พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 14

บทที่ 14

บทที่ 14 รพีพงษ์ ผู้ที่ลึกลับจนไม่สามารถคาดเดาได้

“ไอ้บ้านี่ จะมาหาเรื่องใช่ไหม”

เมื่อชายร่างกายกำยำได้ยินสิ่งที่เขาพูด สีหน้าก็แสดง ความโกรธออกมาทันที จากนั้นชายสองคนนั้นก็ด่ารพีพงษ์ ทันที

“ฉันให้เวลาสามนาที ไม่อย่างนั้นแกก็รอรับกรรมได้เลย” รพีพงษ์ไม่สนใจท่าทีของทั้งสองคน

“ไอ้นี่มันคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาทำจองหองที่นี่ แกเบื่อการใช้ชีวิตแล้วหรือไง” ชายกำยำหนึ่งในนั้นพูดขึ้น

มา

“ไอ้นี่มันเป็นเขยที่แต่งเข้าไปในตระกูลฉัตรมงคลนิ โอ้โห กล้ามาทำจองหองที่นี่ ดูท่าแล้วคงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ล่ะสิ” ชายอีกคนจ้องเขาแล้วพูดออกมา

“เขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลฉัตรมงคลอย่างนั้นเหรอ คนที่ วันๆ เอาแต่ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้านอะเหรอ คนที่ดูต่ำกว่า หมานั้นอะเหรอ”

“ใช่ มันนั่นแหละ”

หลังจากที่ทั้งสองคนรู้ว่าเป็นรพีพงษ์ สายตาที่มองมาก็ยิ่ง

ดูถูกเขาเข้าไปอีก
“ไอ้สวะ รีบไสหัวไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่แกควรจะมา”

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วจะเดินเข้าไปข้างใน “ไอ้นี่ อุตส่าห์ไว้หน้า แต่แกก็ยังจะกล้าอีกนะ วันนี้แกต้อง ได้รู้ฤทธิ์ของพวกฉัน!”

ชายร่างกำยำสองคนกำลังจะทำร้ายรพีพงษ์ จู่ๆ ก็มีชาย อายุราวๆ ยี่สิบแปดยี่สิบเก้าปี ไว้ผมทรงผมสกินเฮด เดิน ออกมาจากข้างในด้วยสายตาแน่วแน่

เขาเห็นรพีพงษ์ยืนอยู่หน้าประตู ตาก็เป็นประกาย อีกทั้ง ยังเห็นผู้ชายสองคนกำลังจะทำร้ายรพีพงษ์ เขาเหงื่อแตก พลักๆ

“พวกแกทำบ้าอะไรกัน หยุดเดี๋ยวนี้!” ไตรทศตะโกนออก

ไป แล้วรีบวิ่งเข้ามาแล้วเขกหัวผู้ชายทั้งสองคน

ผู้ชายสองคนนั้นเอามือกุมหัวตัวเอง แล้วมองไตรทศด้วย

สายต่างุนงง

“ลูกพี่ ไอ้เด็กนี่มันไม่รู้ความ มันกล้าบอกให้พวกเราไป

เรียกพี่ออกมา พวกเราเลยจะจัดการมัน” ชายร่างกำยำพูด ขึ้น

ไตรทศได้ยินดังนั้นก็รีบจ้องพวกนั้นตาเขม็ง เขาคิดในใจ ว่าถ้าพวกมันทำร้ายรพีพงษ์ ต่อจากนี้พวกมันก็เตรียมตัว นอนนิ่งๆ บนเตียงไปตลอดชีวิต
“นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกแกไสหัวไป ถ้าเห็นเขาอีกก็ปล่อย ให้เขาเข้ามา ถ้าแกกล้ารั้งเขาไว้ฉันจะหักขาแกทิ้ง!” ไตร ทศก่นด่า

เมื่อไล่สองคนนั้นไปแล้ว ไตรทศก็รีบเข้าไปหารพีพงษ์ แล้วโค้งตัวทำความเคารพ “พี่รพี พี่มาได้ยังไงครับ ลูกน้อง ของผมมันมีตาหามีแววไม่ เลยพูดจารุนแรงกับพี่ เดี๋ยวผม จะกลับไปจัดการมันให้”

รพีพงษ์หัวเราะ เขาไม่ได้ติดใจอะไร

การที่ไตรทศนอบน้อมกับเขาขนาดนี้ เพราะรพีพงษ์เป็นผู้ ที่ทำให้เขามีทุกอย่างในวันนี้

สี่ปีก่อน ไตรทศถูกศัตรูตามฆ่า เขาหนีมาถึงเมืองริเวอร์ เพราะว่าการช่วยเหลือจาก รพีพงษ์ ทำให้เขาสามารถสะสา งกับศัตรูได้ อีกทั้งรพีพงษ์ยังให้สถานบันเทิงสตาร์กาย กับ เขา

ถ้าไม่มีรพีพงษ์ ก็ไม่มีไตรทศผู้ที่เป็นหนึ่งในสามของรา ชาใต้ดิน เขารู้สึกขอบคุณรพีพงษ์มาตลอด อีกอย่างเขาก็รู้ ดีว่ารพีพงษ์ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อย่างที่ทุกคนคิด คนที่ ลึกลับจนไม่สามารถคาดเดาได้อย่างรพีพงษ์ไม่ใช่ผู้ที่คน ธรรมดาๆ จะจินตนาการได้

ต่อให้เขาจะเป็นราชาใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์แต่เขาก็รู้ดีว่า รพีพงษ์สามารถพังทุกอย่างของเขาได้อย่างสบายๆ
“อีกไม่กี่วันตระกูลฉัตรมงคลจะจัดนิทรรศการแสดงวัตถุ โบราณที่วิลล่าฟ้าอนงค์ นายหาคนให้ฉันสองสามคน เพื่อ ไปดูแลความปลอดภัยที่งานนั่น” รพีพงษ์ไม่พูดอ้อมค้อม

“ไม่มีปัญหา สิ่งที่พีรี่ ที่พีรพีมอบหมายมาให้ ผมจะทำมันให้ดีที่ สุด” ไตรทศยิ้มแล้วพูดตอบรับ

เมื่ออยู่ต่อหน้าของรพีพงษ์ เขาไม่สามารถแสดงมาดอันดุ ร้ายตามปกติออกมาได้

“พี่รพี พี่เข้ามานั่งข้างในก่อนสิ พวกเรามาดื่มอะไรกันสัก หน่อย” เมื่อไตรทศเห็นว่ารพีพงษ์มอบหมายงานให้ เรียบร้อยแล้ว เขาก็พูดออกมา

“ไม่แล้วล่ะ ฉันต้องรีบกลับบ้าน อย่าลืมเรื่องที่ฉันสั่งไว้ล่ะ ถ้าเกิดเรื่องยุ่งเหยิง ก็รอรับหมัดของฉันได้เลย ” รพีพงษ์เอ่ย ขึ้นมา

ไตรทศรีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เขาไม่กล้าทำแบบลวกๆ

เขาเคยโดนหมัดของรพีพงษ์มาแล้ว ความรู้สึกนั้นสำหรับ เขาแล้วมันคือฝันร้าย

ในขณะเดียวกัน ในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเมืองริเว อร์ธายุกร กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่กับชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ชายคนนั้นก็คืออินทัชหนึ่งในสามของราชาใต้ดิน ๘ 4

“พี่ทัช ครั้งนี้พี่ช่วยส่งคนฝีมือดีๆ มาให้ผมสักสองคนสิให้พวกมันไปขโมยวัตถุโบราณของคุณปู่ในงานนิทรรศการ เมื่อถึงเวลานั้นผมจะโยนความผิดให้รพีพงษ์ ให้มันออกจาก ตระกูลฉัตรมงคลไปตลอดกาล เราแบ่งวัตถุโบราณกันคน ละครึ่ง พี่ว่าเป็นไง” ธายุกรพูดแล้วแสยะยิ้ม

อินทัชสูบบุหรี่แล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันหาคนให้นายได้ แต่ ว่าวัตถุโบราณพวกนั้น ต้องเป็นของฉันทั้งหมดแล้วนายต้อง ให้ฉันอีกหนึ่งแสน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาพูดกัน”

ธายุกรกัดฟันกรอด ไม่คิดว่าไอ้อินทัชจะใจดำอำมหิต ขนาดนี้ จะเอาวัตถุโบราณยังไม่พอ แถมต้องการเงินอีกหนึ่ง

แสน

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่รพีพงษ์ให้เขาคุกเข่าขอโทษอารียา แล้ว เขาก็แค้นจนกัดฟันกรอด เขาสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า “ได้ เอาอย่างที่พี่ต้องการ ขอแค่คนของพี่ไม่ทำให้ผมผิดหวัง

ก็พอ”

“อย่างนั้นนายก็วางใจเถอะ ฉันไม่เคยทำงานพลาด” อิน

ทัชตบอกตัวเอง

ช่วงดึกภายในห้องรับแขก

“ลูก มานี่เร็ว หัวใจวีตัสถูกคนซื้อไปแล้ว ตั้งสี่สิบห้าล้าน แน่ะ!” ศศินัดดาดูข่าวในโทรทัศน์แล้วพูดเสียงดังออกมา

ไม่กี่วันมานี้ ศศินัดดาสนใจสร้อยคอหัวใจวีตัสมาก และเธอก็หลงใหลในเครื่องประดับหรูหราพวกนี้มาก

“คิดไม่ออกจริงๆ ว่าพวกคนรวยเขาคิดยังไง ถึงใช้เงิน เยอะขนาดนั้นมาซื้อสร้อยคอเพียงเส้นเดียว สิ้นเปลืองจริงๆ” ศักดาพูดพึมพำ

“อย่าใช้สายตาของตัวเองไปตัดสินคนอื่น เขาเรียกว่าค วามสุข ใครจะเหมือนคุณที่ไร้ประโยชน์จะตาย ฉันว่าคุณยิ่ง กว่าไอ้สวะรพีพงษ์เสียอีก” ศศินัดดาพูดเหน็บแนมศักดา ศักดารีบหดคอลงทันที เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

“พูดถึงไอ้สวะนั่นก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที ถ้าไม่ใช่เพราะมัน แคลร์ของพวกเราก็จะมีโอกาสแต่งกับคนรวยๆ เมื่อถึงตอน นั้นหัวใจวีตัสก็แค่เรื่องเล็กๆ แต่มันกลับต้องพังทลายลง เพราะไอ้สวะนั่น”

ไม่ว่าจะทำอะไร ศศินัดดาก็สามารถหาเรื่องมาด่ารพีพงษ์ ได้เสมอ เขากลายเป็นที่ระบายของเธอไปเสียแล้ว

อารียาเดินเข้ามา แล้วดูข่าวในโทรทัศน์ เธอรู้สึกหดหู่ หญิงสาวคิดในใจว่าคนที่ซื้อสร้อยในราคาแพงขนาดนี้ น่า จะเป็นคนที่โรแมนติก น่าเสียดายที่เธอไม่อาจจะสัมผัสกับค วามรู้สึกแบบนั้น เธอสังเกตเห็นคนที่ถูกจับภาพอยู่บนจอทีวี ผู้ชายที่สามารถประมูลสร้อยคอหัวใจวีตัสได้ เขาสวมหมวก แก๊ป มันเป็นแค่เงารางๆ แต่ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกคุ้นเคยกับเงา นั้นมาก
“ทำไมรู้สึกว่าคล้ายกับรพีพงษ์จังเลย” อารียาพูดพึมพำ

“สงสัยจะคิดมากไปเอง” เธอสะบัดหัวไปมา หญิงสาวรู้สึก ว่าความคิดเมื่อครู่มันน่าตลกสิ้นดี รพีพงษ์ ดูปฏิกิริยาของอารียาอยู่หน้าประตูห้องครัว เขา

เผยยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็เอามือไปจับตรงกระเป๋ากางเกง

รออีกไม่กี่วัน เขาจะเอาสร้อยคอหัวใจวีตัสเป็นของขวัญ

ให้กับอารียา

ในขณะเดียวกันที่บ้านของชรินทร์ทิพย์ เธอนั่งมองทีวีด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเพ้อฝัน เพราะเธอก็กำลังติดตาม ข่าวสร้อยคอวีตัสที่โดนคนประมูลไปในราคาสี่สิบห้าล้าน เธอจินตนาการว่าสร้อยคอเส้นนี้ อาจจะเป็นเจ้าของวิลล่า

ฟ้าอนงค์ที่เป็นคนประมูลไป เพื่อเตรียมเป็นของขวัญให้กับ

เธอ

“สร้อยคอเส้นนี้ต้องเป็นสิ่งที่ว่าที่สามีในอนาคตใช้ขอฉัน แต่งงานแน่ๆ เขาตั้งใจซื้อให้ฉัน สำหรับสามีในอนาคตของ ฉันซื้อสร้อยแค่นี้ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงอยู่แล้ว”

สองวันมานี้เธอถือว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์เป็นสามีในอ นาคตของเธอไปเรียบร้อย

“โอ๊ย ฉันตั้งตารอล่ะเนี่ย ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ฉัน มั่นใจว่าเขาจะมาหาฉันในเร็วๆ นี้”
“ที่ อารียา เธอหน้าตาสวยแล้วไง สุดท้ายก็แต่งงานกับ สามีไร้ประโยชน์ไอ้สวะรพีพงษ์ ทั้งชีวิตมันก็ไม่สามารถซื้อ สร้อยคอแพงขนาดนี้ให้เธอได้”

“รอให้ฉันแต่งเข้าไปในบ้านเขาก่อนเถอะ ฉันจะเหยียบ พวกแกให้จมดิน ฉันจะทำให้พวกแกขอร้องให้ฉันสงเคราะห์ พวกแก!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท