ในตอนเริ่มพิธี เจสันไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ และกำลังคิดว่า กรีลนั้นพูดเกินความเป็นจริงถึงผลข้างเคียงจากผลปีศาจวัลคีรีส์ชิล์ เมื่อหมอกและละอองน้ำสีเงินคลุมร่างกายของเจสัน
หลังจากที่ห่อหุ้มอย่างสมบูรณ์และร่างกายของเจสันถูกปิดผนึก เจสันเเริ่มรู้สึกคันตามร่างกายเล็กน้อย และอึดอัด อาการคันเริ่มมากขึ้นเพียงผ่านไปไม่กี่วินาที จากนั้นเจสันเริ่มรู้สึกเหมือนโดนมีดแทงเข้าไปเซลล์ในร่างกาย
เจสันไม่อาจจดจ่อกับการขัดเกลาของสมองได้ หรือมุ่งสมาธิไปที่การแยกจิต เนื่องจากความเจ็บปวดที่แผดเผาเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมเมื่อเวลาเริ่มผ่านไป เจสันไม่ได้รู้สึกเพียงว่ามีมีดมาทิ่มแทงอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังรู้สึกเหมือนโดนถลกหนังทั้งเป็น ไฟไห้มผิวหนัง อึดอัดเหมือนกำลังจมน้ำ หรือรู้สึกเหมือนร่างกำลังโดนฉีกออก และยังรู้ถึงความเจ็บปวดด้วยวิธีการต่างกว่าร้อยแบบที่กำลังทรมาณเจสัน
เจสันไม่เคยเจ็บปวดมากขนาดนี้มาก่อน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ”
เจสันร้องออกมา พร้อมกับเลือดที่ไหลออกจากตา ขณะที่กรีลมองเห็นทุกอย่างจากภายนอก อย่างวิตกกังวล
“โฟกัส เจสัน จงโฟกัสไปในสิ่งที่คุณต้องการที่จะทำ มันจะทำให้ความเจ็บปวดลดน้อยลง”
กรีลพยายามพูดดึงสติของเจสัน ในขณะที่เจสันโดนความเจ็บปวดเข้าปกคลุม ทำให้เจสันไม่ได้ยินเสียงของกรีลเลยแม้แต่น้อย
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เจสันที่จมอยู่กับความเจ็บปวด ยังไม่ได้เริ่มการพัฒนาศักยภาพของสมองหรือการแยกจิต
ในที่สุด หลังจากที่เจสันพยายามรวบรวมความคิดและสติภายใต้ความเจ็บปวด เจสันก็สามารถบังคับมานาเหลวที่อยู่รอบตัว ซึ่งเจสันดูดซับมันทันที เจสันรู้ว่ามันจะต้องเจ็บปวด แต่ไม่คิดว่ามันจะมากมายและทรมาณมากขนาดนี้
โชคดี ที่อย่างน้อยเจสันได้เตรียมใจที่จะรับมันไว้แล้ว มานาเหลวกำลังถูกดูดซับเข้าไปในดวงตาของเจสัน และแสงสีทองเป็นประกายเริ่มที่จะเปล่งประกายออกมา มันส่องสว่างผ่านม่านหมอกที่ปกคลุมตัวของเจสัน
จนกระทั่งกรีลสังเกตเห็นดวงตาที่ส่องประกายของเจสัน จึงดุเหมือนว่าความเจ็บปวดที่เจสันต้องเผชิญนั้น ลดลงเป็นอย่างมาก ทำให้กรีลใจชื้นขึ้นเล็กน้อย
`เขาทำได้!`
ความเจ็บปวดของเจสันถึงแม้จะลดลง แต่มันก็หยั่งลึกเข้าไปในร่างกาย แต่เจสันก็สามารถสงบลงได้ชั่วขณะ ดวงตาของเจสันดูดซับมานาเหลวอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเจสันหยุดดูดซับมันเพราะเนื่องจากเขาคิดว่ามันเพียงพอแล้วหลังจากที่ดูดซับมันมาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
หลังจากนั้นเจสันได้ทำการแยกจิตตามคำอธิบายในคู่มือในขั้นตอนแรกอย่างระมัดระวัง จิตใจที่สงบลงของเจสัน ทำให้เจสันสามารถจดจ่ออยู่ในกระบวนการแยกจิตได้อย่างเต็มที่
หลายชั่วโมงผ่านไป ความเจ้บปวดที่กำลังคลาย ได้เพิ่มทวีคูรขึ้นแต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรกับเจสันได้อีกแล้ว ถึงแม้ความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้น แต่จิตใจของเจสันยังคงโฟกัสกับการแยกจิตอย่างคงที่
แสงแดดยามเช้าได้ส่องผ่าน หน้าต่าง กรีลยังคงรอเจสันอย่างอดทน และกรีลได้บอกให้ครูคนอื่นไปสอนศิลปะการต่อสู้ให้เด็กนักเรียนของเขาแทน ระหว่าง 2-3 วันนี้ โดยไม่ได้บอกเหตุผล
การที่จะปล่อยเจสันให้อยู่คนเดียวนั้น กรีลไม่สามารถทำได้ แต่นั้นไม่ได้หมายถึงการที่จะบอกคนอื่นว่าเจสันกำลังทำอะไร ถ้ามีคนอื่นรู้ คนอื่นๆ จะมองว่ากรีลนั้นโหดร้ายและป่าเถื่อน ที่ให้เด็กวัยรุ่นที่อยู่ในระดับมือใหม่กินผลปีศาจวัลคีรีส์ชิล์ด ซึ่งมันเป็นเรื่องที่บ้ามาก
และเขาคงถูกเรียกว่าปีศาจ และถูกล่าหัว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจสัน แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว เพราะเจสันกำลังดิ้นรนและแทบจะจดจ่ออยู่กับความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ
เวลาผ่านไปช้า สำหรับเจสันเหมือนว่าเขากำลังจะตายครั้งแล้วครั้งเล่า เจสันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่เจสันรู้สึกว่ามันยาวนานเหมือนมันจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุด
สิ่งเดียวที่เจสันยึดมั่น คือเจตจำนงในการแยกจิตแรกให้สำเร็จ เวลาได้ผ่านเลยไป ในที่สุดเจสันก็สามารถปับแต่งสมองของตัวเองจนเสร็จ และรู้สึกว่าความรู้สึก นึก คิด การวิเคราะห์ของเจสันนั้นเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และยิ่งไปกว่านั้นหลังจากนี้คือการแยกจิตออกมา
ถ้าเปรียบจิตเหมือนเป็นเค้ก ตอนนี้เจสันสามารถหั่นมันได้เพียง 1/100 และสร้างเอกภาพเป็นของมันเอง ขั้นตอนนี้ยากกว่าขั้นตอนแรก เนื่องจากความเจ็บปวดมันไม่ได้ลดลงเลยและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเจสันจะแยกจิต
ขณะที่กำลังเสียสมาธิและสติ ดวงตาสีทองของเจสันก็ส่องสว่างอีกครั้ง มันทำให้เจสันสงบลงเล็กน้อย ก่อนที่ความเจ็บปวดจะพุงทยานขึ้นอีกครั้ง เจสันไม่แน่ใจว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว ที่ความเจ็บปวดได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่มันคลายลง เจสันเริ่มสร้างพื้นที่สำหรับจิตแยกของเขา
เนื่องจากเจสันผ่อนคลายลงอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่น่าสยดสยองก้ได้พุ่งขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเจ็บปวดจนเจสันต้องร้องออกมา
เนื่องจากเจสันผ่อนคลาย ความตึงเครียดของเขาจึงคลายลงและความเจ็บปวดที่น่าสยดสยองที่เขาต้องทนตลอดเวลาในสภาพที่อ่อนแอก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในทันที ทำให้เจสันร้องออกมาด้วยความตกใจและเจ็บปวด
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!”
เจสันได้แต่คร่ำครวญและอดทนต่อความเจ็บปวด ในขระที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ภายนอกเวลาได้ผ่านไปกว่า 30 ชั่วโมง และกรีลคาดว่าเจสันน่าจะทำสำเร็จในเร็วๆ นี้ และกรีลรู้สึกโล่งใจทุกคนที่เห็นเจสันได้ผอนคลายความเจ็บปวดลง
‘เกิดอะไรขึ้น เขาสร้างพื้นที่สำหรับจิตแยกเสร็จแล้วงั้นหรอ’
กรีลสังเกตท่าทีของเจสันที่สงบลงเล็กน้อย
เมื่อเห็นมานาเหลวล่องลอยอยู่รอบๆ ตัว ความรู้สึกที่ไม่ดีก็เกิดขึ้น เจสันไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ และต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อหาทางแก้ไขในขณะที่ทนกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้จบ
‘ฉันยังทำไม่สำเร็จงั้นหรอ’
แต่เจสันไม่แน่ใจว่าจะสอนจิตแยกของเขาให้ทำการดูดซับมานาได้อย่างไร เพราะเจสันต้องทำเช่นนั้นหลังจากสร้างพื้นที่ย่อยสำหรับจิตเสร็จ เวลาผ่านไป เจสันรวบรวมมานาและเทคนิคการดูดซับอย่างหยาบๆ
ทว่าเจสันก็ต้องลองทำหลายๆ สิ่ง ในขณะที่ต้องทนกับความเจ็บปวด ราวกับว่าเขาตายแล้วเกิดใหม่เป็น พันครั้ง
เวลาเนิ่นนานผ่านไป เจสันไม่ได้สนใจกับความล้มเหลวหลายสิบครั้ง ก่อนที่จเจสันจะรวบรวมมานาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มานากำลังรวบรวมและกลั่นเข้าไปในแกนมานา เจสันรู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นลดน้อยลง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเจ็บปวดอย่างมาก
`ทำไมความเจ็บปวดถึงยังไม่หายไป ?’
เจสันถามตัวเองโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เจสันทำอะไรผิดไปรึเปล่า ? เหมือนกับว่าความเจ็บปวดมันมาจากผลปีศาจวัลคีรีส์ชิล์ด ไม่ได้มาจากสิ่งอื่น ตอนนี้เวลาผ่านไปนานมาก แต่เจสันยังคงทำอย่างต่อเนื่องจนกว่ามันจะเสร็จสิ้น
เจสันบังคับตัวเองให้ลืมตา และหลบตาลง หลังรู้ว่าเมื่อแสงสีทองได้ส่องผ่านด้วยตาออกไปมันจะง่ายต่อการทนต่อความเจ็บปวด ในช่วงวินาทีที่ลืมตา เจสันเห็นกรีนยืนอยู่ตรงหน้า ภายนอกวงเวทย์ และมองมาที่เจสันด้วยความเป็นห่วง
เจสันรู้ว่าตอนนี้กรีลไม่สามารถช่วยอะไรเจสันได้ เพราะถ้ากรีลเข้ามาขัดจังหวะ ความเจ็บปวดนี้มันจะคงไปอย่างถาวร และนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ
เมื่อกรีลเห็นว่าเจสันกำลังมองมาที่เขา จิตใจของกรีลก็คิดอะไรบางอย่าง อย่างรวดเร็วขณะที่เขาใช้มานาเขียนตัวอักษรบนอากาศ เจสันอ่านได้เพียงสองตัวอักษรแรก ก่อนที่ความเจ็บปวดจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทำให้เจสันต้องหลับตาตามสัญชาตญาณ
เจสันอ่านได้เพียงสองตัวอักษรแรก ก่อนที่ความเจ็บปวดจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขาต้องหลับตาตามสัญชาตญาณอีกครั้ง
‘มานานั้นอะไรหน่ะ’ เจสันคิดก่อนที่ความเจ็บปวดจะเริ่มพลุ่มพลานอีกครั้ง
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”
นาทีผ่านไป กรีลกำลังเขียนอย่างขยันขันแข็ง ในขณะที่เจสันไม่รู้วา่มันคืออะไร เมื่อเจสันคิดอยู่ครู่หนึ่ง
‘มา…..มานา?? ‘
‘มานา ? มานาอะไร ? ฉันไม่เข้าใจ ฉันต้องทำอะไรต่อ ?’
เจสันรู้เพียงว่า ตอนนี้หากดูดซับมานาอย่างต่อเนื่องมันจะทำให้ความเจ็บปวดของเขาลดน้อยลง เจสันจึงบรรเทาอาการความเจ็บปวดด้วยการดูดซับมานาอย่างตะกละตะกลาม ในขณะที่ดูดซับมันอย่างมากมาย จู่ๆ ความเจ็บปวดมันก็ได้เพิ่มขึ้นอีก
ถ้าั้นไม่ได้ผล เจสันก็ไม่รู้จะทำยังต่อไปแล้ว ในขณะที่กำลังดูดซับมานาอย่างสุดกำลัง ชั่วโมงผ่านไป จู่ๆ เจสันก็ได้พัฒนาสู่มือใหม่ระดับ 7 ผ่านไปอีก 2-3ชั่วโมงแกนมานาของเจสันได้หล่อหลอมใหม่ ขณะที่เจสันยังคงดูดซับมานาภายในวงเวทย์อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มานาเหลวรอบตัวนั้นมันไม่ลดลงเลย
ปกติแล้ว การที่ได้รับการพัฒนาจะทำให้เจสันรู้สึกดีใจ แต่ตอนนี้เขามีแต่ความเจ็บปวดที่รุมล้อม และเจสันไม่รู้ว่าจะทนกับมันอีกกี่พันครั้ง ความเจ็บปวดได้เริ่มกัดกินภายในใจของเจสัน ทำให้เจสันเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ราวกับว่าเจสันดูดซับมานาช้าเกินไป เพราะเขาไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้อีกแล้ว และเจสันก็ได้พัฒนาไปสู่มือใหม่ระดับ 8 ได้อย่างรวดเร็วหลังจากเพิ่งเข้าสู่ระดับ 7 ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเจสัน ขณะที่เจสันเริ่มจะยอมแพ้ให้กับความเจ็บปวด
‘ดวงตาของฉัน !!!’ … ด้วยแสงแห่งความหวังที่ปรากฏขึ้นในใจของเจสัน เจสันได้รวบรวมมานาไปที่ดวงตา และปลดปล่อยแสงสีท่องที่สงบนิ่งและความเจ็บปวดก็ค่อยๆ ลดลง ยังมีมานาอยู่มาก แต่ความเจ็บปวดนั้นลดลงอยางมาก เจสันได้ร้องไห้ด้วยความดีใจที่ความทุกข์ทรมาณได้ลดลง
แต่แทนที่จะมัวแต่ร้องไห้ เจสันจดจ่อไปกับการรวบรวมมานาในดวงตา ยิ่งมานาเหลวได้รวบรวมไปที่ดวงตา ความเจ็บปวดก็ลดลงอย่างมาก แสงสีทองนี้ช่วยชำระจิตใจของเจสันที่มัวหมองในขณะที่ทนกับความทรมาณ
ในขณะที่พื้นที่ย่อยได้สร้างเสร็จ มันได้หล่อหลวมเข้ากับแกนมานา และเจสันพัฒนาเป็นมือใหม่ระดับ 8 กว่า 60 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตอนนี้ความเจ็บปวดได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มานาเหลวได้จางหายไป วงเวทย์ก็สลายไป เจสันไม่สามารถมองเห็นอะไร เนื่องจากน้ำตาที่บังทัศนียภาพของสายตา เจสันเห็นเพียงลาง ๆ
ในขณะที่เห็นกรีลรีบเข้ามาหาเจสัน เจสันได้ร้องไหห้ออกมา ขณะที่จับเสื้อของกรีลไม่ยอมปล่อย กรีลได้จับเจสันไว้ในอ้อมแขน กับความรู้สึกผิดและเสียใจ