เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 362 รวมตัวอีกครั้ง 3

ตอนที่ 362 รวมตัวอีกครั้ง 3

การกระทำของทั้งสองล้วนเป็นที่ประจักษ์แก่เหล่าสัตว์เทพทั้งหมด..รวมไปถึงเทพทั้งสองที่สถิตอยู่ในห้วงจิตของไป๋หลง!!

“ พะ..พวกนี้ทำอะไรต่อหน้าข้า!! ไร้คุณธรรมสิ้นดีไม่คิดเกรงข้าเลยแม้แต่น้อย.. ”

“ กาเบรี่ยล..นี่เจ้าเขินอายอย่างงั้นหรือ..จริงสิเจ้าเอาแต่หมกตัวอยู่ในคลังสมบัติแดนเทพเป็นหมื่นๆปี..คงจะไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนสินะ…… ”

ลูซิเฟอร์กล่าวขึ้นเมื่อเห็นกาเบลี่ยวที่้ป็นถึงชนชั้นราชันย์เทวะ..แต่กลับอ่อนไหวต่อเรื่องเช่นนี้

“ ข้าไม่ได้เขินอายอย่ามาพูดไร้สาระ พูดอย่างกับเจ้าเคย…เดี๋ยวนะสีหน้าของเจ้าแบบนั้นมันอะไรกันนี่เจ้ายิ้มเยาะข้าอย่างงั้นเหรอ..”

“ ข้าเคยมีความรักแล้วก็เคยเกี้ยวพาราสีกับนางผู้หนึ่งเมื่อนานมาแล้วแต่ถ้าจะให้เทียบแล้ว..เจ้า..ยัง..คง..บริสุทธิ์..สินะ แม้จะเป็นเทพที่แข็งแกร่งแต่หัวใจกลับไร้รัก ก็ไม่ต่างจากหัวใจที่ตายด้านไปแล้ว.. ”

“ นะ..นี่เจ้า ”

ลูซิเฟอร์พูดความจริงทั้งหมดออกมา..กาเบรี่ยลในตอนนี้รู้สึกราวกับว่าพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ…

ขณะนั้นเองก็มีเด็กสาวผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในห้องมิติจิตของไป๋หลง…ซึ่งเด็กสาวผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเลธิเชีย..น้องสาวแท้ๆของไป๋หลง!!

“ หืม..รูปลักษณ์หน้าตานั่น..เจ้าเป็นน้องสาวของไป๋หลง..เหตุใดถึงเข้ามาในห้วงจิตนี้ได้กัน.. ”

ลูซิเฟอร์กล่าวขึ้นด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วนั้นการจะเข้ามาภายในห้องจิตจะต้องเป็นร่างวิญญาณเท่านั้น..

“ ข้าก็แค่ถอดดวงจิตออกมาจากหอหอยของท่านพี่แล้วเข้ามาภายในห่วงจิตของท่านพี่ส่วนร่างเนื้อนั้นไม่อาจขยับได้สักระยะ แต่ที่ข้ามาก็เพื่อ…ทำยังไงก็ได้อยกพวกเขาให้ห่างจากกัน..ขะ..ข้าไม่ชอบนาง!! ”

กาเบลี่ยวที่เหลียวไปมองเลธิเชียก็อเไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีตกตะลึงพร้อมกับใจในเวลาเดียวกัน..

“ เด็กคนนี้แข็งแกร่งเกือบจะเทียบเท่าข้า..ไม่ธรรมดาเลย ข้าคิดว่ายุคสมัยนี้จะไม่มีสัตว์ประหลาดน้อยเข่นเจ้าซะแล้ว..”

“ ข้าไม่ชอบนาง..นางจะแย่งพี่จากข้า ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!! ”

เลธิเชียร์กล่าวขึ้นพร้อมกับทำแก้มบวมป่อง..เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการของการหึงหวงของผู้เป็นพี่..ซึ่งภายในห้วงจิตของไป๋หลงในตอนนี้มีสามดวงจิตอยู่ภายในจิตของตน..

…………………………………………………..

“ ปะ..ไปกันได้แล้วทุกคนกำลังรอเจ้าอยู่..”

เทียร์ผลักไป๋หลงออกไปก่อนจะเดินนำหน้าไป๋หลง..ทิ้งให้ชายหนุ่มยังคงตกอยู่ในภวังชั่วขณะ..

“ เทียร์นี่เจ้า..”

หญิงสาวหันกลับมาพร้อมกับท่าทีเขินอายที่ไม่เคยแสดงออกมาก่อน..

“ ขะ..ข้าก็แค่อยากปลอบเจ้าเท่านั้นเอง..ใช่ๆข้าแค่ปลอบเจ้าแล้วก็ถือเป็นการขอโทษเรื่องเมื่อก่อนที่ข้าทำไม่ดีกับเจ้าเรื่องมันก็มีแค่นั้น..อย่าคิดเกินเลยไปมากกว่านี้นะ!! ”

ชายหนุ่มที่ได้เห็นใบหน้าของเทียร์ที่อมชมพูคล้ายกับลูกตำลึงสุกก็รู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกดีอยู่ภายในจิตใจ…

“ บ้านเจ้าเขาให้ปลอบคนอื่นโดยการกอดจูบกันรึไง…”

ไป๋หลงเดินไปที่เทียร์ด้วยความเร็วก่อนที่สายตาของทั้งสองจะผสานกันอีกครั้ง..มือแกร่งของไป๋หลงลูบไปบนศรีษะของนางด้วยความถนุถนอม..

ก่อนจะก้มต่ำลงมากระซิบที่ใบหูของเทียร์ด้วยน้ำเสียงที่ชวนเสน่ห์หา..

“ แต่ก็ขอบใจนะ…หลังจบสิ้นเรื่องทั้งหมดข้ามีบางอย่างอยากจะบอกกับเจ้าเช่นกันแต่ตอนนี้พวกเราต้องรีบไปกันแล้ว..”

เทียร์ใบหน้าแดงฉ่าก่อนจะเดินตามไป๋หลงไปแต่โดยดีพร้อมกับแลบลิ้นถลึงตาใส่ไป๋หลง..

“ เจ้าคนบ้า…แต่เพราะเจ้าที่เป็นแบบนั้น..ข้าถึงได้ชอบเจ้า…เจ้าบ้าไป๋หลง.. ”

เทียร์ได้แต่กล่าวขึ้นภายในจิตใจเท่านั้น.โดยที่ไม่รู้เลยว่าอนาคตต่อจากนี้จะมีบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่แม้แต่ตัวนางเองก็คิดไม่ถึง..

…………………………………………………..

ณ แดนมนุษย์ เขตรักษาการณ์ของเหล่าทหารสวรรค์

หลังจากที่ไป๋กลงกลับมานั้นดูเหมือนว่าทหารสวรรค์จะมองเทียร์และไป๋หลงด้วยสายตาที่ต่างออกไป..

“ นั่นไงๆ สตรีที่เป็นคู่ครองของท่านจ้าวสวรรค์..ข้าก็คิดไว้อยู่แล้วว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด.. ”

“ ใช่ๆข้าก็คิดเช่นนั้น..แต่นางเป็นเผ่ามารนะ.. ”

“ หยุดเสียมารยาทได้แล้ว ถ้าท่านจ้าวสวรรค์ได้ยินพวกเจ้าได้ลงไปคุยกับท่านยมบาลแน่.. ”

แม่ทัพสวรรค์ผู้หนึ่งกล่าวห้ามปรามทหารเทพที่อยู่ในสังกัดของ..

แต่สาเหตุมี่ข่าวนั้นแพร่ไกลมาถึงแดนมนุษย์ด้วยระยะเวลาอันสั้นก็เพราะว่าเหตุการณ์ทั้งหมดในตอนนั้นถูกบันทึกไว้ทั้งหมด!!

และผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้นก็คือเทพแห่งการติดต่อสื่อสาร ลุค ซึ่งแน่นอนว่าความสามารถของลุคนั้นมีความสามารถคล้ายกับดวงตาเทวะของไป๋หลง แต่ของลุกนั้นจะเป็นเนตรสรรพสิ่งที่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

แม้ไป๋หลงจะรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาแค่ไป๋หลงก็หาได้สนใจไม่เพียงแค่เดินตรงไปที่ ที่มังกรน้ำแข็งกำลังรักษามิวอยู่…

“ คาราวะท่านจ้าวสวรรค์/ มารดาสวรรค์!! ”

ไป๋หลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็รับรู้ถึงเรื่องราวเหล่านี้ได้ทันทีแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้..กลับกันตัวไป๋หลงนั้นกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีสำหรับในอนาคต…

เทียร์ที่เห็นไป๋หลงไม่ได้กล่าวปฏิเสธหรือไถ่ถามเรื่องนั้นก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก..แต่ทว่าภายในห้วงจิตใจของไป๋หลงนั้นกลับตรงกันข้าม…

“ ฮึก!! ฮึก!! ข้าจะโดนแย่งท่านพี่ไปใช่ไหมแบบนี้ข้าไม่ยอมนะ..ถ้าข้าออกไปได้เมื่อไรละก็.. ”

เลธิเชียปาดน้ำตาของนางที่ไหลออกมาจากความหึงหวงพี่ชาย..จนผู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพระดับสูงทั้งสองยังรับมือกับอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของนางไม่ได้..

“ อาการของนางเป็นยังไงบ้าง.. ”

“ หึ..เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร..แต่ก็เอาเถอะหญิงสาวผู้นี้ปลอดภัยแล้ว ข้าได้ทำการขับพิษออกจากร่างกายของนางทั้งหมด..จะว่านางดวงแข็งก็ได้เพราะเหล่านั้นเกือบจะถึงหัวใจของนางแต่ทว่าอยู่ๆพิษมันก็หยุดแพร่กระจายไปชั่วขณะทำให้ข้าถอนพิษออกมาได้ทันเวลาพอดี ”

มังกรน้ำแข็งกล่าวขึ้นพลางเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ…

“ อีกอย่างเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง นางคงจะหลับไปอีกสักพักใหญ่ๆ ที่เหลือก็แค่ให้ร่างกายของนางนั้นค่อยๆรักษาตัวเอง..ข้าใช้พลังไปเยอะเเล้วเห็นทีข้าคงจะต้องจำศีลสักระยะที่เหลือก็ฝากเจ้าดูแลต่อก็แล้วกัน.. ”

“ ผู้เยาว์รับทราบแล้ว เชิญท่านพักผ่อน.. ”

ไป๋หลงกล่าวขอบคุณมังกรน้ำแข็ง ก่อนที่มังกรน้ำแข็งจะสลายกลายเป็นเกร็ดน้ำแข็งกลับสู่ตราประทับตรงหน้าผากของมิว..

“ พี่ใหญ่… ”

จางยี่กล่าวเรียกไป๋หลงขณะที่ถูกทหารเทพสวรรค์ขวางไว้ไม่ให้เข้าไปพบกับไป๋หลง…

“ ให้เขาเข้ามา ส่วนพวกเจ้าทั้งหมดแยกย้ายกันไปดูแลพื้นที่รอบนอก..จริงสิแล้วตุลาการสวรรค์ฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา อยู่ที่ไหน ทำไมข้าถึงไม่เห็นเขาสองคนตั้งแต่ที่ข้ากลับมส.. ”

หนึ่งในทหารสวรรค์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็อาสาเป็นตัวแทนในการตอบกลับคำถามของไป๋หลง..

“ เรียนจ้าวสวรรค์ ท่านมหาเทพตุลาการทั้งสองกำลังประชุมอยู่กับเหล่าผู้นำตระกูลเทพในกระโจมหลังนั้น ให้ข้าไปแจ้งข่าวหรือไม่ว่าท่านมีรับสั่งเรียกพบ.. ”

“ ไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าไปเอง.. ”

“ รับบัญชา!! ”

เหล่าทหารสวรรค์ต่างแยกย้ายกันไปตามคำสั่งของไป๋หลง..ส่วนจางยี่ที่ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที…

“ ดูท่าพวกเจ้าคงจะคุยเรื่องสำคัญกัน งั้นข้าไปรอเจ้าตรงนั้นก็แล้วกัน..”

เทียร์กำลังจะเดินออกไปแต่ทว่าไป๋หลงกลับขว้าแขนของนางเอาไว้..

“ ไม่เป็นไร.เจ้าอยู่ตรงนี้แหละ.. ”

“ ก็ได้..ตามใจเจ้าเถอะ.. ”

จางยี่ที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ย่อมรับรู้ได้ภายในทันทีว่าข่าวลือที่พวกเทพสวรรค์กำลังพูดคุยกันนั้นอาจจะเป็นความจริงก็เป็นได้..

“ อาการบาดเจ็บของเจ้าแล้วก็คนอื่นๆเป็นยังไงบ้าง..ข้าขอโทษนะที่ข้าไร้ความรับผิดชอบทั้งๆที่ข้าเองก็เป็นหัวหน้าของพวกเจ้าแท้ๆ.. ”

“ เอ่อ..ท่านจ้าว— ”

“ เรียกข้าแบบเดิมนั่นแหละ จางยี่.. ”

“ พี่ใหญ่ท่านคิดว่าสงครามครั้งนี้..พวกเราจะชนะไหม..ข้าไม่อยากให้ใครต้องมาสังเวยชีวิตเพิ่มอีกแล้ว..ข้ารู้ว่านี่อาจจะเป็นคำขอที่เห็นแก่ตัว..แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมากับพี่ใหญ่..พวกเราคงรู้สึกผิดในความอ่อนแอของตัวเองที่ไม่อาจเป็นกำลังให้กับพี่ใหญ่ได้..ข้า.. ”

“ ไม่ต้องเป็นกังวลขอแค่เชื่อใจข้า..เจ้ามองเข้ามาในดวงตาของข้าสิ..คิดว่าข้าจะแพ้อย่างงั้นเหรอ..มันยังเร็วไปหลายร้อยปีที่เจ้าจะมากังวลเรื่องนี้.. ”

ไป๋หลงกอดคอจางยี่เอาไว้แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนม..แม้ไป๋หลงจะดำรงตำแหน่งเป็นจ้าวสวรรค์ แต่การกระทำที่มีต่อพวกพ้องไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย..

จางยีามองลึกเข้าภายในแววตาที่มุ่งมั่นของไป๋หลงก่อนจะถอนหายใจออกมา..

“ ข้าเชื่อใจท่านแต่ว่า— ”

ตึง!!

ในขณะนั้นก็มีทหารเทพตนหนึ่งบินลงด้วยความเร็วพร้อมกับใบหน้าที่แตกตื่นราวกับว่าไปพบเจอกับบางอย่างที่น่าสะพรึง..

ไป๋หลงเข้าไปใกล้ทหารเทพตนนั้นในทันที..

“ ตั้งสติเอาไว้ มีอะไรเกิดขึ้นรายงานข้ามาให้หมด.. ”

ทหารสวรรค์ตนนั้นค่อยๆดึงสติพร้อมกับแววตาที่แฝงไปด้วยความหวาดกลัว..

“ ทะ..ที่ทะเลทางทิศเหนือมีปีศาจระดับสูงหลายสิบตนกำลังปะทะกับ.. ”

“ ปะทะกับอะไร.. ”

“ เทพสวรรค์ที่ถูกเนรเทศลงมายังแดนมนุษย์..นามของนางคือ..เมดูซ่า เทพแห่งความวิบัติ!! ”

จบตอน.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท