจกับคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยิ้มเยาะออกมา เจ้าเด็กน้อยอย่ามาหลอกพวกเราให้ยาก ผู้อาวุโสของศาลาเต๋าสวรรค์จะ…หา?!
ก่อนที่พวกเขาจะพูดจบประโยคพวกเขาก็ได้ยินเสียงผู้คนจำนวนมาก ไม่นานศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็ปรากฎตัวขึ้น
นอกจากนั้นยังมีชายชราอีกสองคนอยู่บนท้องฟ้าเป็นผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสี่
เห็นได้ชัดว่ากองทัพขนาดใหญ่นี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกใจและตะลึง
ผู้อาวุโสสามคนและศิษย์จำนวนมากเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน…
พวกเขามาที่นี่จริงๆงั้นหรือ? ชายทั้งสีคนงงงวยทันที
ในขณะเดียวกันด้านของศาลาเต๋าสวรรค์เองก็แปลกใจเช่นกันเมื่อเห็นชายชุดดำทั้งสี่คน
พวกเขาไม่แปลกใจกับสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ พูด แต่พวกเขาแปลกใจที่มีศัตรูอยู่ที่ด้านล่างของศาลาเต๋าสวรรค์จริงๆ
พวกเจ้าเป็นใคร? ผู้อาวุโสหกถามขึ้นมาเพราะใบหน้าของคนพวกนั้นมีผ้าคลุมปกปิดอยู่
ชายทั้งสี่มองหน้ากันก่อนที่หนึ่งในนั้นจะก้าวไปข้างหน้า
ข้าขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสหกพวกเราเพียงมีความแค้นบางอย่างกับ ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้น จากสิ่งที่พวกเรารู้ ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่ใช่ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ และพวกเราก็ไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับศาลาเต๋าสวรรค์ นี่เป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่า?
เข้าใจผิด?ข้าไมสนใจเรื่องความแค้นระหว่างเจ้ากับเด็กเหลือขอนั่น พวกเราต้องการพาตัว ฟาง เจิ้งจือ กลับไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์ รวมถึงพวกเจ้าต้องมากับเราเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย! ผู้อาวุโสหกพูดออกมาอย่างไม่ลังเล เพราะตอนนี้พวกเขาทุกคนยังอยู่ในเขตแดนของศาลาเต๋าสวรรค์ ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังอยู่ด้านล่างศาลาเต๋าสวรรค์
พูดอย่างตรงไปตรงมาศาลาเต๋าสวรรค์จะยอมให้คนอื่นมาสร้างปัญหาในเขตแดนของตัวเองได้ยังไง
ชายชุดดำทึ่ก้าวออกมามีท่าทีแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด
นำตัวฟาง เจิ้งจือ กลับไป?
พวกเราต้องไปด้วย?
พวกเขาไม่สามารถยอมรับทั้งสองอย่างนี้ได้ตอนแรกพวกเขาคิดว่าแผนที่พวกเขาวางไว้จะราบลื่น พวกเขาน่าจะสามารถจับตัว ฟาง เจิ้งจือ ไปได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ศาลาเต๋าสวรรค์ยังไม่ทันได้รู้ตัว แต่พวกเขาไม่เคยฝันว่า…คนจำนวนมากจะมาช่วย ฟาง เจิ้งจือ? โดยเฉพาะการปรากฎตัวของผู้อาวุโสทั้งสามนั้นเกินกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้มาก
พวกเขาควรทำยังไงดี?
ต่อสู้กับศาลาเต๋าสวรรค์?
มันเป็นไปไม่ได้ในทางกลับกันพวกเขาก็ไม่สามารถยอมให้ศาลาเต๋าสวรรค์พา ฟาง เจิ้งจือ กลับไปได้ง่ายๆเช่นกัน เพราะนี่เป็นภารกิจที่แลกด้วยชีวิต
พวกเขานั้นลังเลแต่ ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่ลังเล เขาสามารถตัดสินใจได้ก่อนที่ทุกคนจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้
ตาย! ฟาง เจิ้งจือ พุ่งไปหาชายในชุดดำคนหนึ่ง ดาบไร้ร่องรอยในมือของเขาเปล่างแสงสีม่วงออกมา
หืม? ชายคนนั้นไม่ได้คาดหวังว่า ฟาง เจิ้งจือ จะลงมืออย่างรวดเร็วเช่นนี้ เขาถอยหลังไปทันที่ก่อนที่มือของเขาจะปรากฎแสงสีแดงขึ้นมา
มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ประกอบด้วยการโจมตีและป้องกันในครั้งเดียวกัน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะระวังอย่างอยู่จึงยังไม่ได้ใช้พลังมากนัก
ริมฝีปากของฟาง เจิ้งจือคลี่ยิ้มออกมาทันที
นี่คือสิ่งที่เขารอคอย
เมื่อแสงสีแดงพุ่งเข้าหาเขาฟาง เจิ้งจือ ก็มีท่าที ‘ตื่นตระหนก’ ทันที แต่สุดท้าย ฟาง เจิ้งจือ ก็สามารถหลบบอลแสงสีแดงนั้น มันผ่านร่างของเขาไปอย่างเฉียดฉิว
จากนั้น…สิ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น
หลังจากฟาง เจิ้งจือ หลบเสร็จบอลแสงสีแดงพุ่งไปหาผู้อาวุโหกด้วยความแม่นยำทันที ก่อนที่จะระเบิดใกล้ๆร่างของผู้อาวุโสหก
…
… ทั้งผู้อาวุโสหกและชายในชุดดำต่างงงงวยทันที
มันเป็นไปได้ยังไงข้า… ชายในชุดดำรู้ว่าเขาควบคุมพลังของตัวเองได้อย่างแม่นยำ เช่นนั้นภายในสถานการณ์ปกติพลังของเขาไม่มีทางพุ่งไปทางผู้อาวุโสหกแน่นอน
ผู้อาวุโสไม่ได้คาดคิดว่าการโจมตีนั้นจะมาถึงเขาเขาถูกแรงระเบิดปะทะเข้าอย่างจัง เพราะเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา
เจ้ากล้าดียังไง?! ดวงตาของผู้อาวุโสหกกลายเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที ก่อนที่คลื่นพลังสีเขียวและขาวจะปรากฎขึ้นมาจากพื้นดิน
อย่างไรก็ตาม…สภาพของเขาก็ดูไม่ดีเท่าไรนักใบหน้ามอมแมม เสื้อฉีกขาด
เขากล้าลอบโจมตีผู้อาวุโสหกได้ยังไง!
จัดทัพโจมตีเร็วเข้า!
รับทราบ!
ศิษย์จำนวนมากที่เห็นเริ่มโกรธขึ้นมาทันทีพวกเขาต้องทนโดน ฟาง เจิ้งจือ เขวี้ยงตะปูใส่มาแล้ว ตอนนี้มีคนลอบโจมตีใส่ผู้อาวุโสหก พวกเขาจะยอมอยู่เฉยๆได้ยังไง นอกจากนี้มันยังกล้าลงมือในศาลาเต๋าสวรรค์
เหล่าศิษย์ต่างชักดาบออกมาพร้อมกับแสงที่เปล่งออกมาทั่วร่าง
ตาของฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นทันที
เขาไม่อาจรอให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเองได้เพราะมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ทั้งเหล่าผู้อาวุโสและชายในชุดดำทั้งสี่ก็ไม่ได้โง่
กล่าวอีกนัยหนึ่งความเข้าใจผิดที่ฟาง เจิ้งจือ สร้างขึ้นเป็นเพียงตัวเร่งปฏิกิริยา อย่างไรก็ตามมันยังไม่พอ ไอลีนโนเวล
พวกเขายังต้องการแรงจูงใจนั่นก็คือ ฟาง เจิ้งจือ
นี่คือเรื่องง่ายๆเนื่องจากทุกคนกำหนดเป้าหมายมาที่เขา แม้พวกเขาจะสู้กันเองพวกเขาก็ต้องแน่ใจว่า ฟาง เจิ้งจือ จะไม่สามารถหนีไปได้
ดังนั้นความวุ่นวายธรรมดายังไม่เพียงพอ
เขาต้องสร้างความวุ่นวายขนาดใหญ่!
เพื่อที่เขาจะหลบหนีไปได้!
ทลายสวรรค์! ฟาง เจิ้งจือ ไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อฝ่าวงล้อมออกไป เขาใช้ถึงเก้าเสาในครั้งเดียว
แสงเก้าแสงปรากฎขึ้นกลางอากาศ
ท่าทีของเหล่าผู้อาวุโสและชายชุดดำทั้งสี่เปลี่ยนไปทันที
เห็นได้ชัดว่าฟาง เจิ้งจือ กำลังสร้างความขัดแย้งให้พวกเขาอยู่
อย่างไรก็ตามรู้แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้?
ทลายสวรรค์ปรากฎขึ้นฟาง เจิ้งจือ เตรียมจะหนีไปแล้ว
อย่าปล่อยให้เขาหนีไป! ผู้อาวุโสหกตะโกนขึ้นมา เข้าเชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์?!แต่…เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆงั้นหรือ! แม้ชายทั้งสี่คนจะประหลาดใจ แต่พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะโจมตีใส่ ฟาง เจิ้งจือ
แสงไฟสี่แสงปรากฎขึ้นมาล้อมรอบเสาแสงทั้งเก้าไว้ในทันที
อย่างไรก็ตาม…ผู้อาวุโสสี่และสองก็ลงมือเช่นกัน
แสงดาบเปล่งประกายขึ้นมาจากท้องฟ้าพุ่งลงมาที่พื้นดินอย่างรวดเร็ว
ตูม! มันทำลายเสาแสงไปต้นหนึ่ง
พร้อมกับหยดเลือดที่กระเด็นออกมาจากเสาแสงต้นนั้นแต่ในเวลาเดียวกันเสาแสงอีกต้นก็ปรากฎขึ้นห่างออกไป
จากนั้น…ก็มีร่างของคนคนหนึ่งพุ่งออกมาจากเสาแสงต้นนั้น
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟาง เจิ้งจือ
ตามเขาไป! ชายในชุดดำสี่คนไม่สนใจศาลาเต๋าสวรรค์และรีบตาม ฟาง เจิ้งจือ ไปในทันที
ผู้อาวุโสทั้งสามคนมองหน้ากันโดยไม่ลังเลพวกเขาตาม ฟาง เจิ้งจือ ไปเช่นกัน
ฟางเจิ้งจือ เจ้าจะหนีไปไม่ได้ ถ้าเจ้าตามพวกเรากลับไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์ ท่านผู้นำไม่มีทางลงโทษเจ้าถึงตายแน่นอน ไม่อย่างนั้นเจ้าต้องตายตอนนี้แน่นอน! เสียงของผู้อาวุโสสองตะโกนขึ้นมาจากท้องฟ้า
ตามกลับไป?แล้วจะไม่ตาย? ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ไร้เดียงสา
แน่นอนว่าผู้อาวุโสสองไม่ได้โกหกภายใต้สถานการณ์ปกติหาก ฟาง เจิ้งจือ ตามพวกเขากลับไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์ เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นหรืออาจจะมีชีวิตรอดก็ได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้ทำลายบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะออกจากศาลาเต๋าสวรรค์ไปโดยไม่รับโทษ
เขายอมหนีออกมาข้างนอกเพื่อหาทางรอดอื่นดีกว่า เขาต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของเขา!
เขาต้องรอดให้ได้!
ฟางเจิ้งจือ ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาไม่มีเวลาสนใจมันมากนัก เขากัดฟันและวิ่งไปทางทะเลสาบโดยไม่ลังเล
ใกล้แล้ว…
เขาเห็นทะเลสาบแล้ว!
ในที่สุดเขาก็มาถึงทะเลสาบ
แต่เหยียน ซิว ล่ะ?เขาอยู่ที่ไหน?
เหยียน..เหยียนซิว?! ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ แข็งค้างทันที เพราะเขาเห็น เหยียน ซิว อยู่ข้างโต็ะหินขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามร่างของเขากลับเต็มไปด้วยเลือด
ที่สำคัญที่สุดเหยียน ซิว กำลังคุกเข่า คุกเข่าอยู่บนกองเลือด แขนของเขาห้อยอยู่บนพื้นอย่างไร้ชีวิต ใบหน้าของเขาซีดขาว
……………………………………..