บทที่ 170 เข้าท่ามั้ยเนี่ยคุณ!
ขาขาวสวยเรียวยาว ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อย และมองไล่ไปถึงส่วนท้าย ก็ยังปรากฏสีขาวอันเลือนรางออกมา สีขาวแบบนี้นั้นเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ว่าเนื่องจากเป็นเพราะตำแหน่ง ตอนนี้เลยดูเซ็กซี่เป็นอย่างมาก
ต่อมา ขาทั้งคู่ของถังก๋อก่อก็ประกบแน่นติดกัน
ผมเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ใบหน้าของเธอนั้นเขินแดง พูดอย่างอับอายขายหน้า “คุณมองมั่วอะไรกัน!”
“เพราะว่ามันน่าดูมาก ผมไม่เคยเห็นขาที่สวยแบบนี้มาก่อน ทั้งอ่อนนุ่ม ทั้งขาวนวล และยังไม่จำเป็นต้องสัมผัสด้วยซ้ำ แค่มองด้วยสายตาผมก็รู้แล้วว่าเนียนลื่นขนาดไหน……”
ผมประเมินขาสวยทั้งคู่ของเธอ ทำให้สีหน้าที่แดงของถังก๋อก่อนั้นยิ่งรุนแรงมากขึ้นอีก เหมือนลูกมะเขือเทศที่สุกงอม เต็มไปด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน
เธอไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมา เพียงแค่หุบขาทั้งคู่แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเขินอายเล็กน้อย ทำให้มันเติมเต็มรสชาติเพิ่มมากขึ้น
ต้องพูดเลยว่า ถังก๋อก่อเป็นผู้หญิงที่สวยงามมาก เธอหน้าตาเหมือนตุ๊กตา เรียกว่าได้ว่าหน้าเด็ก ใบหน้ารูปไข่กลมๆแบบนี้มองไปแล้วน่ารักมากๆ เหมือนกับชื่อของเธอมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเธอเขินอายหรือว่ายิ้มเล็กน้อย นั้นยิ่งเหมือนกับขนมหวาน ทำให้จิตใจของคนนั้นหวานชื่นเบิกบาน
แต่สิ่งที่ยิ่งร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือ เธอนั้นถูกเสื้อด้านในรัดสูงขึ้นมา หน้าเด็กใหญ่อะไรขนาดนี้ ช่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี เติมเต็มเสน่ห์เย้ายวนที่แตกต่างไปอีกแบบ ทำให้คนทั้งรักและสงสาร ทนไม่ได้ที่จะอยากกดเธอลงไปอยู่ใต้ร่างกายอย่างเอาชนะได้
หลังจากนวดเสร็จเรียบร้อย ผมก็ไปห้องน้ำล้างมือ จากนั้นก็แสดงท่าทีบอกให้รู้ว่าเธอสามารถลองเดินด้วยตัวเองได้
หลังจากที่ผมล้างมือออกมา ถังก๋อก่อบนใบหน้ารูปไข่เล็กๆที่งดงามและละเอียดอ่อนนั้นเขียนเต็มไปด้วยความยินดีอย่างประหลาดใจ
“ยอดเยี่ยมมาก นึกไม่ถึงจริงๆเลยว่าจะไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้ว และฉันก็ไม่ต้องใช้สิ่งของมาพยุงให้ฉันเดินช้าๆแล้ว!”
ผมมองเธอปนไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าเป็นใครกัน ที่ระวังตัวเตรียมตัวป้องกันอย่างระมัดระวังรอบคอบกับผมมาโดยตลอด กลัวตัวเองจะถูกกินเข้าไป”
คำพูดของผมทำให้ถังก๋อก่อมีความเก้อเขินอยู่ไม่น้อย เธอพูดอย่างอายๆว่า: “ขอโทษด้วยเถ้าแก่ เข้าใจผิดคุณแล้ว ขอบคุณมาก”
“นี่มันเป็นการขอบคุณปากเปล่านี่? ผมช่วยคุณหลีกหนีถูกปรักปรำที่น่าอึดอัดนั้น จากนั้นช่วยคุณรักษาข้อเท้าจนดีขึ้น คุณก็แค่พูดขอบคุณง่ายๆแบบนี้นี่นะ ผมคิดว่านี่ไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่ คุณดูหน้าตาน่ารักขนาดนี้สวยขนาดนี้ สวยถึงขนาดใจของผมนั้นสับสนอลหม่านไปหมด จากนั้นตรงนั้นของคุณก็ยังอวบอิ่มกระชับ……”
ขณะที่พูดไป ทางด้านของผมก็ใช้มือทั้งคู่แสดงท่าทางสาธิตระยะไกล ร่างโครงร่างหน้าอกของเธอที่อวบอิ่มด้านหน้า
“หน้าเด็กใหญ่อะไรขนาดนี้ ผมเองก็ยังไม่เคยลองมาก่อน ช่างมีพลังในการจูงใจได้มากจริงๆ ถังก๋อเอ๋อร์ ไม่อย่างนั้นพวกเรามาลองกันสักครั้งมั้ย ขัดถูขัดถู เหมือนเป็นย่างก้าวแห่งความรัก?”
ใบหน้าของถังก๋อก่อนั้นเขินอายอย่างมาก จนแดงแล้วแดงอีก “ฉันมีแฟนแล้ว คุณไม่อนุญาตมาทำให้จิตใจไขว้เขว!”
อธิบายไปพร้อมกับทั้งหวาดกลัวและเขินอาย ดูเหมือนว่าถังก๋อก่อนั้นน่ารักมากจริงๆ
“ไปละนะ ไม่แกล้งคุณแล้ว คืนนี้ถ้ารู้สึกว่าเท้ายังไม่หายดี ก็ไม่จำเป็นต้องไปทำงานก็ได้ ปิดไปสามวันห้าวันก็ไม่มีปัญหาอะไร รักษาสุขภาพด้วย ลาก่อน!”
“อ๊ะ?!”
ขณะที่ถังก๋อก่อกำลังมึนงงอยู่นั้นเอง ผมก็เปิดห้องออกมา จากนั้นก็ออกจากบ้านเธอ
สาวน้อยคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ ดีมาก ถ้าหากว่าสามารถมีอะไรเกิดขึ้นได้ ผมยินดีที่จะละทิ้งจรรยาบรรณของอาชีพผู้ชายขายบริการนี้ ผมจะไม่รับเงินและอยู่กับเธอทำอะไรบางอย่าง อย่างเช่นขัดถูขัดถู เหมือนเป็นย่างก้าวแห่งความรัก……
ออกจากบ้านของถังก๋อก่อ ผมลงมาชั้นล่างตรงไปขับรถรีบไปที่พักของหลี่เกอ
เมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างถังก๋อก่อ ผมนั้นชอบการสู้รบจริงกับหลี่เกอมากกว่า
และก็ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ที่ได้ครอบครองเธอไปแล้ว ผมนั้นนึกถึงร่างกายที่แสนอ่อนช้อยน่ารักของเธออยู่บ่อยครั้ง และเธอที่อ้อนวอนอยู่ใต้ร่างของผม ความพึงพอใจนี้ก็เป็นอีกฝั่งหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้นคือความละอายใจที่รู้สึกผิดต่อเฉินหู่ และก่อให้เกิดการปลุกเร้าอีกแบบหนึ่งเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นพร้อมกันของอารมณ์ที่พลุ่งพล่านระหว่างพี่น้องทางกฎหมายแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงการปลุกเร้าที่ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก
ดังนั้นหลังจากที่หลี่เกอเปิดประตูออกมานั้น ผมเอาของเล่นที่แวะซื้อที่ร้านของเล่นระหว่างทางหล่นหายไปบนโซฟา ตรงไปที่หลี่เกอที่ทักทายผมอย่างประหม่า จับเธอคว่ำลงไปที่เตียงหลังใหญ่ในห้องนอน
“เสี่ยวเฟิง อย่าทำแบบนี้ พวกเราทำผิดไปแล้วครั้งหนึ่ง จะทำผิดอีกไม่ได้!”
หลี่เกอปฏิเสธแล้ว อ้อนวอนแล้ว แต่ก็ยังคงยากที่จะกีดขวางการที่ถูกผมถอดเสื้อผ้าชีฟองลายดอกไม้ที่อยู่บนร่างกายนั้นออกไปได้
เส้นผมที่สวยงามสว่างไสวแต่ยุ่งเหยิง ลำคอสีขาวนวล ติ่งหูที่งดงามละเอียดอ่อน ไม่มีอะไรที่ไม่กลายเป็นสิ่งล่อใจการดำรงอยู่ของผมได้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อชั้นในสีดำที่แสนเย้ายวนบนร่างกายของเธอตัวนั้น เติมเต็มและล่อลวงผมอย่างถึงที่สุด เสื้อชั้นในตัวนั้นผ่านร่างกายปรากฏเป็นสีดำ ความเย้ายวนของสีดำตอนนี้ได้เปิดเผยออกมาทั้งหมดอย่างไม่มีการปิดบัง โดยเฉพาะการถูกชดเชยด้วยผิวขาวสวยบริเวณรอบๆ ระดับความเย้ายวนของสีดำนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ผ้าลูกไม้ลายดอก ส่วนที่ช่วยพยุงหน้าอกนั้นเป็นลายฉลุของดอกไม้ ด้านในจะปรากฏวัสดุสีเนื้อ ถ้าไม่ได้ดูอย่างพิจารณา ก็จะเหมือนกับว่าเป็นเนื้อเต็มอิ่มธรรมดาทั่วไป เติมเต็มใกล้เคียงกับความเซ็กซี่ที่แสนมีเสน่ห์ยั่วยวนทางเพศ โดยเฉพาะตรงที่ความแน่นที่อวบอิ่มของส่วนนั้น ความเซ็กซี่นั้นยิ่งแสดงออกมาใกล้เคียงกับมีเสน่ห์เย้ายวนที่น่าหลงใหล
พยุงระหว่างหน้าอกซ้ายขวา ยังมีเชือกร้อยเป็นตาข่ายสีชมพู ถูกผูกเป็นรูปโบ ซึ่งตรงกลางของโบนั้นได้รับการประดับไปด้วยไข่มุกฝังเข้าไปหนึ่งเม็ด ปรากฏให้เห็นถึงการขวยเขินแบบนั้นที่มีเสน่ห์เย้ายวนที่สมบูรณ์แบบ……
มองดูไปที่เสื้อชั้นในตัวนั้น ผมก็ทนไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไป ไปนวดมัน ความงามของมันและความหยาบของมัน ทำให้รับรู้ความแตกต่างได้อย่างชัดเจนระหว่างการมองเห็นกับการสัมผัส โดยเฉพาะความอวบอิ่มที่ตามมาแบบนั้น ความยืดหยุ่นที่รู้สึกอบอุ่นนั้น ยิ่งทำให้คนทั่วไปตกไปอยู่ในอารมณ์เคลิบเคลิ้ม
“เสี่ยวเฟิง คุณอย่าทำแบบนี้เลย พวกเราไม่สามารถทำเรื่องผิดกับพี่หูจื่อของคุณได้อีกแล้ว……”
ระหว่างที่กอดจูบลูบคลำ หลี่เกอก็ค่อยๆครางออกมาล่อให้หลงใหล ผสมปนเปกันขณะที่เสียงครางร้องออกมารัวๆ เธอนั้นยากที่จะเปล่งเสียงอ้อนวอนออกมา
การอ้อนวอนแบบนี้ นั้นทำให้ผมยิ่งเติมเต็มความฮึกเหิม ผมจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง ผมสะสมความโกรธนี้มามากพอแล้ว ตอนนี้เธอเป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะสามารถระบายออกมาได้ และผมเองก็ยินดีและรอไม่ไหวอยากจะรีบปลดปล่อยออกมาบนร่างกายของเธอ ผมยิ่งชอบท่าทางของเธอเวลาครางอย่างมีเสน่ห์ที่ใต้ร่างกายของผม
ดังนั้น ขณะที่เธอกำลังอ้อนวอน ช่วยออกแรงถอดกางเกงของเธอออก จากนั้นขายาวใหญ่สีขาวหิมะก็ปรากฏออกมา และบนร่างกายนั้นกำลังสวมกางเกงในผ้าไหมสีเนื้อ
“เสี่ยวเฟิง เสี่ยวเฟิง……”
เสียงอ้อนวอนของหลี่เกอ ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงฝ่ามือของผม
แน่นอน เสียงฝ่ามือที่ชัดเจนนั้นไม่ใช่มาจากบนใบหน้าของเธอ แต่เสียงนั้นมาจากสะโพกอันอวบอัดแน่นของเธอ
พริบตาเดียว กางเกงในก็ถูกผมถอดตามออกไป หลี่เกอทั้งตัวบนล่างเปลือยเปล่า ส่วนบนร่างกายชุดชั้นในที่แสนมีเสน่ห์ยั่วยวนสีดำนั้น ไม่ทันไรก็ถูกปากของผมปลดออก เผยให้เห็นส่วนของความกลมกลึงที่ไม่ยอมทนเหงานั้น……
ผมไม่ใส่ใจคำอ้อนวอนของหลี่เกอ ถอดกางเกงของตัวเองออกขณะที่เตรียมที่จะใช้แรงบุกเข้าไปนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
“แม่ฉัน ต้องเป็นแม่ฉันกับพ่อฉันยังมีลูกอีก รีบแต่งตัวเร็วเข้า!”
หลี่เกอแสดงออกอย่างวิตกกังวล บริเวณคิ้วและดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ไม่มีส่วนที่ดูเสแสร้งเลย
ผมจึงรีบใส่เสื้อผ้า และช่วยเธอสวมชุดชั้นในกลับเข้าไปใหม่
แต่ว่าตอนที่กำลังสวมใส่อยู่นั้น ความรู้สึกอวบอิ่มนั้น ผมนั้นรู้สึกชัดเจนแจ่มแจ้งเป็นพิเศษ
“หลี่เกอ คุณทั้งสุกทั้งแข็งขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่อยากได้ คุณทรมานหรือเปล่าเนี่ย?”
คำพูดภาษาหยาบคายของผม ทำให้หลี่เกอเขินอายมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เธอปะทุลุกเป็นไฟขึ้นมาเช่นเดียวกัน ระหว่างขาของผมส่วนตรงนั้นโดนจู่โจมอย่างทุกข์ทรมาน ถูกมือเล็กๆสีขาวลูบรุนแรงไปทีหนึ่ง……
หลังจากทุกอย่างถูกจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว ผมก็พบกับคุณพ่อและคุณแม่ของเธอ
ก่อนหน้านี้เคยเจอมาก่อน ดังนั้นทุกคนไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไร นั่งลงด้วยกันคุยไปหัวเราะไป และก่อนหน้านี้เนื่องจากได้ซื้อของเล่นมา ดังนั้นผมเลยไม่ได้รู้สึกประหม่าอะไร เล่นกับหลานชายอย่างเบิกบาน
หลังจากทานอาหารกลางวันด้วยกัน ผมก็อ้างว่าติดงานออกมาได้
หลังจากลงจากตึก ก่อนที่จะขึ้นรถ ผมดูดบุหรี่หนึ่งมวน
ไม่มีทางเลือก คนหรือจะสู้ฟ้าลิขิตได้ ท้ายที่สุดก็ยิงไม่สำเร็จ ท่าทางจะทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้เท่านั้น……
สูบบุหรี่เรียบร้อย ดีดก้นบุหรี่ออกไป จากนั้นก็ขับรถออกไป ตรงมาที่ผับผับหมอชิ่ง
ใครจะไปรู้ว่าพอมาถึงผับ ผมจะมาเจอเข้ากับJason
พอเขาได้พบกันก็รีบตรงเข้ามาถามผมแบบจู่โจมใส่หัวใส่หน้าโครมๆ “คุณหมายความว่ายังไง บอกดิบดีว่าจะเลี้ยง สุดท้ายทิ้งฉันและครอบครัวของหลินหลินไว้ที่นั่น เข้าท่ามั้ยเนี่ยคุณ?