พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่130

บทที่130

บทที่130 คุณไม่เห็นว่าเปลี่ยนแก้วแล้วหรอ?

เสียงร้องโหยหวนของธายุกรดังก้องอยู่ในผับ กุมุทต่อย ไม่ชนะรพีพงษ์ แต่จัดการกับธายุกรยังไม่ได้สะสาง

“คุณชายกุมุท ผมผิดไปแล้ว คุณต่อยเบาๆหน่อย” ธายุ กรโอดครวญไม่หยุด

ในใจเขาได้เกลียดรพีพงษ์เข้ากระดูกดำ หากไม่ใช่ เพราะไอ้สวะนี่ตบกุมุทหนึ่งฉาด เขาก็ไม่ถึงขั้นโดนต่อย

เพียงแต่ทำไมไอ้สวะนี่ถึงได้ฝีมือดีจังนะ แม้แต่คุณชาย ตระกูลกุลสวัสดิ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา?

สักพัก กุมุทจึงหยุดต่อย ธายุกรโดนต่อยจนเป็นหัวหมู แล้ว

เขาหันหัวไปมองรพีพงษ์ ในสายตาแสดงออกถึงความ โหดร้าย เขามองว่า เมื่อก็ต้องเป็นเพราะตนเองไม่ระวังตัว ให้ดี รพีพงษ์จึงจับจุดอ่อนได้

มิเช่นนั้นตามความสามารถของเขา ทำไมจะสู้ไอ้สวะคน

เดียวนั่นไม่ได้

แต่กำลังของไอ้นี่ไม่น้อยจริงๆ ไม่คาดคิดว่าแค่ทำงาน บ้านจะสามารถฝึกจนมีพลังมากได้ขนาดนี้

เขามองไปยังที่ปิ่นพงศ์ตรงนั้น ปิ่นพงศ์กำลังเตรียม พร้อมที่จะขึ้นสังเวียน ถ้าเมื่อกี้ธายุกรต่อยกุมุทต่ออีกสอง หมัด ปิ่นพงศ์เกรงว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการกับรพีพงษ์แล้ว
เธอมองรพีพงษ์อย่างยิ้มดูแคลน แล้วกล่าวว่า “รพีพงษ์ จึงคิดว่าตนเองเจ่งแล้ว?”

รพีพงษ์มองไปยังกุมุทอย่างสงบ แล้วกล่าวว่า “ขอโทษ นะ การที่กูต่อยมึง ไม่ได้ทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองเจ๋ง”

กุมทโมโหอย่างรุนแรง เมื่อกี้เขายังคิดจะพูดว่าตนเองเจ่ง

ขนาดนี้ รพีพงษ์ตบเข้าไปหนึ่งฉาด ในใจต้องรู้สึกว่าตนเอง

เจ๋งแน่ๆ

ดังนั้นจึงอยากยืมช่วงที่รพีพงษ์กำลังมีความสุขอยู่นั้น กระตุ้นเขาสักหน่อย

ไม่คาดคิดว่าไอ้หมอนี่จะมองว่าการที่ชนะตนเองนั้นไม่ ได้ทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จเลย นี่ทำให้ในใจของ

กุมุท

เกิดบรรดาโทสะขึ้นอีก

แต่ทว่าตอนนี้เขาก็ไม่สนอะไรมากแล้ว พูดอย่างสงบว่า: “กุมุทอยู่เมืองริเวอร์มียศมีตำแหน่ง ไม่ได้มาจากการ ทะเลาะเบาะแว้ง

จึงเย่อหยิ่งขนาดนี้ สู้กันกับการ์ดของกูสักตั้งมั้ย ถ้าถึงเอาชนะเขาได้ กูจะยอมรับว่ามึงอะเจ๋ง”

รพีพงษ์มองหน้าปิ่นพงศ์ กลับไม่มีความสนใจเท่าไหร่นัก แล้วกล่าวว่า ” ขอโทษนะ ไม่สนใจอะ”

พูดจบ เขาก็เดินกลับมา ยืนอยู่หลังของอารียา กุมุทเห็นรพีพงษ์ไม่กล้ารับคำท้า ถือว่าเมื่อกี้รพีพงษ์แค่โชคดีเท่านั้น จึงได้ชนะเขา มิฉะนั้นทำไมเขาถึงไม่กล้าสู้ กับปิ่นพงศ์?

ทุกคนเห็นรพีพงษ์ปฏิเสธ ก็คิดไปตามกันว่าเขากลัวแล้ว ยังไงรูปร่างของปิ่นพงศ์ก็โชว์ให้เห็นอยู่ตรงนั้น

โดยปกติคนที่จะสู้ชนะเขาได้นั้นมีแค่ไม่กี่คน

กุมุทเยาะเย้ยออกมา แล้วกล่าวว่า: “เศษสวะยังไงก็คือ เศษสวะ กูไม่เหมือนถึง วันๆทำแต่งานบ้าน ฝึกจนแรงเยอะ

จึงชนะกูก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่สุดท้ายถึงก็ไม่กล้าสู้กับ การ์ดของกู ยังจะกล้าพูดดูภายนอกก็ดูดีอยู่นะ กว่ามถึงไม่ เพียงแค่ไร้ประโยชน์ ยังชอบอวดเก่งด้วย!”

เวลานี้ธายุกรได้ยืนขึ้นมาจากพื้น ตะโกนว่า “ถูกต้อง รพี พงษ์ไอ้เศษสวะนี่ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรหรอก ยังชอบอวด เก่งอีก

ตอนอยู่บ้านผมก็อวดเก่งหลายครั้งแล้ว

รพีพงษ์ไม่สนใจคำพูดของพวกเขา ยืนอย่างสงบอยู่ด้าน หลังของอารียา

กุมุทเห็นรพีพงษ์ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ด่าลับหลังหนึ่งครั้ง แล้วกลับไปนั่งที่ตรงนั้น

อารียาเห็นรพีพงษ์ไม่สู้กับปิ่นพงศ์ ก็สบายใจขึ้นมา เธอ หันหัวมาดูรพีพงษ์ รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้ว กล่าวว่า “ ผมเชื่อฟังคุณ

ไม่ผลีผลาม”
อารียาก็หัวเราะออกมา รู้สึกอบอุ่นในใจ

กุมุทดื่มเหล้ากับทุกคนต่อ แต่ก็ไม่หยุดหาโอกาสเทเหล้า ให้อารียา

ไม่นาน ใบหน้าของอารียาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่ำ เห็น แล้วเร้าอารมณ์

กุมุทเห็นอารียาอย่างนี้ ในใจยิ่งอยากได้เธอมาครอบครัว ผู้หญิงสวยใครบ้างไม่ชอบ แล้วตอนนั้นที่กุมุทโดนต่อย

ในใจก็อยากแก้แค้นรพีพงษ์

มีอะไรกับภรรยาของรพีพงษ์ เป็นวิธีแก้แค้นที่กุมุทรู้สึก สบายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

กุมุทมองหัวเราะพลางมองดูอารียา จากนั้นก็คุยกับ ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างหน้ากี่ประโยค ผู้ชายคนนั้นก็ลุก เดินจากไป

ตอนเดินไป ผู้ชายคนนั้นยังมองไปที่อารียานั้น กับแววตา ที่เต็มไปด้วยความหัวเราะเยาะเย้ย

ผ่านไปไม่นาน ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งใกล้กับอารียาก็ลุกขึ้น

ทันที แล้วกล่าวว่า “ผู้ชายพวกนี้รู้เพียงแค่ต้องดื่มเหล้า

ไม่มีความหมายอะไรเลย

ฉันรู้ว่าผับแห่งนี้มีที่ไว้เฉพาะสำหรับผู้หญิงเล่นด้วยกัน สู้ พวกเราไปตรงนั้นดีกว่ามั้ย?”

ผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ล้วนรีบแสดงออกตอบรับ แล้วยืนขึ้น มาจากที่นั่ง อยากออกไปจากจุดนี้
ผู้หญิงที่พูดเมื่อสักครู่นี้มองดูอารียา แล้วกล่าวว่า “เธอก็ ไปกับพวกเราเถอะ”

พูดจบ เธอก็ไม่ได้สนใจว่าอารียาจะตกลงหรือไม่ แล้ว ลากอารียาไปยังผับเดินต่อไป

อารียาดื่มจนมีมึนมึน ไม่มีอาการขัดขืน

รพีพงษ์เห็นพฤติกรรม ก็ตามไปทันที ในเวลานี้ผู้ หญิง2-3คนชักตามองไปที่เขา แล้วกล่าวว่า “คุณจะทำ อะไร ที่ๆผู้หญิงเล่นกัน

หรือคุณอยากไปด้วย? น่าเกลียดจริงๆ”

ตอนนี้รพีพงษ์ ไม่มีคำที่จะพูด ในใจเป็นกังวลว่าอารียาจะ

เกิดปัญหาขึ้น ตอนนี้ผู้ชายที่ออกไปเมื่อสักครู่กลับมาตรงนี้ ในมือกำลัง

ถือเหล้าขวดหนึ่ง

เขาเห็นพวกผู้หญิงออกไปแล้ว กอดไหล่ของรพีพงษ์ไว้ ให้เขานั่งลงที่ที่นั่ง แล้วกล่าวว่า “พวก พวกผู้หญิงไปเล่น กันหมดแล้ว

คุณก็มานั่งดื่มกับผมสักแก้ว

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว คิดเสมอว่าคนพวกนี้จิตใจไม่ดีแน่นอน

ผู้ชายคนนั้นเทเหล้าให้รพีพงษ์หนึ่งแก้ว แล้วกล่าวว่า “เรื่องของคุณกับคุณชายกุมุทเมื่อสักครู่นี้ เป็นแค่ความขัด แย้งกันเล็กน้อย ทุกคนก็เป็นผู้ชาย

เรื่องแบบนี้ไม่เอาไปเก็บไว้ในใจแน่นอน สู้คุณดื่มกับคุณชายกุมุทสักแก้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าจบแล้ว ว่าไง?”

รพีพงษ์มองไปที่เหล้าแก้วนั้น ใบหน้าแสดงออกถึงรอย ยิ้มที่หยอกเย้า

“ว่าไง หรือมึงใจแคบ เพียงเพราะเรื่องเล็กๆแค่นี้ จะไม่จบ ไม่สิ้นกับก?” กุมุทกำลังเพ่งไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าวว่า “จะกล้าได้ ยังไงกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว กูก็ดื่มกับมถึงสักแก้ว”

พูดจบ เขาก็ยกเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่มีใครสังเกตเห็น เหล้าแก้วนี้โดนผู้ชายที่เดินตามเขามานั้นเปลี่ยนแก้วเหล้า ไปแล้ว

กุมุทเห็นรพีพงษ์ถือแก้วเหล้า ใบหน้าแสดงรอยยิ้มออก มา แล้วสบตากันกับผู้ชายคนนั้น

รพีพงษ์ดื่มเหล้าที่อยู่ในแก้วจนหมด กุมุทลุกขึ้น แล้ว กล่าวว่า ” พวกคุณดื่มไปก่อน ผมไปเข้าห้องน้ำ”

รพีพงษ์ก็อยากลุกขึ้น ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นที่อยู่รอบๆได้รั้ง เขาเอาไว้ หัวเราะแล้วกล่าวว่า “คุณดื่มกับคุณชายกุมุท แล้ว ยังไงก็ต้องดื่มกับผมสักแก้วสิ ถ้าคุณไม่ดื่ม ก็ไม่ให้ เกียรติผม”

พีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ผู้ชายคน นั้นรินเหล้าให้เขาหนึ่งแก้ว รพีพงษ์ฉวยโอกาสตอนนี้คนหมู่ มากไม่ทันได้สังเกตเปลี่ยนแก้วเหล้าอีกครั้ง

คนหมู่มากเริ่มดื่มมากไปเล็กน้อย ดังนั้นใครก็ไม่ได้ สังเกตพฤติกรรมของรพีพงษ์
ผู้ชายคนนั้นก็ไม่รู้ว่าด้านหน้าของตนนั้นมีแก้วเหล้าเพิ่ม มาสองใบ

“เมื่อสักครู่ผมได้ยินคุณบอกว่าผมคือไอ้สวะ คุณอยาก ดื่มกับผม ได้ แต่ผมดื่มแก้วเดียว ถือว่าเป็นการขอโทษผม แล้วกัน เป็นไง?” รพีพงษ์หัวเราะแล้วกล่าว

ผู้ชายคิดเพียงว่ารพีพงษ์ดื่มครบสองแก้ว ยาจะออกฤทธิ์ เต็มที่ ก็ไม่ได้คิดมาก แล้วกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา คุณหนึ่ง แก้ว ผมสองแก้ว!”

พูดจบ เขาก็ยกเหล้าสองแก้วขึ้นมาดื่มจนหมด แล้วยัง

เขย่าแก้วเปล่าแล้วเขย่าอีกให้รพีพงษ์ดู

รพีพงษ์เห็นเขาดื่ม ก็ได้ดื่มเหล้าของตนเอง

คนที่นั่งอยู่ล้วนไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้กับกุมุทได้ปรึกษากัน เรียบร้อยแล้ว เห็นเขาดื่มเหล้าสองแก้วแสดงออกถึงการ ขอโทษ ก็ไม่พอใจ

“ทำไมคุณยังขอโทษไอ้สวะนี่ ถึงแม้มันจะมีกำลังเยอะ แต่ก็ยังเป็นไอ้สวะอยู่ดี มีสิทธิ์อะไรให้คุณขอโทษ” มีคน พูดหนึ่งคน

ผู้ชายคนนั้นหัวเราะขึ้นมาทันใด เขายืนขึ้น แล้วกล่าวว่า “แม่ง ใครบอกว่ากูจะขอโทษเขา

กูก็แค่ทำเพื่อให้มันดื่มเหล้าครบสองแก้วก็แค่นั้น ดื่มครบ สองแก้ว พวกเราก็จะได้เห็นมันแสดงแล้ว!”

คนหมู่มากชะงักไป ไม่เข้าใจความหมายของผู้ชายคนนี้
ผู้ชายคนนั้นดูไปที่รพีพงษ์ ยิ้มอย่างดูแคลนแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อย ถึงกับพวกเราอยู่กันคนละโลก กูบอกว่ามึงคือไอ้ สวะ ถึงก็คือแม่งไอ้สวะตัวนึง!”

“ถึงยังอยากให้กูขอโทษถึง? ฝันไปเถอะ! บอกถึงตรงๆ เหล้าสองแก้วที่ถึงดื่มไปเมื่อกี้ กูได้ใส่ยาลงไปแล้ว อีกไม่กี่ นาทีฤทธิ์ยาก็จะทำงาน

ถึงเวลานั้นถึงจะทำเรื่องงามหน้าต่อหน้าพวกกู กูจะอัด คลิปให้ถึงดู ดูว่าอนาคตถึงจะอยู่เมืองริเวอร์นี้ยังไง!” ผู้ชาย เหิมเกริม

ประหนึ่งว่าเรื่องนี้ทำให้เขามีความสุขมากอย่างไรอย่าง

นน

คนหมู่มากที่อยู่ข้างหน้าโต๊ะก็เข้าใจแล้วว่านี่เกิดอะไรขึ้น

รพีพงษ์มองดูผู้ชายคนนั้นด้วยใบหน้าที่สงบ แล้วหัวเราะ พลางกล่าวว่า “หรอ?”

ผู้ชายเห็นรพีพงษ์สงบแบบนี้ รู้สึกแปลกใจ แล้วถามว่า “ทำไมถึงนิ่งเฉยแบบนี้ หรือว่ามึงไม่กลัว?”

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา ยืนมือชี้ไปที่แก้วบนโต๊ะ แล้วกล่าว ว่า “ถึงไม่เห็นหรอว่าตอนกูดื่มเหล้าเมื่อกี้ เป็นของมึงหรอ?

สีหน้าของผู้ชายดูตกใจ รีบมองไปที่โต๊ะ สีหน้าเปลี่ยนไป

มาก

ตอนนี้ยาได้ออกฤทธิ์ภายในร่างกายเขาแล้ว ใบหน้าของ เขาเปลี่ยนเป็นสีแดงไม่ปกติ เร่าร้อน
เขาเหมือนกำลังฝันหวานอยู่อย่างไรอย่างนั้น แล้วยืนขึ้น บนโต๊ะ

ยื่นมือออกถอดเสื้อตนเอง

“ที่รักทุกๆท่าน ตอนนี้ให้ผมได้แสดงโชว์ให้พวกคุณดู พวกคุณอยากดูรูปลักษณ์อันสง่างามที่ยืนตระหง่านของ ผมไหม….”

ด้านหน้าโต๊ะที่นั่งอยู่ล้วนเป็นผู้ชาย ได้ยินประโยคนี้ของ เขาแล้ว ก็เกือบจะอ้วกออกมาแล้ว

รพีพงษ์เห็นผู้ชายคนนั้นเริ่มแสดงโชว์เปลื้องผ้า ก็ลุกขึ้น

จากที่นั่ง มองไปที่ที่กลุ่มผู้หญิงนั้นเดินเข้าไป

ต่อจากนี้เขายังสามารถอยู่ในเมืองริเวอร์ต่อไปได้ แต่ ผู้ชายคนนี้จะมีหน้าอยู่ต่อไปหรือเปล่า ก็ไม่อาจรู้ได้

รพีพงษ์เดินขึ้นไปถึงทางเดินเส้นหนึ่ง เมื่อกื้อารียาก็เดิน จากตรงนี้ไป

เขาเห็นปลายทางของทางเดิน หน้าห้องคาราโอเกะมี ผู้ชายสองคนยืนอยู่

เขาเดินตรงไปที่ทางเดิน ในตอนนี้เองจู่ๆก็มีพวก อันธพาลโผล่ออกมา ในมือก็กำลังถืออาวุธไว้

ปิ่นพงศ์ออกมายืนอยู่ข้างหลังของพวกอันธพาลเหล่านี้ ยิ้มอย่างดูแคลนให้กับรพีพงษ์

“ไม่คาดคิดว่าถึงจะไม่โดนพวกเขาจัดการ ดูๆแล้ว คุณชายกุมุทประเมินถึงต่ำไป” ปิ่นพงศ์กล่าวออกมา
สีหน้าของรพีพงษ์เริ่มหม่อนหมองลง ในใจเขาเริ่มมั่นใจ ว่าเมื่อกี้พวกผู้หญิงที่พาอารียาไปนั้น เป็นแผนการร้านที่ กุมทวางไว้

แค่คิดว่าอารียาต้องโดนกุมุทลวนลาม แววตาของรพี พงษ์ก็แสดงออกถึงความอาฆาต

อ้หมาเฝ้าประตู ถึงไม่ตายดีแน่!” รพีพงษ์กล่าวอย่าง

รวดเร็ว

สีหน้าทมิฬของปิ่นพงศ์ สั่งการให้พวกอันธพาลเหล่านี้พุ่ง เข้าไปที่รพีพงษ์ทันที

ในห้องคาราโอเกะ

มองไปที่อารียาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอัน ร้ายกาจ อารียานั่งอยู่บนโซฟาด้วยความมึนเมา หลังจากที่ พวกผู้หญิงเมื่อกี้พาเธอมา

ก็พาเธอมาที่นี่

พวกเขาไม่ได้เล่นอะไร แค่เอาอารียาทิ้งไว้ที่นี่คนเดียว

ไม่นาน กุมทก็เดินเข้ามา

“อารียา ไอ้สวะรพีพงษ์นั่นมันมีดีอะไร เทียบกับผมแล้ว เขาก็แค่ขยะ คุณอยู่กับผม

ผมรับประกันว่าจะให้คุณใช้ชีวิตที่ผู้หญิงทุกคนในเมืองริ เวอร์ต้องอิจฉา”

กุมุทมองไปที่อารียาแล้วเดินเข้าไป ทันใดนั้นอารียาผวาขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “คุณจะทำอะไร?

กุมุทยืนอยู่ด้านหน้าของอารียา แล้วกล่าวว่า “อารียาไอ้ สวะนั่นมันตบผมหนึ่งฉาด ผมต้องเอาประโยชน์ตรงนี้จาก มันบ้าง

ภรรยาคนอื่นผมเพิ่งเคยจะเล่นครั้งแรก

คิดๆแล้วตื่นเต้น”

สีหน้าของอารียาเปลี่ยนไป อยากลุกขึ้นหนีไปเดี๋ยวนั้น แต่เธอเมาแล้ว ร่างกายก็ไม่มีแรง สักครู่ก็ถูกกุมุทผลักกลับ ลงไป

“ผู้หญิงที่ดูกุมุทชอบ ยังไม่มีใครที่หนีไปได้ อารียา ถึง อย่าแยกไม่ออกหน่อยเลยว่าอันไหนดีอันไหนร้าย กูเป็น คุณชายของตระกูลกุลสวัสดิ์

อนาคตต้องรับมรดกทรัพย์สินของตระกูลกุลสวัสดิ์ รพี พงษ์นั่นมีสิทธิ์อะไรมาเทียบกับกู ถึงอยู่กับกู

กูรับประกันว่าถึงจะมีความสุขร่ำรวยเงินทองอย่างไม่สิ้น สุด!”

อารียาไม่หยุดต่อต้าน ปากก็พลางตะโกน “คุณถอยออก ไป ให้ฉันออกไป คุณอย่าแตะต้องตัวฉันนะ!”

ใบหน้าของกุมุทแสดงออกถึงรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ แล้ว กล่าวว่า “แม่ง มึงยิ่งต่อต้าน กูยิ่งตื่นเต้น ให้กูได้มีความสุข เร็วๆซักที่เหอะ”

กุมุทลงมือทันที
ในขณะนี้เอง ประตูของห้องคาราโอเกะก็ถูกเตะออก ร่างกายที่เหมือนภูเขาลูกหนึ่งนั้นของปิ่นพงศ์ก็ลอยเข้ามา ชนกับกำแพงโดยตรง

ผนังกำแพงถูกชนจนแตกร่วงลงมา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท