Gate of God – ตอนที่ 937 ความกล้าของโม่เฉิง

ตอนที่ 937 ความกล้าของโม่เฉิง

  สองสามปีที่ผ่านมาหมู่บ้านภูเขาทางเหนือพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มีการก่อตั้งโรงเรียน รวมไปถึงถนนหนทางที่กว้างขวาง เหล่าอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากห้าเมืองทางเหนือมาสอนที่นี่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาที่หมู่บ้าน

  ยกเว้นร่างที่ปรากฎตรงหน้า

  พวกเขามาจากอีกฝั่งของภูเขาคังหลิงทุกคนสวมเกราะสีดำที่ส่องประกาย

  นั่นไม่ใช่เกราะของอาณาจักรเซี่ย

  ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของพวกเขาใหญ่ยักษ์ราวกับสัตว์ร้าย

   กอง…กองทหาร?! หญิงสาวที่ไม่ได้มีการศึกษาดีนักพูดออกมา นอกจากจะรู้ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ทหารของอาณาจักรเซี่ย นางก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร

   ไม่ใช่พี่เจิ้งจือที่กลับมาจากการต่อสู้งั้นหรือ? ดวงตาของเด็กน้อยเบิกกว้างด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อได้ยินคำว่า’ทหาร’

   ไม่หนีไป.. พวกเขาเป็นศัตรู! 

   ศัตรู? เด็กน้อยสับสนอย่างเห็นได้ชัดในความคิดของเขา จะมีศัตรูในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือได้ยังไง?

  ศัตรูคือใคร?

  พวกเขามาที่นี่ทำไม?

  คำว่า’ศัตรู’ มันยากเกินกว่าที่เด็กห้าขวบในหมู่บ้านตีนเขาจะเข้าใจได้

  อย่างไรก็ตามหญิงสาวไม่รอช้า นางอุ้มเด็กน้อยเข้าหมู่บ้านในทันที

   หัวหน้าหมู่บ้านหัวหน้า …มีกอง …กองทหาร! 

   กองทหาร?! 

   กองทหารที่ไหน? 

   หมู่บ้านภูเขาทางเหนือถูกปิดตายไม่ใช่องค์ชายคังหรอกหรือ? มันจะมี…อ้า! กองทหารจริงๆ เร็วเข้าหัวหน้า กองทหารกำลังใกล้เข้ามา! 

  หลังจากได้ยินคำพูดของหญิงสาวชาวบ้านต่างก็พากันวิ่งออกมา บรรยากาศที่เงียบสงบถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว

  เมื่อความปั่นป่วนเกิดขึ้นไม่นานจางหยางปิงผู้ที่กำลังตักอาหารเข้าปากก็ได้ยินเสียงความวุ่นวาย

   กองทหาร? หัวหน้าหมู่บ้านจางหยางปิงยื่นหัวออกมาทางหน้าต่างใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยความชรา

  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับความตกใจบนใบหน้าของเขาริ้วรอยพวกนั้นดูไร้ความหมายทันที

  เพล้ง!หม้อในมือจางหยางปิงตกลงพื้น

   เรียกทุกคนมารวมกันเร็วเข้า! 

  …

  โฮก!เสียงคำรามของสัตว์ร้ายทำลายความสงบของหมู่บ้านทันที ในขณะเดียวกันสัตว์ร้ายที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาสีเขียวก็ปรากฎขึ้นที่ทางเข้าหมู่บ้าน

  ร่างที่สวมชุดสีดำนั่งอยู่บนหลังของสัตว์ร้ายตัวนั้นแม้จะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขา แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เยือกเย็น

   ท่านรองดูเหมือนพวกเขาจะรู้ถึงการมาของพวกเราแล้ว? ร่างที่สวมเกราะสีดำปรากฎขึ้นด้านหลังสัตว์ร้ายและพูดอย่างเคารพ

  ดวงตาปีศาจบนหน้าผากเด่นชัดเป็นพิเศษ

  ดวงตาปีศาจสีน้ำเงิน!

   อืมข้าเห็นแล้ว ร่างสีดำที่ถูกเรียกว่า ‘ท่านรอง’ พยักหน้าอย่างไม่แปลกใจ

   โปรดออกคำสั่งให้พวกเราจัดการหมู่บ้านนี้ยังไง? 

   เจ้าคิดยังไง? รองหัวหน้าคนนั้นเอ่ยถาม

   ฆ่า! เสียงที่เย็นชาดังออกมา

   โง่เขลาพวกเราจะทำยังไงกับคราบเลือดหลังจากฆ่าพวกเขาทิ้ง หมู่บ้านที่มีคนนับร้อยต้องใช้เวลานานกว่าสิบวันกว่ากลิ่นคาวเลือดจะหายไป เป้าหมายของเราคือการยึดเมืองเกล็ดทองแห่งแดนเหนือและสร้างยุ้งฉางเพื่อจัดเตรียมเสบียงให้กองทัพในอนาคต ถ้าทิ้งร่องรอยมากเกินไปแล้วมีคนมาเห็นเข้าพวกเขาจะรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร 

   ท่านพูดถูกแต่ถ้าปล่อยไว้พวกชาวบ้านคงกระจายข่าวออกไปและส่งผลเสียกับพวกเรามากกว่า… 

   แน่นอนข้ารู้เรื่องนั้นดี ยังไงก็ตามเจ้าของเหล่าปีศาจสั่งให้เราพยายามเลี่ยงสายตาผู้คนและการฆ่าล้างให้มากที่สุด ถ้าพวกเราไม่มีสามกองทหาร ข้าจะไม่เสี่ยงและออกจากภูเขาก่อนอาทิตย์ตก เห้อ… เพื่อให้งานของเราสำเร็จก่อนกองทหารอื่น ข้าจำเป็นต้องปล่อยหมู่บ้านที่ตีนเขาไป 

   เจ้าปีศาจจะลงโทษเพียงเพราะหมู่บ้านเดียวงั้นรึ? 

   แน่นอนว่าเจ้าปีศาจจะไม่ลงโทษข้าเพียงเพราะหมู่บ้านแห่งเดียวยังไงก็ตามข้าได้ยินว่าเจ้าปีศาจรับสั่งจากนายน้อยผ่านจดหมาย เจ้าอยากให้ข้าต่อต้านคำสั่งของนายน้อยหรือยังไง? เสียงของรองปีศาจเต็มไปด้วยความโกรธ

   นี่…ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านกังวล ยังไงก็ตามตั้งแต่สมัยก่อนผู้ที่ประสบความสำเร็จไม่เคยกังวลในหน้าที่แม้แต่น้อย พวกเราไม่สามารถทำตามทุกคำสั่งได้ ยิ่งไปกว่าเจ้าปีศาจสั่งให้หลีกเลี่ยงการฆ่าให้มากที่สุด แต่ในสถานการณ์เช่นนี้เราไม่มีทางเลือก เว้นแต่พวกเราจะหนีเพราะเรื่องนี้? 

   ไร้สาระพวกเราไม่มีทางหนี! 

   ท่านรอง…สงบใจลงก่อน พวกเราอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พวกเราจำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งเจ้าปีศาจและนายน้อยและต้องไม่เสียเวลากับที่นี่มากนัก ข้า …ข้า เดี๋ยวก่อน ข้ามีความคิดหนึ่ง! ความคิดที่เราจะไม่มีปัญหากับเจ้าปีศาจและนายน้อย 

   โอ้?ว่ามา!     ฝังพวกเขาทั้งเป็น! 

   ฝังทั้งเป็นรึ?จริงๆแล้วมันง่ายมากอีกทั้งยังไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้แม้แต่น้อย ยังไงก็ตามมันจะทำให้เราไม่มีปัญหากับเจ้าปีศาจและนายน้อยได้ยังไง? 

   เมื่อเป็นการฝังทั้งเป็นมันนับเป็นอุบัติเหตุมากกว่าการสังหาร.. 

   อุบัติเหตุ?เจ้าหมายความว่ายังไง? 

   ท่านรองลองคิดดูในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะสายฟ้าที่ผ่าลงมาบนเนินเขา หินก้อนยักษ์กลิ้งลงมาจากยอดเขา ด้วยร่างกายที่อ่อนแอพวกเขาไม่สามารถป้องกันเรื่องพวกนั้นได้ ท่านคิดว่ายังไง? 

   ฮ่าฮ่าฮ่า… เมื่อได้ยินเรื่องที่เขาพูด รองปีศาจก็หัวเราะออกมาพร้อมกับสายตาที่เย็นชา  แล้วเจ้ามัวรออะไรอยู่กัน? 

   ข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้! 

   ฮึ่มสร้างรอยฟ้าผ่าบนเนินเขาให้สมจริง   ฝังพวกเขาทั้งเป็น! 

   ฝังทั้งเป็นรึ?จริงๆแล้วมันง่ายมากอีกทั้งยังไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้แม้แต่น้อย ยังไงก็ตามมันจะทำให้เราไม่มีปัญหากับเจ้าปีศาจและนายน้อยได้ยังไง? 

   เมื่อเป็นการฝังทั้งเป็นมันนับเป็นอุบัติเหตุมากกว่าการสังหาร.. 

   อุบัติเหตุ?เจ้าหมายความว่ายังไง? 

   ท่านรองลองคิดดูในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะสายฟ้าที่ผ่าลงมาบนเนินเขา หินก้อนยักษ์กลิ้งลงมาจากยอดเขา ด้วยร่างกายที่อ่อนแอพวกเขาไม่สามารถป้องกันเรื่องพวกนั้นได้ ท่านคิดว่ายังไง? 

   ฮ่าฮ่าฮ่า… เมื่อได้ยินเรื่องที่เขาพูด รองปีศาจก็หัวเราะออกมาพร้อมกับสายตาที่เย็นชา  แล้วเจ้ามัวรออะไรอยู่กัน? 

   ข้าจะจัดการเดี๋ยวนี้! 

   ฮึ่มสร้างรอยฟ้าผ่าบนเนินเขาให้สมจริงด้วย มันจะต้องไม่มีความผิดปกติ เข้าใจหรือไม่? 

   รับทราบ! 

  …

  ณทางแยกหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ จางหยางปิงเต็มไปด้วยความกังวลใจ นอกจากตัวเขาแล้วด้านหลังก็เต็มไปด้วยชาวบ้านที่ถืออาวุธครบมือ

  เมื่อเทียบกับอดีตหมู่บ้านภูเขาทางเหนือไม่ล้าหลังอีกต่อไป ในมือของพวกเขาไม่ใช่กระทะช้อนส้อมหรือไม้นวดแป้ง แต่มันคือปืน มีดและดาบที่แหลมคม

  อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต่อสู้กับพลังของปีศาจได้

   ปีศาจ…เผ่าปีศาจ?! 

   พวกมันคือกองทหารปีศาจเป็นไปได้ยังไง? พวกมันปรากฎตัวที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือได้ยังไง? พวกมันลงมาจากภูเขาคังหลิงได้ยังไง?!     นั่นคืออะไร?ทำไมถึงมีสัตว์ร้ายอยู่ข้างๆปีศาจด้วย สัตว์ร้ายที่มีพลังมากกว่าหมาป่าเพลิงฟ้า… 

  เสียงเอะอะของชาวบ้านดังไปทั่วหมู่บ้านดวงตาของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาอาศัยที่หมู่บ้านตั้งแต่ยังเด็กแต่ไม่เคยเห็นกองทัพปีศาจและสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งขนาดนั้นมาก่อน

   เฮาเตอนั่นคือกองทหารปีศาจ เจิ้งเอ๋อร์เคยบอกว่าพวกมันมีดวงตาปีศาจบนหน้าผาก เรา …เราจะทำยังไงดี? ฉินซูเหลียนจับแขนของฟางเฮาเตอแน่น สีหน้าของนางซีดขาวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หนีออกไปทันที

   ไม่ต้องกลัว…ข้าอยู่นี่แล้ว… ฟางเฮาเตอเองก็มีสีหน้าที่ซีดขาวไม่แพ้กัน

  เผชิญหน้ากับกองทหารปีศาจถึงแม้เขาอยากจะพูดว่า  ข้าจะปกป้องเจ้า  แต่เขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้

  มันไม่ใช่ความกลัวแต่เป็นความสิ้นหวังเสียมากกว่า   หยุดอยู่ตรงนั้น! ในตอนนั้นเองเสียงหนึ่งดังขึ้นมาร่างที่สวมชุดคลุมยาวเหมือนอาจารย์เดินออกมาจากฝูงชน

  ดูเหมือนเขาจะมีอายุเพียงหกสิบปีเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาจารย์ใหญ่ของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ‘โม่เฉิง’

   โม่เฉิง! 

   อาจารย์! 

  หลังจากโม่เฉิงก้าวออกมาจากฝูงชนพวกชาวบ้านรวมไปถึงจางหยางปิงรู้สึกกังวลอย่างหยิ่งเพราะยังไงก็ตามคนที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าคือปีศาจ

   โจมตี! รองปีศาจออกคำสั่งทันทีที่เห็นโม่เฉิง เขาไม่ให้ชาวบ้านมีโอกาสได้พูดแม้แต่น้อย

   เจ้า…เจ้าต้องการอะไร? ที่นี่คือหมู่บ้านภูเขาทางเหนือซึ่งเป็นอาณาเขตของอาณาจักรเซี่ย พวกเจ้ากล้าบุกรุกพื้นที่ของเราได้ยังไง? โม่เฉิงตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นทหารปีศาจคนหนึ่งพุ่งเข้าหาพวกเขา

  อย่างไรก็ตามคำถามของเขาไม่ได้รับคำตอบใดๆ

  แคล้ง!ทหารปีศาจชักดาบออกมาและพุ่งเข้าหาโม่เฉิงด้วยลำแสงที่ส่องสว่าง

  อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ…

  ลำแสงหยุดลงที่ระยะน้อยกว่าหนึ่งนิ้วจากลำคอของโม่เฉิงเขาป้องกันการโจมตีดิ้วนิ้วทั้งสอง

  นิ้วทั้งสองข้างสวมแหวนเหล็กสีดำส่องประกาย

   หืม? ทหารปีศาจเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมประหลาดใจเขาถอนดาบออกแล้วเตะไปที่โม่เฉิง

  อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจอีกครั้งคือไม่ใช่แค่ดาบหยุดอยู่ที่ตำแหน่งนั้นเขาถูกพลังป้องกันบางอย่างทำให้ไม่สามารถเตะโม่เฉิงได้

  จากนั้นพลังบางอย่างพุ่งมาที่ไหล่ของเขา

  ตูม!

  ทหารปีศาจถูกส่งลอยออกไปกระแทกกับพื้นเกราะหนาสีดำพังทลายพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา

   ในฐานะอาจารย์ใหญ่ของหมู่บ้านข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าทำร้ายพวกเรา ถ้าเจ้ายอมถอยไปตอนนี้ ข้า… 

   พวกมนุษย์ช่างน่าเบื่อเสียจริงชอบแสดงความเมตตาเมื่อมีโอกาสที่จะฆ่า ทำไมเราควรปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่? รองปีศาจยิ้มในขณะที่หันมองปีศาจบนพื้น

  จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหว

  เขากลายเป็นลำแสงและปรากฎตัวขึ้นที่ด้านหน้าโม่เฉิงในขณะเดียวกันแสงไฟส่องสว่างที่หน้าผากของโม่เฉิง

  ก่อนจะหายไปในไม่ช้า

  มันเร็วมากโม่เฉิงไม่มีโอกาสหลบแม้แต่น้อย   เจ้า… โม่เฉิงเบิกตากว้างและมีเลือดไหลออกจากหน้าผากเขาจ้องมองไปยังร่างที่อยู่ตรงหน้า

  ในไม่ช้าความไม่เชื่อก็กลายเป็นความกลัวอย่างที่สุด

  นั่นเพราะร่างที่สวมชุดคลุมก็ถอดหมวกคลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาและจิตสังหารที่ลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ

  ที่สำคัญเขามีดวงตาปีศาจสีแดงอยู่บนหน้าผาก

   พวกเรามีเวลาไม่มากนักจัดการให้เสร็จภายในสิบห้านาที! 

   รับทราบ! หลังจากออกคำสั่งในฐานะของรองแม่ทัพปีศาจทหารปีศาจด้านหลังปลดปล่อยจิตสังหารออกมาทันที

   เจ้า…พวกเจ้าต้องการอะไร?เงิน เสบียง พวกเรามี…พวกเราสามารถให้พวกเจ้าเท่าไรก็ได้… หัวหน้าหมู่บ้านจางหยางปิงมองไปยังโม่เฉิงที่ล้มอยู่บนพื้น จากนั้นก็หันไปมองชาวบ้านที่สั่นกลัวอยู่ด้านหลังเขา

   เงิน?เสบียง? ฮ่าฮ่า… ทหารปีศาจหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันไปหาจางหยางปิง  เจ้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน? 

   ใช่ใช่แล้วข้าเอง! 

   หืมดีมาก ฟังคำสั่งข้าตรวจสอบว่าทุกคนอยู่ที่นี่ครบหรือเปล่า ถ้ามีใครหายไปแม้แต่คนเดียวอย่าหาว่าข้าใจร้ายฆ่าชาวบ้านไม่ได้นะ! 

   ทุกคน? 

   ใช่นับให้ครบ… 

   เจ้าพยายามให้พวกเรารวมตัวกันเพื่อฆ่าทิ้งทีเดียวใช่ไหม? ทันใดนั้น เสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

  มันเป็นเสียงที่ดูเยาว์วัยมาก

  หลังจากได้ยินทหารปีศาจนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันไปหาต้นทางของเสียง

  เป็นเด็กชายหัวโตที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน   ไชเท้าน้อยรีบหลบเข้ามา! 

   เร็วเข้า! 

  ชาวบ้านต่างหน้าซีดเมื่อได้ยินไชเท้าน้อยตะโกนออกไป

   ท่านป้าข้าไม่กลัวข้าเป็นลูกผู้ชายเหมือนพี่เจิ้งจือ! ข้าต้องปกป้องหมู่บ้าน!  ไชเท้าน้อยส่ายหน้าและยืดอกขึ้น ไม่มีความกลัวอยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท