ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 659 ผลการทดลองที่ยอดเยี่ยม / ตอนที่ 660 การลงคะแนนเสียงที่เซิร์น

ตอนที่ 659 ผลการทดลองที่ยอดเยี่ยม / ตอนที่ 660 การลงคะแนนเสียงที่เซิร์น

ตอนที่ 659 ผลการทดลองที่ยอดเยี่ยม

ฟองในน้ำสามารถลอยและไหลเป็นระยะตามจังหวะของเสียง เมื่อมันถึงจุดแตกภายในเวลาไม่กี่วินาที ฟองสามารถสร้างอัตราส่วนกำลังอัดเชิงปริมาตรที่หนึ่งต่อหนึ่งล้าน ทำให้สภาพแวดล้อมมีอุณหภูมิและความดันสูงขึ้น เมื่อความดันเสียงมากเพียงพอ การสะสมของพลังงานทำให้ฟองเกิดแสง ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์

ในสภาพแวดล้อมที่มีความดันขับเคลื่อนอากาศที่เหมาะสม ฟองโซโนลูมิเนสเซนส์จะยังคงเป็นทรงกลมเหมือนเดิม การสั่นแบบไม่เชิงเส้นจะเกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นล้านหรือร้อยล้านรอบ เพราะลักษณะเฉพาะของมันทำให้อุณหภูมิของฟิวชั่นควบคุมได้ลดลงมาต่ำกว่าเงื่อนไขที่กำหนด

ณ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง

ห้องปฏิบัติการทางเสียงที่สถาบันฟิสิกส์ถูกครอบครองชั่วคราวโดยทีมฟิวชั่นควบคุมได้ของลู่โจว ภาชนะใสที่มีรัศมีประมาณสามนิ้ววางอยู่บนโต๊ะห้องทดลอง

ภาชนะนี้ถูกเติมด้วยกรดซัลฟิวริกเข้มข้น เครื่องกำเนิดสัญญาณอัลตร้าโซนิคพลังสูงเชื่อมต่อกับภาชนะทั้งสองด้านอุปกรณ์การทดลองที่ซับซ้อนหลายชิ้นวางอยู่รอบๆ และพร้อมสำหรับการเก็บข้อมูลการทดลองแล้ว

เนื่องจากปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที ทำให้กล้องในห้องทดลองไม่สามารถจับแสงที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้โดยเฉพาะช่วงที่ฟองกำลังยุบตัวเป็นขนาดที่เล็กที่สุด

สำหรับการทดลองในครั้งนี้ ลู่โจวยืมระบบการทดลองเฟสล็อกลูปแบบสัดส่วนอินทิกรัลจากสถาบันอะคูสติกสถาบันวิทยาศาสตร์จีนมหาวิทยาลัยจินหลิง

นอกจากจะเป็นเครื่องมือเสียงพิเศษแล้ว ระบบนี้ยังถูกใช้ในการศึกษาระบบโซนาร์ต่อต้านเรือดำน้ำอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะลู่โจวเป็นคนขอเครื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่มีทางที่ผู้บริหารสถาบันอะคูสติกสถาบันวิทยาศาสตร์จีนจะให้ยืมแน่นอน

เชิ่งเซี่ยนฟู่ยืนใกล้กับเครื่องมือการทดลองแล้วมองไปที่ลู่โจว

ลู่โจวพยักหน้า

“มาเริ่มกันเลย”

“โอเค”

เชิ่งเซี่ยนฟู่สูกดลมหายใจเข้าแล้วเดินเข้าไปใกล้คอมพิวเตอร์พร้อมกดที่ปุ่มต่างๆ

หลังจากเกิดเสียงดังหึ่งๆ เครื่องกำเนิดสัญญาณอัลตร้าโซนิคพลังสูงเริ่มปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิคเข้าสู่สารละลาย ทำให้พลังงานมากมายค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมา

เมื่อความดันเสียงในของเหลวอยู่ในระดับความดันบรรยากาศมาตราฐานห้าครั้ง ลู่โจวเริ่มออกคำสั่ง

“เติมซีนอนลงไป!”

“ได้ครับ!”

แก๊สซีนอนถูกฉีดเข้าไป และฟองอากาศค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากก้นภาชนะทีละฟองแล้วหยุดอยู่ที่ตรงกลางของภาชนะ

หลังจากนั้น พลังงานจากตัวส่งอัลตร้าโซนิคค่อยๆ เพิ่มขึ้น ความดันเสียงที่เกิดขึ้นจากฟองก็เพิ่มขึ้นตาม

ขณะที่ความดันเสียงของฟองอากาศอยู่ที่ 15 เท่าของระดับความดันบรรยากาศมาตราฐาน ฟองซีนอนที่ลอยในกรดซัลฟิวริกเข้มข้นเกิดการยุบตัวพร้อมแสงสีขาวม่วง

นักวิจัยยืนล้อมรอบการทดลองด้วยใบหน้าที่มีความสุข

แม้นี่จะเป็นเพียงการทดสอบเครื่องมือการทดลอง แต่ทุกอย่างไปได้ด้วยดีจึงนับว่าเป็นการเริ่มตื่นที่ดี

ฟองที่ลอยอยู่ในของเหลวเกิดแสงเชิงเส้นต่อเนื่องกัน 10 ครั้ง รูปภาพถูกบันทึกด้วยระบบการทดลองเฟสล็อกลูปแบบสัดส่วนอินทิกรัล นักฟิสิกส์อะคูสติกหลายคนที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงเริ่มวิเคราะห์รูปภาพและคำนวณอุณภูมิและพลังการเรืองแสง

หลังจากที่ลู่โจวได้ดูข้อมูลการทดลองแล้วเขาเหลือบตาไปมองเชิ่งเซี่ยนฟู่

กำลังความสว่างอยู่ที่ประมาณ 130 วัตต์ แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็น่าประหลาดใจมาก อุณหภูมิพื้นผิวฟองที่สูงที่สุดอยู่ที่ 1.5 ล้านเคลวิน ราวกับว่าดวงอาทิตย์กำลังลอยอยู่ในสารละลาย

แน่นอนว่าข้อมูลสามารถคลาดเคลื่อนได้

การยุบตัวของฟองเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว จึงไม่สามารถวัดอุณหภูมิที่แน่นอนได้ อย่างน้อยก็พอจะช่วยลดข้อมูลผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้

“ขั้นตอนแรกของการทดลองประสบผลสำเร็จ มาดูขั้นตอนต่อไปกัน” ลู่โจวพูด เขาวางรายงานการทดลองบนโต๊ะและพูดกับเชิ่งเซี่ยนฟู่ “เพิ่มแผ่นป้องกันเข้าไปในภาชนะและเตรียมฉีดก๊าซดิวเทอเรียม-ทริเทียมเข้าไป”

เชิ่งเซี่ยนฟู่พยักหน้าจริงจังและพูด “โอเคครับ”

ขั้นตอนแรกในการทดลองคือการทดสอบว่ารูปแบบการติดตั้งอุปกรณ์เหมาะสมหรือไม่ และสามารถสร้างความดันเสียงได้เพียงพอเพื่อให้เกิดอุณหภูมิสูงกว่าหนึ่งล้านเคลวินไหม

ดูเหมือนว่าการทดลองของพวกเขาประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก

ซีนอนที่ลอยอยู่ในของเหลวถูกบีบอัดจนเหลือเพียงจุดเล็กๆ และภายในจุดนั้นคือพลังงานที่เทียบเท่ากับดาวดวงเล็กๆ

แม้ว่าอุณหภูมิของมันจะถึงล้านแต่ก็ยังห่างไกลจากฟิวชั่นอิกนิชั่นควบคุมได้อยู่ อุณหภูมิไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เกิดฟิวชั่นอิกนิชั่น

ฟองไม่เพียงแค่มีอุณหภูมิสูงหลายล้านเคลวิน แต่ระดับความหนาแน่นก็สูงมากเช่นกัน

ความหนาแน่นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น

นักวิจัยในห้องทดลองวางภาชนะใสในกล่องสีดำที่ทำมาจากวัสดุกําบังนิวตรอน พวกเขาปิดระบบเฟสล็อกลูปแบบสัดส่วนอินทิกรัลและเริ่มตั้งค่าการทดลองอีกครั้ง

ในเวลานี้ซีนอนถูกเปลี่ยนเป็นแก๊ซดิวเทอเรียม-ทริเทียม พลังอัลตร้าโซนิคก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

การทดลองกำลังจะเริ่มขึ้น

แม้ว่านักวิจัยไม่สามารถมองเห็นด้านในเพราะกล่องสีดำที่บังอยู่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา

บางสิ่งบางอย่างไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตาเปล่า เพราะข้อมูลที่ได้จากการทดลองย่อมน่าเชื่อถือมากกว่า

นักวิจัยนำกรดซัลฟิวริกเข้มข้นออกมาจากภาชนะและเริ่มวิเคราะห์ความเสียหายจากรังสีและอัตราฟลูเอ็นซ์นิวตรอน

ลู่โจวยืนรอผลการทดลองเงียบๆ ข้างๆ นักวิจัยคนอื่น

สิบนาทีผ่านไป

ในที่สุดผลการทดลองก็ปรากฏขึ้น

“ผลการทดลองมาแล้ว”ครับ นักวิจัยพูดอย่างมาความสุข เขายื่นรายงานการทดลองที่เสร็จแล้วให้ลู่โจวพร้อมพูดด้วยความตื่นเต้น “แม้จะมีอุปกรณ์ป้องกันโลหะนิวตรอน แต่ก็มีหลักฐานมากเพียงพอที่จะบ่งบอกว่าพื้นผิววัสดุถูกโจมตีด้วยนิวตรอน 2.5 MeV ในระหว่างการทดลอง…อัตราฟลูเอ็นซ์นิวตรอนสูงขึ้นเป็น 1.7%

“เราได้รับการยืนยันแล้วว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นเกิดขึ้นจริงๆ “

ทุกคนในห้องทดลองต่างพากันตื่นเต้น และแทบจะส่งเสียงเชียร์ดังๆ ออกมา

โดยเฉพาะเชิ่งเซี่ยนฟู่

เขากำหมัดแน่น

มันอาจสำเร็จ

ไม่มีใครตื่นเต้นไปมากกว่าเขาอีกแล้ว

แม้ว่าผลการทดลองจะออกมาดีขนาดไหน แต่อัตราฟลูเอ็นซ์นิวตรอนยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

พวกเขาแค่สำรวจสัญญาณของการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ผลการทดลองที่ได้ในการติดตั้งสำหรับปฏิกิริยาฟิวชั่นควบคุมได้ที่เสถียรได้

ศาตราจารย์หลี่ชางเซี่ยจ้องข้อมูลที่อยู่ในรายงานทดลองและพูด “อัตราฟลูเอ็นซ์นิวตรอนต่ำเกินไป ถ้าเราต้องการให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นควบคุมได้ที่เสถียร…ขนาดของคลื่นเสียงอาจไม่เพียงพอ”

ลู่โจวพยักหน้าอย่างจริงจังและพูด “คุณพูดถูก การติดตั้งตอนนี้นับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นควบคุมได้ที่เสถียร ผมคิดว่าเราต้องเปลี่ยนของเหลว”

ศาตราจารย์หลี่ชางเซี่ยถาม “คุณตั้งใจว่าจะใช้ของเหลวประเภทไหน”

ลู่โจวส่ายหัวและพูด “ไม่รู้สิ แต่ผมพอจะมีไอเดียอยู่บ้าง “

“ไอเดียเหรอ? “

“ใช่ครับ” ลู่โจวพยักหน้าและพูด “เนื่องจากของเหลวดั้งเดิมมีคุณสมบัติไม่เพียงพอภายใต้เงื่อนไขอุณหภูมิห้อง ทำไมเราไม่ลองโลหะเหลวล่ะ ผมว่าของเหลวลิเธียมก็คุ้มค่าที่จะลองนะ…”

………………………………………………

ตอนที่ 660 การลงคะแนนเสียงที่เซิร์น

ขณะที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงมีการทำการทดลองเรื่องปรากฏการณ์โซโนลูมิเนสเซนส์และฟิวชั่นเสียง สำนักงานใหญ่เซิร์นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็กำลังจัดการประชุมเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้น

จำนวนคนที่มาเข้าร่วมประชุมไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงและจำนวนคนที่มากกว่าครึ่งก็คือผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล

ถ้ามีการระเบิดห้องประชุมนี้ขึ้นมา งานวิจัยฟิสิกส์คงก้าวถอยหลังไปเป็นสิบปีแน่ๆ …

หลังจากที่วิทเทนเข้ามาในห้องประชุม เขาก็เจอที่นั่งในมุมลับๆ ให้ตัวเอง เขามองไปที่นักวิชาการอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ

ปีเตอร์ ฮิกส์!

เจ้าพ่ออนุภาคย่อยของอะตอม

ตั้งแต่ฮิกส์ออกจากเซิร์นและกลับมาอยู่ที่อังกฤษในปี 2013 เขาก็แทบจะไม่ออกสื่อเลย ตอนนี้เขาก็อายุ 91 ปีแล้ว วิทเทนจึงไม่คิดว่าจะเจอฮิกส์ที่นี่

แต่ถึงอย่างไรมันก็ดูสมเหตุสมผล เพราะการประชุมครั้งนี้บ่งบอกถึงอนาคตของฟิสิกส์ และใครก็ตามที่สนใจฟิสิกส์มากๆ คงไม่มีทางพลาดโอกาสนี้เป็นแน่

ยังพอมีเวลาก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น วิทเทนมองนักวิชาการรอบๆ ห้อง ไม่เพียงแค่ปีเตอร์ ฮิกส์ เท่านั้นที่มา แต่ยังมีนักฟิสิกส์ที่รักสันโดษอีกหลายคนที่มา พวกเขานั่งเงียบๆ ในห้องประชุมเพื่อรอการให้ประชมุเริ่ม

“น่าประหลาดใจจัง” เจฟฟ์พูดกับวิทเทนพลางยิ้ม “ไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนเก่าหลายคนที่นี่”

“ใช่” วิทเทนพยักหน้า เขากำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่เสียงทดสอบไมโครโฟนจากด้านหน้าห้องประชุมดังขึ้นมาเสียก่อน

ประธานของเซิร์นยืนอยู่บนเวที เขากระแอมและพูด “เราใช้เวลาในการถกเถียงเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นมานานพอควรแล้ว

“วงการฟิสิกส์ทฤษฎีกำลังรอบทสรุปจากพวกเรา แทนที่จะยืดเยื้อกันไปมากกว่านี้ ถึงเวลาแล้วที่จะแสดงความคิดเห็นให้วงการฟิสิกส์ได้รับรู้…ว่ามันถูกหรือผิดกันแน่”

ประธานหยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ “ผมขอเสนอให้มีการลงคะแนน”

ความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้นในห้องประชุม

ประธานกระแอมและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น

“ใครก็ตามที่เห็นด้วย กรุณายกมือขึ้น”

คนกว่า 70% ในที่ประชุมยกมือขึ้น

เจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ด้านหลังนับจำนวนมือที่ยกและส่งผลการลงคะแนนไปที่หน้าจอบนเวที

ประธานมองผลการลงคะแนนและพยักหน้า เขาส่งสัญญาณให้ทุกคนวางมือลงและพูดต่อ “ใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วย กรุณายกมือขึ้น”

คนมากมายพายกมือขึ้นเช่นเดียวกับตอนแรก

แต่มีเพียง15% เท่านั้นที่ยกมือเพราะไม่เห็นด้วยกับปัญหานี้จริงๆ หลายคนดูลังเลที่จะยกมือราวกับว่าพวกเขาเองก็ไม่มั่นใจในความเห็นของตัวเอง

ประธานมองชายสูงวัยที่นั่งอยู่แถวหน้าของห้องประชุมและถามด้วยความเคารพ “คุณฮิกส์ ผมเห็นว่าคุณยกมือขึ้นสองครั้ง ขอถามได้ไหมครับว่าทำไม”

ศาสตราจารย์ฮิกส์ที่นั่งอยู่แถวหน้า ยืนขึ้นพร้อมร่างกายที่สั่นเทาเล็กน้อย

เขามองไปที่ประธานและพูด “ประธานครับ เหตุผลที่ผมยกมือขึ้นในครั้งแรกเพราะผมไม่เห็นปัญหาในวิทยานิพนธ์นี้ ส่วนที่ยกมือครั้งที่สองก็เพราะผมไม่ต้องการตัดสินใจอะไรไปแบบลวกๆ “

ท่านประธานพยักหน้าและพูด “ผมเข้าใจที่คุณพูดนะ แต่เราถกเถียงเรื่องนี้กันมานานพอแล้ว ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวแต่ใครหลายคนก็คิดว่าถึงเวลาลงคะแนนได้แล้ว”

“ผมไม่คิดว่าเราถกเถียงกันมากเพียงพอ” ศาสตราจารย์ฮิกส์พูด “อย่างแรกเลย ในฐานะผู้สนับสนุนทฤษฎีนี้ เขาควรเป็นคนที่มาอธิบายทฤษฎีนี้อย่างละเอียดและควรตอบคำถามของพวกเราด้วยตัวเขาเอง อย่างไรก็ตามผมได้เข้าไปดูเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยจินหลิง ดูเหมือนว่าศาสตราจารย์ลู่ไม่คิดจะมารายงานเลยด้วยซ้ำ”

คนหลายคนเห็นด้วยกับเขา

แต่คนเกือบครึ่งห้องยกมือเห็นพ้องตรงกันกับฮิกส์

โดยเฉพาะศาสตราจารย์วิลกเซค เป็นอีกคนที่ได้รับรางวัลโนเบล เขาพยักหน้าและแจ้งให้ประธานทราบ

“ผมไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไรหรอกนะครับ แต่ถ้าเขาไม่อยากมาด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็น่าจะส่งนักศึกษาหรือผู้ช่วยมาก็ได้”

การที่นักวิชาการจะส่งนักศึกษาของตัวเองหรือผู้ช่วยมาทำการรายงานทางวิชาการไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เมื่อใดก็ตามที่ศาสตราจารย์ยุ่งกับงานวิจัยหรืออาจจะไม่สนใจอยากจะรายงานเอง พวกเขาก็จะส่งนักศึกษามาแทน

เช่น ชินอิจิ โมชิซูกิ เขาพัฒนาทฤษฎี Teichmüller สากลขึ้นมา เขาเองก็ส่งนักศึกษาสองคนมาทำการรายงานเรื่องการคาดการณ์ ABC ส่วนตัวชินอิจิ โมชิซูกิ เองจะคอยสังเกตการณ์การรายงานผ่านไลฟ์วีดีโอ

การที่ศาสตราจารย์ลู่เดินทางออกจากประเทศจีนในเวลานี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย และนักวิชาการส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ที่นี่ก็รู้เรื่องนั้นดี

แม้ว่าลู่โจวจะออกจากประเทศไม่ได้ อยากน้อยเขาน่าจะส่งนักศึกษามารายงานแทนเขา

“ผมจะถ่ายทอดคำแนะนำของคุณให้ศาสตราจารย์ลู่”

“อย่าเพิ่งคุยเรื่องการรายงานเลย มาคุยเรื่องเนื้อหาวิทยานิพนธ์ดีกว่าไหม มีใครมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีของศาสตราจารย์ลู่เรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นบ้างไหมครับ”

รอบนี้ ไม่มีใครยกมือเลยสักคน

แม้แต่ศาสตราจารย์ฮิกส์ก็ด้วย

ส่วนวิทเทนเอง ก็ยังไม่ได้ยกมือออกเสียงในที่ประชุมเลยสักครั้ง

ประธานมองไปรอบๆ ห้องพร้อมความรู้สึกโล่งใจ รอยยิ้มของเขาค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้า

ถ้านักวิชาการที่มีชื่อเสียงไม่มีข้อคัดค้าน วิทยานิพนธ์นี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

“ดูเหมือนว่าเราได้ข้อสรุปมติมหาชนแล้ว”

“ประวัติศาสตร์จะต้องจดจำวันนี้ เพราะนี่คือก้าวกระโดดครั้งสำคัญสู่ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่”

เขาหยุดครู่หนึ่งและพูดต่อ “การอภิปรายเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นสิ้นสุดลงแล้ว”

“อีกอย่างศาสตราจารย์อีกหลายคน อย่างเช่นวิทเทน เสนอที่จะทำการทดลองตั้งแต่ครึ่งปีหลังไปจนถึงต้นปีหน้าเรื่องการทดลองอนุภาค M และเราต้องจัดเตรียมพื้นที่พลังงานเพื่อทดสอบวิทยานิพนธ์ของศาสตราจารย์ลู่

“ไม่ว่าเราจะหาอนุภาคเจอหรือไม่ ผมเชื่อว่าข้อมูลการทดลองจะช่วยให้เราเข้าใจแบบจำลองมาตรฐาน! “

การประชุมเซิร์นสิ้นสุดลง

ในวันเดียวกันนั้นเองเซิร์นได้ออกคำแถลงการณ์ว่าวิทยานิพนธ์ของลู่โจวเรื่องปัญหาการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และมวลพื้นได้รับการอนุมัติ มีการแถลงการณ์วาระการประชุมในเดือนหน้าพร้อมเปลี่ยนตารางการทดลอง

หน้าหนังสือพิมพ์หลายสำนักลงข่าวนี้

เพราะผลการลงคะแนนของเซิร์น ทำให้เรื่องนี้ดังระเบิด…

……………………………………………………

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท