ภายในตำหนักแพทย์หลวงล้วนเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่บาดเจ็บบาดแผลอยู่ในระดับร้ายแรงไม่ว่าจะเกิดจากพิษหรืออวัยวะถูกตัดขาดทั้งหมดจะถูกส่งตัวมาที่นี่ในทันที..
หากบาดเจ็บเล็กน้อยก็เพียงแค่อยู่รักษาที่แดนมนุษย์เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด..
“ นายท่าน..ข้าไร้ซึ่งความสามารถโปรดลงโทษข้าด้วย.. ”
หลิงหลุนกล่าวขึ้นด้วยท่าทีรู้สึกผิด…
“ อย่าได้โทษตัวเองเลย เจ้าทำเต็มความสามารถของเจ้าแล้ว..ลองดูคนที่เจ้าปกป้องไว้สิ..”
ไป๋หลงผายมือให้มองฟาที่นอนอยู่บนเตียงใกล้ๆกัน..และที่นอนใกล้กับฟาก็คือเฟยเฟย อสรพิษขาวสัตว์อสูรในพันธะสัญญาของอู้เฉียบและศิษย์จากกองกำลังปีกสวรรค์..ซึ่งทั้งหมดต่างนอนพักผ่อนไร้ซึ่งสติ จึงไม่อาจรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ในตอนนี้
“ พวกเขาเหล่านี้ล้วนได้เจ้าปกป้องเอาไว้..หากไม่มีเจ้า..ข้าก็ไม่อยากจะคิดเช่นกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น..แม้บ้างครั้งเจ้าจะเป็นเสือที่งี่เง่าปัญญาอ่อนแต่เจ้าสามารถพึ่งพาได้เพราะแบบนั้นข้าเลยวางใจให้เจ้าคอยอยู่ดูแลพวกเขา… ”
หลิงหลุนเมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกคล้ายกับถูกตำหนิก็ไม่เชิง…
“ เอ่อนายท่าน..ท่านยังจำเด็กสาวผมสีแดงที่คอยเรียกท่านว่าปะป๋าได้หรือไม่ขอรับนายท่าน..บุตรรของราชันย์มังกรในตอนนั้น..”
“ เจ้าหมายถึง..เว่ยเว่ย!! จริงสิข้าจำได้ก่อนข้าจะออกเดินทางนางยังอยู่กับพวกเจ้าแล้วตอนนี้นางหายไปไหนกันตอนข้าไปถึงสถาบันเทพมารก็ไม่เห็นนางแล้ว..หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง!! ”
ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยความวิตกกังวล..
“ นี่ข้าลืมนางไปได้ยังไงกัน..ข้ามันไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี..ทั้งๆที่ข้าสัญญากับแม่ของนางเอาไว้.. ”
“ นายท่านอย่าได้โทษตัวเองเลย..ก่อนจะเกิดสงครามขึ้นแม่ของนางนั้นหรือที่ท่านเรียกก็คือราชันย์มังกรเพลิงหนึ่งใน 12 ราชันย์มังกรเหนือพิภพมารับตัวนางกลับไปราวกับว่ารับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น..แม้เว่ยเว่ยจะพยามขัดขืนแต่ก็ไม่อาจขัดขืนผู้เป็นมารดาได้..แม้ข้าจะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ข้าก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายเพราะข้าคิดว่ามันอาจจะนอกเหนือคำสั่ง..อีกอย่างหากหลีกเลี่ยงได้ข้าก็ไม่อยากปะทะกับนาง.. ”
หลิงหลุนกล่าวมาล้วนอยู่เหนือความคาดหมายของไป๋หลง…
“ ถ้านางอยู่กับแม่ของนาง..ข้าก็หายห่วง..แต่ทำไมเจ้ามองข้าคล้ายกับว่ามีเรื่องในใจบางอย่างที่อยากจะบอกข้า.. ”
ไป๋หลงกล่าวถามหลิงหลุนที่อยู่ในรูปลักษณ์ของมนุษย์ทำให้การแสดงออกทางสีหน้าของหลิงหลุนนั้นชัดเจนกว่าปกติ..
“ เรื่องสหายของท่าน..อู้เฉียงท่านคงจะรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเหมือนกันใช่หรือไม่ ”
สิ่งที่หลิงหลุยกล่าวมาชายหนุ่มย่อมสัมผัสได้ถึงเรื่องความรู้สึกปีะหลาดที่เกิดขึ้น..
“ เจ้ารู้อะไรอย่างงั้นหรือ..หลิงหลุน..จริงอยู่ที่ข้ารับรู้ได้ด้วยสัมผัสพิเศษบางอย่างแต่ข้าก็มิอาจบอกได้แน่ชัดว่าเกิดสิ่งใดขึ้น… ”
หลิงหลุนแสดงท่าทีจริงจังออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แฝงไว้ความเศร้าภายในจิตใจก่อนจะกล่าวมีนออกมา…
“ บัดนี้สหายของท่าน ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับวิหคสวรรค์แล้ว..หรือจะพูดให้ถูกก็คือ อู้เฉียงกลายเป็นวิหคสวรรค์โดยสมบูรณ์แล้วภายใต้เคล็ดวิชาสองประสานรวมเป็นหนึ่งที่ข้าเคยบอกกับท่าน.. ”
ไป๋หลงนิ่งเงียบไปชั่วขณะคล้ายกับว่าพยามสะกดข่มบางอย่างเอาไว้..
“ เจ้าบ้านั่น…แลกดวงวิญญาณของตัวเองไปแล้วยังจะมากบายเป็นแบบนี้ไปอีกให้ตายเถอะ..เป็นสหายเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ข้าปวดหัวได้จริงๆเลย..เอาล่ะข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว..ข้าจะกลับไปที่แนวหน้าของสงครามส่วนเจ้าก็พักผ่อนได้แล้ว..”
ไป๋หลงรีบเดินออกมาจากตำหนักแพทย์หลวงในทันทีพร้อมกับสะกดข่มบางอย่างเอาไว้ภายในจิตใจ..มีหรือที่พยัคฆ์สวรรค์อย่างหลิงหงุนจะมองไม่ออก..
“ นายท่าน..ช่างอ่อนโยนจริงๆ..”
หลังจากที่ไป๋หลงเดินออกมาก็พบกับเทียร์ที่ยืนรออยู่นอกตำหนักนางนั้นไม่ได้เข้าไปข้างใน..เทียร์ที่ได้เห็นแววตาของไป๋หลงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่กลับไม่มีหยาดน้ำตาแม้แต่น้อย…
“ ไป๋หลงนี่เจ้า… ”
“ ไปกันเถอะเทียร์…ส่วนพวกเจ้าทั้งหมดไม่ต้องตามมาข้าจะลงไปที่แดนมนุษย์แล้ว..ดูแลรักษาตกหนักแพทย์หลวงให้ดีหากเกิดอะไรขึ้นพวกเจ้าคงรู้ว่าอะไรจะตามมาในภายหลัง.. ”
ทหารเทพและแม่ทัพสวรรค์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด่วยความหนักแน่น..
“ รับบัญชาจ้าวสวรรค์!! ”
……………………………………………………..
ระหว่างทางเดินนั้นล้วนเต็มไปด้วยสายธารน้ำที่ใสสะอาดพร้อมกับสัตว์เทพน้อยใหญ่ที่ออกมาทำความเคารพไป๋หลงอยู่เลียงรายบ้างก็เป็นสัตว์ภูติตัวเล็ก บ้างก็เป็นปลาสวรรค์…ที่อยู่ในบ่อน้ำสีฟ้าใส.สองข้างทาง
“ ไป๋หลงหยุดเดินก่อน.. ”
เทียร์ดึงชายเสื้อของไป๋หลงเอาไว้..ชายหนุ่มจึงหันกลับไปมองเทียร์ด้วยท่าทีสงสัย..
“ อะไรของเจ้า..พวกเราไม่— ”
“ ไป๋หลง เจ้าไม่จำเป็นจะต้องแบกรับภาระนี้เอาไว้คนเดียว…เจ้าคนงี่เง่า..แม้เจ้าจะเป็นจ้าวสววรค์แต่ในสายตาของข้าเจ้าเป็นเพียงไป๋หลง ที่รักและหวงแหนพวกพ้องเหนือสิ่งใด..อย่าได้โทษตนเอง อย่าได้แบกรับภาระไว้คนเดียว..เจ้ายังมีข้าแล้วก็ทุกคนที่พร้อมจะสนับสนุนเจ้า..”
เทียร์สวมกอดไป๋หลงพร้อมกับลูบหลังไปมา…ขณะนั้นความรู้สึกบางอย่างภายในจิตใจของไป๋หลงก็ถูกเปิดออกมาโดยหญิงสาว..
“ ใครบอกว่าลูกผู้ชายอกสามศอกร้องไห้ไม่ได้..ไป๋หลงข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเองวางใจ—”
ไป๋หลงเองก็กอดเทียร์เป็นการตอบกลับพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆหลั่งไหลออกมา..
“ ข้าไม่อยากให้ทุกคนตาย..ข้าแค่อยากให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขแต่แล้วทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นเช่นนี้ด้วย สิ่งที่ข้าหวังไว้มันยากเกินไปรึไงกัน.. ”
“ นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้าสักหน่อย เจ้าทำสุดความสามารถแล้ว…ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเอง..ไป๋หลง.. ”
เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของเทียร์กลับทำให้ใจของไป๋หลงอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก…จนตัวไป๋หลงนั้นแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าความรู้สึกนี้ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ตอนไหน…
“ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นางคอยอยู่เคียงข้างข้า..ต่อสู้ไปด้วยกันกับข้า เผชิญหน้ากับปัญหาและอันตรายต่างๆมามากมาย..ล้วนมีเทียร์อยู่ข้างเสมอ..ในใจของข้าไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน..มันคืออะไรกันแน่นอกจากท่านแม่ ก็มีแค่เทียร์เท่านั้นที่ทำให้ข้ารู้สึกแบบนี้..”
ไป๋หลงสวมกอดเทียร์เอาไว้..แม้แต่หญิงสาวเองในตอนนี้ก็เริ่มที่จะหน้าแดงระเรื่อหน่อยๆแล้ว..แต่นางกลับไม่ได้ผลักไป๋หลงออกไปเหมือนกับครั้งก่อนๆ..
“ เทียร์..ข้ารู้ว่านี่มันไม่ใช่เวลาอันเหมาะสม..แต่หากข้าไม่บอกเจ้าตอนนี้ข้าอาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต..ข้าไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร..แต่ทุกครั้งที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า..มันทำให้ข้า— ”
“ ไม่ต้องพูดแล้ว.. ”
เทียร์พูดขึ้นก่อนจะผลักไป๋หลงออกไปเล็กน้อย..ก่อนที่ทั้งสองจะผสานสายตากันหญิงสาวเกี่ยวมือไว้ที่ต้นคอของไป๋หลงก่อนที่เทียร์จะออกแรงดึงเล็กน้อยทำให้ตาของทั้งสองผสานกันใกล้มากยิ่งขึ้น..และแล้วริมฝีปากอมชมพูของทั้งสองก็ได้ประทับเข้าด้วยกัน..
“ ดะ..เดี๋ยว!! ”
ไป๋หลงยังพูดไม่ทันจบก็ถูกริมฝีปากอมชมพูของเทียร์ประทับกับริมฝีปากของตน..ชายหนุ่มพลันหน้าแดงระเรื่อไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน..
รอบตัวของทั้งสองราวกับว่ารอบตัวนั้นล้วนเงียบสงบแต่ทว่า……
เหล่าสัตว์เทพน้อยใหญ่ที่แอบดูอยู่ต่างหน้าแดงเขินอายไปตามๆกัน..แม้แต่เหล่ามัจฉาที่แอบดูอยู่ใต้ผิวน้ำยังอดไม่ได้ที่จะนำครีบสีชมพูมาปิดตาของตัวเองเอาไว้..ก่อนจะค่อยๆแง้มครีบออกมาเพื่อมาดูอีกครั้ง..
และเรื่องราวของทั้งสองได้เริ่มต้นขึ้น ณ ที่แห่งนี้แล้ว..โดยมีเหล่าสัตว์เทพที่เขินอายเป็นพยานทั้งหมด…..
จบตอน