พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 124

บทที่ 124

บทที่ 124 โยษิตา

กุมุทมือหนักมาก แรงตบของเขาทำให้ศศินัดดาล้มลงไป กับพื้น

อีกนิดศศินัดดาก็จะร้องไห้ออกมาแล้ว โดนคนสองคน ตบในวันเดียว นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอเจอเรื่องแบบนี้

“แก….แกกล้าตบฉันงั้นเหรอ! ฉันจะให้รูปภ.จับแกออก ไป! “ศศินัดดาจ้องกุมุทพลางพูด

กุมุทยิ้มเยาะ แล้วพูดขึ้น:”ให้รปภ.มาจับฉันงั้นเหรอ? กำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม? ดูซิว่าใครมันจะกล้ามาจับฉัน กุมุท!

“คุณชาย ผมว่าคนในบ้านของรพีพงษ์ก็ไม่ได้สูงส่งอะไร หรือเราจะจับเธอไปดี ให้เธอได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของ คุณชาย? “เลปกรพูดอย่างร้ายกาจ

เมื่อศศินัดดาได้ยินสิ่งที่กุมุทและเลปกรคุยกัน ก็คาดเดา ตัวตนของทั้งคู่ทันที น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย :”คุณ….คุณ เป็นคุณชายของตระกูลกุลสวัสดิ์? ”

กุมุทมองเธอด้วยสายตาเย็นชา พลางพูด “ใช่ ในเมื่อเธอ รู้จักตัวตนของฉัน ก็รีบให้เศษขยะรพีพงษ์ออกมาเดี่ยวนี้ กล้าทำร้ายคนของฉัน มันใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วใช่ไหม !

ศศินัดดาหน้าถอดสี ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะไปก่อเรื่องกับ คุณชายของตระกูลกุลสวัสดิ์ รนหาที่ตายชัดๆ

“คุณชายกุมุท คุณพูดถูก รพีพงษ์ใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วมทที่ 124 ไผตา

จริงๆ เขาโดนฉันไล่ออกไปแล้ว คุณชาย ฉันกับรพีพงษ์ไม่ ได้เกี่ยวข้องอะไรกันจริงๆนะ ถ้าคุณจะแก้แค้นเขา อย่า ลากฉันไปเกี่ยวด้วยเชียว”ศศินัดดาพูดอ้อนวอนทันที

“หือ? คุณไล่เขาออกไปแล้วจริงๆเหรอ? “กุมุทถาม

“ใช่ เพิ่งไล่ไปวันนี้เอง ของของเขายังถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่อยู่ เลย ฉันรู้ว่าเขามันก็แค่เศษขยะ ดังนั้นจึงไม่อยากเก็บเขา ไว้ ไม่คิดว่าเขาจะกล้าไปหาเรื่องคุณชายกุมุท รนหาที่ตาย จริงๆ”ศศินัดดาชี้ไปยังที่ที่เธอโยนข้าวของไว้ไม่ไกล

กุมุทมองแวบหนึ่ง จึงรู้ว่าศศินัดดาไม่ได้โกหก จากนั้น เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดขึ้น:”เจ้ารพีพงษ์คนนี้ เป็นเศษขยะจริงๆ โดนไล่ออกจากบ้าน น่าขำสิ้นดี”

“คุณชายพูดถูก รพีพงษ์คนนี้เป็นเศษขยะที่เมืองริเวอร์ รู้จักกันดี ในเมืองริเวอร์นี้ไม่มีใครไร้ประโยชน์ได้เท่าเขา แล้ว”เลปกรพูดเสริมทันที

กุมุทจ้องศศินัดดา พลางพูดเสียงเย็นชา :”บอกรพีพงษ์ให้ ฉันด้วย ว่าเขาทำร้ายคนของฉัน ถ้าเรื่องนี้ไม่จบฉันไม่ ปล่อยไว้แน่ ทางที่ดีคุณควรให้เขามารับโทษกับฉันด้วยตัว เอง ไม่อย่างงั้น พวกคุณทั้งครอบครัวอย่าคิดว่าจะได้อยู่ อย่างสงบ!

พูดจบเข้าและเลปกรก็เดินออกไป

เหตุผลที่เขามาหารพืพงษ์ ก็เหมือนกับที่รพีพงษ์คาดเดา ตอนนี้โลกใต้ดินในเมืองริเวอร์ธฤตญาณเป็นใหญ่ที่สุด ถึง แม้กุมุทจะพอมีอำนาจอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่กล้าต่อกรกับธฤตญาณ

อีกทั้งคนที่ทำเลปกรแขนหักคือรพีพงษ์ เขาต้องไปแก้ แค้นกับรพีพงษ์ให้ถูกจังหวะ ดังนั้นเขาจึงไปสืบที่อยู่ของ รพีพงษ์มาแล้ว วันนี้มาหาถึงบ้านเพื่อจะจัดการกับรพีพงษ์ สักตั้ง

แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ รพีพงษ์โดนไล่ออกจาก

บ้าน

เมื่อศศินัดดาเห็นว่ากุมุทกับเลปกรไปแล้ว เธอจึงโล่งอก รีบลุกจากพื้นแล้วโทรหาอารียา

“ลูก แกรีบกลับมาเถอะ ถ้าแกยังไม่กลับแม่ต้องตายแน่ๆ แกพาเศษขยะรพีพงษ์นั่นกลับมาด้วย ฉันโดนทำร้ายก็เพ ราะเขาเนี่ย!

ศศินัดดาพูดราวกับจะร้องไห้ พูดจบก็วางสายไป ไม่ให้

อารียาได้มีโอกาสถามอะไร

อารียากลัวว่าจะเกิดเรื่องกับศศินัดดาจริงๆ ดังนั้นจึงรีบ ออกจากบริษัท แล้วก็ให้รพีพงษ์กลับไปที่บ้านด้วย

เมื่อทั้งคู่มาถึงวิลล่า เห็นศศินัดดานั่งบนโซฟาอย่างไม่มี ชีวิตชีวา และบนหน้าทั้งสองด้านบวมไปหมด บนหน้ายังคง มีรอยมือที่ชัดเจน

ตอนแรกอารียาคิดว่าศศินัดดาแค่ก่อเรื่องวุ่นวายเฉยๆ ตอนนี้เห็นบนหน้าเธอมีแต่รอยตบ ก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่อง ขึ้นจริงๆ

“แม่ แม่ไปโดนอะไรมา ใครตบแม่เนี่ย? ”
ศศินัดดาได้สติกลับมา เมื่อเธอเห็นรพีพงษ์กลับมาแล้ว ก็ รีบลุกจากโซฟาแล้ววิ่งไปทันที เพื่อจะด่ารพีพงษ์

“แกไอ้ตัวซวย ตัวเองไปก่อเรื่องด้านนอกมา แต่ฉันโดน ตบแทนแก ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ระบายใส่แก ฉันตายซะยังดี กว่า! ”

อารียารีบขวางศศินัดดาพลางพูด :”แม่ แม่ใจเย็นก่อน พูด ให้ดีๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วงง ไม่คิดว่าศศินัดดาจะตื่นตระหนก ขนาดนี้

“เขาไปก่อเรื่องกับคุณชายตระกูลกุลสวัสดิ์ วันนี้เขาบุก มาถึงบ้าน คุณชายกุมุทบอกให้เขาไปรับโทษด้วยตัวเอง ถ้าเขาไม่ไป พวกเราไม่ได้อยู่อย่างสงบแน่”ศศินัดดา ตะโกนเสียงดัง

รพีพงษ์กิ้ง ไม่คิดว่ากุมุทจะบุกมาถึงบ้าน

เขาเคยคิดไว้แล้วว่ากุมุทจะต้องมาหาเรื่องเขาแน่ แต่ไม่ คิดว่ากุมุทมาหาถึงวิลล่า ดูเหมือนเขาจะดูถูกคุณชาย ตระกูลกูคนนี้ไปหน่อย

“วันนี้นอกจากตระกูลกุลสวัสดิ์คุณชาย ยังมีผู้หญิงมาอีก คน ผู้หญิงคนนั้นก็มาหารพีพงษ์เช่นกัน ดูจากท่าทางของ เธอแล้ว ก็เหมือนจะมาแก้แค้นรพีพงษ์เช่นกัน ลูกสาว แก รีบหย่ากับเขาเถอะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขา คงทำให้เราต้องตายกันหมดแน่! “ศศินัดดาพูดต่อ

รพีพงษ์ขมวดคิ้วเป็นปม ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ศศินัดดาพูดถึงนั้นคือใคร

“ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรเหรอ? “รพีพงษ์ถาม

ศศินัดดาเอากระดาษที่ผู้หญิงคนนั้นให้เธอ โยนให้รพี พงษ์พลางพูดอย่างโมโห:”เธอบอกว่าให้แกไปพบเธอที่นี่ ถ้าไม่ไปจะฆ่าพวกเราทั้งบ้าน!

อารียาใจหายวาบ ไม่รู้ว่ารพีพงษ์ไปก่อเรื่องกับใครไว้ อีก ฝ่ายถึงได้พูดออกมาอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้

อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่า ศศินัดดาเป็นคนพูดมั่วชั่วออกมา

เอง

“ลูก แกรีบตัดความสัมพันธ์ กับเศษขยะรพีพงษ์คนนี้ เถอะรพีพงษ์ เขาไม่เพียงไปหาเรื่องคุณชายตระกูลกุล สวัสดิ์ ยังไปหาเรื่องคนที่ไม่รู้ที่มาอีก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วพวกเราคงตายเพราะเขา! “ศศินัดดาอ้อนวอน

รพีพงษ์เปิดกระดาษใบนั้น และดูเนื้อหาที่เขียนด้านใน ทันใดนั้นเขาก็แข็งไปทั้งตัว

อารียาเห็นปฏิกิริยาของรพีพงษ์ก็รู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่รพี พงษ์มาอยู่ในตระกูลตระกูลฉัตรมงคล เธอไม่เคยเห็นรพี พงษ์มีปฏิกิริยากับเรื่องไหนเท่าเรื่องนี้มาก่อน

รพีพงษ์สูดหายใจเข้าลึกๆ และจับกระดาษใบนั้นแน่น จนมือสั่นออกมาเล็กน้อย

คุณชายตระกูลกุลสวัสดิ์บุกมาถึงบ้านเขาไม่กังวล แค่ใช้ กลอุบายนิดหน่อย เขาก็สามารถทำให้กุมุทเสียใจภายหลัง ได้แต่กับผู้หญิงที่ให้กระดาษใบนี้ไว้นั้นไม่เหมือนกัน การมาของเธอทำให้รพีพงษ์รู้สึกได้ถึงความวุ่นวาย

ที่ตาสีทองบอกเขาก่อนหน้านี้ ว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะส่ง คนมาโน้มน้าวเขาใหม่ เขาก็เคยคาดเดามาก่อน แต่พวกคน ที่เขาคาดเดานั้น ถึงจะเซ้าซี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้ แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนที่ตระกูลลัดดาวัลย์ส่งมาจะ

เป็นเธอ!

โยษิตาน้องสาวแท้ๆของแม่รพีพงษ์ น้ารองของรพีพงษ์ที่ ร้ายกาจมาก ผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

โยษิตาแก่กว่ารพีพงษ์แค่5ปี แต่ก็เป็นผู้หญิงที่สวย ราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เธอร่วมมือกับแม่ของรพีพงษ์ ไล่รพีพงษ์ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์

ตอนนั้นทุกคนต่างคิดว่า รพีพงษ์จะฆ่าแม่เพื่อยึดอำนาจ เรื่องนั้นล้วนเป็นแผนของเธอ!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท