ตอนที่ 998 แค่สามคน?
… ปิงหยางไม่มีเวลาตอบฟางเจิ้งจือ
ความจริงนอกจากปิงหยางกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์รวมถึงตัวตนระดับเทพเจ้าและหยุนชิงวูก็ไม่มีเวลาตอบฟางเจิ้งจือ
เพราะคำถามของเขาไม่ได้สำคัญอีกต่อไป
ปัญหาสำคัญคือฉินเซียนกำลังบ้าคลั่งดอกไม้ใบหน้าไม่สนใจว่าตรงหน้าจะเป็นมนุษย์ ปีศาจหรืออสูร
ดอกไม้ยักษ์โจมตีใส่ทุกคนที่อยู่รอบพวกมันราวกับเป็นดอกไม้ที่หิวกระหาย
ฉินเซียนหยุดเดี๋ยวนี้! หลินยู่เริ่มโกรธหลังจากพึ่งป้องกันดอกไม้ดอกหนึ่งที่เข้ามาโจมตีหยุนชิงวู
เขากล้าโจมตีท่านหยุนชิงวู!
คงมีแต่คนบ้าเช่นฉินเซียนเท่านั้นที่กล้าทำ เมิ่งเทียนตื่นขึ้นมาแล้ว?
มันเป็นเรื่องสำคัญไหม?
บางทีมันอาจจะไม่สำคัญอีกต่อไป
ในใจของหลินยู่คิดว่าต่อให้เทพสงครามเมิ่งเทียนจะเก่งกาจแค่ไหนแต่เขาจะสามารถรับมือกับตัวตนระดับเทพเจ้าหกคนได้ในคราเดียวงั้นหรือ?
ถ้าฉินเซียนไม่บ้าคลั่งพวกเขาคงชนะแน่นอน
อย่างไรก็ตามคำพูดของหลินยู่ไม่ได้เข้าหูฉินเซียนแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นมันกลับทำให้ฉินเซียนบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิมใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเหมือนกับดอกไม้ยักษ์ที่พึ่งเขมือบศิษย์ฝ่ายมนุษย์เข้าไป ฟันอันแหลมคมของเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์
ยุคโบราณนั้นโหดร้าย
ยุคที่การดื่มเลือดและการกิดกระดูกเป็นเรื่องปกติตัวตนมากมายได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคนั้น
ฉินเซียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาเคารพหยุนชิงวู แต่เมื่อได้รับบาดเจ็บเขากลายเป็นบ้าคลั่งทันที เขาไม่สนใจเรื่องของหยุนชิงวูอีกต่อไป นั่นเพราะอสูรที่เกิดในยุคโบราณเชื่อว่า’ผู้ที่มีพลังมากที่สุดคือผู้ควบคุมทุกสิ่ง’
ไม่เป็นไรถ้าจะไร้พลัง
แต่ถ้าไร้พลังก็จะถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย
มันคือบทเรียนแห่งความตาย
การที่ข้ารับใช้จะฆ่าเจ้านายไม่ใช่เรื่องแปลกไม่มีใครว่าอะไร เพราะทุกคนเคารพความแข็งแกร่ง!
ฉินเซียนกำลังบ้าคลั่ง
เขามีความต้องการเดียวคือฆ่าทุกคนเขาต้องการให้ทุกคนกลายเป็นปุ๋ยสำหรับดอกไม้ของเขา
ทันใดนั้นขณะที่ฉินเซียนกำลังเสียสติ ร่างหนึ่งปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา เร็วมาก!
เร็วมากราวกับเขาย้ายตำแหน่งของตัวเอง
มันทำให้ฉินเซียนตกตะลึงยิ่งกว่านั้นเขาเห็นมือข้างหนึ่งที่ยกสูง
อากาศถูกแยกออกเมื่อมือนั้นตบลงมา
ปัง!เสียงดังสนั่น
…
ปากของฉินเซียนอ้าค้างด้วยความตกใจรอยฝ่ามือที่ชัดเจนปรากฎขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของเขา จากความบ้าคลั่งกลายเป็นใบหน้าที่แข็งค้าง
นอกจากเขาแล้วฝ่ายมนุษย์ ตัวตนระดับเทพเจ้าที่ถูกขวางไว้ด้วยดอกไม้ยักษ์ต่างยืนตัวแข็งอยู่จุดเดิม
มันเป็นเสียงตบที่ดังมาก…
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องหลักที่พวกเขากังวล ทุกคนต่างเบิกตากว้างเพราะ…
ฉินเซียนถูกเมิ่งเทียนตบ?!
