Gate of God – ตอนที่ 988 หน้ากระแทกพื้น

ตอนที่ 988 หน้ากระแทกพื้น

  อะไรจะน่าอัปยศไปกว่าการโดนดูถูกจากคนที่อ่อนแอกว่า?

  ไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าโจวฉีไม่พอใจอย่างมาก

  จนสีขาวโพลนบนใบหน้าไม่สามารถปิดบังความโกรธของเขาเอาไว้ได้

   ตาย! เสียงคำรามของโจวฉีดังขึ้นในขณะที่คว้าหอกฉีหลินไว้และเตะไปด้านหน้า

  สิ่งนี้เกิดขึ้นเกือบจะทันที

  นั่นเพราะโจวฉีคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ปิงหยางจะหลบการโจมตีที่รุนแรงได้พ้น

  อย่างไรก็ตามปิงหยางหลบได้

  ช่างน่าประหลาดปิงหยางอยู่ห่างจากโจวฉีเพียงห้าฟุตเท่านั้น นางถูกบางคนผลักออกไปด้านข้าง

  ในขณะเดียวกันเสียงที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นด้านหลังของโจวฉี  ปัง!เมื่อฟังจากเสียงแล้วมันเป็นการตบที่ค่อนข้างแรงและไร้ความปราณี

   นั่นเมิ่งเทียน! 

   เขาไม่ได้ตกจากหน้าผาไปงั้นหรือ! 

  ราชาอสูรทั้งหกและทหารปีศาจเห็นร่างที่ตบโจวฉีเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมิ่งเทียนที่น่าจะตกหน้าผาไปแล้ว

  สำหรับโจวฉี…

  แรงตบนั้นทำให้เขาล้มไปด้านหน้าจนใบหน้ากระแทกพื้น

  จากนั้นแววตาของราชาอสูรและทหารปีศาจก็เต็มไปด้วยความกตตะลึงเมิ่งเทียนยกขาเหยียบหัวของโจวฉี

   เจ้าคนโง่เขลา! 

   เจ้าไม่หัวเราะแล้วเหรอ?ตอนนี้ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า! 

   … 

  เสียงของฟางเจิ้งจือดังก้องไปทั่วหน้าผาเขาไม่ได้เลิกเหยียบโจวฉีแม้แต่น้อยนั่นเพราะมันเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะทำได้

  ปัง!

  แครก…

   … 

  จากนั้น…

  ไม่มีจากนั้น

  ร่างของโจวฉีกลิ้งออกไปไกลเหมือนกับปิงหยางอย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับนางแล้วเขาดูน่าสมเพชกว่ามาก

  รอยเปื้อนเลือดบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยผงสีขาวและแม้แต่ที่มุมปากก็ยังมีเลือดไหลออกมา

  เห็นได้ชัดว่าโจวฉีได้รับบาดเจ็บสาหัส

  มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆตั้งแต่การปะทะกันของโจวฉีและฟางเจิ้งจือ จนถึงตอนที่โจวฉีและปิงหยางกลิ้งไปด้านข้าง

  มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและให้ความรู้สึกราวกับรถไฟเหาะที่วิ่งขึ้นลงตามรางด้วยความรวดเร็วเหตุการณ์ตรงหน้าเกิดขึ้นเร็วเกินไป

   ฮ่าฮ่า…องค์หญิงคนนี้แสดงได้ดีไหม?! ปิงหยางหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นทุกคนตกตะลึง

  บางทีนางอาจจะตื่นเต้นเกินไปจนเผลอพูดสถานะของตัวเองออกมา

   แสดงได้ดี?! 

   นางบอกว่ากำลังแสดงอยู่งั้นหรือ? 

   นี่อาจจะเป็น… 

  ราชาอสูรทั้งหกไม่ได้ยินคำพูดของปิงหยางชัดเจนเพราะพวกเขาตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเกินไป แต่พวกเขาได้ยินส่วนหนึ่งของประโยคอย่างชัดเจน

  ความจริงแล้วมันเป็นอย่างที่พวกเขาคิด

  ฟางเจิ้งจือและปิงหยางกำลังแสดงละครเท่านั้น

  เป็นแผนการของเมิ่งเทียน?   แม้เขาจะถูกเรียกว่าไร้ยางอาย แต่ฟางเจิ้งจือไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย มีแต่คนตายหรือคนโง่เท่านั้นที่จะต่อสู้เพื่อให้ตัวเองดูดีในฐานะวีรบุรุษ

  ดังนั้นก่อนที่โจวฉีจะเข้าถึงตัวฟางเจิ้งจือได้พูดคุยแผนการนี้กับปิงหยางไว้แล้ว แม้ราชาอสูรจะคิดว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่อยเปื่อยในขณะที่มองทิวทัศน์ก็ตาม

  เห็นได้ชัดว่ามันสำเร็จ

  หลังจากฟางเจิ้งจือแกล้งทำเป็นตกหน้าผาด้านหลังของโจวฉีก็ไร้การป้องกันอย่างสมบูรณ์

  สำหรับปิงหยาง…

  นางรีบกลับไปหาฟางเจิ้งจือในขณะที่พูดด้วยแววตาที่เบิกกว้างอย่างตื่นเต้นแน่นอนว่านางไม่ได้ตระหนักถึงประโยคที่พูดก่อนหน้าแม้แต่น้อย

  ฟางเจิ้งจือเองก็ไม่ได้สนใจนางมากนักเพราะเขาเคยบอกให้ปิงหยางเรียกตัวเองว่าองค์หญิงดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดมากกับประโยคของนาง

  …

  ด้านล่างหน้าผาของศาลาเต๋าสวรรค์…

  มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือรออยู่ด้านหลังก้อนหินยักษ์ในขณะที่กลุ่มของเต๋าฮุนและวู่จวี้เอ๋อกำลังรีบมาพบพวกเขา

  ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตุเห็นเมิ่งเทียนในชุดคลุมดำกว่า70คนในที่มืดได้

   รองผู้นำมู่ข้าได้ยินว่าเมิ่งเทียนอยู่ที่นหน้าผางั้นหรือ? เต๋าฮุนถามขึ้นทันทีที่มาถึง

   ใช่ มู่ฉิงเฟิงพยักหน้าและกำลังจะพูดต่อไปเมื่อเห็นจุดดำบนท้องฟ้า

  จุดสีดำขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นก็มีร่างที่สวมหน้ากากสีดำกระโดดลงมาจากท้องฟ้า

   เรียนท่านอาจารย์และท่านผู้นำกลุ่มพันธมิตร 

   มีเรื่องรายงานงั้นหรือ? มู่ฉิงเฟิงรู้ในทันทีว่าร่างนั้นคือสายในศาลาเต๋าสวรรค์

   ฮืมตัวตนระดับเทพเจ้าปรากฎตัว ชื่อของเขาคือโจวฉีและเขาเริ่มต่อสู้กับผู้อาวุโสเมิ่งเทียนที่หน้าผา ยังไงก็ตามเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส! 

   เขาบาดเจ็บสาหัส?! 

   รายงานให้ชัดเจนใครที่บาดเจ็บสาหัส เมิ่งเทียนหรือโจวฉี? 

  ผู้นำสำนักโดยรอบต่างเบิกตากว้าง

   โจวฉี…โจวฉีบาดเจ็บเพราะถูกตบที่หลังและถูกเตะกลิ้งออกไปโดยเมิ่งเทียน ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเมิ่งเทียนจะเป็นฝ่ายชนะข้าจึงรีบมารายงาน! ศิษย์ตอบกลับ

   ช่างแข็งแกร่ง! นอกจากความตื่นเต้นผู้นำสำนักต่างก็ทั้งชื่นชมและอิจฉาในพลังของเขา

   ใช่แล้วช่างน่าประทับใจ ข้าไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสเมิ่งเทียนจะแข็งแกร่งเช่นนี้ ด้วยพลังของเขาพวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวอสูรและปิศาจ! 

   ถูกต้องงั้นพวกเรารออะไรอยู่?! 

   บุกเข้าศาลาเต๋าสวรรคและฆ่าพวกอสูรและปีศาจร่วมกับผู้อาวุโสเมิ่งเทียนก่อนเข้าไปในซากปราสาทดำดีไหม? 

  ผู้นำสำนักอื่นๆเริ่มแสดงความคิดเห็น

   ไม่!หยุนชิงวูจะมาถึงในไม่ช้าและนางจะพาตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นๆมาด้วย เวลาของเรามีจำกัดเราไม่ควรประมาทศัตรู ตอนนี้เราควรเข้าไปในซากปราสาทดำ! โม่ฉานฉือพูดขึ้น

  เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมาแม้เขาจะสงสัยในตัวเมิ่งเทียน แต่เขาก็ยืนยันที่จะทำตามแผนการ

  คนอื่นๆต่างก้มหัวลงในทันทีเมื่อได้ยินหน้าที่หลักของพวกเขาคือค้นหาแหล่งพลังเทพเจ้าภายในปราสาทดำ

  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับผู้นำสำนักอื่นเต๋าฮุนกลับนิ่งเงียบและดูเหมือนกำลังคิดบางอย่าง

   ท่านผู้นำเต๋าโปรดตัดสินใจ! หลังจากแสดงความคิดเห็นเหล่าผู้นำสำนักล้วนมองไปที่เต๋าฮุน

   อา…เอาล่ะ…งั้น …งั้นบุกเข้าซากปราสาทดำเพื่อค้นหาแหล่งพลังเทพเจ้า เต๋าฮุนเรียกสติกลับมาและหันมองวู่จวี้เอ๋อเพราะมีบางอย่างในใจ  ผู้นำนิกายวู่เนื่องจากพวกเราจะเข้าไปในปราสาทดำ ท่านช่วยเปิดกล่องของเมิ่งเทียนได้ไหม? 

   ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนบอกพวกเราว่าให้เปิดกล่องหลังจากเข้าไปในปราสาทดำ วู่จวี่เอ๋อส่ายหัวอย่างไม่ลังเล

   หลังจากที่เข้าไป?ฮ่าฮ่า… มันสำคัญงั้นหรือ? พวกเรากำลังจะเข้าไป… คนที่เหลือคิดเช่นไร? เต๋าฮุนหรี่ตาลงและหันมองผู้นำสำนักโดยรอบ

   แต่… 

   …   ผู้นำสำนักอื่นๆต่างเงียบสนิท

   จากที่เมิ่งเทียนบอกให้พวกเราเปิดกล่องหลังจากที่เข้าไปในปราสาทดำ ทำไมท่านถึงอยากจะเปิดมันตอนนี้? โม่ฉานฉือถามอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่สนใจสถานะของเต๋าฮุน

   รองผู้นำโม่นั่นไม่ถูกต้องในฐานะผู้นำของกลุ่มพันธมิตรขสวรรค์ ข้าคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตร แม้พวกเราจะยืนยันตัวตนของเมิ่งเทียนได้ แต่ก็ยังคงอันตรายสำหรับพวกเรา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงอยากเปิดกล่อง ข้าคิดถึงความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตร… 

   มีอะไรที่ต้องคิด?ถ้าเราเชื่อใจใครสักคนก็ควรเชื่อใจเขาอย่างเต็มที่! ในเมื่อเราเชื่อในเมิ่งเทียนก็ไม่ควรสงสัยในความตั้งใจของเขาและทำตามที่เขาสั่ง! โม่ฉานฉือพูดแทรกขึ้นมาก่อนจะพูดจบ

   ข้าเห็นด้วยกับรองผู้นำโม่! 

   ใช่แล้วจะเปิดตอนนี้หรือเปิดตอนที่เข้าไปด้านในก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก! 

   ข้าเองก็ไม่คิดว่าการเปิดกล่องนี้ในซากปราสาทดำต่างกับการเปิดตอนนี้เช่นกันข้าไม่คัดค้านหากทุกคนต้องการเช่นนั้น 

  ผู้นำสำนักอื่นๆต่างพยักหน้าตามคำพูดของเขา

   เอาล่ะในเมื่อทุกคนเห็นด้วย โปรดออกคำสั่งด้วยท่านผู้นำเต๋า! หลังจากได้ยิน ดวงตาของโม่ฉานฉือก็เปล่งประกายด้วยความสะใจเล็กน้อย

  เต๋าฮุนกำมือของเขาแน่นในขณะที่ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อยแม้เขาจะสวมหน้ากากปิดบังก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยว

  อย่างไรก็ตามเต๋าฮุนสงบลงในทันที แววตากลับมาเป็นมิตรอีกครั้ง เขามองไปที่วู่จวี้เอ๋อและโม่ฉานฉือก่อนจะกล่าวขึ้น  ฮ่าฮ่า ในเมื่อไม่มีใครคัดค้านงั้นเราจะทำตามคำแนะนำของผู้อาวุโสเมิ่งเทียน อย่างไรก็ตามผู้นำนิกายวู่อย่าลืมเปิดกล่องหลังจากเข้าไปในปราสาทดำ เพื่อความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตร! 

   แน่นอน! วู่จวี้เอ๋อพยักหน้า

   เอาล่ะถ่ายทอดคำสั่งของข้าทั้งสี่กลุ่มรออยู่รอบนอกทางเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกของปราสาทดำ นอกจากนั้น…  เต๋าฮุนมองที่โม่ฉานฉือและพูดว่า  ข้ามีคำแนะนำ เจ้าอยากจะฟังหรือไม่ รองผู้นำโม่? 

   ฮ่าฮ่าเชิญท่านพูดเลย ท่านผู้นำเต๋า! โม่ฉานฉือหัวเราะ

   หากคิดถึงความไม่แน่นอนหลังจากที่เข้าไปในปราสาทดำข้าคิดว่าเราควรให้กลุ่มหนึ่งเฝ้าคุ้มกันอยู่ด้านนอก ท่านคิดเห็นอย่างไรรองผู้นำโม่? 

   ท่านอยากให้ข้าคุ้มกันประตูให้งั้นหรือ?! โม่ฉานฉือเข้าใจสิ่งที่เต๋าฮุนต้องการพูดในทันที

   อย่าหงุดหงิดไปเลยรองผู้นำโม่เพื่อความปลอดภัยของทุกคนท่านควรเสียสละเฝ้าที่ด้านนอก? เต๋าฮุนพยายามโน้มน้าว   ถ้าคิดถึงความปลอดภัยทำไมท่านไม่คุ้มกันด้านนอกแทนเสียล่ะ? โม่ฉานฉือไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขาจะยอมรับได้อย่างไรถ้าไม่ได้เข้าไปซากปราสาทสีดำด้วยตัวเอง

   ข้าไม่รังเกียจที่จะอยู่คุ้มกันด้านนอกแต่ในฐานะผู้นำข้าไม่สามารถอยู่ที่แนวหน้าของสนามรบได้หากมีอะไรเกิดขึ้นด้านในข้าต้องอยู่ที่นั่นเพื่อตัดสินใจ นอกจากนี้ไม่คิดว่าท่านเหมาะสมจะเป็นผู้คุ้มกันที่สุดงั้นหรือ? 

   ทำไมข้าถึงเหมาะสมที่สุด?! 

   ฮ่าฮ่าสงบใจลงก่อนรองผู้นำโม่ ประการแรกข้าไม่อาจเป็นคนคุ้มกันได้เพราะข้าเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตร ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้ใช่ไหม? เต๋าฮุนมองไปที่ผู้นำสำนักโดยรอบหลังจากที่พูด

  ผู้นำสำนักมองหน้ากันและพยักหน้าในทันทีมันเป็นความจริงที่เต๋าฮุนคือผู้นำกลุ่มพันธมิตรของมนุษยชาติ

   เอาล่ะยอดเยี่ยม เท่านเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรแต่ข้าไม่ใช่รองผู้นำงั้นหรือ? อารมณ์คุกกรุ่นของโม่ฉานฉือสามารถสัมผัสได้ชัดเจน

   โปรดใจเย็นลงก่อนรอให้ข้าพูดจบก่อนดีไหม? 

   ได้งั้นก็พูด! 

   ประการแรกควรมีใครสักคนคอยคุ้มกันด้านหน้าไม่มีข้อโต้แย้งใช่ไหม?ประการที่สองข้าต้องเข้าไปและรองผู้นำมู่ที่เคยเข้าไปในปราสาทดำมาก่อนดังนั้นเขาจึงไม่ควรคุ้มกันด้านนอก …ในบรรดารองผู้นำลุ่มพันธมิตรทั้งสี่คนก็เหลือเพียงรองผู้นำโม่และผู้นำนิกายวู่ ไม่ต้องพูดถึงกล่องที่นางได้รับจากเมิ่งเทียน เพียงแค่ตัดสินจากพลังของแต่ละคนจะให้ผู้นำนิกายวู่คอยคุ้มกันอยู่ด้านนอกงั้นหรือ? เต๋าฮุนยิ้มเมื่อพูดข้อโต้แย้ง

   เต๋าฮุน! โม่ฉานฉือโมโหขึ้นอีกขั้น

  มู่ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกดบ่าของโม่ฉานฉือลงเพื่อพยายามให้เขาสงบใจ

   เฒ่าโม่อย่าดิ้อดึงไปเลย!     ถุย!ข้าดื้อดึงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ได้ ข้าจะอยู่ด้านนอก! โม่ฉานฉือถ่มน้ำลายลงพื้นและเดินไปด้านข้าง

  เมื่อเห็นเช่นนั้นโม่ฉานฉือก็ยิ้มเยาะและชี้ไปทางซากปราสาทดำ ถ่ายทอดคำสั่ง กองทัพหุบเขาฟู่ซี่จะอยู่คุ้มกันด้านนอกของปราสาทดำ ทั้งสามกองทัพที่เหลือตามข้ามา! 

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท