เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่52 เฉินเฉี่ยงพ่าย 2

ตอนที่52 เฉินเฉี่ยงพ่าย 2

” เมื่อกี้…เจ้าพูดว่ายังไงนะหลิงหลุน ” ไป๋หลงกล่าวถามขึั้นอีกครั้งด้วยใบหน้าที่สลับซับซ้อน

หลิงหลุนได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอธิบายให้ไป๋หลงได้รับรู้….

” เรียนนายท่าน คนผู้นั้น อดีตแม่ทัพสวรรค์ ฝีมือฉกาจไร้พ่าย…แต่ได้ข่าวมาว่า แม่ทัพผู้นั้นได้ละเมิดกฏของสวรรค์ทำให้ถูกลงโทษ…เรื่องหลังจากนั้นข้าก็ไม่แน่ใจ ท่านถามเขาเอาเองก็แล้วกัน… ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ทำสีหน้าครุ่นคิดบางอย่าง…

” นายท่านในเมื่อไม่มีอันตรายแล้ว ข้าขอตัวกลับเข้าไปในร่างของท่านตามเดิมก็แล้วกันยิ่งข้าอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานท่านก็จะเสียพลัง ที่ทำ ให้ข้าคงสภาพอยู่ไปเรื่อย มันจะส่งผลเสียต่อตัวท่านเอง.. ”

” อืม.. ”

หลิงหลุนกลายเป็นแสงสีขาวสว่างก่อนจะกลับเข้าไปสถิตอยู่ในร่างของไป๋หลงตามเดิม..

ทีนี้ก็เหลือแต่เด็กหนุ่มกับเฒ่าชราที่อยู่ในที่แห่งนี้..

” ก็ได้ข้าจะช่วยท่านแต่หลังจากข้าช่วยท่านแล้ว..โปรดตอบคำถามที่ข้าถามทุกข้อได้หรือไม่? ”

” ย่อมได้….แต่ว่าข้าบอกไว้ก่อนนะ หลังจากที่ท่านช่วยปลดผนึกข้าได้เบื้องบนจะรับรู้ได้ในทันที และรีบมุ่งหน้ามาที่นี่ เพราะฉะนั้นท่านต้องเข้ามาหลบหลังซอกหินด้านหลังของข้า…การที่ท่านต้องพบเจอผู้คนจากด้านบนยังไม่สมควรและอีกอย่างด่านยังอ่อนแอเกินไป!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็หาได้โกรธเคืองไม่เพียงนิ่งเงียบเท่านั้นก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ..จนเฒ่า

” ได้..ข้าจะทำตามที่ท่านบอกแล้วท่านจะทำยังไงกับพวกที่มาหาท่าน ”

ในจุดนี้นั้นไป๋หลงสงสัยเล็กน้อยจึงกล่าวถามออกมา..

” ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของอีกฝ่าย ” ชายชรากล่าวตอบ

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรต่อ..

” ข้าต้องทำยังไงถึงจะช่วยท่านได้ ”

” ไม่ยาก..หยดเลือดของเจ้าลงบนพื้นหลังจากนั้น..เจ้าก็รีบมาซ่อนตัวหลังสอกหินตรงนั้นทันที…เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพราด!! ปิดกั้นพลังของท่านให้มิดชิดด้วย..”

” ได้ ”

ไป๋หลงกล่าวจบก็นำมีดธรรมดาสีเงินออกมาจากแหวนมิติ..แล้วทำการกรีดลงไปบนฝ่ามือ เลือดสีทองบริสุทธิ์ก็หลั่งไหลออกมาสร้างความตกตะลึงเป็นอย่างมากให้กับไป๋หลง..ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเลือดสีแดงเข้มข้นผสมอยู่ในนั้นด้วย ..

เลือดผสม!!

ชายชรากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมแต่มิได้แสดงอาการตกตะลึงอะไรออกมา…ไป๋หลงได้ยินสิ่งที่เฒ่าชรากล่าวออกมาอย่างชัดเจน..

” ท่านรู้ เกี่ยวกับสายเลือดของข้าทำไมเลือดข้าถึงเป็นเช่นนี้ ”

ไป๋หลงกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย..

” เวลามีไม่มากออกจากที่นี้ให้ได้ก่อน..แล้วข้าจะอธิบายให้ท่านฟัง..ดูที่พื้นหยดเลือดของท่านกำลังแสดงผล.. ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มสังเกตุเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงผลึกสีฟ้าใสทั้งหมดเกิดรอยร้าว…ออกสีทองขนาดใหญ่เริ่มขยับอีกครั้งในรอบหนึ่งพันปี!!

ณ ที่ห่างไกลจากโลกมนุษย์ เป็นสถานที่ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์…

ทหารรูปร่างสูงใหญ่ใส่เกราะสีเงินมันวาวถือหอกสีม่วงกำลังเพ่งพินิจสิ่งที่เกิดขึ้นภายในลูกแก้ว…

” เจ้า5คนติดตามข้าไปยังโลกเบื้องล่างเดี๋ยวนี้ ลิ่วหลงกุน !! มันหลุดจากการจองจำแล้ว!! ”

ทหารทั้ง5นายที่ไ้ยินเช่นนั้นต่างก็สั่นสะท้านในทันที…

” มะ..ไม่มีทาง ลิ่วหลงกุน มันจะหลุดออกมาได้อย่างไร มันถูกผนึกเอาไว้กว่า1000ปี เหตุใดมันถึงหลุดออกมาได้ ”

เสียงของทหารนายหนึ่งที่รูปร่างสมส่วนใบหน้าคมคาย…

” ถึงมันหลุดออกมาได้ยังไงข้าไม่รู้แต่…หอกที่เสียบทะลุอกของมันนั้นไม่มีทางเอาออกได้คนเดียวที่เอาออกได้คือ ท่านมหาเทพเท่านั้น!! ทำให้มันใช้พลังไม่ได้ เรารีบใช้โอกาศนี้จัดการมัน..ขืนปล่อยไว้มันต้องเป็นเสี้ยนหนามของท่านผู้นั้น…ถ้าเราทำสำเร็จเผลอๆ เราอาจจะได้รับรางวัลก็ได้ใครจะไปรู้จริงไหม ฮ่าๆๆๆ!! ”

ทหารที่เหลือเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ต่างเกิดความโลภขึ้นมาในจิตใจทันที…ถึงแม้จะเป็นเทพก็ยังมีกิเลศในใจที่ไม่มีวันลบให้หายไปได้ถึงแม้จะเป็น มหาเทพ!! ที่ขึ้นชื่อว่า รู้แจ้งทุกอย่างบนโลกมนุษย์ก็ตามที…

” เอาละไปกันได้แล้ว!! ”

” ขอรับ ”

เทพทั้ง6ตนก็กางปีกสีขาวนวลออกมา1คู่ก่อนจะกระโดดลงจากท้องฟ้ามุ่งหน้าไปยังสถานที่ ที่ไป๋หลงอยู่ทันที..

กลับมาทางด้านไป๋หลง…

” เอาละท่าน พันธนาการทุกอย่างก็หลุดออกหมดแล้วเหลือก็แต่เพียงหอกสีทองที่ปักทะลุอกของท่าน จะให้ข้าทำยังไง… ข้าละสงสัยจิงๆ หอกเสียบทะลุอกเหตุใดท่านถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ ”

ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความใคร่รู้ ชายชราได้ยินเช่นนั้นเพียงแค่ยกยิ้มขึ้นเท่านั้น..

” หอกเล่มนี้นั้นมันเป็นของ มหาเทพองค์นึงที่อยู่บนสวรรค์ไม่สามารถเอามันออกได้หรอกเว้นก็แต่เพียงมีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันเท่านั้น…ถึงจะเอาหอกเล่มนี้ออกมาได้ ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวสิ่งหนึ่งออกมา..

” ให้ข้าลองเอามันออกได้หรือไม่? ”

ชายชราที่ได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที..

” ข้าขอเตือนไว้ดีกว่าถึงแม้ท่านจะเป็นว่าที่ จอมราชันย์!! แต่พลังของท่านยังตื่นไม่เต็มที่ ใครที่จับหอกเล่มนี้จะต้องมอดไหม้เป็นเธ้าธุลี..เพราะฉะนั้นอย่าดีกว่าถึงข้าจะมีหอกเล่มนี้สะกดพลังอยู่แต่ข้าก็มีฝีมืออยู่พอตัว ”

ไป๋หลงหันมามองพิจรณาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเอ่ยขึ้น…

” ข้าก็ไม่ได้อยากจะว่าท่านหรอกนะ แต่ร่างหนังหุ้มกระดูกเช่นท่านเกรงว่าเพียงลมพัดท่านก็สามารถปลิวไปได้เฉกเช่นใบไม้… ”

ชายชราที่ได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนมีเส้นเลือดผุดขึ้นมาทันที

” นี้เจ้า… ”

” ให้ข้าลองเถอะยังไงข้าก็มีเรื่องจำเป็นที่ต้องยืมพลังของท่านในภายภาคหน้า ”

ชายชราได้ยินเช่นนั้นก็คลายอารมณ์ลงก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงความคาดหวังเอาไว้..

” แล้วแต่ท่านก็แล้ว… ”

ไป๋หลงไม่รอช้านำมือขวามาแตะตรงปลายหอก ทำให้เลือดของไป๋หลงไหลออกมาทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดังสนั่นหวันไหวเกิดขึ้น..

ตึงงง!!

ไป๋หลงรู้สึกเหมือนมีเข็มนับแสนเล่มพุ่งเข้ามาที่มือขวาแต่น่าแปลกที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อยก่อนจะสังเกตุเห็นบางอย่างแล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น…

มันหลุดออกมาแล้วแล้ว!!

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท