เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่132 เทพแห่งความตายและพญายม

ตอนที่132 เทพแห่งความตายและพญายม

อาจจะเป็นภาพช่วงสั้นๆเพียงเสี้ยววินาทีแต่ทำให้ไป๋หลงเห็นเหตุการณ์ในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น!!!

” นี้มัน!!! ”

ไป๋หลงผงะถอยหลังโดยไม่รู้ตัวราวกับวิตกกังวลและใบหน้าที่ขาวซีด..

” เมื่อครู่มันอะไรกัน..ภาพนั้นมันถ้า..มันเกิดขึ้นจริงโลกต้องพบกับจุดจบเป็นแน่!! ”

ไป๋หลงสถบขึ้นก่อนจะเรียบเรียงความคิดใหม่อีกรอบ..

” อย่างแรกเลยความแข็งแกร่งของเรายังมีไม่มากพอ..เห็นทางเดียวคงเป็น ณ ที่แห่งนั้น ”

ระหว่างกำลังเดินไปตรงประตูนั่นเองไป๋หลงจึงเอ่ยถามเบลขึ้น..

” ท่านเบล..ข้ามีอะไรอยากจะถามท่านหน่อยเกี่ยวกับเรื่อง หอคอยมรณะ ในโลกมาร!! ”

เบลได้ยินเช่นนั้นก็แปลกใจเล็กน้อยที่มารชั้นสูงอย่างไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นอย่างสุภาพ..ทั้งๆที่จะบังคับก็ได้แท้ๆ

” ถ้าเป็นเรื่องนี้ข้าพอจะทราบข้อมูลมาบางส่วน..ส่วนที่ตั้งก็อยู่บริเวณใจกลางของเมืองหลวงของโลกมาร..แต่กลับไม่มีใครคิดจะเข้าไปแม้แต่น้อย.. แม้แต่เหล่าราชวงศ์มารเองก็ไม่เข้าไปใกล้หอคอยเป็นเวลาหลายปีแล้ว…ทุกครั้งที่มีใครเข้าไป จะไม่มีใครได้กลับออกมาแม้แต่น้อย!! และอีกอย่างนึงหอคอยมรณะนั้น ถูกปิดผนึกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างขึ้น..

” อะไรนะ!! เหตุใดถึงต้องทำเช่นนั้น ”

ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นด้วยความร้อนรนเพราะหอคอยมรณะอาจจะมีเบาะแสบางอย่าง…

” ถึงข้าจะบอกแบบนั้นไปแต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว..เพราะหลังจากที่ราชวงศ์เผ่ามารรุ่นก่อนๆเข้าไป แล้วไม่ได้กลับออกมา เทพมารคนก่อนจึงสั่งปิดผนึกหอคอยรวมทั้ง..ฝากกุญแจในการเปิดหอคอยไว้กับ พญายมในแดน นรก และ เทพอีกตน ถ้าข้าจำไม่ผิดน่าจะมีชื่อว่า..ฮาเดส!!

ไป๋หลงใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที..

” บัดซบ!! กุญแจก็ยังฝากแยกกันอีกเทพมารองค์ก่อนกลัวอะไรกันแน่..ทีนี้ก็มาลำบากข้าอีกที่ต้องไปเก็บรวบรวม ”

ไป๋หลงกล่าวสถบขึ้นก่อนจะฉายแววตาเป็นประกายออกมาอีกครั้งอารมณ์ของไป๋หลงในยามนี้ราวกับคลื่นทะเลที่ขึ้นๆลงๆราวกับคนเสียสติ…

” ละ..แล้วท่านรู้ไหมว่า ใครเป็นคนสร้างหอคอยนั่นขึ้นมา!! ”

เบลเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยตอบทันทีราวกับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ…

” เทพมารคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์…แต่ไปพบรักกับเผ่าเทพที่เป็นฝ่ายตรงข้ามและคนละเผ่าพันธุ์กันจนถูกสภาโลกมารถอดถอนจากตำแหน่งเทพมาร…หลังจากนั้นเพื่อไปหาคนรักที่อยู่บนสรวงสวรรค์ก็ระเบิดพลังโทสะเป่า สภาโลกมารให้หายไป!! ก่อนทั้งคู่จะถูกปิดผนึกทั้งคู่เพราะละเมิดข้อห้ามร้ายแรง และยังคงมีการประนามเทพมารรุ่นแรกนั้นอย่างต่อเนื่องจนถึงบัจจุบัน!!…เทพมารที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์โลกมาร เทพมารอัลบาร์!!! ”

ไป๋หลงแสดงสีหน้าที่ยากจะอธิบายออกมาก่อนจะหยาดน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา..

” ท่านพ่อ!! ”

………………………………………………..

ณ แดนนรก

สตรีนางหนึ่งเส้นผมสีดำยาวดวงตาสีม่วง ริมฝีปากสีดำ อ่อน ใต้ตาขล้ำเล็กน้อยแต่ก็ยังมิอาจบดบังความงดงามของนางได้!!

และยังมีสตรีอีกนางหนึ่งที่ผิวกายขาวดุจหยกดวงตาสีแดงโลกันต์ เขาทั้งสองข้างที่เด่นเป็นสง่าพร้อมกับระดับพลังที่ไม่อาจจะบรรยายได้ กำลังจ้องเขม็ง สตรีผมสีดำ…

” ลมอะไรหอบเจ้ามาถึงที่นี้ละ ฮาเดส!! ”

สตรีผมสีดำเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเยาะออกมา…

” หึ..ข้าก็แค่มาดูให้แน่ใจว่าเจ้าไม่ได้หนีออกไปเที่ยวเล่น ณ โลกเบื้องบน แต่ดูเหมือนว่า ข้าจะมาขัดอะไรเจ้ารึเปล่า…แต่เอาเถอะข้าแค่จะมาเตือนว่าอย่าขึ้นไปโลกเบื้องบนเพราะเจ้าและข้าต่างก็มีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ!! ”

ฮาเดสกล่าวพลางมองไปรอบๆ…

” ดูเหมือนว่าพวกสัตว์นรกเตรียมจะใช้โอกาสนี้หนีออกไปข้างนอก ข้าจึงไม่เห็นพวกมันตอนเดินเข้ามา และ ผู้คุมนรกยังเดินกันตรวจตราตามเขตแดนของนรก….รับผิดชอบหน้าที่ตรงนี้ให้ดี!! ”

พญายมสาวเนั้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับออกมา…

” ข้าจะขึ้นไปโลกเบื้องบนแล้วมันจะทำไม!! ข้างล่างนี้ร้อนก็ร้อน มองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงข้าเบื่อ..ข้าจะออกไปข้างนอกไม่ว่ายังไงก็ตาม!! ”

ฮาเดชเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา..

” แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะให้เจ้าขึ้นไปข้างบนเหรอ…ข้าเห็นว่ามีกระเป๋าใบใหญ่ซ่อนไว้หลังบัลลังค์ของเจ้า!! ”

พญายมสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็สถบออกมาในทันที..

” โถ่เอ้ยย!! แล้วใครมันเป็นผู้ขีดเขียนกฏในนรกกัน..ว่าห้ามเหล่ายมบาลและรวมถึงพญายมห้ามใช้แหวนมิติ ถ้าไม่มีกฏบ้าบอนั้นข้าก็ไม่ต้องขนสัมภาระมากมายขนาดนี้… ”

ฮาเดชยิ้มเยาะออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น..

” แล้วเจ้าคิดว่า..เจ้าจะได้ออกไปเหรอ!! อีกอย่างผู้ที่ขีดเขียนกฏนั้นก็คือ โซโลม่อน!! ผู้ที่มอบหมายงานให้เจ้าและข้าไว้ก่อนจะหายตัวไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน!!! ”

พญายมสาวเส้นเลือดผุดขึ้นมาออร่าพลังระเบิดออกมาดวงวิญญาณนับล้านดวงบริเวณนั้นแตกดับในทันที!!..ถึงแม้จะฟื้นคืนได้แต่ก็ต้องใช้เวลา…

ฮาเดชเห็นเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมาก่อนที่ทั้งสองคนจะปลดปล่อยพลังระดับผู้ปกครองแดนนรกออกมา!!

ตู้มมมม!!

แดนนรกสั่นสะเทือนราวกับจะแตกดับสัตว์นรกพากันแตกตื่น ผู้คุมดวงวิญญาณทั้งหมดต่างแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา…

” เอาอีกแล้ว ท่านฮาเดช กับ ท่านพญายม แดนนรกเห็นทีจะล่มสลายเพราะท่านทั้งสองคนนี้แหละ!! ”

ผู้คุมดวงวิญญาณเอ่ยขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมา….

………………………………………………………..

ณ ปากทางเข้าหอคอยเทพสถิต..

เวลานี้กองทัพหุ่นอักขระ..รวมถึงผู้อาวุโสนับร้อยคนต่างประจัญหน้ากับมารตนหนึ่งรูปร่างสมส่วนเส้นผมสีขาวยาวดวงตาสีแดง กำลังยืนเด่นอยู่หน้าประตูพร้อมกับปลดปล่อยระดับพลังที่สูงล้ำออกมาพร้อมกับ ร่างของไป๋หลงที่หมดสติอยู่!!!

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท