ค่ำคืนที่เงียบสงบ
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์แบบเดียวกันได้เกิดขึ้นที่เก้าขุนเขา
อะไรนะ?!เขาจากไปแล้ว? ปีศาจและอสูรระดับสูงต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
เปรียบเทียบกับศาลาเต๋าสวรรค์เก้าขุนเขานั้นอยู่ไกลจากอาณาจักรเซี่ยเกินกว่าที่จะบอกว่าเมิ่งเทียนแค่ผ่านทางมา…
จากไปทันทีหลังจากที่มาถึงเมิ่งเทียนคิดจะทำอะไรกันแน่?
ข้าไม่มั่นใจนักรู้สึกน่าจะเป็นภูเขาหลิงเซียว เพราะเขาหายไปตรงบริเวณที่ใกล้กับภูเขาหลิงเซียว
ภูเขาหลิงเซียว?ส่งคนไปตรวจสอบ อย่าลืมว่าห้ามเข้าใกล้เขาเกินไปเด็ดขาด
รับทราบ! ร่างจำนวนหนึ่งพุ่งออกไปจากเก้าขุนเขาในทันที
ด้านคนที่เหลือ พวกเราต้องรายงานเรื่องนี้ให้นายน้อยทราบ!
ใช่สงข้อมูลไปยังหนองน้ำยักษ์ให้เร็วที่สุด!
….
ศาลาหยินหยางนั้นตั้งอยู่ในแนวเขาที่สลับซับซ้อนทำให้มันเหมาะกับการเป็นที่ซ่อนตัวเป็นอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันภูเขาหลิงเซียวเป็นภูเขาลูกที่สูงที่สุดเป็นการยากที่จะถูกบุกโจมตี แต่ละด้านของภูเขาเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านบนสุดเป็นพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่
เสาหยกขาวสี่ต้นตั้งอยู่บนยอดเขาแต่ละต้นมีโซ่สีดำผูกไว้ลากยาวไปจนถึงตีนเขา แน่นอนว่ามันเป็นโซ่สำหรับให้ผู้คนใช้เดินทางขึ้นยอดเขา
พวกมันถูกดูแลอย่างเข้มงวดโดยศิษย์และผู้อาวุโสของทั้งสามสำนัก สายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน
นกตัวหนึ่งบินลงมาจากท้องฟ้า
รายงานด่วน! สีหน้าของศิษย์ศาลาหยินหยางผู้ทำหน้าที่ป้องกันเสาต้นหนึ่งเปลี่ยนไปทันที เขารับกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุจดหมายมาจากนกตัวนั้นและรีบวิ่งไปยังวังที่ถูกสร้างขึ้นใหม่จากหินสีดำ มันตั้งอยู่ใจกลางของลานขนาดใหญ่บนยอดเขา
กองทหารเดินเข้าไปในวังหินดำจากทุกทิศทางแต่ละก้าวของเขาทั้งรวดเร็วและจริงจัง
ตั้งแต่เกิดการต่อสู้ที่ภูเขาสวรรค์ตัวตนระดับเทพเจ้าของเผ่าอสูรและเผ่าปีศาจก็ออกมาจากประตูเทพเจ้าเรื่อยๆ มนุษยชาติได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรขึ้นโดยมีเต๋าฮุนเป็นผู้นำสูงสุด ส่วนเต๋าซิงนั้นเป็นที่ปรึกษาด้านการทหาร
ด้านผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์มู่ฉิงเฟิงและผู้นำหุบเขาฟู่ซี่รวมถึงผู้นำหอคอยหลิงหยุนเฉียนยู่รับตำแหน่งเป็นรองผู้นำของกลุ่มพันธมิตรอย่างไรก็ตามเฉียนยู่ไม่ตกลง นางเพียงกล่าว สงครามนั้นยังไม่สิ้นสุด ผลลัพธ์ยังไม่ได้ถูกตัดสิน! นางจากไปพร้อมกับศิษย์หอคอยหลิงหยุน ทิ้งมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือไว้เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตามตำแหน่งรองผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ของเฉียนยู่ยังคงอยู่
ทั้งสี่สำนักรวมเป็นหนึ่งจัดตั้งเป็นสี่กองทัพตั้งชื่อตามชื่อของสี่สำนักใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ ศาลาเต๋าสวรรค์ ศาลาหยินหยาง หอคอยหลิงหยุนและหุบเขาฟู่ซี่
สำหรับผู้นำสำนักอื่นๆถูกจัดตั้งให้เป็นแม่ทัพในกองทัพทั้งสี่ส่วนศิษย์จำนวนมากก็ถูกกระจายไปในทุกๆกองทัพ
แน่นอนว่าในขณะที่เฉียนยู่นั้นละทิ้งตำแหน่งของนางเหยียนเฉียนหลี่ที่เป็นรองแม่ทัพใหญ่จึงต้องรับหน้าที่ในการดูแลกองทัพหอคอยหลิงหยุนแทน
เรื่องนี้ไม่ได้มีใครมีปัญหามากนักชื่อเสียงของเหยียนเฉียนหลี่ผู้ปกครองดินแดนเหลียงตะวันตกนั้นทุกคนย่อมรู้จักกันดี
ผู้นำกลุ่มพันธมิตรท่านมีเรื่องเร่งด่วนอะไรจึงเรียกหาข้า? โม่ฉานฉือถามเต๋าฮุนทันทีหลังจากที่นั่งลง
จริงๆแล้วโม่ฉานฉือไม่ได้เต็มใจยอมรับตำแหน่งผู้นำของเต๋าฮุนเท่าไรนักแต่เขาไม่มีทางเลือก สถานการณ์ในปัจจุบันสำหรับฝ่ายมนุษย์สามารถเรียกได้ว่าย่ำแย่จริงๆ
ทุกคนต้องรวมพลังกันเพื่อป้องกันอสูรและปีศาจ!
นั่นเป็นสิ่งที่มู่ฉิงเฟิงพูดและโม่ฉานฉือก็ไม่อยากจะคัดค้านนั่นนับเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หอคอยหลิงหยุนจากไปเช่นกัน รวมถึงหุบเขาฟู่ซี่ก็ไม่ได้เต็มใจเท่าไรนัก พวกเขาเองก็ต้องการจะจากไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือกับอสูรและปีศาจด้วยตัวคนเดียว
พวกเราจะชนะถ้ารวมพลังกันและความสูญเสียจะลดลง นั่นคือสิ่งที่เต๋าซิงกล่าวตอนที่เฉียนยู่และศิษย์กำลังจะจากไป
เพราะตอนนี้…
ศาลาเต๋าสวรรค์ถูกบุกยึด
หุบเขาฟู่ซี่ก็เช่นกัน
สามในห้าสำนักใหญ่ถูกบุกยึดอย่างไรก็ตามดินแดนของหอคอยหลิงหยุนยังไม่ถูกบุกยึด
แม้โม่ฉานฉือจะไม่ได้จากไปแต่เขาก็ไม่ได้เชื่อคำพูดสวยหรูที่ว่า’เมื่อรวมพลังกันเราจะชนะ’
รอสักครู่รองผู้นำโม่ข้าจะประกาศหลังจากทุกคนมาครบ เต๋าฮุนนั้นรู้ถึงความหัวแข็งและใจร้อนของโม่ฉานฉือดี อย่างไรก็ตามเขายังคงยกมือเป็นการขอให้โม่ฉานฉือใจเย็นและรอคอย
อย่างไรก็ตามหลังจากโม่ฉานฉือได้ยินคำว่า’รองผู้นำ’ที่ราวกับเป็นเข็มทิ่มแทงใจ ใบหน้าของเขากลายเป็นดำมืดทันที แต่ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากได้มีมือข้างหนึ่งมากดไหล่เขาเอาไว้
เรียงลำดับความสำคัญพวกเราต้องมองการณ์ไกล มู่ฉิงเฟิงส่ายหัวให้โม่ฉานฉือ
แม้ตัวมู่ฉิงเฟิงเองก็ไม่ได้ยินดีนักแต่อย่างน้อยมนุษย์ก็มารวมตัวกันอยู่ที่ภูเขาหลิงเซียวและยังไม่พบกับการสูญเสียที่มากนัก
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการรักษาขุมกำลังของมนุษย์เอาไว้มู่ฉิงเฟิงปลอบใจตัวเอง
สำหรับศาลาเต๋าสวรรค์…
แม้ว่ามันจะถูกยึดไปโดยพวกอสูรและปีศาจแล้วแต่เขาก็สามารถเอาคืนได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
คนเราต้องอดทนเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า
เยี่ยมเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จักลำดับความสำคัญงั้นรึ ถ้าข้าเป็นแบบนั้นคงไม่ทนอยู่ในที่บัดซบเช่นนี้! โม่ฉานฉือกล่าวออกมา สายตาของเขาเหลือบมองไปยังเต๋าฮุน ด้านผู้นำสำนักอื่นๆพวกเขาต่างปิดปากเงียบพวกเขาคุ้นชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว
ไม่นานที่นั่งในโถงก็ถูกเติมเต็มนั่นหมายความว่ารองแม่ทัพใหญ่ของกองทัพพันธมิตรได้มาอยู่ที่นี่ครบแล้ว ยกเว้นเฉียนยู่
เต๋าฮุนลุกขึ้นยืนทันทีและหยิบกระดาษสีเหลืองสามใบออกมาจากแขนเสื้อของเขาก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะด้านหน้า
อย่างไรก็ตามไม่มีใครเห็นสีหน้าของเต๋าฮุนชัดเจนเพราะเขาสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าอยู่พวกเขาสามารถเห็นได้แค่ที่ราวกับมีเปลวไฟลุกโชนออกมา
เมิ่งเทียนปรากฎตัวและเขาอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว! เต๋าฮุนกล่าวพร้อมกับมองไปที่กระดาษทั้งสามใบ
หลังจากเขาพูดจบสีหน้าของโม่ฉานฉือ มู่ฉิงเฟิง รวมถึงหัวหน้าสำนักอื่นๆเปลี่ยนไปทันที
ข่าวการปรากฎตัวของเมิ่งเทียนกระจายไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้ว
เขาอยู่ที่ไหน? โม่ฉานฉือถาม
ศาลาเต๋าสวรรค์! เต๋าฮุนกวาดสายตามองทุกคนจากนั้นเขาก็พูดต่อ และ…เก้าขุนเขาหุบเขาฟู่ซี่…
ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน
ข้าหมายความว่าเมิ่งเทียนได้ปรากฎตัวขึ้นที่ศาลาเต๋าสวรรค์เก้าขุนเขาและหุบเขาฟู่ซี่ในเวลาเดียวกัน เต๋าฮุนชูกระดาษทั้งสามใบขึ้น
เมิ่งเทียนสามคน?!
มันจะเป็นไปได้ยังไง?
เกิดอะไรขึ้น?
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน
เขาพยายามทำให้พวกเราสับสน! ขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังสับสน เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากที่ปรึกษาการทหารเต๋าซิง
ทำให้พวกเราสับสน?ท่านหมายความว่าเมิ่งเทียนทำไปเพราะมีเป้าหมายงั้นหรือ? หนึ่งในหัวหน้าสำนักถามออกมาทันที
ทำไมเมิ่งเทียนต้องทำแบบนี้?
เขาจะทำไปเพื่ออะไร?
ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมดาด้วยพลังของเมิ่งเทียน ถ้าเขาไม่เปิดเผยร่องรอยก็ไม่มีทางที่เผ่าอสูรและปีศาจจะหาตัวเขาเจอ
ในไม่ช้าเหล่าผู้นำสำนักเริ่มหันหน้าพูดคุยกัน
ถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิดเมิ่งเทียนตัวจริงน่าจะมาถึงภูเขาหลิงเซียวในเวลาไม่นาน ข้าจึงเรียกทุกคนมาที่นี่ เสียงของเต๋าฮุนดังขึ้นหยุดการพูดคุยภายในห้องโถง
ทำไมข้ารู้สึกว่าเมิ่งเทียนจะไม่มาที่ภูเขาหลิงเซียว โม่ฉานฉือไม่เห็นด้วยกับเต๋าฮุน
ตาเฒ่าโม่! มู่ฉิงเฟิงรู้ว่าโม่ฉานฉือนั้นตั้งใจหาข้อแย้งเต๋าฮุน ก็ได้ก็ได้! งั้นผู้นำกลุ่มพันธมิตรคิดจะทำยังไงถ้าเมิ่งเทียนตัวจริงมาถึงที่ภูเขาหลิงเซียว เราควรทำยังไงกับตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตร? โม่ฉานฉือโบกมือ
…
ไม่มีใครตอบโม่ฉานฉือรวมถึงเต๋าฮุน
นั่นเพราะแม้การมาถึงของเมิ่งเทียนเป็นข่าวดีของพวกเขาแต่ปัญหาเรื่องหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรจะปะทุขึ้นในทันที
สี่สำนักย่อมคุ้นเคยกับสภาพภูมิศาสตร์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่เมิ่งเทียนเองครั้งหนึ่งก็เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเอาชนะเทพอสูรหลินจีและจับตัวเจ้าปีศาจได้อย่างง่ายดาย
ด้วยความสำเร็จของเขาจะด้อยกว่าสี่สำนักได้ยังไง?
ถ้าเขาเป็นเทพสงครามเมิ่งเทียนตัวจริงข้าจะมอบตำแหน่งของข้าแก่เขาแน่อน แต่เมิ่งเทียนนั้นลึกลับและเขาไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง พวกเราจะเชื่อใจเขาได้ยังไง? หลังจากเงียบไปนานเต๋าฮุนกำหมัดและกล่าวออกมา
ทำไมเล่า? โม่ฉานฉือถามย้ำ
จะเป็นยังไงถ้ามันเป็นแผนร้าย? เต๋าฮุนถาม
แผนอะไร?
หากเมิ่งเทียนเป็นเทพปีศาจหรือเทพอสูรการจัดการหลินจีและจับตัวเจ้าปีศาจอาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนหยุนชิงวู นางอาจจะต้องการสร้างความวุ่นวายให้กลุ่มพันธมิตรและควบคุมมนุษยชาติ! เต๋าฮุนกล่าว
… โม่ฉานฉือขยับปากราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็เงียบไป
การปรากฎตัวของเมิ่งเทียนนั้นกระทันหันและแปลกเกินไป
เทพสงครามเมิ่งเทียนตายไปหลายร้อยปีแต่อยู่ดีๆก็โผล่ออกมาจากที่ไหนไม่รู้ จากนั้นก็จัดการหลินจีรวมถึงจับตัวเจ้าปีศาจได้ภายในแค่เวลาหนึ่งเดือน
ทุกอย่างดูน่าเหลือเชื่อเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครเห็นเรื่องเหล่านั้นกับตาตัวเอง คนที่เห็นมีเพียงฉานยู่ราชินีดินแดนภูเขาทางใต้
ยิ่งไปกว่านั้นเมิ่งเทียนยังเขียนคำว่า’เทพเจ้า’ไว้บนหน้ากากของเขา
ถ้าเต๋าฮุนคาดเดาถูกและมันเป็นแผนของหยุนชิงวูจริงๆการมาถึงของเมิ่งเทียนเท่ากับฝันร้าย
ท่านพูดถูกก่อนที่จะส่งตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตรให้กับเมิ่งเทียน พวกเราต้องพิสูจน์ตัวตนของเขาให้ได้ก่อน!
ใช่แล้วพวกเราไม่ควรเสี่ยงอะไรทั้งนั้น!
ถ้าเขาเป็นเทพสงครามเมิ่งเทียนจริงๆตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตรอาจจะไม่จำเป็นสำหรับเขา ข้าคิดว่ามอบตำแหน่งรองผู้นำกลุ่มพันธมิตรให้เขาก่อนเป็นเยี่ยงไร? แล้วถ้าเขาไม่ใช่เมิ่งเทียนตัวจริงล่ะ?พวกเราจะทำยังไงหลังจากเขามาถึงภูเขาหลิงเซียว? แค่เพียงดาบเดียวเขาสามารถแยกหอคอยปีศาจออกเป็นสองส่วนได้!
ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องโถง
……………………………………..