สำหรับตัวตนระดับเทพเจ้าแล้วนั้นพวกเขาไม่ได้กังวลแค่นิสัยแปลกๆของฉินเซียน แต่พวกเขากังวลเรื่องพลัง
พลังระดับเทพเจ้าขั้นสูงสุดเรียกได้ว่าเขาเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดที่ออกมาจากประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูรและปีศาจ
สนามรบตกอยู่ในความเงียบราวกับเวลาได้หยุดลง
แม้แต่ปิงหยาง…
นางเองก็ตกตะลึง
เจ้าไร้ยางอาย…แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว?! ปิงหยางจำได้ว่าฟางเจิ้งจือไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ตอนที่สู้กับโจวฉี
อย่างไรก็ตามหลังจากตื่นขึ้นเขากลับสามารถตบหน้าฉินเซียนได้อย่างง่ายดาย
อสูรชั้นต่ำข้ากำลังถามเจ้าอยู่ เจ้าคือใคร? ฟางเจิ้งจือดูเหมือนจะไม่สนบรรยากาศรอบๆ ขณะที่พูดเขาเตะดอกไม้ที่อยู่รอบๆไปด้วย
ตูม!
ตูม!
ดอกไม้ที่เข้ามาโจมตีฉีกขาดเป็นเศษเล็กเศษน้อยแล้วร่วงลงบนพื้น
..
ทุกกคนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา
แข็ง…แข็งแกร่งมาก!
นี่คือเทพสงครามเมิ่งเทียนงั้นรึ?!
เขาทรงพลังขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
ศิษย์ฝ่ายมนุษย์รวมถึงเหล่าเซียนต่างอ้าปากค้างกับพลังของฟางเจิ้งจือ
แม้แต่ตัวตนระดับเทพเจ้ายังต้องเปลี่ยนความคิด
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นเพียงผู้เดียวที่คนทั้งโลกควรให้ความเคารพ
แต่ตอนนี้เมิ่งเทียนที่พวกเขาเคยดูถูกกลับตอกหน้าพวกเขา…
พวกเขาไม่ใช่ผู้เดียวที่สามารถเรียกตัวเองว่า’เทพเจ้า’ได้!
อืมมมแค่ก แค่ก… ทันใดนั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นจากดอกไม้ที่เปิดออก
เป็นโม่ฉานฉือที่ใส่ชุดสีดำหน้ากากสีดำของเขาหลุดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ซูบผอม
รองผู้นำโม่?!
ผู้นำหุบเขาฟู่ซี่ออกมาแล้ว?
เร็วเข้ารีบไปช่วยเขา!
ศิษย์ฝ่ายมนุษย์ได้สติหลังเห็นโม่ฉานฉือสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของดอกไม้ได้
อย่างไรก็ตามทำไมโม่ฉานฉือถึงดูซูบผอมลงอย่างกระทันหัน?
แค่กแค่ก… เห็นได้ชัดว่าโม่ฉานฉือไม่ได้สังเกตุเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เขาโน้มตัวไปข้างหน้าและกระอักเลือดออกมา ท่านเป็นอะไรไหม?
ท่านผู้นำหุบเขาฟู่ซี่!
กลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์รีบวิ่งเข้าไปหาโม่ฉานฉืออย่างไรก็ตามพวกเขากลับถูกโยนกลับออกไป
อย่า…อย่าแตะตัวข้าเกสรของดอกไม้พวกนี้มันแปลกมาก โม่ฉานฉือที่ผลักศิษย์ฝ่ายมนุษย์ออกไปกล่าวออกมา
จากนั้นฉากที่น่ากลัวได้เกิดขึ้น
กองกระดูกและซากที่เหือดแห้งจำนวนมากหลุดออกมาจากดอกไม้ที่เปิดออก
ฟางเจิ้งจือสังเกตุเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขามองโม่ฉานฉือที่ซูบผอมและเหล่าซากที่หลุดออกมาจากดอกไม้ มีทั้งมนุษย์ อสูร ปีศาจที่แต่งตัวต่างกัน
ตัวตนระดับเทพเจ้างั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทันที่เมื่อเห็นหยุนชิงวู
หนึ่งสอง สาม… ตัวตนระดับเทพเจ้าหกคน!
ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้หมายความว่าหยุนชิงวูเดิมพันกับเรื่องนี้ไว้สูงมาก
แล้วเขาควรทำยังต่อไป
สู้กับพวกมันทั้งหก?จับตัวหยุนชิงวูแล้วฆ่านางทิ้ง?
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังคิดสายลมเริ่มพัดรุนแรง เขาถูกล้อมไว้ด้วยดอกไม้ป่ายักษ์ห้าถึงหกดอกโดยไม่รู้ตัว
ตาย! เสียงตะโกนดังขึ้น ฉินเซียนพุ่งเข้าใส่ฟางเจิ้งจือทันที
นั่นหมายความว่าฉินเซียนมองฟางเจิ้งจือเป็นศัตรูอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือดูไม่สนใจฉินเซียนแม้แต่น้อย…
ดอกไม้ยักษ์พุ่งเข้าหาฟางเจิ้งจือดวงตาของปิงหยางเบิกกว้าง นางเป็นกังวลเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับโม่ฉานฉือ
ระวัง.. ก่อนที่ปิงหยางจะพูดอะไรได้มากกว่านั้น นางต้องตกตะลึงอีกครั้ง
มันเป็นเพราะเรื่องอันแปลกประหลาดเกิดขึ้นตรงหน้านาง
เมื่อพวกมันเข้าใกล้ฟางเจิ้งจือมันกลับหยุดเคลื่อนไหว
ราวกับฟางเจิ้งจือเป็นพวกเดียวกับมัน!
ดอกไม้จะไม่ทำร้ายดอกไม้เหมือนกัน
มันแปลกมาก
จากนั้นฟางเจิ้งจือเคลื่อนไหวอีกครั้งเขาปัดสิ่งสกปรกออกจากเสื้อและตบฉินเซียนอีกครั้ง
ปั้ง!เทียบกลับครั้งก่อน ครั้งนี้แรงกว่าจนเกิดเสี้ยงสะท้อนในอากาศ
ฉินเซียนตกตะลึง
ก่อนหน้านี้มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญแต่ครั้งที่สองยังนับว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้อีกงั้นหรือ?
มันเป็นไปได้ยังไง? เขาไขปริศนา’ค่ายกลแห่งความเป็นตาย’ของข้าได้ยังไง? ฉินเซียนไม่เชื่อ แต่ความจริงก็คือดอกไม้เหล่านั้นไม่ทำร้ายฟางเจิ้งจือ
เจ้าคิดจะปลูกดอกไม้ต่อหน้าเทพสงครามเช่นข้างั้นรึ? ฟางเจิ้งจือมองดอกไม้รอบๆก่อนจะมองฉินเซียนอย่างดูถูกและเตะไปที่ใบหน้าของฉินเซียนทันที
อย่างไรก็ตามเขาต้องแปลกใจเล็กน้อยเพราะฉินเซียนหลบได้
ตอนแรกเขาคิดว่าฉินเซียนอ่อนแอมากเลยถูกเขาตบถึงสองครั้งอย่างน้อยก็น่าจะอ่อนแอกว่าโจวฉี
อย่างไรก็ตามตัดสินจากความเร็วของฉินเซียน…
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อ่อนแอ
เมิ่งเทียน!! หลังจากหลบออกไปสิบก้าว ฉินเซียนลูบแก้มที่รอยฝ่ามือสีแดงอยู่ทั้งสองด้าน อย่างไรก็ตามเขาไม่เข้าใจว่าฟางเจิ้งจือไขปริศนาค่ายกลแห่งความเป็นตายได้ยังไง มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ต่อให้เป็นในยุคโบราณก็ตาม
ฉินเซียนเจ้ารับมือได้ไหม?
ถ้าเจ้าไม่ไหวก็แค่บอกพวกเราบางที่เมิ่งเทียนอาจจะเป็นคนเดียวที่เอาชนะเจ้าได้!
เมื่อคนแปลกๆเจอคนแปลกๆเหมือนกัน…
ตัวตนระดับเทพเจ้าที่เหลือต่างมีท่าทีแตกต่างกันออกไปแต่พวกเขารู้เรื่องหนึ่งคือความแข็งแกร่งของฟางเจิ้งจือ ใช่ว่าฉินเซียนคนเดียวจะรับมือได้
อย่างไรก็ตามฉินเซียนเป็นคนแปลกๆ
ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่แม้ตัวตนระดับเทพเจ้าต้องการโจมตีพร้อมกัน พวกเขาต้องขออนุญาติจากฉินเซียนก่อน
หุบปาก! ฉินเซียนหันไปตวาดทันที
ตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นๆไม่ได้พูดอะไรอีกพวกเขารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ฉินเซียนจะขอความช่วยเหลือ
มู่ซิง,หลี่ซา ไปช่วยฉินเซียน หลินยู่กล่าวหลังจากมองไปที่หยุนชิงวู
ฮ่าฮ่า… เทพอสูรมู่ซิงหัวยิ้มเยาะ
อืม ตัวตนระดับเทพเจ้าอีกคนที่ชื่อหลี่ซาพยักหน้าแล้วกระโจนออกไปทันที
ท่านโม่ฉานฉือพวกเรารีบหลบไปจากที่นี่ก่อน! โม่ฉานฉือที่เห็นตัวตนเทพเจ้าอีกสองคนเข้ามาใกล้ เขาต้องการจะพุ่งออกไปเพื่อสู้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาถูกขวางไว้ด้วยศิษย์ฝ่ายมนุษย์
อย่าท่านโม่!
ใช่แล้วท่านบาดเจ็บหนักอยู่!
โม่ฉานฉือล้มลงอีกครั้งในทันทีไม่ใช่พวกเขาที่เป็นคนหยุด แต่เป็นเพราะอาการบาดเจ็บอันรุนแรงของเขา
ศิษย์ฝ่ายมนุษย์เต็มไปด้วยความกังวลเขาหันไปเห็นเมิ่งเทียนถูกล้อมเอาไว้ด้วยตัวตนระดับเทพเจ้าถึงสามคน
แค่สาม?จะพองั้นรึ? แทนที่จะมองตัวตนเทพเจ้า ฟางเจิ้งจือกลับมองไปที่หยุนชิงวูที่ยืนห่างออกไป
……………………………………..