บทที่162 มีลูกชายให้ผม
ทางกลับบ้าน ความคิดของรพีพงษ์ค่อนข้างซับซ้อน หลายปีมานี้ เขาหวังมาตลอดว่าจะมีเบาะแสในการเจอตัว พ่อบ้าง เขาไม่เชื่อว่าคนที่รักเขาในตอนนั้น จะหายไปแบบ นี้
ช่วงเวลาหลายปีในเมืองริเวอร์ ใจของรพีพงษ์ได้ถูกลับ จนแข็งแกร่ง แต่หลังจากได้ยินเรื่องของพ่อที่โยษิตาพูด แล้ว ในใจเขาเหมือนมีพายุถาโถมเข้ามาอย่างหนัก
ไม่ว่าโยษิตาพูดจริงหรือหลอก ครั้งนี้รพีพงษ์ต้องกลับไป ให้แน่ชัดสักครั้ง โดยความสามารถของเขาตอนนี้ ไม่ต้อง กังวลอะไรจริงๆ
แม้ตระกูลลัดดาวัลย์จะใหญ่ค้ำฟ้าเกียวโต รพีพงษ์ก็มีวิธี เผชิญหน้าเสมอ
เกียวโต นึกถึงสถานที่แห่งนี้ ในใจรพีพงษ์เต็มไปด้วย ความเบื่อหน่าย ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายแล้วยังต้องกลับไป สถานที่แห่งนี้อีก
แน่นอน รพีพงษ์กลับไปเพียงเพราะสืบหาการหายตัวไป ของพ่อ การเป็นผู้สืบทอดของตระกูลลัดดาวัลย์นั้น เขาไม่ สนใจแต่อย่างใด หลังจากสืบหาเสร็จแล้ว เขาก็กลับเมืองริ เวอร์ ยังไงอารียาก็อยู่ที่นี่ ตอนนี้อารียาต่างหากที่เป็นทุก อย่างของเขา
แต่ทว่าต้องหาเหตุผลพูดกับอารียาสักหน่อย หลังจากนี้หนึ่งเดือนเขากลับเกียวโต อย่างน้อยก็ต้องอยู่สิบวันหรือ ครึ่งเดือน อย่าให้อารียาต้องเป็นห่วง
เมื่อกลับไปถึงบ้าน รพีพงษ์เห็นอารียากำลังนั่งคุย โทรศัพท์อยู่บนโซฟา
เพราะเป็นห่วงเรื่อง โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาทำวันนี้เธอ จึงไม่ได้ไปทำงาน
ตอนนั้นคนที่อยู่บ้านแม่ศศินัดดาโทรศัพท์มาหา ให้ ครอบครัวศศินัดดากลับบ้านพ่อแม่สองวัน
ศศินัดดาตกลงแล้ว วางสายได้ไม่นาน ลูกสาวของบ้าน ลุงใหญ่อารียา พี่สาวฝั่งพ่อของเธอ ธนญาก็โทรศัพท์มาหา ในตระกูลสหไพศาลธนญาถือว่าเป็นเด็กที่ทั้งสวยทั้งเก่ง
แต่ต่างจากอารียานิดหน่อย คนในครอบครัวได้เอาเธอไป
เปรียบเทียบกับอารียาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเทียบกับอารียา
ไม่ได้ เพียงใจในของเธอก็มีความอิจฉาริษยาตลอดมา
ต่อมาอารียาแต่งงานกับรพีพงษ์ ศศินัดดาได้พูดกับคน ของตระกูลสหไพศาลตลอดว่ารพีพงษ์คือสวะ ขี้ขลาด ไร้ ซึ่งความสามารถ ทำได้เพียงเกาะเมียกิน นี่ถึงจะทำให้เธอ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ช่วงนี้ธนญาหาแฟนได้หนึ่งคน อยู่ที่บ้านเกิดอำเภอหยก ของศศินัดดาถือได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อที่มีความสามารถ ธน ญาภูมิใจกับเรื่องนี้มาก ได้ยินว่าครอบครัวอารียาจะกลับ บ้านพ่อแม่ ธนญาจึงรีบโทรมาอวดอารียาทันที
“อารี พวกเธอกลับบ้านโดยรถไฟอยู่แล้วใช่ไหม ฉันจะบอกให้ ซื้อตั๋วนอน อย่าเสียดายเงิน ตอนนี้ตั๋วนอนก็ไม่กี่ บาท พวกเธอถึงแล้ว ฉันจะให้แฟนฉันไปรับพวกเธอนะ เขา เพิ่งจะซื้อรถใหม่เมื่อไม่นานมานี้ สามแสนกว่าหยวนนะ พวกเธอคงไม่เคยนั่งรถแพงขนาดนี้สินะ เดี๋ยวให้พวกเธอ ได้ลองนั่งดูสักหน่อย” ธนญาพูดอย่างภูมิใจ
ใบหน้าอารียาเต็มไปด้วยความเก้เก้กังกัง แล้วกล่าว “พวกเราก็ซื้อเราแล้ว กลับไปคราวนี้ ว่าจะขับรถกลับไป พวกเธอไม่ต้องมารับ”
พวกเธอต้องซื้อรถมือสองเป็นแน่ นั่นขับยังไงก็ไม่สบาย ถ้าไม่อยากใช้ ฉันให้แฟนฉันขับรถไปรับพวกเธอที่เมืองริ เวอร์ได้นะ พวกเธอจะได้ไม่ต้องขับรถมือสองกลับมา” ธน ญาแล้วพูดออกมา
อารียาหมดคำที่จะพูด และก็ไม่รู้ว่าธนญาไปเอาความ มั่นใจนี้มาจากไหน ว่าครอบครัวเขาต้องซื้อรถมือสองแน่ๆ
“ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องแล้ว แบบนี้รบกวนพวกเธอมากไป แล้ว พวกเราขับรถกลับไปเองก็โอเคแล้ว” อารียากล่าว
“ใช่แล้ว เธออย่าเอารพีพงษ์กลับมาด้วยนะ เขาไอ้สวะนั่น มีสิทธิ์อะไรมาบ้านของพวกเรา ฉันจะบอกให้เธอรู้ การ เจริญก้าวหน้าของครอบครัวเราตอนนี้ถือว่าดี หากเธอคิด ว่าอยู่ที่เมืองริเวอร์แล้วรายได้น้อย ก็กลับมาบ้าน รับรอง เงินเดือนแต่ละเดือนมากกว่าหกพันหยวน” ธนญาเปลี่ยน หัวข้อคุย
“ไม่….ไม่ต้องหรอก” อารียาเริ่มไม่ค่อยอยากสนใจธน ญาแล้ว ตอนนี้เธอคือผู้จัดการของบริษัทตระกูลฉัตรมงคลได้รับเงินเดือนทุกเดือนเริ่มต้นที่สองหมื่นหยวน ยังไม่รวม ค่าคอมรางวัลสวัสดิการอื่นๆอีก คาดไม่ถึงว่าธนญายัง อยากให้เธอไปทำงานเงินเดือนหกพันหยวนอยู่อีก ดูๆแล้ว จะเป็นทุกข์แทนกันเกินไปแล้ว
“รพีพงษ์ของครอบครัวเธอเกรงว่าน่าจะยังไม่มีงานทำ สินะ ตอนนี้แฟนของฉันเป็นผู้ช่วยเจ้าของบริษัทเจ็ทศส โตนที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ของพวกเรา” ธนญาชมแฟนของ ตนเองเรื่อยๆ
“คือ ฉันมีธุระนิดหน่อย ไม่คุยกับเธอแล้วนะ เดี๋ยวกลับไป ค่อยคุยกัน”
อารียารับไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้ววางสาย ถอนหายใจยาวๆ
ธนญาปลายทางของโทรศัพท์เห็นอารียาวางสายไป ก็ หัวเราะเยาะเย้ยออกมา แล้วกล่าว “เธอต้องอิจฉาฉันแล้ว เป็นแน่ ตอนนี้ชีวิตฉันกีขนาดนี้ แล้วยังมีแฟนที่ดีขนาดนี้อีก เธอฟังแล้วต้องรู้สึกเสียใจแน่ๆ แม่ฉันยังบอกว่าบ้านเธอ เป็นวิลล่าแล้ว เป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน ระดับชีวิต ครอบครัวแบบนั้นของเธอ ไม่อยู่ชั้นใต้ดินก็ดีขนาดไหน แล้ว”
หากอารียารู้ว่าเธอคิดแบบนี้ เกรงว่าจะหัวเราะล่วงแน่ๆ
“แม่ฉันก็จริงๆนะ พวกลุงเป็นคนยังไงไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ยัง จะกลับไปให้ได้อีกลำบากจริงๆ” อารียาพูดกับรพีพงษ์ อย่างเกรี้ยวกราด
รพีพงษ์เดินไปยังข้างกายของอารียา หัวเราะพลางกล่าว”ไม่ว่าจะยังไงก็เป็นตายายของคุณ กระชับสัมพันธ์เอาไว้ ก็ไม่มีอะไรไม่ดีหนิ”
“คุณไม่รู้ ลุงใหญ่ของฉันคนนั้น กับแม่ของฉันเหมือนมี ความแค้นกันอย่างนั้น ทุกครั้งที่กลับไปต้องหาเรื่องไม่น้อย ตายายของฉันรักลูกชายมากกว่าลูกสาว ไม่มีฉันกับแม่อยู่ ในสายตาเลยสักนิด ยอมรับก็แต่ลุงสองคนนั้นของฉัน พ่อ ของธีริทธิ์คือลุงรองของฉัน ครอบครัวเขาถือว่าโอเคกับ ครอบครัวฉัน แต่ยังไงพูดๆแล้ว ทุกครั้งที่ไปก็จะประชด ประชันกันทั้งนั้น ครั้งนี้ให้ธีริทธิ์มา ต้องไม่เชื่อแน่นอนว่า เราอาศัยอยู่ที่วิลล่า ให้ธีริทธิ์มาเยี่ยมดู ฉันล่ะรำคาญพวก เขาจะแย่แล้ว” อารียากล่าว
รพีพงษ์ลูบหัวอารียา แล้วกล่าว “ไม่ต้องคิดแล้ว ตอนนี้ พวกเราก็มีความสุขดี หลังจากที่พวกเขาเห็นก็จะพูดไม่ ออกแล้ว
อารียาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก รพีพงษ์พูดได้ไม่เลว รอให้พวกเขาเห็นคุณภาพชีวิตของตนในตอนนี้ก่อน ก็จะ หุบปากไปเอง
“วางแผนว่าจะไปที่นั่นเมื่อไหร่?” รพีพงษ์กล่าว
“น่าจะอีกไม่กี่วันข้างหน้า ช่วงนี้ไม่ใช่ว่ามีเรื่องของ โรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์เข้ามาหรอ ต้องแก้ไขเรื่องนี้ ก่อน” อารียากล่าว
รพีพงษ์พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก หากเป็นแบบนี้ เขาก็ รอให้กลับจากบ้านยายของอารียาก่อน แล้วค่อยพูดกับ เธอเรื่องที่จะกลับไปเกียวโตสักพัก
“ใช่แล้ว เรื่องของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? เค้าตกลงหรือ ยัง?” อารียาถาม
รพีพงษ์หัวเราะแล้วหัวเราะอีก แล้วกล่าว “สำเร็จแล้ว พรุ่งนี้พวกเขาจะส่งสัญญามาให้ ถึงเวลานั้นพวกเราเอาให้
คุณปู่ดูสักหน่อยก็โอเคแล้ว”
อารียาพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก สับสนนิดหน่อย แล้ว กล่าว “ขอบคุณ”
รพีพงษ์กล่าวทันที “ขอบคุณผมทำไม ถ้าคุณอยาก ขอบคุณผมจริงๆ มีลูกชายให้ผมสักคนมั้ย?”
อารียาหน้าแดงชั่วขณะ ยื่นมือไปทุบหน้าอกของรพีพงษ์
“น่าเกลียด”
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว อารียาพูดกับรพีพงษ์ว่า อยากออกไปเดินเล่น รพีพงษ์ตอบรับทันที ทั้งคู่เดินออก จากประตูไปด้วยกัน
ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ได้รับโทรศัพท์จากธีริทธิ์ ช่วง สองสามวันนี้ไอ้เด็กนี้เที่ยวข้างนอกอย่างเมามันส์ แล้วก็ไม่ กินข้าวบ้าน
รพีพงษ์รับสาย ทันใดนั้นปลายทางก็มีเสียงร้องขอความ ช่วยเหลือออกมา “พี่เขย ผมมีเรื่องแล้ว รีบมาช่วยผมเร็ว”