ท้ายที่สุด ก็เป็นอีกครั้งที่ซูเสี่ยวฉินถูกผมอุ้มขึ้นรถ
ผู้จัดการและเพื่อนร่วมงานกลุ่มนั้นมองมาที่สายตาของผม เหมือนกับว่ากำลังมองเทพเจ้า สายตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและความเลื่อมใสศรัทธา และภายในร้านเองก็มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่สอบถามชื่อของผม เห็นได้ชัดเจนพวกเธออยากจะรู้ว่าซูเสี่ยวฉินที่ถูกผมทำจนเป็นอัมพาตอยู่ในอ้อมกอดของผมนั้น ตอนนี้แท้จริงแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างกับการที่ทำให้พวกเธออิจฉาในความสบายและสดชื่นมากขนาดนี้
สตาร์ทรถ ซูเสี่ยวฉินที่นั่งตัวแข็งเป็นอัมพาตอยู่บนเก้าอี้พูดอย่างยากลำบาก: “ส่งฉันกลับที่พัก อย่าส่งฉันไปที่โรงแรมอีก”
“ผมลากคุณไปที่ของตั่นโก๋ซูนนั่น ผมจะไปขอร้องให้เขาฆ่าผมหรือไง?”
“วางใจได้ ไม่ใช่ที่นั่นของเขา……”
ซูเสี่ยวฉินไม่มีแรงที่จะพูดต่อแล้ว ปิดปากเงียบ พักไปอยู่หลายนาที กว่าที่จะให้ที่อยู่กับผมมา
ขับรถพาซูเสี่ยวฉินไปส่งที่พัก ช่วยเธอถอดรองเท้าและถุงน่อง จากนั้นก็ช่วยเธอถอดจนเปลือยเปล่า
หน้าอกอวบอิ่มกลมกลึงกระชับได้รูปนั้นทำเอาผมทนไม่ไหว ผมจึงก้มหัวลงไปเล่นอย่างรุนแรง จากนั้นถึงจะห่มผ้าให้กับเธอ
ขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวที่จะจากไป เธอไม่รู้ว่าไปเอาแรงที่ไหนมา อยู่ดีๆก็ยื่นมือออกมาจับข้อมือของผมไว้ ยึดติดแน่น เหมือนกับคีมเหล็กกล้า
“คืนนี้อย่าไปเลยนะ อยู่เป็นเพื่อนฉัน ได้ไหม?”
เสียงของเธอนั้นอ่อนโยนอย่างมาก และในนั้นมีความปรารถนาที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม เหมือนกับสาวน้อยที่หวาดกลัวคนหนึ่ง
แต่ว่าผมยังมีความกังวลใจอยู่บ้าง
“ผมเองก็อยากจะอยู่เป็นเพื่อนคุณนะ แต่ผมก็ไม่อยากให้คุณตาย คุณสามารถสัญญากับผมได้ไหมว่าหลังจากที่ผมนอนกับคุณแล้ว คุณจะไม่หาเรื่องตายอีก?”
ซูเสี่ยวฉินจมเข้าสู่ความเงียบ ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีกำลังเรี่ยวแรง แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่สามารถตอบได้
ขณะที่ผมกำลังจะจากไปอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็เอ่ยปากขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เพียงแค่อยู่เป็นเพื่อนฉัน กอดฉันจนหลับไป ได้ไหม? ฉันให้สัญญา ฉันจะไม่แตะต้องคุณ”
เธอพูดออกมาแบบนี้ เหมือนผมเป็นสาวน้อยวัยใสที่เพิ่งแตกสาวอย่างนั้น
ท้ายที่สุด ภายใต้สายตาที่คาดหวังของเธอ ผมทำได้เพียงอยู่ที่นี่ต่อไป
หลังจากถอดเสื้อผ้าออกหมด ผมก็เข้าไปข้างในผ้าห่มของเธอ จากนั้นรั้งร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอเข้ามากอดเอาไว้
ทั้งปลุกอารมณ์อย่างมาก และเซ็กซี่อย่างมาก ดังนั้นสัญชาตญาณของผมก็ตอบสนองออกมา แข็งขันติดแน่นอยู่ตรงท้องน้อยอันราบเรียบเปลือยเปล่าของเธอ ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างอื่นอีก
เธอจูบผมอย่างแผ่วเบา เหมือนกับสาวน้อยที่อยู่ภายใต้ความรักอันร้อนแรง คาดไม่ถึงว่ายังมีความเขินอายอยู่หลายส่วน
และความเขินอายบางส่วนนี้ แต่งแต้มใบหน้าที่งดงามของเธอให้ยิ่งงดงามไม่เหมือนใครมากขึ้นไปอีก เพิ่มความดึงดูดใจให้กับคนที่พบเห็นมากขึ้นไปอีก
“คุณแต่งงานกับฉันดีไหม ฉันมีเงินเยอะแยะมากมาย เพียงแค่คุณเห็นด้วยที่จะมาขอฉัน ฉันก็จะตอบตกลงกับคุณ ทั้งชีวิตนี้จะไม่เป็นฝ่ายรนหาที่ตายด้วยตัวเองอีก และเพียงแค่คุณดูแลฉันดี แม้ว่าบางครั้งบางคราวคุณจะไปหาผู้หญิงคนอื่นก็จะไม่ใส่ใจ เพียงแค่ในใจของคุณมีฉันก็พอ”
“ไม่แต่ง”
ไม่มีอะไรให้ต้องลังเล ผมทำลายความคิดของซูเสี่ยวฉินออกไป ความเด็ดขาดในครั้งนี้ เหมือนกับว่าจะทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
เธอหัวเราะเยาะ เหมือนกับจะเป็นบ้า“ทำไม เพราะว่าฉันเคยถูกผู้ชายสองคนเล่นงานมาก่อนอย่างนั้นเหรอ?”
“ผมเพียงแต่ชอบร่างกายของคุณ สำหรับตัวคุณนั้นผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย ผมไม่อยากให้คุณตายเพียงเพราะว่าเห็นใจก็เท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับความรู้สึก คุณอย่าคิดอะไรมากเกินไป”
ซูเสี่ยวฉินเหมือนว่าจะยังอยากพูดอะไร แต่ว่าถูกผมห้ามเอาไว้
“ถ้าคุณอยากที่จะมาเป็นผู้หญิงของผม อย่างนั้นก็ค่อยๆอดทนไปละกัน ผมไม่สนใจว่าข้างกายผมจะมีผู้หญิงที่สวยแบบคุณ แม้กระทั่งคุณเองก็สามารถจะมาอยู่ในกำมือของผมไปชั่วชีวิต ผมสามารถดูแลคุณเป็นอย่างดีได้อย่างแน่นอน แต่ว่าเรื่องแต่งงาน อย่าแม้แต่จะคิด ผมแต่งงานได้เพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น และคุณไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่านั่นไม่ใช่คุณ”
ซูเสี่ยวฉินไม่มีคำพูดออกมาอีก หลังจากจับจ้องมาที่ผมเป็นเวลานาน หมุนตัวหันหลัง กลับไปอีกด้าน
ผมเองก็ไม่มีอะไรจะพูดออกมาอีกเช่นเดียวกัน หมุนตัวกลับเช่นเดียวกัน หันหลังเข้าหาหลังของเธอ ตูดชนตูด
ทั้งคืนไม่มีการสนทนา จนถึงเช้าวันที่สองตอนที่ผมถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงเรียกของมือถือ เธอยังคงนอนหลับสนิทอยู่
แน่นอน เธอนั้นคิดแบบนี้ แต่ว่าผมนั้นเห็นว่าขนตาของเธอนั้นขยับเล็กน้อย
“ใช้ชีวิตให้ดี ถ้าคุณสามารถมาเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่กล้ารับรองว่าคุณจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดบนโลกใบนี้ได้ แต่อย่างน้อยก็จะไม่ทำให้คุณเสียใจ และยิ่งไม่ทำกับคุณเหมือนไอ้เดียรัจฉานตั่นโก๋ซูนนั่น ที่ให้คุณไปตาย”
หลังจากที่จูบไปที่พวงแก้มอันเย้ายวนมีเสน่ห์ของเธอแล้ว ผมลุกออกจากเตียงไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียง
คนที่โทรศัพท์เข้ามาคือJason เขาอยากให้ผมไปเป็นเพื่อนเขาเลือกรถ
แน่นอนว่าผมไม่ไป ผมไม่สามารถทิ้งร่องรอยของผมเอาไว้รอบตัวของเขาได้ รวมถึงชื่อที่ผมใช้ในผับหมอชิ่งนั้นก็เป็นชื่อปลอม พวกเขาคิดว่าผมชื่อกู่ต้าเฟิง แม้กระทั่งJasonและเฉินหลินเองก็ไม่ยกเว้น
หลังจากหาเหตุผลมาปฏิเสธ ผมก็วางโทรศัพท์
ตอนที่ผมจะกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ประตูห้องนอนนั้นถูกปิดไปแล้ว และยังล็อกกลอนจากด้านใน
“รับโทรศัพท์แล้ว ก็รีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน ไปปรนนิบัติลูกค้าคนอื่นของคุณเถอะ!”
ผมคิดว่าซูเสี่ยวฉินคงจะชอบผมเข้าให้แล้ว หรือจะพูดว่าห้องหัวใจที่ว่างเปล่ามานานหลายปีของเธอนั้นถูกผมแทรกซึมเข้าไปในความว่างเปล่านั้นแล้ว บังคับยึดครอง ไม่อย่างนั้นเธอไม่สามารถหึงหวง และสิ่งที่พิสูจน์ออกมาได้ชัดเจนที่สุดจนทำให้ผมตัดสินว่าเธอหึงหวง นั่นก็คือการที่เธอเอาเสื้อผ้าของผมเก็บปิดไว้ในห้องนอน!
“คุณเอาเสื้อผ้าของผมล็อกเอาไว้ในห้องนอน ผมจะไปได้ยังไงกัน เปลือยก้นไปหรือ?!”
“คุณก็ใส่ชุดผู้หญิงไปสิ ในตู้เสื้อผ้าข้างนอกมีชุดของฉันเยอะแยะ คุณไม่ใช่ว่าชอบพวกถุงน่องและชุดชั้นในเหรอ ในนั้นมีเยอะแยะ คุณดูเอาละกันอยากใส่ชุดไหนก็เอาชุดนั้นไป ไม่ต้องขอบคุณฉัน”
……ผมพูดอะไรไม่ออก
ผมหยิบบุหรี่ของเธอหนึ่งมวนในห้องนั่งเล่น พอสูบเสร็จ ผมก็ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำหลังจากที่ทำธุระทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอยังคงไม่เปิดประตู และยังตัวเองขังไว้ในห้องนอนอีกด้วย
“เปิดประตูเถอะ วันนี้ช่วงเช้าฉันไม่ได้ออกไปไหน กลางวันกินข้าวเป็นเพื่อนคุณก่อนแล้วถึงค่อยไป และไม่ใช่ไปดูแลลูกค้า ต้องไปทำธุระ เสี่ยวฉินคุณเปิดประตูเถอะนะ ตกลงไหม?”
“อย่ามาหลอกฉัน คุณทำเหมือนว่าฉันไม่รู้ พอเปิดประตู คุณก็จะเข้ามาใส่เสื้อผ้าและจากไป ฉันก็จะห้ามคุณไว้ไม่ได้”
“ไม่ได้หลอกคุณจริงๆ ถ้าฉันอยากจะหลอกคุณจริงๆ เรียกคนมาส่งเสื้อผ้าให้ผมก็สิ้นเรื่องแล้ว……”
ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด ซูเสี่ยวฉินถึงยอมเปิดประตู
จากนั้นเธอก็ถูกผมผลักลงไปบนเตียง แยกขาของเธอทั้งคู่ออกจากกันอย่างรุนแรง เหมือนกับฉีกขาออกจากกันเป็นเส้นตรง ทำให้เธอร้องออกมาอย่างเจ็บปวด “ฉีกแล้ว ฉีกแล้ว……”
ผมก้มหัวลงไปมอง “ยังไม่ฉีก ยังดูนุ่มนิ่ม ดีมาก”
“นุ่มนิ่มคุณก็ไม่ต้องเข้ามาอีก……”
“คุณยังไม่ตายผมก็จะเข้า……”
ซูเสี่ยวฉินไม่พูดอะไรออกมาอีก ผมเองก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกเช่นกัน
นานสักพัก ผมเอนกายอยู่บนเตียง เธอนั้นนอนคว่ำอยู่บนตัวของผม ค่อยๆจูบผม
“คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดนะ ฉันจะไม่หาเรื่องตาย ดีไหม?”
“อย่างนั้นคุณก็รีบไปตายเถอะ คุณไม่ตายผู้หญิงของผมคงจะต้องตาย”
“อย่างนั้นก็…..หนึ่งอาทิตย์คุณอยู่กับฉันหกวัน ดีไหม?”
“ขอบคุณขอบคุณ คุณยังอุตส่าห์จำได้เหลือวันอาทิตย์ไว้ให้ผม ช่างน่าขอบคุณจริงๆ……”
คำพูดของเธอนั้นผมไม่สามารถถือเป็นจริงเป็นจังได้ ผมพูดของผมเธอเองก็ไม่สามารถถือเป็นจริงเป็นจังได้เช่นกัน ภายใต้การหยอกล้อและคลุมเครือนี้ พวกเราเอาใจกันตลอดทั้งช่วงเช้า
ตอนกลางวันลงจากตึกไปซื้ออาหารด้วยกัน จากนั้นก็กลับเข้ามาผมช่วยเธอทำอาหารเต็มโต๊ะ
เธอยิ้ม เพียงแต่ยิ้มไปยิ้มมาก็ร้องไห้ ขณะที่ร้องไห้อยู่นั้น เธอก็พูดกับผมว่า ‘ขอบคุณ’
ขอบคุณผมที่อยู่เป็นเพื่อนเธอ หรือว่าขอบคุณที่ผมประจบสอพลอไม่ให้เธอไปตายหลังจากกินข้าวเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ผมก็บอกลาเธอ จากนั้นก็มาที่พักของJason
เขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน ในบ้านมีเพียงแค่เฉินหลินเท่านั้น
“ฉันเหมือนว่าจะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง ทำยังไงดี ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบJason แต่เขาดีกับฉันมากจริงๆ ฉันไม่อยากจะทำร้ายเขา”
เฉินหลินดูเหมือนว่าจะค่อนข้างสับสน ผมจับมือข้างหนึ่งของเธอไว้ จากนั้นวางไว้บนโต๊ะ
“นี่เป็นตัวเลขที่คุณคาดการณ์ไว้ตอนแรก ไม่ใช่ห้า แต่เป็นห้าแสน”
ความเสียใจที่กล่าวนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าห้าแสน ก็ไม่คุ้มที่จะเอ่ยออกมาอีก เฉินหลินทำการค้าอย่างมีความสุข ถามผมว่าเมื่อไหร่จะให้เธอ
ถ้ายังไม่เสร็จเรื่อง ผมจะให้เธอได้ยังไง?