Gate of God – ตอนที่ 785 ศาลาหมื่นสมุนไพร

ตอนที่ 785 ศาลาหมื่นสมุนไพร

  เป็นครั้งแรกที่หัวใจของนางสั่นเทา

  คนที่อยู่ตรงหน้าของนางเป็นคนที่จะส่งผลกระทบต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ไม่มีใครคาดถึง

  ที่สำคัญเขาเป็นศัตรูกับศาลาหยินหยางแม้ว่าเขาจะไม่ต้องทำอะไรกับการตายของว่านเล่ย แต่ฉือฟ่าน นั้นเขาต้องรับผิดชอบ

  สร้างพันธมิตร?

  หรือจะฆ่า?

  มันเป็นตัวเลือกที่ยากมากสำหรับศาลาหยินหยาง

  ด้วยทัศนคติของฟาง เจิ้งจือ ศาลาหยินหยางจะร่วมมือกับเขาได้ยังไง? รวมถึงคำอธิบายต่อเหล่าลูกศิษย์อีก?

  มันยากมาก!

  แต่ถ้าเลือกที่จะฆ่า…   ด้วยความแข็งแกร่งของฟาง เจิ้งจือ ในปัจจุบัน มีผู้อาวุโสไม่กี่คนที่สามารถฆ่าเขาได้ นอกจากนี้พวกเขายังมั่นใจในชัยชนะเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์

  ก่อนหน้านี้ฟาง เจิ้งจือ ฆ่าเซียนได้ถึงห้าคน

  การฆ่าฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่เรื่องง่าย

  แต่เมื่อเห็นฉากตรงหน้านางกลับกังวลมากขึ้นอย่างแท้จริง

  แน่นอนหลังจากใช้เวลาคิดสักพักจากนั้นก็เปิดปากขึ้นมาอีกครั้ง  เดินไปทางตะวันออกจากนั้นเจ้าก็จะพบกับศาลาหินมันถูกเรียกว่า’ศาลาหมื่นสมุนไพร’ ทุกๆเจ็ดวันท่านอาจารย์จะดูดซับพลังจากยาที่นั่น ถือว่าเป็นโอกาสอันดี 

   ตอนนี้เป็นช่วงเวลานั้นอยู่งั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ หรี่ตา เขาอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ นางมีท่าทีที่สงบมาก แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อนาง   ใช่ตั้งแต่ตอนนี้ถึงตอนดึกมันเป็นเวลาที่ท่านอาจารย์จะดูดซับพลังจากยา  นางพยักหน้า หน้าของนางจริงจังราวกับตัดสินใจเรื่องที่สำคัญได้

   ทำไมเจ้าถึงบอกข้า? ฟางเจิ้งจือ ถามขึ้นมา

   เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าที่จะเอาชนะท่านอาจารย์หลังจากนั้นเจาสามารถพาตัวเขาออกไปจากศาลาหยินหยาง พาเขาไปที่นิกายเงาและบีบบังคับให้เขาทำยาให้แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอ มันเป็นวิธีเดียวที่จะช่วย เหยียน ซิว ได้!  หญิงสาวพูดออกมาอย่างใจเย็น

   ให้ข้าพาเต๋าฮุนไปหาเซียนสวรรค์พักพิงงั้นหรือ? ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจ มันเป็นอย่างที่นางพูดวิธีเดียวที่จะช่วย เหยียน ซิว ได้

  อย่างไรก็ตามเขาต้องสู้กับเต๋าฮุน…

  เขาจะทำได้หรือไม่?

   ไม่มีใครมาที่ห้องของข้านอกจากท่านอาจารย์เจ้าสามารถฝาก เหยียน ซิว ไว้ที่นี่ได้  หญิงสาวพูดต่อ

  ฟางเจิ้งจือ เงียบลง เขาไม่ได้ตอบหรือถามอะไรอีกต่อไป ทั้งหมดที่เขาทำคือมองออกไปที่หน้าต่างเงียบๆ

  ดวงดาวมากมายกระจายไปทั่วท้องฟ้า

  มันเป็นฉากที่สวยงามมาก

   ดูเหมือนว่า…เจ้าไม่กล้าไปงั้นหรือ?  หญิงสาวมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เงียบๆเช่นกัน

  ฟางเจิ้งจือ มองท้องฟ้ายามค่ำคืนก่อนจะหันไปมองหญิงสาวนางนั้น รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ

   งดงามมาก! 

   อะไรงดงามอะไร?!  เมื่อหญิงสาวเห็นรอยยิ้มของ ฟาง เจิ้งจือ ร่างของนางก็สั่นเทา นางไม่รู้ว่าชายตรงหน้ากำลังพูดถึงท้องฟ้าหรือตัวนาง

  แน่นอนพวกมันไม่ได้สำคัญเพราะตอนนี้แท่งเหล็กได้ปรากฎขึ้นบนมือของ ฟาง เจิ้งจืออีกครั้ง เขายกมันสูงขึ้นไปในอากาศ

   เจ้ากำลังทำอะไร?! 

   ตึง! 

  หญิงสาวไม่ทันรู้สึกอะไรเพราะโลกของนางได้ดำมืดอีกครั้ง

  ชายตรงหน้านางนั้น….

  ไร้ยางอายสุดๆ!

  เมื่อร่างของนางล้มลงในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ฟาง เจิ้งจือ มองดูพระจันทร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

   อืมมันงดงามจริงๆ! 

  ฟางเจิ้งจือ อุ้มหญิงสาวขึ้นจากพื้นดิน จากนั้นก็เดินไปที่เตียงและวางร่างของนางไว้ข้างๆ เหยียน ซิว

  ฟางเจิ้งจือ มองใบหน้าของ เหยียน ซิว ที่ซีดขาวพร้อมกำหมัดแน่น รอยยิ้มของเขาหายไปกลายเป็นใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวและจริงจัง

  เขาไม่ได้พูดอะไร  ต่อหน้าเหยียน ซิว เขาไม่มีอะไรต้องพูด

  สิ้นหวัง?

  ต่อสู้กับศาลาหยินหยางเพียงลำพัง?

  คนฉลาดไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแต่แล้วมันยังไง? ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ต้องการความฉลาดในตอนนี้

  …

  อาณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่บริเวณที่เต็มไปด้วยความหนาวเย็น หิมะปกคลุมตลอดเวลา

  มันเป็นที่ตั้งของตระกูลหนานกงแผ่นหินจำนวนมากมายถูกวางเรียงรายอยู่บนลานขนาดใหญ่

  ท่ามกลางแผ่นหินเหล่านั้นมีแท่นหินอยู่สองแท่นที่วางร่างของคนไว้อยู่

  พวกเขาไม่ได้ถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์พวกเขาสวมชุดคลุมสีดำทั้งคู่ แม้ผมจะเป็นสีขาวใบหน้ากลับอ่อนวัย

  ทั้งสองคนเป็นเซียน  ข้างหน้าของร่างพวกเขาทั้งสองมีชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมยืนอยู่เขาสวมเพียงเสื้อผ้าบางๆเท่านั้น เขายืนอยู่เงียบๆ

  หนานกงเทียน! ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลหนานกง

   เก้าขุนเขา? หนานกง เทียน มองร่างทั้งสองร่างก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

  เขาไม่ละสายตาไปไหนบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะขาว แสงของดวงดาวส่องสว่าง

  แสงสว่างเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

  ทันใดนั้นมันก็ตกลงมาบนพื้น รอยแตกร้าวปรากฎขึ้นบนพื้นหิมะ

  ในที่สุดหนานกง เทียน ก็หยุดมองท้องฟ้าและมองไปยังดาวที่ตกลงมา

  มันเป็นเหมือนเมล็ดเล็กๆแต่ก็สร้างหลุมขนาดยักษ์ท่ามกลางพื้นหิมะ

  มันเริ่มส่องแสงสว่างรากไม้ค่อยๆเติบโตออกจากเมล็ด

   แครก,แครก …   รากไม้ค่อยๆเลื้อยเข้าสู่พื้นดินทะลุพื้นน้ำแข็ง ต้นไม้ขนาดใหญ่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเห็นได้ด้วยตาเปล่า

  มันแปลกมาก

  สามฟุตห้าฟุต สิบฟุต …

  ต้นไม้ยักษ์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันพุ่งสูงสู่ท้องฟ้า

  ในขณะที่ต้นไม้เติบโตขึ้นดอกไม้สีขาวก็เริ่มเบ่งบานออกมา หิมะขาวตกลงบนกลีบดอก จนส่องแสงสีเงินออกมา

  มันเป็นฉากที่แปลกมาก

  อย่างไรก็ตามหนานกง เทียน ดูไม่ตกใจนัก กลับกัน สีหน้าของเขาดูตื่นเต้น

   ในที่สุดก็มาอยู่ที่นี่? หนานกง เทียน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาได้แต่พึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะช่วงเวลานี้มาทั้งชีวิต

  …

  ฉากประหลาดนี้เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลหนานกงหลายๆเรื่องประหลาดเกิดขึ้นรอบๆดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะสถานที่ใกล้ๆจากศาลาเต๋าสวรรค์

  มู่ฉิงเฟิง เขาสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่ด้านหน้าปราสาทดำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ประตูปราสาทดำค่อยๆเปิดออก แค่ด้านในมืดสนิท

  แน่นอนมันไม่สำคัญ

  ที่สำคัญกว่านั้นร้อยเมตรด้านหน้าของ มู่ ฉิงเฟิง สัตว์ร้ายที่มีร่างกายขนาดใหญ่เท่าภูเขานอนหมอบอยู่บนพื้น มันส่งเสียงออกมาไม่หยุด

  สำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์…

  ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นสัตว์ร้ายเพราะในดินแดนแห่งนี้มีสัตว์ร้ายมากมาย

  อย่างไรก็ตามสัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ดุร้ายหรือแข็งแกร่งเหมือนตัวอื่นๆในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  เหตุผลนั้นง่ายมากมู่ ฉิงเฟิง รู้ดีว่าสัตว์ร้ายตัวนี้คืออะไร เขาเห็นมันที่ตีนเขา มันคือวานรแขนเหล็ก และมีรอยแผลเป็นที่แขน

  ถ้าไม่ใช่เพราะรอยแผลที่แขนมู่ ฉิงเฟิงคงไม่สามารถจำมันได้

  อย่างไรก็ตามแผลมันขยายใหญ่กว่าเดิมเป็นสิบเท่า แขนเหล็กของมันส่องแสงเป็นสีทอง

   อาจารย์ห่างออกไปห้ากิโล พวกเราพบสมิงเงิน แต่… ตอนนี้มันเป็นสมิงทอง ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์

   เข้าใจแล้ว มู่ ฉิงเฟิง ตอบในขณะที่พยักหน้ารับ เขาไม่ได้พูดอะไรอีก กลับกัน เขาค่อยๆชี้นิ้วไปที่วานรแขนเหล็ก

   โฮก! วานรแขนเหล็กส่งเสียงร้องด้วยความเข็บปวดร่างขนาดใหญ่ของมันสั่นไหว

   พาวานรแขนเหล็กตัวนี้กลับไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์และส่งมันให้ผู้อาวุโสสาม  มู่ ฉิงเฟิง พูดออกมาจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปในปราสาทดำ

   รับทราบ! ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ตอบอย่างพร้อมเพรียง

  …   ณศาลาหยินหยาง

  ค่ำคืนนี้ไม่ได้ผ่านไปรวดเร็วเช่นเคนศิษย์ศาลาหยินหยางเดินกันขวักกไขว่ตลอดเวลา

  พวกเขากำลังลาดตระเวน

  เสียงพูดคุยดังขึ้นตลอดเวลา

   ศาลาหมื่นสมุนไพรอยู่ข้างหน้านั่น! 

   ข้าสงสัยว่าตอนนี้ท่านอาจารย์กำลังทำอะไรอยู่? 

   พวกเราขาด’ผลึกนำค้าง’ ข้าคิดว่าท่านอาจารย์คงใช้เวลาที่ฝึกอยู่หลอมมันขึ้นมา ลองไปดูที่ศาลาหมื่นสมุนไพรกันเถอะ! 

   แม้เจ้าอยากจะทำแบบนั้นแต่มันก็ไปไม่ได้หรอก พวกเราเป็นเพียงศิษย์อันต่ำต้อยเท่านั้น! 

   ใช่แล้วพวกเราต้องฝึกอย่างหนักเพื่อให้เหล่าผู้อาวุโสยอมรับพวกเราให้ได้! 

   ไปเดินตรวจตราจุดต่อไปกันเถอะ! 

  หลังจากพวกเขาพูดคุยกันเสร็จก็มองไปรอบๆอย่างระมัดระวังก่อนที่บางคงอาจจะหาวออกมา

  ห่างออกไปบนต้นไม้มีคนคนหนึ่งยืนอยู่เขาไม่ถูกสังเกตุเห็นแม้แต่น้อย

   ศาลาหมื่นสมุนไพร? ร่างนั้นมองไปยังศาลาหินที่อยู่ด้านหน้าบนทางเข้ามีป้ายแปะอยู่ ‘ศาลาหมื่นสมุนไพร’  แม้สวนสมุนไพรสิบกว่าไร่จะถูกขโมยไป แต่การตรวจการยังไม่ได้เรื่องขนาดนี้ เห็นได้ชีดว่ามันเป็นกับดัก! 

  ร่างนั้นยิ้มออกมาในทันทีจากนั้นเขาก็กระโจนไปยังต้นไม้ถัดไป เขาค่อยๆเข้าใกล้ศาลาหมื่นสมุนไพรมากขึ้นเรื่อยๆ

  มันไม่ได้เป็นศาลาหินที่ซับซ้อนอย่างไรก็ตามหินที่สร้างศาลาขึ้นมาดูมีความเก่าแก่เป็นอย่างมากพวกเขามีความเก่าแก่มากขึ้น

  ด้านบนอกจากป้ายแล้วนั้นยังมีอัญมณีสีขาวและดำ

  เหมือนตามนุษย์!

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท