ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 79

ตอนที่ 79

สัปดาห์แรกของการเปิดเทอมผ่านไป และกรีลก็ไม่ได้สอนศิลปะการต่อสู้ใดๆ ให้กับนักเรียนในคลาส

แต่ได้มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงแกนมานา เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซับมานาของทุกคนอย่างช้าๆ ทำให้นักเรียนทุกคนมีความเร็วในการดูดซับเพิ่มมากขึ้น

เจสันเป็นเด็กนักเรียนที่น่าประหลาดใจที่สุด ในขณะที่เจสันเลือกจุดที่ดีที่สุดในการดูดซับมานา ทำให้การดูดซับมานาของเจสันนั้นรวดเร็วมากอย่างน่าตกใจ

แต่เนื่องจากเจสันยังไม่คุ้นชินกับการไหลเวียนมานาของเมืองไซโรที่หนาแน่น เจนสันจึงมีปัญหาในการดูดซับมานาอย่างต่อเนื่อง มันเป็นการรวบรวมมานาเพื่งมุ่งเน้นการหมุนเวียนมานาไปตามช่องมานาของเขาและดูดซับเข้าสุ่แกนมานาในเวลาเดียวกันมันก็นานกว่า 2 ชั่วโมง ในขณะที่คนอื่นๆ ทำอย่างช้าๆ และ สม่ำเสมอแต่ดูเหมือนเจสันจะต้องการมากยิ่งขึ้น

เจสันไม่จำเป็นต้องใช้หินมานาเพื่อเพิ่มมานาในสภาพแวดล้อมเพราะเขาไม่สามารถจัดการมันได้ เมื่อนึกถึงวันแรกที่พัฒนาเข้าสู้มือใหม่ระดับ 6 เจสันรู้สึกถึงแรงบันดาลและความมุ่งมั่นอย่างมาก ความเร็วในการดูดซับมานาของเจสันเพิ่มขึ้นเนื่องจากมานาในเมืองไซโรที่มีความหนาแน่สูงและตอนนี้ศักยภาพของเจสันก็เพิ่มขึ้นรื่อยๆ อย่างช้าๆ

คนอื่นๆ รู้สึกเหมือนเจสันเป็นปีศาจ เพราะเจสันไม่สนใจสภาพแวดล้อมและดูดซับมานาอย่างตะกละตะกลามรวมกับว่าเป็นศูนย์กลางของโลก การแข็งแกร่งขึ้นคือความทะเยอทะยานของเจสันและเขาเองก็ไม่สนใจคนที่อยู่รอบตัว ไม่มีเพื่อคนไหนเข้าใกล้เจสัน ในขณะที่ดูดมานา เพราะเนื่องจากรัศมี 3 เมตร รอบตัวเจสันมานาได้ดูดซับจนเบาบางมาก

แม้แต่กรีลก็ประหลาดกับการดูดซับมานาของเจสันที่รวดเร็ว และกรีลยังสงสัยอีกว่ามือใหม่ระดับ 6 สามารถควบคุมได้หลากหลายอย่างพร้อมกันได้โดยไม่ได้รับการฝึกฝนได้อย่างไร เทคนิคในการพัฒนาความคิดและสมองนั้นหายากและมีเพียงชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนเทคนิคดังกล่าวได้

แต่เมื่อเห็นเจสันสามารถรวบรวมและเปลี่ยนแปลงมานาได้อย่างรวดเร็ว กรีลก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก เจสันสามารถทำแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อเขาอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญ ในขณะที่จิตได้รับการขัดเกลาอย่างต่อเนื่องกับการพัฒนาในแต่ละครั้ง

จนกระทั่งกรีลรู้ว่าเจสันเป็นคนพิเศษ แต่ละวันที่ผ่านไปยิ่งทำให้กรีลประหลาดใจมากขึ้นเกี่ยวกับเด็กหนุ่มผมดำเงาที่มีดวงตาสีทอง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่กรีลยังพบว่าแปลก

เจสันมาเรียนในวันพุธพร้อมกับพาราสกอร์ขนาดแรกเกิดสีเหลืองอมเขียวขนาด 1 เซนติเมตรในผมของเขา ซึ่งมันแทนจะมองไม่เห็นหากมันไม่ได้แผ่มานาบางส่วนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กรีลถามเจสันเกี่ยวกับเรื่องนี่ เจสันก็ตอบว่ามันคือสัตว์พันธะของเจสันซึ่งทำให้กรีลตกใจ

พาราสกอร์ขนาดเล็กเป็นเพียงสัตว์ระดับ 3 ดาว เมื่อเติบโตเต็มที่และไม่มีประโยชน์สำหรับเจสัน ในขณะที่เจสันนั้นแข็งแกร่งกว่าสัตว์ระดับ 3 ดาวส่วนใหญ่อยู่แล้ว การเติบโตของสัตว์ตัวเล็กระดับ 3 ดาว จะไม่สำคัญ

กรีลสรุปได้ว่าเจสันมีความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์ระดับ 5 ดาวที่มีความยอดเยี่ยม และอาจจะเทียบเท่ากับสัตว์ร้ายที่ตื่นขึ้นในระดับต่ำ ในขณะที่เจสันอยู่ในขั้นมือใหม่ระดับ 6 ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด

บางครั้งขุนนางชั้นสูงหรือเด็กๆ จากคาเนียร์ สามารถทำเช่นนี้ได้ แต่ต้องเป็นระดับอัจฉริยะ นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมกรีลถึงเข้าใจเหตุผล ยิ่งกว่านั้นทำไมเจสันถึงเลือกทำพันธะกับสัตว์ร้ายที่ไม่มีศักยภาพ

สำหรับ ทีล กรีล แม้แต่สัตว์ที่วิวัฒนาการแล้วยังมองว่ามันไร้ประโยชน์เพราะพลังวิญญาณของกรีลสูงกว่า 500 เมื่อได้รับการปลุกวิญญาณตอนอายุ 14 ปี กรีลไม่สามารถจับความคิดของเจสันได้และรู้สึกผิดหวังที่เจสันจะสูญเสียศักยภาพของตัวเองไป แม้ว่าเจสันจะไม่ต้องการหินมานาเพื่อใช้ในการดูดซับมานา

สัตว์พันธะใหม่ของเจสัน พาราสกอร์ดูดซับมานาบริสุทธิ์รอบตัวของมันอย่างตะกละตะกลามเพื่อเร่งกระบวนการให้ตัวมันนั้นแข็งแกร่งและเร่งการลอกคราบ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างอาร์เทมิสและพาราสกอร์ที่เจสันสังเกตุเห็น

อาร์เทมิสสามารถดูดซับและย่อยมานาได้มากเท่าที่มันต้องการแม้ว่ามันจะเป็นอันตรายในขณะที่พาราสกอร์สามารถดูดซับมานาได้เพียงเล็กน้อยและมันจะหยุดเมื่อได้รับมากจนเกินไป

วันสุดท้ายของสัปดาห์เมื่อเจสันฝึกเทคนิคนรกสวรรค์เสร็จ เจสันมองไปที่พาราสกอร์และคิดว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการทดลองในครั้งแรก ตอนนี้พาราสกอร์เกือบจะมีขนาดตัวเท่ากับ 2เวนติเมตรและนั้นเป็นการลอกคราบครั้งแรกของมัน เจสันให้มันนอนลงบนโต๊ะ และทำการหยิบเข็มฉีดยาที่ใช้สำหรับผลไม้วิเศษ จากนั้นก็หยิบกล่องนีโอซิดขึ้นมา พร้อมกับผลไม้วิเศษ 2 ผล ที่อยู่ด้านใน เจสันเลือกหยิบลูกบาคูรีสีขาวออกมาและปิดกล่อง ภายในผลบาคูรีสีขาวมีน้ำผลไม้ที่เจสันต้องใช้กับพาราสกอร์

มีเหตุผลหลายประการสำหรับการตัดสินของเจสัน เหตุผลที่ชัดเจนที่สุดคือพาราสกอร์ที่มีความยาว 2 เซนติเมตรจะไม่สามารถกลืนผลไม้ขนาดเท่ากำปั้นได้ ในขณะที่เหตุผลที 2 ที่เจสันทำนั้นที่น้ำผลไม้ที่ส่องแสงสีดำอ่อนๆ ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ที่มีระดับต่ำ

โดยหวังว่ามันจะทำให้พาราสกอร์เจ็บปวดน้อยลง เจสันเจาะเข็มผ่านเปลือกของผลบาคูรีสีขาว และดูน้ำของมันออกมาจนหมด ซึ่งได้จำนวนเข็มถึง 3 หลอด เจสันได้ใช้เพียงหลอดเดียว ในขณะที่เก็บหลอดอื่นๆ เอาไว้

หาการทดลองในวันนี้สำเร็จ เจสันจะเลี้ยงพาราสกอร์ด้วยผลบาคูรีสีขาวทุกวันจนกว่ามันขะมีขนาดใหญ่พอที่จะกินผลไม้ชิ้นเล็กๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ แม้ว่าเผ่าของพาราสกอร์จะถูกเรียกว่าแมงป่องขนาดเล็ก โดยมันจะมีขนาดโตเต็มวัยเพียง 10 เซนติเมตรแต่เจสันมั่นใจว่า ขนาดของมันจะไม่อยู่ที่ 10 เซนติเมตรแน่นอนเมื่อมันพัฒนาไปในอันดับที่สูงกว่า

เจสันมั่นใจในการทดลองนี้ และเจสันได้หยดน้ำผลบาคูรีลงบนฝ่ามือ 2-3 หยด ตรงหน้าพาราสกอร์ เมื่อพาราสกอร์ได้กลิ่นน้ำหวานหอมๆ ที่อยู่ตรงหน้ามันก็กินจนไม่เหลือสักหยด หลังจากนั้นมันก็มองไปที่เจสันอย่างตะกละตะกลาม ตอนแรกเจสันรู้สึกแปลกๆ แต่ก็รู้สึกได้ว่าพาราสกอร์ต้องการขอมากว่านี้

ซึ่งทำให้เจสันมีความสุข เจสันจึงป้อนมันด้วยเข็มฉีดยาจนน้ำหวานที่อยู่ในหลอดนั้นหมดภายในไม่กี่นาที เจสันเริ่มเห็นสัตว์พันธะตัวเล็กดิ้นด้วยความเจ็บปวด และดิ้นไปรอบๆ ดวงตามานาของเจสันมองเห็นความเจ็บปวดของมัน ทำให้เขาเป็นกังวลเล็กน้อย

เจสันรู้สึกขอโทษที่ทำอะไรโง่ๆ อย่างกระทันหัน ความกังวลของเจสันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อเห็นพาราสกอร์หยุดนิ่งหลังจากที่มันิ้นด้วยความเจ็บปวดเพียงไม่กี่นาที ไม่มีความผันผวนของมานาที่ปล่อยออกมาจากพาราสกอร์แม้แต่นิดเดียว เจสันกังวลเป็นอย่างมาก เจสันรู้สึกได้ว่าสัตว์พันธะของเขานั้นไร้ชีวิตไปแล้ว

แต่หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจสันเริ่มสังเกตเห็นความผันผวนของมานนาที่แผ่ออกมาจากพาราสกอร์ มันดิ้นอย่างรุนแรงเพื่อลอกคราบเปลือกนอกของมันซึ่งมีสีเหลืองอมเขียวและมีจุดดำหน้า

ตอนนี้พาราสกอร์มีขนาด 3 เซน และเจสันสังเกตุว่าเปลือกภายนอกของมันเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อยจากสีเดิน เมื่อตรวจสอบแกนมานาของมันซึ่งยังอยู่ในระดับสัตว์ 1 ดาวและไม่มีออร่าใดๆ ที่แผ่ออกมา แต่เจสันได้เห็นว่ามานาภายในของมันแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้องเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

‘ ได้ผลหรือไม่ ‘

เจสันไม่รู้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันเติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยแม้ว่าจะเป็นสัตว์ระดับ 1 ดาวก็ตาม สีของเปลือกมันก็ดูเปลี่ยนไปและมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น มีสัญญาณเล็กๆ ที่บงบอกว่ามันจะไม่ใช่แค่พาราสกอร์ทั่วไปที่มีระดับ 3 ดาว แต่มันจะพัฒนาเป็นสัตว์ร้ายที่มีอันสูงที่มากขึ้น

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท