“ใช่ ชื่อนี้แหละ ทำไมเหรอ คุณรู้จักเขาเหรอ?”
กู้ฟางเฟยส่ายหน้า “ไม่รู้จัก แต่ว่าเคยได้ยิน เป็นคนที่น่ากลัวมาก แต่ว่าได้ยินเรื่องคนคนนี้ก็ดี คุณเจอผู้หญิงคนนั้น เธอสวยมากเลยใช่ไหม คนอื่นเรียกเธอว่าพี่ฉิน?”
ผมพยักหน้า ตอบ‘อืม’ออกไป
เธอพูดออกมาทันที: “งั้นก็ใช้แล้วละ พี่ฉินคนนั้นจริงๆแล้วไม่ได้บ้าหรอก เธอก็แค่อยากจะใช้วิธีนั้นเรียกร้องความสนใจจากตั่นโก๋ซูนเท่านั้นเอง เธอเป็นภรรยาของตั่นโก๋ซูนแต่ว่าตอนนี้จิตใจของตั่นโก๋ซูนไม่ได้มีเธออยู่ในนั้นแล้วเท่านั้นเอง”
ผมแสดงออกมาว่าแปลกใจอย่างมาก เลยถามเรื่องราวของพวกเขา
แต่ว่ากู้ฟางเฟยก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น “ฉันเองก็ไม่ได้รู้รายละเอียด เพียงแค่ได้ยินมาว่าตอนนี้ตั่นโก๋ซูนหลงรักผู้หญิงของพี่ใหญ่ ดังนั้นเลยไม่เห็นพี่ฉินอยู่ในสายตา ช่างเถอะ เรื่องของคนอื่นมีอะไรเกี่ยวกับพวกเราละเนอะ?”
ผมจูบกู้ฟางเฟยอย่างเร่าร้อน “ใช่แล้ว สาวงามอยู่ในอ้อมกอด จะไปสนใจเรื่องของคนอื่นทำไมกัน มามะเมียจ๋า มาให้ผมข่มขืนซะดีๆ!”
“ไม่เอา!”
ภายในห้อง บนเตียงใหญ่ ปรากฏเสียงของผมและกู้ฟางเฟยที่หยอกล้อออดอ้อนกัน
คืนนี้ มีความคลุมเครือ ไม่มีความหลงใหล……
เช้าวันที่สองขณะที่ผมตื่นขึ้นมา ข้างกายก็ไม่มีคนอยู่แล้ว ขนาดรองเท้าส้นสูงที่ประตูเองก็หายไปไม่พบแล้ว แต่ว่าที่หัวเตียงนั้นมีกางเกงในตัวจิ๋วสีดำถักลายลูกไม้แสนเซ็กซี่ทิ้งเอาไว้
กู้ฟางเฟยไม่ได้ทิ้งข้อความเอาไว้ แต่ว่าผมก็เข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง
ถือไว้ในมือและหยิบมาไว้ที่จมูก สูดดมเบาๆ หอมเหลือเกิน และยังมีขนหลุดลงมาตรงหน้าอีก ช่างงดงาม ทำแค่เพียงทำเรื่องอย่างว่าโดยเอาผ้ามาเล่นโง่ๆกับไอ้ตรงนั้นเท่านั้นเอง เห็นชัดว่าผมในตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว
ยืนอยู่หน้าหน้าต่าง มองไปที่เมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรือง ผมจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน
ซูเสี่ยวฉินยังคงหลงรักตั่นโก๋ซูนและตั่นโก๋ซูนเองนั้นก็หลงรักกู้ฟางเฟย ตอนนี้ดูแล้วกู้ฟางเฟยนั้นไม่ได้มีความสนใจในตัวของตั่นโก๋ซูนเลยแม้แต่น้อย ดูแล้วไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันโดยตรงเลยสักเรื่อง
แต่ว่าผมนั้นคิดว่าคนแต่ละคนนี้เปรียบเหมือนเสาสะพานแต่ละอัน บนระหว่างพวกเขาจะมีสะพานทอดผ่าน อย่างนั้นถึงจะเป็นสะพานได้ สะพานที่ทอดผ่านของผังเจี้ยนจวิน
แน่นอนว่า เรื่องนี้จำเป็นจะต้องวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบหน่อย และตอนนี้การอาศัยสะพานสายนี้นั้น ไม่แน่ใจว่าอาจจะไปไม่ถึงตรงหน้าของผังเจี้ยนจวิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสาสะพานบางอันเองก็ไม่แน่ว่าจะยอมให้ผมใช้เป็นสะพานเชื่อม……
หลังจากล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย ผมขับรถกลับมาที่พักของJason เสื้อผ้ายังอยู่ที่นั่น ผมจะเป็นต้องเปลี่ยนสักชุด
เพิ่งจะเข้าประตูมา เกือบจะชนJasonเข้าไปเต็มๆ
“คุณทำเหมือนที่นี่เป็นโรงแรมอย่างนั้นแหละ อยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไป……”
“ให้เงินคุณไปไม่น้อยเลยนะ ในเมื่อให้เงินคุณไปไม่น้อยคุณเอาไปห้อยขนเล่นหรือยังไง?”
“เหอะเหอะ แค่ล้อเล่นเอง ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ มา เอาบุหรี่ออกมาสูบหน่อย ฉันไม่มีเงินซื้อบุหรี่แล้ว”
Jasonเป็นคนที่มีจิตสำนึกมาก ยื่นมือมาหยิบบุหรี่จากในกระเป๋าเสื้อของผมเลย จากนั้นเขาก็จุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน บุหรี่นั้นก็เลื่อนจากมือเข้าไปในกระเป๋าตัวเองอย่างไม่สนว่าจะดีจะชั่วแต่อย่างใด
ผลประโยชน์เล็กน้อย กอบโกยไปเถอะ เขาจะต้องคายออกมา
“อ่าา คุณได้ยินแล้วหรือยัง ช่วงนี้การกระทำรุนแรงกับหมอหนักหน่วงขึ้นทุกที ได้ยินมาว่าสองวันก่อนหน้านี้โรงพยาบาลประชาชนรักษาคนจนตาย คนเป็นหวัดมีไข้เลยไปฉีดยา จากนั้นก็ตายในโรงพยาบาล……”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผมไม่ค่อยสนใจ ตรงเข้าไปในห้องของผม ถอดเสื้อผ้า เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นเอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปซักที่ระเบียง เอาไปตาก
ตอนที่กำลังตากผ้า ผมมองไปเห็นจีสตริงตัวเล็กตัวหนึ่ง ส่วนตรงกลางนั้นเป็นผ้าชีฟองโปร่งทะลุทั้งหมด ดูยั่วสวาทมาก
แน่นอนว่า จีสตริงตัวนี้ไม่มีทางจะเป็นJasonใส่แน่นอน นั่นเป็นได้แค่ของเฉินหลิน
“ทำไม เซ็กซี่ใช่ไหมล่ะ? อยากเห็นผมใส่มันบนร่างกายไหม?”
ตอนที่ผมกำลังตากผ้าอยู่นั้น ได้หลังมีเสียงของเฉินหลินที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนเปล่งออกมา ทันใดนั้นสิ่งที่อุ่นชื้นนุ่มนิ่มคู่หนึ่งถูเบาๆอยู่ที่หลังของผม
“ทำไม ซานตั้นของคุณไปแล้ว?”
“แน่นอนสิ แต่ว่าถ้าคุณยอมที่จะอยู่กับฉัน ถึงเขาจะยังไม่ออกจากบ้านไป ฉันก็ยังกล้าทำต่อหน้าเขากับคุณนะ”
ผมหันตัวกลับ ค่อยๆบีบไปที่หน้าอกที่ไขมันเกินออกมาของเธอ “ทำอะไร?”
เฉินหลินเขินอาย “ไอ้หย่า คุณมันแย่ อย่ามารังแกเราสิ”
ผมเลยเพิ่มแรงเข้าไปอีกนิด บีบเข้าไปอีกที แล้วถามซ้ำอีกรอบ “ทำอะไร?”
หลังจากเสียงครางของเธอ ตอบด้วยท่าทางเขินอาย: “แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่คุณชอบทำ ต้องบังคับให้คนอื่นพูดออกมาอีก”
“ผมไม่คิดว่าเอากันคือการพูดออกมา ถ้าคุณอยากจะมีความสามารถ ถอดกางเกงออก ให้มันพูดออกมาให้ผมดู?”
เฉินหลินกำหมัดตีผมเบาๆ “น่ารังเกียจ!”
“คนรังเกียจผมมีเยอะแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิง และปกติจะรังเกียจจนร้องโหยหวนด่าพ่อล่อแม่เลยทีเดียว คุณอยากจะลองความรู้สึกน่ารังเกียจแบบนั้นมั้ย?”
เฉินหลินยกขาข้างหนึ่งขึ้น เปิดชุดนอนสั้นของเธอนั้นขึ้นมา ตอนนี้มองเห็นแสงฤดูใบไม้ผลิอันเจือจางอยู่ด้านใน
จับมือผมเอาไว้ จากนั้นค่อยๆเข้ามาสำรวจ เธอพูดกระซิบด้วยเสียงยั่วยวน: “มาสิ มาให้เราลองหน่อย!”
ผมเลยยกนิ้วขึ้นมา จากนั้นใช้แรงตีเข้าไปที่บริเวณที่ไวต่อความรู้สึกของเธอนั้น เธอเจ็บจนร้องออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานนั้นก็รีบปิดด้านล่างเอาไว้
“คุณมันสารเลว คุณไม่อยากได้ก็บอกว่าไม่อยาก จะมีตีตรงนั้นของฉันทำไม!”
เฉินหลินด่าผมอย่างฉุนเฉียว จากนั้นผมก็หัวตัวจากไป
“รอก่อนเถอะ คุณรอจนกว่าคุณจะต้องการทั้งหมด และฉันคิดว่าอีกไม่นาน”
หลังจากออกมาจากที่พัก ผมก็ขับรถตรงไปหาลู่ปู้หนานกับจี้หลิน อยู่เป็นเพื่อนนางฟ้าทั้งสองเที่ยวเล่น
ต่อไปในวันนี้ ก็ไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษอีก ช่วงเช้าเป็นเพื่อนลู่ปู้หนานกับจี้หลิน เป็นคนขับรถเฉพาะกิจของพวกเธอ ตอนเย็นก็กลับไปทำงานที่ผับหมอชิ่ง
ช่วงเวลานี้Jasonไปรอบหนึ่ง จากนั้นพูดกับหัวหน้าเรื่องขอลาออก เปลี่ยนไปทำงานร้านกลางคืนที่อื่น นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ผับหมอชิ่งถูกตรวจค้นเลยทำให้หวาดกลัวจนอยากจะออกก็เป็นได้ นั่นก็ไม่อาจรู้ได้เลย
ช่วงเวลานี้ ผมรอคอยการมาถึงของสาวงามแถวหน้าสุดคนนั้นอยู่ จากนั้นก็พูดคุยสนับสนุนความรู้สึกกับเธอ แต่น่าเสียดาย เธอนั้นสุดท้ายแล้วก็ไม่โผล่หน้ามาอีก
วันหยุดวันสุดท้ายของวันชาติจีน เช้าตรู่ตีสี่กว่า ผมถูกโทรศัพท์ปลุกขึ้นมา
พลิกโทรศัพท์ขึ้นมาดู คนโทรมาคือจี้หลิน
“อะไรอีก ก่อนหน้านี้อยากจะปาระเบิดทีหนึ่งแล้ว หรือว่าข้างในคันจนเดินไม่ไหวแล้ว?”
“คุณมันนักเลงหัวไม้ นี่จะจริงจังสักครั้งไม่ได้เลยหรือไง? ฉันปวดท้องมาก คุณรีบมาหน่อย”
หาวนอน ผมก็สวมเสื้อผ้าจากนั้นก็ไปห้องน้ำ
ตอนที่ผลักประตูเข้าไปนั้นเอง ผมก็เจอเฉินหลินนั่งอยู่บนส้วม ตอนนี้บนร่างกายของเธอนั้นไม่ได้ใส่อะไรเลย แม้แต่ชุดนอนก็ไม่มี เป็นเหมือนขวดสุญญากาศว่างเปล่า
ถึงแม่ว่าส่วนที่ควรจะสีม่วงก็เป็นสีม่วง ส่วนที่ควรดำก็ดำ แต่ก็ต้องบอกเลยว่า รูปร่างของเธอนั้นไม่แย่เลยทีเดียว ส่วนที่ควรจะอวบอิ่มก็ช่างอวบอิ่ม ส่วนที่ควรจะเรียวยาวก็เรียวยาว ถ้าหากสามารถยกข้าทั้งสองขึ้นได้ ก็คงคุ้มค่าที่จะหนีอุตลุดสักรอบ
เธอมองมาที่ผม ไม่พูดอะไร ฉี่ต่อไป ไม่มีการหลีกเลี่ยงห้ามปรามแม้แต่น้อย จากนั้นก็ถูกผมมองจนทะลุปรุโปร่ง
ฉี่เสร็จเรียบร้อย เฉินหลินเช็ดทำความสะอาด จากนั้นก็อ้าขาทั้งสองข้างออกอย่างไม่ปิดบัง ให้ตรงนั้นเผชิญหน้ากับผมตรงๆ
“จะเข้ามาไหม ฉันไม่ได้อยากได้เงินของคุณ ฉันอยากจะชิมคนอย่างคุณต่างหาก”
ผมไม่ได้พูดอะไร รีบเข้าไปย้ายตัวของเฉินหลิน จากนั้นให้เธอก้มเอวไปที่ชักโครก ดันก้นที่เต่งตึงแสนเซ็กซี่ขึ้นมา
“ฉันรู้ดี บนโลกนี้ไม่มีแมวตัวไหนไม่กินปลา และไม่มีผู้ชายที่ไหนที่ทนต่อสิ่งล่อใจในนี้ได้!”
ฟังก็รู้ว่า เฉินหลินมั่นใจในตัวเองมาก ความมั่นใจของเธอนั้นถูกผมทำลายอย่างรวดเร็ว
รูดซิปเปิดออก เอาเจ้านั่นออกมา จากนั้นใช้มือของผมข้างหนึ่งจับด้านหลังของเธอ มืออีกข้างหนึ่งจับเจ้านั่นไว้ ฉี่พุ่งออกไป
คาดเดาว่าน่าจะร้อนมาก ไม่อย่างนั้นเฉินหลินจะร้องด้วยความโกรธแบบนั้นได้ยังไง ดิ้นรนแบบนั้นได้ยังไง..