ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 671 สร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาจากศูนย์ / ตอนที่ 672 ถึงเวลาโชว์เทคโนโลยีที่แท้จริงแล้ว

ตอนที่ 671 สร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาจากศูนย์ / ตอนที่ 672 ถึงเวลาโชว์เทคโนโลยีที่แท้จริงแล้ว

ตอนที่ 671 สร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาจากศูนย์

ลู่โจวใช้เวลาอยู่ที่ศูนย์ประกอบการที่เพิ่งสร้างเสร็จตลอดทั้งวัน เนื่องจากอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์เพิ่งถูกส่งมายังศูนย์ประกอบการ

ทำให้ลู่โจวต้องคอบดูช่างเทคนิคติดตั้งอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ และส่งเสี่ยวไอไปที่เซิร์ฟเวอร์ของศูนย์ประกอบการ

กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ค่ำพอดี

ลู่โจวจองโต๊ะ 12 โต๊ะที่โรงแรมที่หรูที่สุดใกล้ย่านเพอร์เพิล เมาน์เทน เขาชวนวิศวกรและคนงานก่อสร้างรวมไปถึงพนักงานที่ศูนย์ประกอบการทั้งหมดไปทานมื้อค่ำ นี่คือการแสดงความขอบคุณในแบบของเขา

หลังจากทานอาหารเสร็จ ลู่โจวขึ้นรถกลับบ้าน เขากำลังจะหลับแต่เสี่ยวไอส่งข้อความเข้ามาพอดี

เสี่ยวไอ [เจ้านาย มีอีเมลเข้าใหม่]

ลู่โจวดูอีเมลของผู้ส่งและเห็นอีเมลจากบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีน เขาจึงเปิดอีเมลทันที

เนื้อหาในอีเมลสั้นมาก มีแค่ประโยคเดียวเท่านั้น

[เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเฟอร์โรฟลูอิดเสร็จแล้ว]

ลู่โจวลุกลงจากเตียงและสวมสลิปเปอร์ เขาเดินกลับไปที่ห้องทำงานและพิมพ์อะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์

[เปลี่ยนพิมพ์เขียวให้เป็นรหัสลับแล้วส่งมาให้ผม]

ห้านาทีผ่านไป นักวิชาการหวังตอบกลับ

[โอเค]

หลังจากนั้นไม่นานลู่โจวก็ได้รับพิมพ์เขียว

ลู่โจวดาวน์โหลดและถอดรหัสไฟล์ขนาดใหญ่ เขาเปิดแฟ้มและดูพิมพ์เขียวที่ศาสตราจาร์หวังส่งมา

โดยรวมแล้วการออกแบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเฟอร์โรฟลูอิดได้รับอิทธิพลมาจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเฟอร์โรฟลูอิดผางกู่ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบช่องอากาศหรือคุณสมบัติแม่เหล็กชนิดพารายิ่งยวด ทุกอย่างคล้ายคลึงกับผางกู่มาก

ถึงแม้ว่าจะมีส่วนประกอบที่คล้ายกันหลายอย่างแต่บริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนยังต้องการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม

โดยเฉพาะรูปแบบของเครื่องมือวัดปริมาณรังสี เนื่องจากพวกเขานำรูปแบบเครื่องมือวัดปริมาณรังสีแบบโค้งมาใช้ทำให้ช่วยลดขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไป 20% แต่สิ่งที่พวกเขาต้องยอมแลกก็คือประสิทธิภาพการแปลงพลังงานที่น้อยลง อย่างไรก็ตามนับว่าการเสียสละครั้งนี้คุ้มค่าในการสร้างกระสวยอวกาศ

หลังจากที่ลู่โจวได้ดูพิมพ์เขียว เขาคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูด “เสี่ยวไอ”

เสี่ยวไอ [คะ? 0.0]

ลู่โจวใช้เมาส์วาดวงกลมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และพูด “คุณสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเฟอร์โรฟลูอิได้ไหม”

เสี่ยวไอ [ไม่มีปัญหาค่ะเจ้านาย ไม่ต้องห่วงค่ะ! (๑•̀ᄇ•́)و✧]

เสี่ยวไอดูมั่นใจ แต่จะทำได้จริงๆ เหรอ

ลู่โจวลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะเชื่อใจเสี่ยวไอ

“โอเคนะ ผมจะบอกให้ผู้ผลิตส่งวัสดุมา แล้วเรามาดูกันว่าคุณจะผลิตได้จริงไหม”

เสี่ยวไอ [ฉันสัญญาว่าจะทำให้ได้ค่ะ (≧∇≦*)ゝ]

ในเวลาเดียวกัน ที่ปักกิ่ง ห่างออกมาหลายพันไมล์ รถยนต์คันหนึ่งค่อยๆ เข้าไปจอดที่ลานสถาบันวิจัยยุทโธปกรณ์กองทัพเรือ

บุคลากรเก่งๆ หลายคนจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญรวมไปถึงฟิวชั่นควบคุมได้ไว้ใน USB พวกเขาเดินผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตรงเข้าไปยังห้องทดลองกองทัพเรือ

จะต้องใช้วิธีการดั้งเดิมแบบนี้ในการถ่ายโอนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพลังงานฟิวชั่นควบคุมได้เท่านั้น เพราะพลังงานฟิวชั่นควบคุมได้ต่างจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเฟอร์โรฟลูอิด วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดและไม่ทิ้งร่องรอยให้ติดตามได้

ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว

นักวิชาการจางเจียนหรงสวมแว่นตานั่งอยู่ในห้องทดลองเงียบๆ เขาตั้งใจอ่านเอกสารที่เพิ่งพรินต์เสร็จใหม่ๆ อย่างละเอียด คิ้วของเขาขมวดอยู่เรื่อยๆ

หลังจากนั้นสักพัก เขาค่อยๆ วางพิมพ์เขียวลง

“นี่คือแบบจำลองการทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์สำหรับแบตเตอรี่ฟิวชั่นสินะ”

“ครับ” ชายที่ยืนใกล้ๆ นักวิชาการพูด เขาพยักหน้าและพูด “เราส่งของเรียบร้อยแล้ว ช่วยเซ็นชื่อตรงนี้ครับ”

จางเจียนหรงไม่ได้พูดอะไร เขาหยิบปากกาและเซ็นบนเอกสาร หลังจากนั้นเขายื่นเอกสารคืน

ชายคนนั้นพยักหน้าและกลับไปที่ห้องทดลองทันที

เขามาจากกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพปลดปล่อยประชาชน หลังจากที่เขากลับไปแล้วความตึงเครียดในห้องทดลองหายไปด้วย

นักวิจัยสวมแว่นตาที่นั่งตรงโต๊ะทดลองใกล้ๆ กับเขาอดไม่ได้ที่จะกระซิบออกมา “ไม่อยากจะเชื่อเลย…มีสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์เกือบร้อยสถาบันทั่วโลกร่วมมือกันทำโปรเจกต์ผางกู่ พวกเขาใช้เวลาทั้งปีกว่าจะทำสำเร็จ แต่แกนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าสองเมตรอันนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้

“สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเทคโนโลยีทุกประเภทคือการสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาจากศูนย์” นักวิชาการอีกคนพูด “แบตเตอรี่ฟิวชั่นแตกต่างจากเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นของจริง ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายไฟฟ้าหรือประสิทธิภาพของพลังงาน”

“ถ้าดูจากเทคโนโลยีนี้แล้ว กองทัพเรือของเราจะต้องเห็นการพัฒนาขึ้นแน่ๆ ”

“ครับ”

พิมพ์เขียวอยู่ในมือของนักวิชาการจางเจียนหรง ส่วนนักวิจัยคนอื่นได้แต่นั่งคุยกัน

ปกติแล้วคุณจางจะมอบหมายงานให้นักวิจัยหลังจากที่เริ่มทำโปรเจกต์ แต่ละคนก็จะมีหน้าที่แตกต่างกัน ซึ่งก่อนหน้านี้พิมพ์เขียวเป็นเอกสารลับสุดยอด

นักวิชาการจางเจียนหรงจ้องมองพิมพ์เขียวเป็นเวลานาน เขาไม่ได้มอบหมายงานให้ใครทำอะไรเลยเหมือนทุกครั้ง อยู่ดีๆ เขาก็ลุกจากเก้าอี้

“ผมจะไปจินหลิงพรุ่งนี้”

นักวิชาการที่กำลังคุยกันอยู่มองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ

“ไปจินหลิงเหรอ”

จางเจียนหรงพนักหน้าจริงจัง

“ใช่”

“นี่คือวิธีทางเทคนิครูปแบบใหม่ ซึ่งมันต่างจากวิธีที่ใช้กับฟิวชั่นแมกเนติกคอนไฟน์เม้นท์ที่เรากำลังใช้อยู่โดยสิ้นเชิง”

นักวิจัยทุกคนที่อยู่ในห้องทดลองรู้สึกประหลาดใจ

วิธีทางเทคนิครูปแบบใหม่เหรอ

เดิมทีพวกเขาคิดว่าศาสตราจาร์ลู่ใช้เครื่องมือที่คล้ายกับเครื่องมือฟิวชั่นแมกเนติกคอนไฟน์เม้นท์ พวกเขาไม่คิดว่าลู่โจวจะใช้วิธีการทางเทคนิคที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

“ผมต้องไปที่นั่นอย่างปลอดภัยเพราะอย่างไรเสียผมก็ต้องคุยกับศาสตราจารย์ลู่ ผมจะพาคนไปด้วย ส่วนคนอื่นๆ ก็เตรียมตัวให้พร้อม ผมจะเริ่มงานเร็วๆ นี้”

นักวิจัยที่นั่งที่โต๊ะทดลองพยักหน้า

“คุณจะไปเมื่อไหร่ครับ?”

จางเจียนหรงตอบโดยไม่ลังเล “ตอนนี้”

……………………………………

ตอนที่ 672 ถึงเวลาโชว์เทคโนโลยีที่แท้จริงแล้ว

ในหลายๆ กรณีสาเหตุที่นักวิจัยวิทยาศาสตร์ของจีนทำงานวิจัยไม่สำเร็จ ไม่ใช่เป็นเพราะความล้มเหลวของตัวนักวิจัย แต่หลายๆ ครั้งเป็นเพราะภาคอุตสาหกรรมเพราะพิมพ์เขียวที่แตกต่างจากของจริง

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาวิทยาศาสตร์หรือการพัฒนาเทคโนโลยี ทั้งสองอย่างนี้ต้องก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน

ลู่โจวหวังว่าเขาจะสามารถจดจ่อกับงานวิจัยทางทฤษฎี ส่วนในเรื่องของผลิตภัณฑ์ทางการวิจัยก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่น

แต่ถ้าเขาทำเช่นนั้นจริงๆ ที่สนใจอยู่กับแค่งานวิจัยทางทฤษฎี คงใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าที่งานวิจัยจะมีชีวิตขึ้นมา

เช้าวันต่อมา ด้านนอกศูนย์ประกอบการกระสวยอวกาศ

หลังจากหวังเผิงจอดรถ เขามองไปที่อาคารและถาม “คุณวางแผนจะทำอะไรต่อหลังจากที่กระสวยอวกาศขึ้นสู่อวกาศสำเร็จ”

หลังจากได้ยินคำถามนี้ ลู่โจวยิ้ม

“ผมยังไม่รู้เลย อาจจะทำสถานีสังเกตการณ์ดาราศาสตร์”

“สถานีสังเกตการณ์ดาราศาสตร์เหรอ” หวังเผิงมองหน้าเขาและพูด “คุณสนใจดวงดาวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“สถานีสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ไม่ได้มีไว้สำหรับดูดาวเท่านั้น มันจะมีสาขาฟิสิกส์สาขาหนึ่งเรียกว่าดาราศาสตร์ฟิสิกส์ สำหรับนักฟิสิกส์ทฤษฎีแล้ว การทดลองคือวิธีเดียวที่จะพิสูจน์หลักฐาน แต่จริงๆ แล้วการพิสูจน์หลักฐานไม่ใช่วิธีเดียว โดยเฉพาะกับปัญหาที่อยู่เหนือความรู้ทางเทคนิคที่เรามี วิธีที่ประหยัดและได้ผลจริงๆ คือการมองหาร่องรอยในอวกาศ”

จริงๆ แล้วการค้นพบที่ยิ่งใหญ่หลายๆ เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเพราะวิธีนี้

ตัวอย่างเช่นคลื่นความโน้มถ่วงที่ได้รับความสนใจมากๆ ก็เป็นผลงานจากงการสำรวจฟิสิกส์ดาราศาสตร์ คลื่นความโน้มถ่วงเกิดจากการสำรวจหลุมดำสองหลุม ที่ห่างกัน 1.3 ล้านปีแสง และถูกผสมรวมเข้าด้วยกัน

หวังเผิง “ฟังดูเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรเลย”

“นี่แหละคืองานวิจัยทางวิทยาศาสตร์” ลู่โจวปลดเข็มขัดและถาม “คุณอยากเข้าไปดูด้านในกับผมไหม”

หวังเผิง “ผมเข้าไปด้านในได้เหรอครับ”

ลู่โจวยิ้ม

“เข้ามาสิถ้าคุณต้องการ มันก็แค่พวกเครื่องมือโลหะ ไม่มีอะไรน่าชื่นชมหรอก”

หลังจากที่หวังเผิงลงจากรถ เขาตามลู่โจวไปที่ศูนย์ประกอบการกระสวยอวกาศ

ถ้ามองจากด้านนอกศูนย์ประกอบการถูกล้อมด้วยกำแพงสูง ลวดหนาม และพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ถือกระบองไฟแรงสูงในมือ แต่เมื่อเข้ามาด้านในศูนย์ประกอบการไม่ได้ต่างจากศูนย์เครื่องจักรที่อื่นเลย

พวกเขาเดินมาจนถึงกลางโรงงาน

พนักงานที่สวมใส่หมวกนิรภัยเดินตรงมาที่พวกเขา

“วัสดุจากบริษัทจ้งซานซินฉายมาถึงแล้วครับ ส่วนนี่คือรายชื่อของวัสดุ”

หลังจากลู่โจวได้รับเอกสารจากพนักงาน เขาตรวจสอบเอกสารว่าวัสดุที่สำคัญทั้งหมดมาถึงแล้วจริงๆ แล้วหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อ

“บอกคนที่โกดังให้นำวัสดุมาที่นี่เลยนะ”

“โอเคครับ!”

พนักงานพยักหน้าและรีบเดินไปที่โกดัง

ลู่โจวส่งสัญญาณไปที่หวังเผิง และพวกเขาก็เดินต่อไปรอบๆ โรงงาน

หวังเผิงมองอาคารโรงงานรอบๆ

ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ ของทุกอย่างยังอยู่ในกล่องอยู่เลย แต่ตอนนี้มันถูกวางอย่างเป็นระเบียบภายในอาคาร

สิ่งเดียวที่เขาไม่เข้าใจก็คือเครื่องมือทุกอย่างอยู่ที่นี่ แต่พนักงานไปไหนกันหมด

เครื่องจักรพวกนี้ทำงานได้เองเหรอ

หวังเผิงสับสน เขามองไปรอบๆ โรงงานก่อนจะมองที่ลู่โจว

“งานเริ่มวันนี้เหรอครับ”

ลู่โจวยพยักหน้าและตอบสั้นๆ

“ใช่ บริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนส่งพิมพ์เขียวมาให้เมื่อวาน ผมว่าจะลองทดสอบดู”

หวังเผิงอดไม่ได้จึงถามต่อ

“แล้วทำไมไม่มีพนักงานเลยครับ”

ลู่โจวยิ้มและตอบ “เพราะเราไม่ต้องการพนักงาน”

หวังเผิงนิ่งไปครู่หนึ่งเพราะเขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าจริงๆ แล้วลู่โจวหมายความว่าอะไร

เขาเห็นรถขนส่งคันใหญ่จอดอยู่ที่จุดลงของ

หลังจากนั้นรถลำเลียงสินค้าคันเล็กๆ ก็เคลื่อนที่เข้ามาราวกับมดงาน รถเหล่านั้นรวมตัวกันที่กองวัสดุ เพื่อหยิบ เคลื่อนย้าย และจัดวางวัสดุ ช่างเป็นภาพที่น่าปวดหัวจริงๆ

แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น

รถลำเลียงสินค้าเป็นเหมือนเซลล์เม็ดเลือดในหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ส่งสารเคมีที่สำคัญเข้าสู่อวัยวะภายใน

หลังจากนั้นไม่นาน แผ่นอลูมิเนียมถูกหล่อเป็นโครงเครื่องปั่นไฟ โครงนั้นจะถูกเคลื่อนย้ายไปที่หุ่นยนต์อีกเครื่อง

แล้วแขนกลของหุ่นยนต์ก็ทำการประกอบโครงโลหะด้วยอุปกรณ์เครื่องปั่นไฟ เช่น ขาค้ำยันหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความร้อน พวกมันทำงานอย่างความรวดเร็ว หลังจากนั้นพวกเขารอให้หุ่นยนต์ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าขนส่งชิ้นส่วนอื่นๆ …

ขั้นตอนการผลิตใช้โครงข่ายประสาทเทียมวิธีการเรียนรู้แบบอัตโนมัติด้วยการเลียนแบบประสาทของมนุษย์ และตัวเซ็นเซอร์ การผลิตทุกขั้นตอนถูกควบคุมโดยปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ขั้นตอนการผลิตเดียวที่ต้องใช้แรงคนคือการขนสินค้าลงจากรถลำเลียงสินค้า

สีหน้าของหวังเผิงที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างๆ ลู่โจวไม่ได้เปลี่ยนจากเดิมมากนัก แต่ในใจของเขากลับรู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากนั้นสักพัก เขาพึมพำ “ถ้าหุ่นยนต์พวกนี้กลายเป็นกำลังหลักขึ้นมา คนต้องตกงานกันเป็นแถวแน่ๆ ”

ลู่โจวยิ้ม

“คุณก็คิดมากเกินไป ขนาดในประเทศที่พัฒนาแล้ว การจะทำให้อุปกรณ์พวกนี้เป็นที่นิยมยังเป็นไปไม่ได้เลย อีกอย่างถ้าวันหนึ่งมันกลับเป็นที่นิยมจริงๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะ”

การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตจะช่วยทำให้ชนชั้นแรงงานอยู่ในระดับที่สูงขึ้น แม้ว่ามันอาจจะทำให้เกิดปัญหาทางสังคมในระยะเวลาสั้นๆ แต่มันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความเจริญในระยะยาว

ลู่โจวกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่ช่างเทคนิคเดินเข้ามาในโรงงานพอดี

“ศาสตราจารย์ครับ มีคนมาถามหาคุณอยู่ด้านนอก”

ลู่โจวมองไปที่ช่างเทคนิค

“ใครเหรอ”

“พวกเขาบอกว่ามาจากสถาบันวิจัยยุทโธปกรณ์กองทัพเรือ ผมคิดว่าคนที่เป็นหัวหน้าคือนักวิชาการจางเจียนหรง”

นักวิชาการจางเจียนหรงเหรอ

ลู่โจวจำได้ลางๆ ว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ไม่รู้ว่าจากที่ไหน

เขาจำได้ว่าชายสูงวัยคนนี้เคยทำงานวิจัยพลังงานเรือรบและเป็นศิษย์เก่าห้องปฏิบัติการวัสดุก่อสร้างแห่งสถาบันฟู่หยาง และยังเป็นเพื่อนของหลี่เจี้ยนกังด้วย

ชายสูงวัยคนนี้อุตส่าห์เดินทางมาจากปักกิ่ง อย่างน้อยลู่โจวควรแสดงความเคารพต่อเขา

ลู่โจวฝืนใจเดินออกมาจากเครื่องมือโรงงานและมองไปที่ช่างเทคนิค

“พาผมไปที”

…………………………………………..

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท