เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่56 ศิษย์ต้องห้ามแห่งสถาบันเทพมาร 3 จบ

ตอนที่56 ศิษย์ต้องห้ามแห่งสถาบันเทพมาร 3 จบ

สถาบันเทพมารแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมากเทียบกับวังหลวงแต่กว้างและใหญ่โตกว่าถึง10เท่า….ทุกๆ1ปีนั้นจะมีการรับสมัครศิษย์ใหม่เข้ามา คนที่จะเข้าได้นั้นต้องเป็นพวกสัตว์ประหลาด!!ในหมู่รุ่นเยาว์เท่านั้น..การสอบเข้าของสถาบันเทพมารจะผิดแปลกไปจากสถาบันอื่นๆคือการที่จะสอบผ่านนั้นต้องสู้กับศิษย์สายนอกสายในและศิษย์หลัก….

ประเด็นที่ทำให้สถาบันเทพมารเป็นสถาบันอันดับ1มาร่วมนั้บพันปี!! เพราะสถาบันแห่งนี้นั้น เปิดรับสมัครทุกเผ่าพันธ์เข้ามา ไม่ว่าจะเป็น รุ่นเยาว์ของเผ่าเทพ มาร ปีศาจ และเผ่าพันธ์อื่นๆอีกมากมายไม่เว้นแม้แต่มนุษย์…

สถาบันแห่งนี้ถือเป็นกลางทางเผ่าพันธ์แต่พวกศิษย์นั้นกลับคิดต่างออกไป จนเกิดการแบ่งพรรคแบ่งเผ่าพันธ์ หรือ แม้กระทั่งแบ่งชายหญิงก็ตามเรื่องพวกนี้สถาบันไม่สามารถเข้ามาดูแลได้แต่ถ้าทุกขั้นสูญเสียชีวิตเมื่อไหร่สถาบันจะเคลื่อนไหวอย่างแน่นอนและให้ผู้อาวุโสในสาขาต่างๆ จับตาดูอย่างใกล้ชิด…

” นี้ข้าได้ยินมาว่า ศิษย์ของผู้อาวุโสหยวน อาละวาดทำร้าย เผ่าเทพอีกแล้วเหรอ ” เสียงที่เต็มไปด้วยความซุกซนกล่าวขึ้น

” ใช่แล้วแต่ที่ข้าได้ยินมาคนจากเผ่าเทพเป็นฝ่ายไปยั่วยุและท้าทาย..ก่อนจะเละกลับมาและเกือบจะสูญเสียปีกที่เป็นความภาคภูมิใจของเผ่าเทพไปถ้าไม่ได้ผู้อาวุโสหยวนมาช่วยได้ทันเวลา… ” เสียงของชายหนุ่มที่มีหูที่ยาวเส้นผมสีเนื้อดวงตาสีฟ้าอ่อน กล่าวขึ้น

” อยู่ไม่รู้จักเจียมตัวดันไปหาเรื่อง ศิษย์ต้องห้ามแห่งสถาบันแห่งนี้ ดวงซวยแท้ๆ..หรือจะว่าโง่ดี คนจากเผ่าเทพเป็นแบบนี้กันหมดเลยเหรอ ฮ่าๆๆๆ!! ” เสียงหัวเราะของหญิงสาวเส้นผมสีน้ำตาลยาวดวงตาสีน้ำเงินเข้มใบหน้าที่ได้รูป ผิวขาวเนียนราวกับหยกชั้นดี ภูเขาทั้งสองข้างที่อวบอิ่มชายใดที่ได้มองแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่….

” ชู้ววว!!…อย่าพูดดังไปเดี๋ยวมีคนมาได้ยินเราจะซวยเอา ” เสียงของชายหนุ่มกล่าวห้ามเพื่อนสาวของตน..

” เจ้าเนี้ยขี้กลัวจริงๆ..เอาเถอะเจ้าคิดว่าปีนี้จะมีคนสอบผ่านทั้งหมดกี่คนกัน เมื่อปีที่แล้วสมัครเกือบหมื่น แต่ผ่านเข้ามาได้เพียง 30 กว่าคนเท่านั้น ปีนี้เจ้าคิดว่ายังไง หวงฮุ้ย ”

” อาจะ10มั้งมากหน่อยก็20 คน ”

” ฮัวหง เจ้าพนันกับข้าไหมละว่าปีนี้จะมีคนโดนศิษย์สายหลักอย่างพวกเราส่งกลับบ้านไปกินน้ำข้าวต้มกี่คน…. ” เสียงของ หวงฮุ้ย กล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น…

” นั้นมันก็แล้วแต่อารมณ์ของข้านิ…ยังไงๆข้าก็ไม่สังหารพวกคนที่เข้ามาสอบอยู่แล้วอีกอย่างถ้าพวกนั้นบังเอิญมาเป็นคู่ต่อสู้กับข้าละก็นะ ฮ่าๆๆๆ ”

หวงฮุ้ยเอามือมากุมขมับตัวเองพลางส่ายหน้าให้กับการพูดและแสดงออกของฮังหง…

” เฮ้อ…น้ำเสียงและการกระทำของเจ้าชั่งไม่เข้ากับหน้าตาเอาสะเลยจิงๆ.. ”

” ก็ข้าสวยจิงๆนิใช่ไหม…จงจำไว้นะหวงฮุ้ยเพื่อนข้า…คนสวยทำอะไรก็ไม่ผิด ฮ่าๆๆ ” ฮัวหงหัวเราะจบก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนหลังคาแถงนั้น…

” ไว้เจอกันคาบวิชาอักขระข้ากลับก่อนละเดี๋ยวท่านอาจารย์จะบ่นข้าอีก.. ” ฮัวหงกล่าวบอกแก่หวงฮุ้ยที่เป็นสหายของตนด้วยน้ำเสียงติดตลก..

” ตามนั้นก็แล้วกัน..ข้าก็ขอตัวกลับเหมือนกันเช่นนั้นก็แยกย้ายกลับกันเลยก็แล้วกัน ”

หวงฮุ้ยและฮัวหงก็ต่างกลับที่พักของตน…

ภายในห้องพักแห่งหนึ่งที่ห้อมล้อมไปด้วยความมืดมีเพียงแสงไฟจากเปลวเทียนเท่านั้นที่ยังส่องสว่างอยู่ท่ามกลางความมืดมิด…แต่ในความมืดมิดนั้นมีร่างของหญิงสาวเส้นผมดำมันวาวดวงตาสีแดงทับทิม เนื้อตัวขาวและเนียนดั่งหยกถึงแม้จะใส่ชุดศิษย์หลักของสถาบันแห่งนี้ที่ปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งเป็นอย่างดีแต่ก็มิอาจบดบังความงามของนางได้แต่ตอนนี้นางนั้น…กำลังนั่งกอดเขาอยู่และฟังอาจารย์ของตนนั้นเทศนาจนหูชาไปข้าง….

” ข้าบอกเจ้าแล้วใช่ไหมหลินหลินว่าหัดควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองไว้สะบ้าง..ครั้งนี้ถ้าข้ามาไม่ทันรู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้น…ยิ่งเจ้าที่เป็นเผ่ามารพวกเผ่าเทพมันคงไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่สบายเป็นแน่แท้… ” ผู้อาวุโสหยวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิ…

” ข้ารู้น่าาาา…ท่านอาจารย์ท่านไม่ต้องพูดเรื่องนี้หรอก..ลองมาดูซิข้าจะจับพวกเผ่าเทพนั้นมาเด็ดปีกเล่นเอาสะเลย… ”

โป้กก!!

” อาจารย์ท่านทำแบบนี้กับข้าได้ยังไงท่านตีหัวผู้หญิงแบบข้าได้เช่นไร…โอ้ยเจ็บๆหัวข้า ”

หลินร้องออกมาพร้อมกับเอามือกุมหัวตัวเองเป็นท่าทางที่น่ารักเป็นอย่างมากที่ตอนอยู่ข้างนอกจะดุดันและน่าเกรงขามราวกับบุรุษ…

” ทำไมข้าจะทำไม่ได้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า..หน่อยเจ้าเด็กอวดดีไม่เจอกันแปปเดียวเจ้ากล้าขึ้นเยอะเลยนะให้ข้าช่วยเจ้าดัดนิสัยให้สมเป็นอิสตรีให้ดู ”

ผู้อาวุโสหยวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หยอกล้อและเอ็นดู…

” ใจเย็นลงก่อนท่านอาจารย์!!.. ” หลินหลินพยามกล่าวออกมาเพื่อลดโทสะของอาจารย์ตน

” ยังไงเจ้าก็อย่าลืมสถาบันแห่งนี้นั้นถึงแม้จะเป็นกลางแต่ก็ยังมีการแบ่งฝ่ายกันอย่างลับๆเจ้าที่อยู่สันโดษ…แถมฉายาศิษย์ต้องห้ามแห่งสถาบันแห่งนี้อีก เจ้าจะโดนเพ่งเล็งได้ง่ายถึงแม้จะมีข้าอยู่ก็ตามที….เอาละเจ้าบอกข้าได้หรือไม่เหตุใดเจ้าถึงเล่นงานเจ้าเด็กเผ่าเทพนั้นจนเละแถมเกือบจะตัดปีก!! ของมันออก… ”

หลินหลินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทำสีหน้าลำบากใจทันทีราวกับไม่อยากอธิบายถึงเหตุผลที่กระทำลงไป… มีหรืออาจารย์จะมองความผิดปกติของศิษย์ของตัวเองไม่ออก…

” เฮ้อ..ท่าเจ้าลำบากที่จะกล่าวมันออกมาเจ้าก็ไม่ต้องพูดข้าไม่ได้บังคับเจ้าให้พูดสักหน่อย..ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็อยู่นิ่งๆไปสักระยะข้าขอตัวไปรายงายเรื่องที่เกิดขึ้นกับรองผอ.ก่อน”

ไป๋หยวนกล่าวจบกำลังจะเดินออกจากห้องไปหลินหลินก็เอ่ยขึ้นมาทันที…

” ข้าอจจะไม่สามารถเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่…ความฝันเมื่อคืนข้าสามารถเล่ให้ท่านฟังได้ ”

ผู้อาวุโสหยวนได้ยินเช่นนั้นก็หันกลับมาทางศิษย์ของตนเองทันที…เพราะเผ่ามารนั้นการฝันนั้นถือเป็นนิมิตการบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ถึงจะไม่แน่ชัดก็ตามที…

” ว่ามาสิเจ้าฝันว่าอะไรหรือ.. ”

” ข้าฝันว่า…จะมีเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งราชันย์!! และปีกแห่งการสืบทอดที่เผ่ามารนั้นเคยมีไว้ในครอบครองของเทพมารแต่ละรุ่นแต่เท่าที่ข้าได้รู้มาเทพมารคนปัจจุบันไร้ซึ่งปีกแห่งการสืบทอด ”

ผู้อาวุโสหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง..

” เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ!! ”

จบ…..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท