ณ ปากทางเข้าหอคอยเทพสถิต..
เวลานี้กองทัพหุ่นอักขระ..รวมถึงผู้อาวุโสนับร้อยคนต่างประจัญหน้ากับมารตนหนึ่งรูปร่างสมส่วนเส้นผมสีขาวยาวดวงตาสีแดง กำลังยืนเด่นอยู่หน้าประตูพร้อมกับปลดปล่อยระดับพลังที่สูงล้ำออกมาพร้อมกับ ร่างของไป๋หลงที่หมดสติอยู่!!!
” ส่งตัวศิษย์คนนั้นมาให้เราเดี๋ยวนี้!! ” หนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยขึ้นพลางเตรียมพร้อมรับมือสั่งให้หุ่นอักขระ ปิดล้อมบริเวณนั้นทั้งหมด…
ซึ้งระดับพลังของหุ่นอักขระแต่ละตัวนั้น..จะขึ้นอยู่กับแร่ที่ใช้ในการสร้างซึ้ง ระดับของหุ่นอักขระรูปร่างคล้ายมนุษย์ มีระดับพลังอยู่ที่ราชันย์นักรบ…
” ได้แต่ข้าจะใช้มันเป็นตัวประกันก่อนที่จะออกจากสถาบันได้..หากพวกเจ้าตุกติก มันได้ตายคามือของข้าแน่!! ” มารผมขาวกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ภายในใจกลับกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูกเพราะตัวมันสัมผัสได้ถึง..
บางสิ่งที่มีพลังเหนือกว่าตัวเองเป็นร้อยเท่ากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้…
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้…
” อะไรนะท่านจะให้ข้าใช้ท่านเป็นตัวประกันหลังจากออกไปจากหอคอย..แบบนั้นมัน ”
มารผมขาวตกตะลึงกับแผนการสุดระห่ำของไป๋หลง..
” เบลท่านอย่าลืมว่าข้าได้ความทรงจำช่วงนั้นกลับมาแล้ว..ได้โปรดทำตามที่ข้าบอก.หากเมื่อตอนนั้นท่านคิดจะสังหารกองกำลังของข้าแล้ว..ท่านก็คงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้!! ”
ไป๋หลงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น..มารผมขาวได้ยินเช่นนั้นก็ทรุดเข่าลง..ใบหน้าขาวซีดเมื่อมันนึกถึงตอนนั้นตัวมันก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว งูยักษ์สีดำ กับ สัญลักษณ์แปลก…
” ขะ..ข้าเข้าใจแล้ว ”
ไป๋หลงยังกล่าวกำชับต่อ…
” อีกเรื่อง…อย่าลืมว่าต้องรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ให้กับชวี่เอ๋อฟังว่าอย่างไร? ”
มารผมขาวได้ยินก็รีบกล่าวตอบออกมาในทันที..
” ไป๋หลงหลบหนีไปได้ ด้วยกระบวนท่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งยังสังหาร ราเวน ด้วยพลังที่แสดงออกมาอย่างมากล้นทำให้ ข้าไม่อาจติดตามตัวไปได้ ”
ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง..
” ดี..เอาละออกไปกันได้แล้ว ”
มารผมขาวและไป๋หลงก้าวข้ามประตูไปพร้อมกัน…
…………………………………………………….
ณ ปัจจุบัน…
หลังจากศิษย์และอาจารย์บริเวณนั้นเห็นการปรากฏตัวขึ้นโดยฉับพลันอีกทั้งร่างของศิษย์ภายในสถาบันยังหมดสติอยู่…ผู้อาวุโสบริเวณนั้นจึงรีบไปแจ้งต่อหน่วยรักษาความปลอดภัยในทันที…
สถานการณ์ปัจจุบัน หุ่นอักขระ จำนวนกว่า200ตัวถูกนำมาปิดทางหนีออกจนหมด..ตามจริงแล้วด้วยพลังของมารผมขาวการจะทำลายหุ่นอักขระนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่เป็นม่านพลังที่คุ้มกันสถาบันแห่งนี้….
” เจ้าไม่รู้หรืออย่างไร ว่าสถาบันเทพมารแห่งนี้เป็นกลางห้ามใช้พลังต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นโดยเด็ดขาด!! ”
ผู้อาวุโสชุดสีน้ำเงินเอ่ยขึ้น..มารผมขาวเพียงยิ้มเยาะออกมา..
” แล้วคิดว่าข้าเป็นศิษย์ของสถาบันนี้หรืออย่างไร..ถอยไป!! ”
ตึง!!
เบลปลดปล่อยพลังออกมาหมายจะข่มขู่..ผู้อาวุโสต่างถอยไปกันคนละก้าวโดยไม่รู้ตัว..หุ่นอักขระเกิดรอยร้าว!! เพียงแค่โดนพลังสะกดข่มเท่านั่น…แสดงให้เห็นถึงความต่างของพลังอย่างชัดเจน!!
เวลานี้เหล่าผู้อาวุโสระดับสูงและระดับผู้อำนวยการต่างอยู่ในห้องประชุมพิเศษเพื่อหาลือเรื่องคืนจันทราทมิฬ..จนเหลือเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับล่างเท่านั้น..
” ก็ได้พวกเราถอย!! ” ผู้อาวุโสที่ดูท่าทางจะเป็นผู้นำกล่าวขึ้น..
” ตะ..แต่ว่า ”
” ไม่มีแต่ชีวิตของของเด็กคนนั้นสำคัญที่สุด!! ”
แต่แล้วอยู่ๆตัวแปรสำคัญที่ไม่คาดคิดไป๋หลงที่แกล้งสลบอยู่ลืมตาโพลงขึ้นในทันที..
” ปะ..ป๋า!!! ”
ไป๋หลงใบหน้าขาวซีดในทันทีก่อนจะหันมามองหน้า เบล ที่แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวออกมายิ่งกว่าไป๋หลงเสียอีก…
” นี้มันอะไรกัน!! ตัวตนระดับนี้มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงเป็นไปไม่ได้!! ”
เว่ยเว่ยเมื่อเห็นไป๋หลงในสภาพนั้นก็บัลดาลเพลิงโทสะออกมา..
ตึง!!
เว่ยเว่ยพุ่งเข้าไปยังตำแหน่งของไป๋หลงในทันทีโดยที่เบล ไม่อาจตามความเร็วของ เว่ยเว่ยได้ทัน ก่อนจะฉีกกระชากแขนของเบลที่กำลังแสดงการจับกุมไป๋หลงเอาไว้จนขาดกระเด็น!!
” บัดซบ!! แบบนี้ไม่ดีแน่!! ” เบล สถบออกมาก่อนจะทำการกลับคืนร่างมาร รูปลักษณ์ มีปีกสำดำทมิฬสองคู่ ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยเกร็ดสีขาว ลำตัวค่อยๆเหยียดยาว ก่อนจะกลับคืนร่างที่แท้จริง…
มังกรขาว!!
” อย่าคิดว่าจะหนี!! ”
เว่ยเว่ยกำลังจะดีดตัวขึ้นไปแต่โดนไป๋หลงจับแขนเอาไว้..
” อย่า..เดี๋ยวปะป๋า จะอธิบายทีหลังเรากลับกันได้แล้ว…อ้อแล้วก็ไปเที่ยวกันตามที่ปะ ป๋า เคย ให้สัญญาไว้ ”
เว่ยเว่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ดวงตาสีแดงทับทิมเบิกกว้างก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงใสแจ้ว..
” เย้ๆ ไปกันๆ เว่ยเว่ยอยากกินขนม ”
ไป๋หลงกล่าวจบก็เดินจูงเเขนเว่ยเว่ย ออกไปราวกับพ่อลูกอ่อน..
ทิ้งให้เหล่าผู้อาวุโสนับร้อยต่างงุนงง กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น..
” พวกเจ้าไปตามจับมันมาให้ได้..จับเป็นไม่ได้..ก็จับตาย!! ”
” ขอรับ!! ”
ผู้อาวุโสอีกคนมองแผ่นหลังของไป๋หลงก่อนจะถอนหายใจออกมา..
” นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!! ”
………………………………………………….
ณ โลกเบื้องล่าง
บัลลังก์โลกันต์พังทลายลง สองสตรีจดจ้องกันด้วยแววตาที่เฉียบคม..ซึ้งแน่นอนว่าต่อให้สู้แลกชีวิตกันจริงๆก็ไม่มีใครสังหารใครได้เพราะ แดนนรกหรือ ที่ผู้ปกครองแดนนรกจะได้รับความสามารถคือ ความเป็นอัมตะ แต่ถ้าออกนอกแดนนรกความสามารถนี้จะไม่มีผลในทันที..
” เป็นไงยังจะสู้กันต่อรึป่าว? ”
ฮาเดสกล่าวพลางเสยผมสีดำพลางยกยิ้ม…
” พอแล้วใครจะสู้กับตัวบ้าพลังอย่างเจ้ากัน!!..บัลลังก์ข้าชดใช้มาเดี๋ยวนี้ ”
พญายมสาวน้ำตาคลอเบ้าเพราะบัลลังก์สุดหวงตอนนี้ถูกทำลายจนย่อยยับจากเศษเสี้ยวพลัง..ที่ถูกปลดปล่อยออกมา…
” เอาเถอะๆ ที่ข้ามาที่นี้ตามความจริงข้ามาเพื่อบอกเรื่องเกี่ยวกับโซโลม่อน..ที่ยัดเยียดให้พวกเราสองคนทำหน้าที่ปกครองในแดนนรก!! ”
พญายมสาวเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่มีความจริงจังขึ้นของฮาเดส..จึงตั้งใจรับฟังในทันที..
” ทำไม..เจ้าบ้านั่นมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกข้าอีก? ”
ฮาเดชเมื้อได้ยินเช่นนั้นก็เดินไปนั่งใกล้กับพญายมสาว..
” โซโลม่อนฝากมาบอกว่า..แต่ก็นะเป็นคำขอเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนก็นานเอาการอยู่…ซึ้งสาเหตุที่ข้าไม่อยากให้เจ้าขึ้นไปข้างบนในตอนนี้ไม่ใช่เพราะหน้าที่…แต่รอบางอย่าง!! ”
พญายมสาวได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแนบแน่น..
” หมายความว่ายังไง? ”
ฮาเดชเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอธิบายต่อในทันที…
” จะมีใครบางคนเข้ามาในแดนนรกแห่งนี้เพื่อมาขอกุญแจจากพวกเราสองคน..ซ้ำยังระบุด้วยว่าเป็นเด็กหนุ่มสายเลือดผสม!! ซึ้งกุญแจที่เจ้ากับข้ามีกันคนละ1 ดอก ซึ้งน่าจะหมายถึงกุญแจที่ใช้ปลดผนึกหอคอยบางแห่งในโลกเบื้องบน..เมื่อครั้งที่เทพมารคนก่อนเดินทางมาในนรกด้วยตนเอง เพื่อฝากกุญแจไว้กับพวกเรา!! ”
พญายมสาวได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแนบแน่นก่อนจะเบิกตากว้าง..
” อะไรนะ!!…นั่นมันไม่เท่ากับเอาชีวิตมาทิ้งรึยังไงข้าบอกได้เลยหากดวงวิญญาณ ที่นี้เห็นกายเนื้อของเด็กหนุ่มนั่นเมื่อไหร่ พวกมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อได้ร่างนั้นมา..แม้แต่เทพมารคนก่อนที่เดินทางมาถึงสภาพก็ดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!! อีกอย่าง โซโลม่อนรู้ได้อย่างไรกัน? ”
ฮาเดชยืนขึ้นก่อนจะสร้างภาพมายาขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า..
” ที่เจ้าเห็นอยู่ก็คือ สมบัติของโซโลม่อน ที่เจ้านั่นได้บอกข้ามา..ซึ้งมีของสามสิ่งเท่านั้นที่เกิดขึ้นจากพลังของตัวโซโลม่อน หนึ่ง ดวงตาแห่งโซโลม่อน สอง ปัญญาแห่งโซโลม่อน และสามกุญแจแห่งโซโลม่อน!!! ”
ฮาเดสสร้างภาพมายาต่อไปพร้อมกับเล่าเรื่องก่อนจะสร้างภาพมายาบางอย่างขึ้น..
” เจ้าก็รู้ว่า โซโลม่อนเป็นตัวตนก้ำกึ่งระหว่างเทพและปีศาจ..เวลาโซโลม่อนมาเจอพวกเราก็จะแปรเปลี่ยนไปตามรูปลักษณ์ที่อยากจะเป็น และภาพนี้คือ ตัวจริงของโซโลม่อน!! ”
พญายมสาวเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ดวงตาเบิกกว้างก่อนจะยืนขึ้นในทันที..
” นะ..นี้มัน!! ”
จบ…