พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 53

บทที่ 53

บทที่ 53 งานเลี้ยงรุ่น

ตอนที่ทั้งสองออกจากบ้านไปได้สักพัก บุษบากรก็ โทรศัพท์เข้ามา

“แคลร์ ตอนนี้พวกเราอยู่ข้างหน้าโรงแรมบลูสกายอิน เตอร์เนชั่นเนล เธอรีบๆหน่อย”

“โอเค ฉันรู้แล้วกำลังจะรีบไป” อารียาวางสายและรีบ ขับรถ

โรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลเป็นโรงแรมห้าดาว ในเมืองริเวอร์ที่มีไว้สำหรับลูกค้าระดับไฮเอนด์

หากคิดจะไปทานอาหารที่นี่ นอกจากมีเงินแล้วยังไม่ พอ ยังต้องมีตำแหน่งหรือสถานะทางสังคม โรงแรมระดับนี้ถือว่าเป็นสถานที่จัดเลี้ยงรวมตัวของคน

ชั้นสูง งานเลี้ยงคนธรรมดาทั่วไปเดิมทีก็ไม่ได้พิจารณา

ถึงสถานที่แบบนี้

สาเหตุที่เจตนิพัทธ์เลือกสถานที่แห่งนี้ในการจัดงาน เลี้ยงรุ่น โดยเหตุผลข้อแรกคือต้องการแสดงสถานะของ ตัวเองเพื่อเป็นการโอ้อวด และอีกเหตุผลคือบริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงแรมบลูสกา ยอินเตอร์เนชั่นแนล

ในฐานะที่เป็นผู้จัดการสาขาของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป เจตนิพัทธ์จึงมีโอกาสมาทานอาหารที่โรงแรมบลูสกายอิน เตอร์เนชั่นเนลได้ง่าย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อให้ได้ห้องอาหารมาห้องหนึ่ง
ก่อนหน้านี้รพีพงษ์เคยได้ยินเธียรวิชญ์พูดถึงโรงแรม บลูสกายอินเตอร์เนชันแนลแห่งนี้ เหตุผลที่เขากลายเป็น ผู้ถือหุ้นของโรงแรมนี้เนื่องจากเป็นธรรมดาที่เขาต้องการ จะขยายเครือข่ายของตัวเอง โดยทั่วไปใครก็ตามที่มา ทานอาหารที่แห่งนี้มักเป็นผู้ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง เธียร วิชญ์เชี่ยวชาญในเรื่องทำธุรกิจจึงย่อมรู้ดีถึงความสำคัญ ของเครือข่ายเหล่านี้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปรพีพงษ์และอารียาก็มาถึงบริเวณ หน้าโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล ทั้งสองลงจากรถ สายตามองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ไกลออกไป

บุษบากรและเจตนิพัทธ์รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อบุษบากร เห็นรพีพงษ์ก็มาด้วยจึงพูดบ่นอุบอิบ “ไม่รู้จักเจียมตัว งาน เลี้ยงรุ่นของแคลร์แท้ๆก็ยังจะตามมาด้วย น่าขายหน้า จริงๆ”

หลังจากที่เจตนิพัทธ์เห็นรพีพงษ์ก็มีสีหน้าบึ้งตึง เขายัง จำสิ่งที่เกิดขึ้นกับชุติเทพในวันนั้นได้ ถ้ารพีพงษ์พูดเหตุ การที่น่าอับอายของเขาในวันนั้นต่อหน้าเพื่อนๆ เกรงว่า เขาจะต้องเดินหนีออกไป

“อินายมาก็ดีแล้ว วันนี้ฉันจะให้นายได้เห็นความ สามารถของฉัน นายจะได้ถอนตัวไปและมอบอารียาให้ ฉัน” เจตนิพัทธ์รำพึงอยู่ในใจ

“มาแล้วก็อยู่ทานข้าวด้วยกันสิ คิดว่าเขาคงไม่เคยมา ทานข้าวในสถานที่แบบนี้” เจตนิพัทธ์พูดด้วยรอยยิ้ม

เพื่อนสมัยเรียนบางส่วนของอารียามองอารียาที่พารพี พงษ์มาด้วยอยู่ห่าง พวกเขาเริ่มพูดคุยซุบซิบกัน
“นั่นสามีของอารียาหรือ? ได้ยินว่าชื่อรพีพงษ์ได้ชื่อว่า เป็นเศษสวะแห่งเมืองริเวอร์ เธอพาเศษสวะแบบนี้มา ทำไมกันนะ”

“คนนั้นก็คือไอ้เศษสวะไร้ความสามารถแห่งเมืองริเวอร์ งั้นหรือ? ถ้าเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ คนแบบเขาจะคู่ควรกับ อารียาได้อย่างไร น่าเสียดายจริงๆ”

“ได้ยินว่าอารียาแต่งงานกับเขาเป็นเพราะโดนบังคับ ไม่ แน่ว่าที่อารียาพาเขามาด้วยเพื่อต้องการให้เขารู้ตัวว่าคน แบบเขาไม่คู่ควรกับเธอ และให้เขาปล่อยเธอไป”

“ก็เป็นไปได้ พวกเธอรู้อะไรไหม หัวหน้าห้องแอบชอบ อารียามานานแล้ว และที่จัดงานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ก็เพื่ออารี 2 ยาด้วย ไอ้เศษสวะรพีพงษ์นั่นเมื่อเทียบกับหัวหน้าห้อง แล้วเทียบกันไม่ติดเลย”

เจตนิพัทธ์พากลุ่มเพื่อนๆเดินเข้าไป พวกเพื่อนสมัย เรียนเหล่านั้นเริ่มเงียบเสียง แต่ยังส่งสายตามองรพีพงษ์ อย่างดูถูกดูแคลน

“คนเยอะแล้ว พวกเราเข้าไปข้างในเถอะ” เจตนิพัทธ์

พูด

เจตนิพัทธ์และกลุ่มคนพวกนั้นเดินตรงเข้าไปในโรงแรม บลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนล คนทั้งหมดต่างมองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ผู้ท โดยปกติพวกเขาจะสามารถเข้ามาในสถานที่แบบนี้ได้ อย่างไร ครั้งนี้เป็นเพราะเจตนิพัทธ์ถึงเข้ามาได้

“หัวหน้าห้องสุดยอดจริงๆที่พาพวกเราเข้ามาทานอาหารในที่แบบนี้ได้ ฉันไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะได้ มาทานอาหารที่นี่”

“นั่นสิ ตอนนี้หัวหน้าห้องเป็นถึงผู้จัดการบริษัทบริษัท ซันบับเบิล กรุ๊ป รายได้ต่อปีตั้งหลายแสน มาทานข้าวที่นี่ ก็คงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว”

“ฮ่าฮ่า หัวหน้าห้องทั้งเก่งและมีความสามารถขนาดนี้ แต่ยังโสด แต่พอมองไปดูไอ้เศษสวะนั่นสิ ไม่รู้จะเอาหน้า ไปไว้ที่ไหนจริงๆ”

ใบหน้าของเจตนิพัทธ์เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และ หันไปมองรพีพงษ์ด้วยสายตาดูถูกราวกับว่ากำลังโม้เกี่ยว กับความยิ่งใหญ่ของตัวเอง

รพีพงษ์เพิกเฉยต่อการแสดงออกของเจตนิพัทธ์ พูด ง่ายๆก็คือเขาไม่คิดว่าคนไตพร่องจะยิ่งใหญ่อะไร

อารียาเองก็มองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น นี่ เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในสถานที่หรูหราโอ่อ่าขนาดนี้

เมื่อรพีพงษ์เห็นว่าอารียาให้ความสนใจกับสถานที่แห่ง นี้จึงพูดออกไปว่า “ถ้าคุณชอบที่นี่ วันหลังผมพาคุณมา ทานข้าวที่นี่ทุกวันเลยก็ได้นะ”

อารียาเบิกตาโพล่ง จะต้องรวยมากขนาดไหนถึงมา ทานข้าวที่นี่ทุกวันได้

แต่สำหรับรพีพงษ์ผู้ที่สามารถซื้อหัวใจวีตัสได้ พูดแบบ นี้ก็ไม่น่าแปลกอะไร

“นายอย่ามาคุยโม้ไปหน่อยเลย นายรู้ไหมว่ากว่า หัวหน้าห้องจะจองห้องอาหารของที่นี่ได้ต้องลำบาก ขนาดไหน นายคิดว่าที่นี่เป็นร้านอาหารชั้นใต้ดินของคนอย่างพวกนายงั้นหรือ คิดไปคิดมานายก็เป็นแมงดาเกาะ ผู้หญิงนี่นะ จะเอาอะไรมาพาอารียามาเลี้ยงข้าวที่นี่” บุษบากรพูดโดยไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อย

เจตนิพัทธ์ก็ยิ้มอย่างเย็นชา พลางคิดภายในใจว่าคน บ้านนอกคอกนาอย่างรพีพงษ์ยังแกล้งทำเป็นอวดดี

กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนคนอื่นๆต่างก็หัวเราะเยาะรพีพงษ์

รพีพงษ์โค้งริมฝีปากของเขาและไม่ได้พูดอะไร คนที่ อยู่ในตำแหน่งสูงไม่ควรใส่ใจอธิบายกับมดที่อยู่บนพื้น

เมื่อเข้าไปข้างในโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลก็มี คนออกมาต้อนรับพวกขา

บริกรคนนั้นเห็นเจตนิพัทธ์ก็พูดว่า “คุณผู้ชาย ไม่ทราบ ว่าคุณได้จองห้องอาหารไว้หรือยังครับ?”

เจตนิพัทธ์พยักหน้า “พาพวกเราไปที่ห้องอีวานโฟนนิก”

พอบริกรได้ยินชื่อห้องอาหาร สีหน้าก็เปลี่ยนไป “ขอ ประทานโทษนะครับคุณผู้ชาย ห้องอีวานโฟนนิกมีคน จองไว้แล้ว ทางเรายังมีห้องธรรมดาอีกห้องหนึ่ง ไม่ทราบ ว่าคุณ…

“อะไรนะ!” เจตนิพัทธ์พูดเสียงดังด้วยความตกใจ “ไม่กี่ วันก่อนผมจองห้องอีวานโฟนนิกเอาไว้แล้ว พวกคุณเอา ให้คนอื่นจองได้อย่างไร?”

“คือแบบนี้ครับ ทางเรามีลูกค้าสมาชิกบัตรทองอยู่ท่าน หนึ่ง เดิมทีเขามาทานอาหารที่ห้องอีวานโฟนนิกเป็น ประจำ ลำดับเขาอยู่สูงกว่าคุณและตอนนี้เขาก็ยังทานอา หาารอยู่ที่นั่น” บริกรอธิบาย
เจตนิพัทธ์มีสีหน้าแข็งที่อ เขารู้ว่าหากต้องการสมัคร บัตรทองที่โรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชั่นเนลแห่งนี้จะ ต้องเติมเงินขั้นต่ำหนึ่งล้านหยวน แต่เขาไม่ได้มีเงินมาก ขนาดนั้น

เมื่อตะกี้นี้เขายังคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตกอยู่ใน สถานการณ์หน้าเสียวหน้าขวานต่อหน้าเพื่อนสมัยเรียน ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับสถานการณ์น่าอับอายแบบนี้

เขาหันไปมองตรงนั้นก็พบว่ามีชายร่างใหญ่ในชุดสูทระ ดับไฮเอนด์ยืนอยู่ตรงนั้น พอมองก็เห็นว่าเป็นเจ้านายใน บริษัทท่านหนึ่ง เขาเป็นแค่ผู้จัดการสาขาและแน่นอนว่า เทียบกับเขาคนนั้นไม่ติด

ในขณะที่เจตนิพัทธ์กำลังยุ่งอยู่กับการพยายามหาวิธี แก้ปัญหา รพีพงษ์ก็เดินไปทางด้านข้างและหยิบโทรศัพท์ ออกมา จากนั้นก็ต่อสายโทรศัพท์ไปหาเธียรวิชญ์

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงแรมโรงแรมบลูสกายอินเตอร์เนชัน เนล ต้องการใช้ห้องอีวานโฟนนิกนั่น แต่มีคนแย่งพวกเรา

ไปแล้ว นายช่วยฉันจัดการหน่อย”

“ได้ ไม่มีปัญหา ” เธียรวิชญ์ตอบรับ

“ทุกคน..หรือว่าพวกเราจะไปห้องอาหารธรรมดากันดี ไหม?” เจตนิพัทธ์พูดด้วยสีหน้าว่างเปล่า

ในขณะนี้ รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูด “ในเมื่อจอง ห้องอีวานโฟนนิกไว้แล้วก็ไปห้องอีวานโฟนนิกเถอะ ทำไม ต้องไปห้องธรรมดาด้วยล่ะ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท