Gate of God – ตอนที่ 994 หลอมและควบคุมทุกสิ่ง!

ตอนที่ 994 หลอมและควบคุมทุกสิ่ง!

  มันแปลกเกินไป

  หากความประทับใจต่อนางก่อนหน้านี้คือความไม่ชัดเจนตอนนี้มันคงกลายเป็นความแปลกเกินกว่าที่เขาจะบรรยาย

  หญิงสาวชุดขาวดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างที่สำคัญนางบอกว่านางเป็นสัตว์ประหลาด?!

   กระโดด หญิงสาวพูดขึ้นอีกครั้ง

   ท่านแน่ใจหรือว่าข้าจะไม่ตายหลังจากกระโดดลงไป ฟางเจิ้งจือมองไปยังลาวาสีแดงเดือดตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว

  มันคือลาวาไม่ใช่น้ำอุ่นเขาจะมีชีวิตรอดจากมันได้ยังไง?

  มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่อาจจะรอดชีวิต

   ถ้าเป็นคนอื่นคงตาย หญิงสาวในชุดขาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ฟางเจิ้งจือ แต่ไม่ใช่เจ้า 

   ท่านให้เหตุผลอื่นที่น่าเชื่อถือกว่านี้หน่อยได้ไหม? 

   เจ้ามีเพลิงพันปีอยู่ในร่างกายเหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่? 

   … ริมฝีปากของฟางเจิ้งจือกระตุกเขาอยากจะถามบางอย่างเพิ่ม ทำไมการที่มีเพลิงพันปีอยู่ในร่างกายถึงจะสามารถอยู่รอดในลาวาได้?

  คำถามนั้นดูโง่เล็กน้อย

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าเพลิงพันปีถูกหลอมไปแล้วในหม้อหลอมของเก้าขุนเขา

   จริงๆแล้วมีหลายอย่างอยู่ในร่างกายของเจ้าไม่ว่าจะเพลิงพันปี ดอกไม้อัศจรรย์ห้าสี หม้อหลอมทั้งเก้า และกลืนกินโลก อย่างไรก็ตามเจ้าไม่ได้ใช้ประโยชน์จากพวกมัน หญิงสาวพูดหลังจากเห็นฟางเจิ้งจือเงียบไป อย่างไรก็ตามดูเหมือนมันเป็นการพึมพำกับตัวเองมากกว่า

   แล้วพวกมันจะถูกใช้เหรอถ้าข้ากระโดดลงไป? 

   บางที 

   บางที?ข้ากำลังเดิมพันด้วยชีวิตตัวเอง แต่ท่านกลับบอกว่า ‘บางที’? ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออก เขาควรจะพูดกับนางเช่นไรดี

   ข้าหมายความว่าจะได้ผลลัพธ์มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเจ้า เมื่อหญิงสาวชุดขาวเห็นว่าฟางเจิ้งจือกำลังคิด นางจึงอธิบายอีกครั้ง

   ขอข้าคิดก่อนได้ไหม? 

   แน่นอนแต่เจ้ามีเวลาไม่มาก 

   ข้ามีเวลาแค่ไหน? 

   3″

   3ท่านหมายความถึงอะไร? 

   2″

   … ฟางเจิ้งจือเข้าใจทันทีว่าเหลือเพียงสามวินาที

   1″   เดี๋ยวก่อนข้ามีบางอย่างจะถาม! 

   แล้วพบกันใหม่ 

   เอ่อ…! ฟางเจิ้งจืออยากจะหนีแต่เขารรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างควบคุมไม่ได้

  เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วเกินไปแต่มันช่างน่าระทึกที่เขาไปใกล้ลาวา…

  เรื่องบัดซบอะไรเนี่ย?!

  ทำไมเขาถึงเคลื่อนไหวไม่ได้?

  ฟางเจิ้งจืออยากจะสาปแช่งเขามีพลังในระดับเทพเจ้า แต่ในโลกนี้เขาไม่สามารถทำอะไรกับหญิงสาวชุดขาวได้เลย

  ยิ่งไปกว่านั้น..

  ดูเหมือนหญิงสาวชุดขาวจะไม่สนใจแม้ว่ามันจะเป็นลาวาก็ตาม

   ข้าเปลี่ยนท่าได้ไหมข้าไม่อยากเอาหน้าลง! ฟางเจิ้งจือร้องขอครั้งสุดท้าย เนื่องจากใบหน้าของเขากำลังพุ่งลงไปในลาวา  อย่างไรก็ตามดูเหมือนจะไม่ได้ผล

  ท่าทางของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยเขาเข้าใกล้ลาวามากขึ้นและรู้สึกได้ถึงความร้อนจัด

   …อ้ากเชี่ยเอ้ย! เมื่อฟางเจิ้งจือตะโกนเขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ร้อนจัดกระเด็นเข้าไปในปาก

  ขม?หรือเค็ม? เผ็ด? หวาน?

  ใครจะไปรู้?!

  ฟางเจิ้งจือมีความรู้สึกเดียวเมื่อมันกระเด็นเข้าปากมันร้อนเหมือนไฟ

  นอกจากนี้คลื่นความร้อนยังไหลผ่านหูและจมูกของเขาอย่างต่อเนื่องมันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

   หลอม หญิงสาวในชุดขาวกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง  หลอมทุกอย่าง ทั้งสมุนไพรเพลิงพันปี ดอกไม้อัศจรรย์ห้าสี สมุนไพรทั้งหลาย หม้อหลอมทั้งเก้า…เมื่อทุกสิ่งผสานเข้ากับร่างกายของเจ้า เจ้าจะสามารถควบคุมทุกอย่างบนโลกได้ 

  ขณะที่กล่าวนางนั่งลงบนพื้นช้าๆและรออย่างเงียบๆ ราวกับนางกำลังรอให้ทุกสิ่งเริ่มต้นและรอให้ทุกสิ่งจบลง

  ฟางเจิ้งจือไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูดร่างของเขากำลังลุกไหม้

  อวัยวะภายในเลือด หลอดเลือด กล้ามเนื้อ ทุกเซลล์บนร่างกายกำลังถูกเผา

  ความเจ็บปวดขีดสุดลึกเข้าไปถึงกระดูก

  เขารู้สึกอยากตายแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างร่างกายของเขาไม่สามารถตายได้ หลังจากทุกส่วนบนร่างกายของเขากลายเป็นเถ้าถ่าน กล้ามเนื้อชุดใหม่เติบโตขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเลือดของเขาเหือดแห้ง เลือดที่สร้างขึ้นใหม่เริ่มไหลเวียนอีกครั้ง

  มันเป็นวงจรแบบนี้ไม่รู้จบ!

  ฟางเจิ้งจือพึ่งเข้าใจความรู้สึกที่ว่า’ไม่สามารถอยู่หรือตายได้’เขาอยากจะสบถออกมา  แต่เขาไม่สามารถทำได้เพราะเมื่อเขาเปิดปากลาวาร้อนๆก็ไหลเข้ามาทันที

  ’ไม่ข้าต้องหาวิธีลดความเจ็บปวด ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปข้าคงตายเพราะความทรมารแน่นอน’ ฟางเจิ้งจือไม่ได้โง่

  ยิ่งเจ็บปวดมากเท่าไรเขาก็ยิ่งตื่นตัวมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนั้นเขายังจำสิ่งที่หญิงสาวในชุดขาวพูดกับเขาก่อนที่จะกระโดดลงมาในลาวาได้  จะได้ผลลัพธ์มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเจ้า 

  ความหมายที่อยู่เบื้องหลังนั้นชัดเจนหากเขาอดทนต่อความเจ็บปวดโดยไม่ทำอะไรเลย ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะน้อยลง

  ยิ่งไปกว่านั้นเขายังจำสิ่งที่นางพูดได้ที่แรก…นั่นหมายความว่ายังมีอีกหลายที่…

  ยิ่งคิดยิ่งน่ากลัวจริงๆ!

  ฟางเจิ้งจือไม่อยากเจอเรื่องแบบเดียวกันซ้ำหลายรอบเขาเป็นคนกลัวความเจ็บปวด เพียงครั้งเดียวก็พอแล้ว   ดูเหมือนข้าต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง ฟางเจิ้งจือหลับตาลงช้าๆ

  สิบห้านาทีผ่านไป…

  สามสิบนาทีผ่านไป…

  …

  หลังจากผ่านไปนานฟางเจิ้งจือก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงราวกับร่างของเขากำลังกระตุก

  ในเวลาเดียวกันหญิงสาวในชุดสีขาวมองลาวาที่เริ่มหมุนวน

   ดูเหมือนจะล้มเหลวไปที่ที่สองกันเถอะ  หญิงสาวในชุดขาวกล่าวเบาๆและลุกขึ้นยืนจากพื้นช้าๆ สายตาของนางทอดมองไปไกล

  มีแสงสีฟ้าส่องประกายอยู่ในทิศที่นางมองไปมันต่างจากลาวาที่ร้อนระอุอย่างชัดเจน

  หญิงสาวในชุดขาวค่อยๆยกฟางเจิ้งจือขึ้นจากลาวาลาวาที่ปั่นป่วนก็สงบลง

   หืม? หญิงสาวในชุดขาวเบิกตากว้างนางราวกับกำลังจมอยู่ในห้วงความคิด

  ผ่านไปสิบห้านาที…

  ลาวาสงบนิ่งราวกับสายน้ำแม้ว่ายังมีคลื่นความร้อนอยู่บ้างแต่มันไม่มีความปั่นป่วนแม้แต่น้อย

   หืม? หญิงสาวในชุดขาวถอนมือของนางออกและกลับไปนั่งที่เดิม ดวงตาของนางเป็นประกาย

  ด้านฟางเจิ้งจือที่อยู่ในลาวาเขากำลังนอนตะแคงอยู่

  มันเป็นท่าที่แสดงให้เห็นถึงความขี้เกียจของเขาดี

  อย่างไรก็ตามทุกอย่างดูเป็นธรรมาชาติราวกับทุกอย่างผสานอยู่ในร่างของเขา

  ฟางเจิ้งจือกำลังหลับจริงๆ!

  อย่างไรก็ตามในความคิดของเขาสะท้อนให้เห็นภาพต่างๆตั้งแต่วัยเด็กของเขา

  ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กทารกในอ้อมกอดของพ่อและแม่  เมื่อเติบโตขึ้นก็มีเสียงร้องตะโกนของเด็กสาวคนหนึ่ง

   ใครขโมยไก่ขนไฟของข้าไป! 

   มันไม่ใช่แค่ไก่ธรรมดางั้นรึ? ฟางเจิ้งจือยิ้มขณะมองไก่ที่เขาขโมยมา

  จากนั้นก็เป็นภาพของเด็กคนหนึ่งที่ต่อยเข้ากับกำแพงหิน

   โอ้ย!เจ็บ!  เด็กคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

  โอ้ใช่!

  ควบคุมกล้ามเนื้อทุกส่วนควบคุมเลือดทุกหยด ควบคุมเซลล์ทุกเซลล์

  ไม่รู้ทำไมฟางเจิ้งจือนึกถึงครั้งแรกที่เขาได้เข้าสู่วิถีแห่งเต๋าร่างกายของเขาถูกควบคุม สร้างขึ้น หายไป สร้างขึ้นอีกครั้งและหายไป…

  เมื่อเลือดเหือดแห้งเลือดชุดใหม่ไหลเวียน เช่นเดียวกันกับกระดูก กล้ามเนื้อ ผม ผิวหนัง

  ควบคุมทุกอย่าง  ทุกอย่างถูกควบคุมโดยเขา

  แสงสว่างปกคลุมร่างของฟางเจิ้งจือตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับร่างของเขาถูกชะล้างด้วยน้ำอันอบอุ่นก่อนจะถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง

  …

  ที่ด้านล่างของศาลาเต๋าสวรรค์ปิงหยางกำลังวิ่งไปที่ซากปราสาทสีดำขณะอุ้มฟางเจิ้งจือไปด้วย นางสังเกตุถึงความผิดปกติจากร่างของฟางเจิ้งจือ ร่างของเขาร้อนระอุราวกับนางกำลังอุ้มลูกไฟ อย่างไรก็ตามนางไม่สนใจ

  ไม่ว่าจะเป็นลูกไฟที่กำลังลุกไหม้หรือก้อนน้ำแข็งที่เย็นเยียบนางก็กอดมันด้วยชีวิต แม้ร่างของนางจะเปียกโชกไปด้วยเหงื่อก็ตาม

   เร็วกว่านี้เร็วกว่านี้!  ปิงหยางพึมพัมขณะวิ่งไปด้านหน้า

  นางใกล้ถึงแล้วใกล้แล้ว!

  ทันใดนั้นสถานที่หนึ่งได้ปรากฎตรงหน้านางแม้นางจะยังห่างไกลจากมันแต่นางก็มั่นใจว่ามันคือซากปราสาทสีดำ

  ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงบางอย่างพร้อมกับร่างสีทองที่ร่อนลงมาจากท้องฟ้า

   นั่นมันอะไรกัน? ปิงหยางเห็นไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามนางไม่สนใจ นางต้องรีบไปหากลุ่มพันธมิตรของมนุษย์ให้เร็วที่สุด

  ในไม่นานนางก็เห็นคนอยู่ด้านหน้านาง

   ในที่สุด! ปิงหยางหยุดทันทีเมื่อถึงปราสาทสีดำ ที่ด้านหน้ามีกลุ่มคนสวมหน้ากากที่มีคำว่า’เทพเจ้า’อยู่

  กลุ่มพันธมิตรสวรรค์!

  ปิงหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

   เต๋าฮุนอยู่ไหน?ผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์อยู่ที่ไหน? ผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์อยู่ที่ไหน? ท่านโม่ฉานฉือล่ะ? ช่วยฟาง…เอ้ย เมิ่งเทียน…เทพสงครามเมิ่งเทียนตัวจริง เขาได้รับบาดเจ็บ โปรดช่วยเขาด้วย!  ปิงหยางเดินไปข้างหน้าและกล่าวต่อผู้คนตรงหน้าทั้งหมด

   นั่นเมิ่งเทียนหรือ?     เมิ่งเทียนตัวจริง? 

  สายตาของพวกเขามองเมิ่งเทียนที่อยู่ในอ้อมแขนของปิงหยางด้วยความตกใจ

  อย่างไรก็ตามสีหน้าของพวกเขากลับเปลี่ยนไปราวกับรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างน่ากลัวกำลังเกิดขึ้น

   วิ่ง!หนีเร็วเข้า!  เสียงหนึ่งดังขึ้นเมื่อปิงหยางเดินเข้าไปใกล้

  มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและไม่คิดจะอธิบายอะไรให้นางรับรู้แม้แต่น้อย

   หนี? ปิงหยางนิ่งไปทันที นางไม่มั่นใจว่าทำไมเขาถึงพูดกับนางเช่นนั้น

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท