พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 17

บทที่ 17

บทที่ 17 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา

เมื่ออารียาเห็นสร้อยคอหัวใจวีตัส เธอก็ตาโต เธอตามสร้อย คอเส้นนี้มาเป็นเวลานาน เธอมั่นใจได้เลยว่ามันเป็นสร้อย เส้นที่อยู่ในทีวี

สร้อยแพงขนาดนี้มาอยู่ในมือของรพีพงษ์ได้ยังไงกัน

อีกอย่างคนที่มาต้อนรับเธอควรจะเป็นเจ้าของ วิลล่าฟ้า อนงค์ ไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงเป็น รพีพงษ์ล่ะ

จนกระทั่งตอนนี้ เธอยังไม่สามารถเชื่อมโยงรพีพงษ์กับ เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ได้

รพีพงษ์ถือสร้อยคอวีตัสเดินเข้ามาหาอารียา เขาเตรียม มันมานานขนาดนี้ ก็เพื่อชดเชยให้กับช่วงเวลาหลายปีที่ ทำให้เธอถูกรังแก

เมื่อเธอเห็นเขาเดินเข้ามา จิตใต้สำนึกบอกให้เธอก้าว ถอยหลัง

“นะ นายอย่าเข้ามา นายอธิบายให้ฉันเข้าใจก่อนว่านี่มัน เกิดอะไรขึ้น รพีพงษ์ ฉันรู้ว่านายอยากให้ฉันมีความสุข แต่ นายก็ห้ามไปทำเรื่องผิดกฎหมาย” อารียาพูดด้วยความตึง เครียดเล็กน้อย

จู่ๆ เธอก็สงสัยขึ้นมาว่า เขาจะไปขโมยสร้อยเส้นนั้นมา
รพีพงษ์หัวเราะพรวดออกมา เขาไม่คิดว่าเธอจะคิดว่าเขา ทำเรื่องผิดกฎหมายเพื่อเอาสร้อยเส้นนี้มา

“ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมใช้เงินซื้อสร้อยเส้นนี้มา แล้วก็วิลล่าฟ้าอนงค์นี่ผมก็ยืมมาจากเพื่อน ผมใช้ชื่อของเขา เพื่อที่จะทำเซอร์ไพรส์คุณ” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เดิมทีเขาอยากจะบอกว่าที่นี่ก็เป็นของเขาเหมือนกัน แต่ คิดๆ ดูแล้วอาจจะทำให้เธอรับไม่ได้ เลยบอกว่าเป็นของ เพื่อน

“ผมไม่มีความจำเป็นต้องหลอกคุณ ถ้าผมทำเรื่องผิ ดกฎหมายจริง ผมคงไม่มายืนอยู่ที่นี่หรอก” รพีพงษ์พูดเสริม

อารียาไม่ได้โง่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเชื่อภาพที่อยู่ตรง หน้า เธอคิดว่าเขาทำอะไรผิดกฎหมายเพื่อที่จะใช้ที่นี่ แต่มัน ก็เห็นได้ชัดว่า ที่นี่ได้รับการประดับประดาอย่างสวยงาม ถ้า ไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของ รพีพงษ์ก็คงจะไม่สามา รถทำแบบนี้ได้

อีกอย่างคนที่พาเธอมาที่นี่ก็เป็นคนของ วิลล่าฟ้าอนงค์ ดังนั้นการที่เขาทำแบบนี้ เจ้าของที่นี่ก็คงจะรู้ดี

ถ้านี่มันเป็นเรื่องจริง แล้วสร้อยเส้นนั้นเขาเป็นคนซื้อมา จริงๆ อย่างนั้นเหรอ

แม้ไม่กี่ปีมานี้เธอเมินเฉยใส่เขา แต่การที่เธออยู่กับเขามานาน เธอรู้จักนิสัยของเขาดี เขาคงไม่ไง่ทำเรื่องผิดกฎ หมายเพื่อสร้อยเส้นเดียวหรอก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใจเธอก็สับสนไปหมด

ที่แท้รพีพงษ์ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่เธอจินตนาการไว้ ผู้ชายคนนี้ทำเหมือนตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ตอนที่อยู่ต่อ หน้าคนอื่น เขาเพียงแค่จงใจทำเช่นนั้น

แต่ก็เพราะการที่เขาเป็นแบบนี้เลยทำให้เธอโดนรังแกไม่ น้อย ไม่กี่ปีมานี้เธอโดนคนอื่นมองด้วยสายตาเย็นชามาโดย ตลอด แบกรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นอย่างเงียบๆ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความเสียใจที่เธออัดอั้นอยู่ก็ระเบิดออ กมาทันที อยู่ๆ เธอก็รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา

น้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตาของเธอ เธอกัดปากตัวเอง ทำให้ คนรู้สึกเห็นใจ

รพีพงษ์เห็นท่าทีของเธอ เขาก็ตกใจขึ้นมาทันที เขาเดิน เข้าไปเพื่อจะยื่นสร้อยคอให้เธอ วันนั้นเขาเห็นสายตาที่เธอ มองสร้อยเส้นนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อเธอได้รับสร้อยเส้นนี้ เธอจะต้องมีความสุขแน่นอน

อารียายื่นมือออกไปผลักเขาออก น้ำตาของเธอไหลออก มาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่

“รพีพงษ์ นายหลอกฉันมาตลอดเลยใช่ไหม นายไม่ได้เป็นเหมือนที่คนอื่นพูดใช่ไหม” อารียาถามซักโซ่

รพีพงษ์ถอนหายใจ เขาไม่ได้ปฏิเสธ

“นายรู้ไหมว่าไม่กี่ปีมานี้ เพราะนายฉันต้องโดนรังแกมาก

แค่ไหน”

“นายรู้ไหมตอนฉันได้ยินคนพวกนั้นพูดลับหลังใส่ฉัน ฉัน เจ็บขนาดไหน”

“ฉันต้องเผชิญกับสายตาเย็นชาของคนอื่นทุกวัน

อารียายิ่งสะเทือนใจขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่เธออัดอั้นมา ในเวลาไม่กี่ปี ถูกระบายออกมาทั้งหมด

รพีพงษ์ ตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูด เขาไม่คัดค้านสักคำ จากนั้น เขาก็รวบเธอเข้ามากอดไว้ในอกแกร่ง

อารียาไม่ได้ขัดขืน เขาซบอยู่บนไหล่ของเขาแล้วร้องไห้

ออกมา

“ผมสัญญาว่าต่อจากนี้ผมจะไม่ให้คุณโดนรังแกอีก ผม บอกแล้วไงว่าผมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคุณ” รพีพงษ์พูดอย่ างแน่วแน่

อารียาไม่ได้พูดอะไรต่อ จู่ๆ เธอก็คิดได้ว่าตัวเองก็ยังมี ไหล่ให้พิง ผ่านไปสักพักเธอก็สงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ เธอปรายตามองรพีพงษ์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
รพีพงษ์ยิ้มให้เธอ จากนั้นก็เดินไปข้างหลังของหญิงสาว แล้วเอาสร้อยเส้นนั้นใส่ให้เธอ จู่ๆ ก็มีกลีบดอกไม้สีชมพูนับ ไม่ถ้วนร่วงลงมาจากข้างบน ทั้งคู่เหมือนคู่รักที่เหมาะสมกัน เป็นอย่างมาก ภาพที่เกิดขึ้นโรแมนติกจนไม่มีอะไรมาเปรียบ

ได้

“ชอบไหม” รพีพงษ์เอ่ยขึ้นมาเบาๆ

อารียามองสร้อยคอหัวใจวีตัสที่อยู่บนคอของตัวเอง เธอรู้ สึกพอใจเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าสร้อยที่ งดงามเช่นนี้จะมาประดับอยู่บนคอของเธอ

“ชอบ”

ภายในสวนดอกไม้วิลล่าฟ้าอนงค์

ชรินทร์ทิพย์ยืนสีหน้าหงุดหงิดอยู่ที่ริมสระน้ำ สายตา อาฆาตของเธอแทบจะฆ่าปลาทั้งหมดที่อยู่ในสระ

“ห์ ทีแรกก็คิดว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์จะเป็นว่าที่สามี ในอนาคต แต่ผิดคาดแฮะ แต่คิดไปคิดมา แต่คิดไปคิดมา วัตถุโบราณที่ว่าที่สามีในอนาคตของฉันส่งมาให้ราคาของ แต่ละชิ้นก็สามารถซื้อที่นี่ได้เหมือนกัน เจ้าของที่นี่ไม่สามา รถเทียบกับว่าที่สามีในอนาคตของฉันได้หรอก” ชรินทร์ ทิพย์พูดด้วยท่าทางมั่นใจ คนที่ส่งของขวัญมาให้ตระกูลไม่ ใช่คนเดียวกับเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์
“อีกอย่างเจ้าของที่นี้ก็ตาบอด กลับไปชอบผู้หญิงที่ แต่งงานแล้วอย่างอารียา ตาบอดจริงๆ”

เพราะว่าวันนี้เธอต้องขายหน้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นเธอจึง จัดเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์เข้าไปในรายชื่อบุคคลที่เป็นแบล็ กลิสต์ อารียาก็เช่นเดียวกัน รอให้เธอได้แต่งงานเข้าไปอยู่ ในบ้านคนรวยก่อนเถอะ เธอจะจัดการคนที่อยู่ในแบล็ กลิสต์ทั้งหมด

“น้องพูดถูก เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์มันเพี้ยนไปแล้วไป ต้อนรับคนอย่างอารียา” คนที่ยืนอยู่อีกด้านอย่างธายุกรพูด ขึ้น “วันนั้นฉันว่าฉันเดาถูกแล้ว อารียาต้องมีอะไรกับเจ้าของ วิลล่าฟ้าอนงค์แน่ๆ ไม่อย่างนั้นพวกนั้นคงไม่ให้มันยืมสถาน ที่หรอก” %3D

“ทามิย่าล่ะวันนี้ไอ้สวะรพีพงษ์ ถึงไม่โผล่หน้ามา สงสัยว่า มันคงจะรู้แล้วว่าเมียมันมีชู้ ก็เลยหลบหน้าหลบตา ไอ้นี่มันไร้ ประโยชน์ถึงขนาดที่ทนยอมให้เมียตัวเองมีชู้” ชรินทร์ทิพย์ พูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง

“คนไร้ประโยชน์อย่างมันก็ขึ้นชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว เมียมันมีชู้ มันจะทำอะไรได้ล่ะ” ธายุกรเอ่ยขึ้นมา

ชรินทร์ทิพย์มีสีหน้าไม่พอใจ “วันนี้นังอารียามันได้หน้า

ไปเต็มๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมันฉันก็คงไม่ต้องขายหน้าแบบนี้”

ธายุกรเผยยิ้มมีเลศนัยออกมา แล้วพูดขึ้นมาว่า “น้องสาววางใจเถอะ ถึงวันนี้มันจะได้หน้าไปเต็มๆ ฉันก็จะไม่ปล่อยให้ มันอยู่อย่างเป็นสุขแน่นอน”

“มันเป็นคนรับผิดชอบงานนิทรรศการนี้ ถ้าวัตถุโบราณ หายไป คุณปู่ไม่ปล่อยมันไว้แน่ คนที่ฉันหาไว้คงใกล้จะถึง แล้วล่ะ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท