“ ข้าคือจักรพรรดิ์ เทียร์โอ ที่ 12 เป็นจักรพรรดิ์ผู้ปกครองอาณาจักรที่ล่มสลายแห่งนี้…ถึงตัวข้าจะตายไปนานแล้วก็เถอะ..พูดง่ายๆก็คือ ผี… ”
“…….. ”
สิ่งอู้เฉียงหวาดกลัวที่สุดหาใช่ปีศาจแต่คือ ผี ใช่ เด็กหนุ่มผู้นี้กลัวผีเสียยิ่งกว่าเผ่าอสูรหรือแม้กระทั่งปีศาจ…เพราะผีไม่อาจที่จะใช้เคล็ดวิชาใดๆในการต่อกรได้ และยังไร้รูปร่าง..
อู้เฉียงสติหลุดไปชั่วขณะก่อนจะพยามเดินไปข้างหลังเมดูซ่าแต่นางนั้นได้ใช้ม่านพลังกั้นอู้เฉียงไม่ให้เดินเข้ามาใกล้…
“ อย่าเข้ามา…ข้าบอกเจ้าแล้วไง อย่านำสิ่งนั้นมาใกล้ข้า เจ้าจะกลัวอะไรก็แค่ดวงจิตวิญญาณที่เหลืออยู่…แต่การที่จะทำแบบนั้นได้แสดงว่า ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เจ้าก็คงแข็งแกร่งสุดๆไปเลยสินะ…”
“ อะไรกันๆเจ้าก็กล่าวเกินไป ข้าก็แค่เกือบที่จะลวงเข้าชนชั้นเทพสงครามก็แค่นั้นเอง…เทียบกับเจ้าที่เป็นเทพที่แท้จริงแล้ว ก็คนละเรื่องกันเลย.. แน่จะว่าไปเจ้ากับเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นคู่รักกันอย่างงั้นเหรอ.. ”
จักรพรรดิ์ เทียร์โอ กล่าวขึ้นพลางแหวกว่ายลอยอยู่ในอากาศได้อย่างอิสระในร่างวิญญาณและยังสามารถทะลุม่านพลังของเมดูซ่าไปแหวกว่ายใกล้ๆนางได้เช่นกัน…ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดกันอยู่
“ เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว การที่เจ้าออกมาแสดงตนแบบนี้ก็เพราะว่าเป้าหมายของเจ้าบรรลุแล้วใช่หรือไม่? ”
“ ย่อมเป็นเช่นนั้น..ในเมื่อข้าเจอกับผู้ที่สมควรได้รับการครอบครองไข่มุกสุริยเทพแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่ข้าจะต้องทำอีกต่อไป..ข้าจะได้ตามจักรพรรดินีของข้าไปเสียที… ”
คำพูดของจักรพรรดิ์เทียร์โอ แฝงไว้ด้วยความเศร้าสร้อยภายในคำพูด…เมดูซ่าที่ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวถามจักรพรรดิ์ผู้นั้นอีกหนึ่งคำถาม…
“ แล้วเจ้ามั่นใจได้ยังไงว่า คนที่ครอบครองไข่มุกสุริยะเทพนั้นจะไม่ใช่คนไม่ดี… ”
“ ข้าอยู่มานานเกินพอแล้ว และเกินกว่าที่จะอยู่ต่อตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่พวกเจ้าเป็นคนแรกที่ลงมาสมัยก่อนก็มีผู้ทีาพยามตามหาสมบัติล้ำค่าเช่นกัน..และสุดท้ายก็จบลงที่… ”
จักรพรรดิ์เทียร์โอ ผายมือไปยังกองโครงกระดูกที่สูงเป็นภูเขา…อู้เฉียงที่ได้เห็นก็รู้สึกเสียวสันหลังในทันที…
“ ข้ามองคนออกนะ มองเห็นแม้กระทั่งดวงวิญญาณ…โดยพื้นฐานของเจ้าแล้วก็ไม่ใช่คนนิสัยไม่ดี ถึงแม้ภายนอกจะทำให้เห็นเป็นเช่นนั้นก็เถอะนะ.. ”
เมดูซ่าที่ได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าบึ้งตึงออกมา…
“ ส่วนเจ้าหนุ่มข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนไม่ดีตามสัญญชาติญาณของข้า ส่วนจิตวิญญาณของเจ้า…นี่มัน!!! ”
จักรพรรดิ์เทียร์โอเบิกตากว้างชั่วขณะ เพราะสิ่งที่จักรพรรดิ์ผู้นั้นเห็นก็ถือ ดวงจิตวิญญาณ ที่คล้ายกับเปลวแห่งชีวิต ถูกโซ่สีดำพัฒนาการเอาไว้…
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า….
“ นี่เจ้ายกดวงจิตวิญญาณให้กับผู้อื่นไปแล้วอย่างงั้นเหรอ…”
อู้เฉียงเพียงยิ้มตอบรับสั้นๆเท่านั้น สร้างความตกตะลึงให้กับจักรพรรดิ์เทียร์โอเป็นอย่างมาก…แม้แต่เมดูซ่าที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะเหลียวหลังมามองเด็กหนุ่มที่ยิ้มออกมา..ราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดจากการเสแสร้งแม้แต่น้อย แต่เป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากการก้นบึ้งของจิตใจ…
“ เจ้าหนุ่ม อาจจะเป็นการเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ว่าข้าขอดูความทรงจำของเจ้าได้หรือไม่… ”
“ ไม่มีปัญหาขอรับ..”
เทียร์โอแตะไปมี่หน้าผากของอู้เฉียงความทรงจำมากมายค่อยๆไหลผ่านไปคล้ายกับการดูเทปหนัง ช่วงตลอดระยะเวลาของอู้เฉียงจนกระทั่ง…ความทรงจำที่ได้ทำข้อตกลงกับเซฟีร่าก็มาถึง..
สิ่งที่จักรพรรดิ์เทียร์โอได้รับรู้จากความทรงจำของอู้เฉียงนั้น…เรียกได้ว่ายิ่งสร้างความตกตะลึงให้กับจักรพรรดิ์ผู้นี้เข้าไปอีก…
“ บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของเจ้าก็เป็นได้…การเสียสละของเจ้าช่างใหญ่หลวงนะ ข้าจักรพรรดิ์เทียร์โอผู้นี้ขอนับถือเจ้าจากใจจริง.. ”
อู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เพียงยิ้มแห้งๆออกมาเท่านั้น..จักรพรรดิ์เทียร์โอตัดสินใจบอกวิธีใช้ไข่มุกกับอู้เฉียง..ถึงแม้คราแรกจะให้อู้เฉียงหาวิธีใช้มันด้วยตัวเองก็ตาม…
“ เอาล่ะเจ้าหนุ่ม ในฐานนะที่เจ้าเป็นผู้ครอบครองไข่มุกสวรรค์ ความสามารถของมันนั้นคือการแปรเปลี่ยนรูปร่าง ซึ่งรูปร่างของมันนั้นจะแปรเปลี่ยนไปตามความรู้สึกของเจ้า เช่น หากเจ้าต้องการที่จะปกป้องใครสักคน มันก็จะแปรเปลี่ยนไปเป็นโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดในสามภพ…ซึ่งมันจะแปรเปลี่ยนรูปร่างได้เแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จงจำเอาไว้ เด็กหนุ่มผู้มีโชคชะตาที่ไม่อาจคาดเดา…ถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว… ”
“ เดี๋ยวนะท่าน แล้วสมบัติพวกนี้ล่ะ… ”
“ ข้ายกให้เจ้าทั้งหมด นี่ถ้าอาณาจักรนี้ยังไม่ล่มสลายเผลอๆ ข้าคงยกตำแหน่งจักรพรรดิ์ให้เจ้าก็ยังได้….โชคดีนะเจ้าหนุ่มส่วนเจ้าตรงนั้น ก็ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองบ้างก็ดีนะ.. ”
จักรพรรดิ์เทียรโอ ขยิบตาให้กับเมดูซ่าก่อนจะสลายกลายเป็นละอองแสงกลับคืนสู่กระแสลำธารแห่งชีวิต…เหลือไว้เพียงแค่กองสมบัติขนาดใหญ่ที่มีทั้งเคล็ดวิชาล้ำค่ามากมาย และโอสถต่างๆที่ถูกบรรจุไว้ในขวดแก้ว…
“ ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองอย่างงั้นเหรอ… ”
เมดูซ่าพูดกับตัวเองพร้อมกับกุมหน้าอกข้างซ้ายพร้อมกับมองไปที่อู้เฉียงที่พยามสบัดไข่มุกสุริยะเทพให้หลุดออกจากมือ…
“ ความรู้สึกแบบนั้น…ไร้สาระ.. ”
…………………………………………
ณ แดนมนุษย์
“ พวกเราต้านมันเอาไว้จนกว่ากำลังเสริมจะมา อย่าให้เผ่าปีศาจฝ่าเข้าไปในเมืองได้.. ”
เวลานี้เผ่าปีศาจต่างฟื้นคืนชีพทั่วยุทธภพ เหล่าทหารและจอมยุทธ์ต่างผนึกกำลังการต่อสู้กับเผ่าปีศาจ..ถึงแม้จะมีกำลังพลที่น้อยกว่า แต่เมื่อสู้กับปีศาจระดับต่ำที่ไม่มีสติปัญญาย่อมไม่ใช่ปัญหา…
“ หน่วยแพทย์ พาคนเจ็บไปรักษาโดยเร็ว ส่วนใครที่ยังไหวก็ต้านมันเอาไว้สุดกำลัง ถ้าเราพ่าย ชาวเมืองจะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน!!!! ”
ในขณะที่ปีศาจระดับต่ำมากับไม่หยุดหย่อนก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่แนวหน้า…
ตู้มมมม!!!
ปรากฎปีศาจสี่แขนขนาดใหญ่ลำตัวสีดำ กำลังทำลายฐานที่ตั้งแนวหน้าจนราบคาบ…
“ นั่นมันตัวบ้าอะไร!! ”
“ แบบนี้จะไปชนะได้ยังไง…จบสิ้นแล้วสินะ ”
ขณะที่ทุกคนกำลังเริ่มสิ้นหวังท้องฟ้าก็ปรากฎแสงสีทองส่องตกกระทบพื้นดิน เหล่าดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว เมื่อถูกแสงสีทองตกกระทบก็ออกดอกเบ่งบานสะพรั่ง…
ราวกับว่าประตูสวรรค์กำลังเปิดออก…
ไม่นานก็มีเสียงของบุรุษหนุ่มประกาศกร้าวออกมาคล้ายบัญญัติสวรรค์ดังไปทั่วยุทธภพ…
“ ภายใต้บัญญัติของจ้าวสวรรค์ จงช่วยเหลือเผ่ามนุษย์และสังหารเผ่าปีศาจให้สิ้นซาก!!! ”
จบ