พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 155

บทที่ 155

บทที่ 155 ความร้ายกาจของธายุกร

ได้ยินธายุกรพูด ใบหน้าของชรินทร์ทิพย์ก็แสดงออกมา อย่างชื่นชม

“ตามที่พี่ธายุ คาดไว้ อารียาก็คงได้ใจอีกไม่นาน”ชรินทร์ ทิพย์ยิ้มแล้วพูด

“ก็คงต้องอย่างงั้น ต่อไปบริษัทตระกูลฉัตรมงคล ก็ต้อง ฟังฉัน แล้วหล่อนคือตัวอะไร ยังกล้ามาแย่งสมบัติกับฉัน อีก”ธายุกรพูดขึ้นอย่างเย็นชา

“อีกอย่างคือ ผู้จัดการโรงงานโสรธัสมันคือคนบ้ากาม ยัง ไงรอบนี้เขาก็ต้องตอบตกลงกับฉัน ก็เป็นเพราะว่าฉันบอก กับเขาว่าเขาสามารถเอาเรื่องนี้มาต่อรองกับอารียา ให้อารี ยาขึ้นเตียงกับเขา หลังจากที่เขาพอใจในตัวอารียา ค่อย มอบโครงการนี้ให้กับฉัน อารียาจบเห่แน่”ธายุกรพูดต่อ

ชรินทร์ทิพย์ก็หัวเราะ เขามีความสุขมากเมื่อเห็นสภาพ อนาถของอารียา

“พี่ธายุ แฟนของพี่สุดยอดไปเลย แม้แต่ฉันยังเขียน ชื่นชมพี่เลย”ชรินทร์ทิพย์ปีแล้วพูด แล้วหยิบกระจกเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าตัวเอง แล้วเติมหน้า

ธายุกรเหลือบมองที่กระเป๋าและลิปสติกของชรินทร์ ทิพย์ แล้วพูด: “ช่วงนี้ชีวิตของเธอดูมีรสชาตินะ กระเป๋าใบ นี้ละสองหมื่น ลิปสติกก็เป็นรุ่นลิมิเต็ด”

“โห้ ก็ปกตินะ กระเป๋าแบบนี้และลิปสติก ที่บ้านฉันยังมีเยอะ”ชรินทร์ทิพย์ยิ้มแล้วพูด

ธายุกรเบิกตากว้างทันที แล้วถาม: “เธอไปเอาเงินมาจาก ไหนเยอะแยะขนาดนี้?”

ชรินทร์ทิพย์ยิ้มแฮ่ะๆ แล้วพูด: “ฉันเอาของเก่าแก่ที่ ตระกูลลัดดาวัลย์มอบให้ไปขาย จะว่าไป ของเก่าแก่พวก นั้นก็มีราคานะ ฉันไม่คิดเลยว่าจะขายได้เงินมากมาย ขนาดนั้น”

“นี่เธอเอาของเก่าแก่ของคุณปู่ไปขาย!”ธายุกรอุทาน

ชรินทร์ทิพย์ทำหน้าเฉยเมย พูด: “เดิมทีของเก่าแก่พวก นั้นก็ให้ฉันอยู่แล้ว ฉันเอาไปขายชิ้นเดียวแล้วจะทำไม ยัง ไงก็ตามฉันก็จะแต่งงานเข้าบ้านตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ มี ความสุขตอนนี้ก่อน ดีกว่าอีกหน่อยแต่งเข้าบ้านเขา เขาจะ หาว่าฉันยากจน”

ธายุกรมองไปที่ชรินทร์ทิพย์มีความชื่นชม ยิ้มแล้วพูด: “พูดถูก ของพวกนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องตกเป็นของเธออยู่ดี เจน เธอขายของเก่าแก่ได้เงินมาเท่าไหร่ แบ่งให้ฉันหน่อย ได้มั้ย ช่วงนี้ฉันร้อนเงินนะ”

“ไม่มีปัญหา ฉันขายขวดหยกสี ได้ในราคาแปดล้าน แต่ ฉันเกือบจะใช้หมดแล้ว ฉันก็เลยว่าช่วงนี้จะขายรูปไม้แกะ สลัก ฉันมีคนรู้จัก เขาให้ในราคาสิบล้าน”ชรินทร์ทิพย์รอ ด้วยความตื่นเต้น

ดวงตาของธายุกรก็สว่างขึ้นมาทันที แล้วพูด: “สุดยอด ไปเลย ถึงเวลาฉันไปกับเธอ”
ชรินทร์ทิพย์พยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ชรินทร์ทิพย์ไม่รู้เลยว่า ขวดหยกขาวที่หลอนขายไปนั้น มีมูลค่ามากกว่าร้อยล้าน รูปไม้แกะสลักมีราคาสูงกว่า เมื่อคนที่ซื้อของเก่าแก่จากหล่อนเห็นว่าเธอไม่รู้จักสินค้า จึงโกงเธออย่างรุนแรง

เช้าของวันรุ่งขึ้น รพีพงษ์ยืนพิงอยู่ที่ข้างประตูหน้าห้อง อารียา เพื่อรออธิบายเรื่องที่สถานบันเทิงสตาร์กาย

ไม่นาน ประตูห้องนอนก็เปิด ดวงตาบวมแดง สีหน้าไม่ ค่อยดีของอารียาก็เดินออกมาจากด้านใน เธอเห็นว่ารพีพงษ์ยืนรออยู่ที่หน้าประตู ก็ไม่แปลกใจ

อะไร คิดว่าจะเดินผ่านรพีพงษ์ ลงไปล้างตัวข้างล่าง

รพีพงษ์มองไปที่ใบหน้าของอารียาเห็นเช่นนี้แล้ว เจ็บ ปวดทั้งใจ เอื้อมมือไปจับไหล่ของเธอไว้

“อารี เมื่อวานที่ฉันไปสตาร์กายฉันไปหาเพื่อนเพื่อ จัดการธุระจริงๆ ถ้าเกิดเธอไม่เชื่อ ฉันจะเรียกเพื่อนขอ

ฉันมา พวกเรามาคุยกันต่อหน้า”รพีพงษ์อธิบาย

“ไม่ต้อง”อารียาพูดอย่างเย็นชา

รพีพงษ์คิดไม่ถึงว่าอารียาจะแสดงได้เย็นชาขนาดนี้ แม้แต่โอกาสอธิบายเธอยังไม่ให้

“เธอไม่เชื่อฉันเหรอ?”รพีพงษ์ถาม อารียายิ้ม โดยไม่มีอารมณ์ใดๆ
“เชื่อไม่เชื่อนายมันก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันจะลงไปล้างตัว ไม่ งั้นเดี๋ยวฉันไปทำงานสาย”อารียาพูด

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว พูดกันตามตรงเขาไปที่สตาร์กายแค่ ครั้งเดียว ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับอารียาได้มากขนาดนี้ ไม่งั้นอารียาจะกลายเป็นแบบนี้ หรือว่าจะมีเหตุผลอื่น?

แต่ว่าเขาคิดมานาน ก็คิดไม่ออกว่ายังเหตุผลอะไร ที่ให้ อารียากลายเป็นแบบนี้

อารียาไม่ได้สนใจรพีพงษ์ ลงไปข้างล่างล้างตัว ระหว่าง ที่ทานอาหารเช้า เธอได้รับโทรศัพท์ จากใบหน้าที่ซีดเซียว ก็กลายเป็นเคร่งเครียด

“คุณแม่ พวกคุณทานไปก่อนนะ ที่บริษัทมีเรื่องด่วน ฉัน ต้องไปแล้ว”เธอลุกขึ้น ตรงไปหยิบเสื้อคลุมและออกจาก บ้าน

“ลูก มีเรื่องด่วนอะไรงั้นเหรอ วันนี้เรายังมีเรื่องที่ต้องไป หย่ากับรพีพงษ์นะ”ศศินัดดาพูดขึ้นทันที

อารียาไม่ได้สนใจเธอ

รพีพงษ์กำลังคิดว่าจะไปบริษัทกับอารียาไหม ในตอนนั้น ศศินัดดาก็เดินมาตรงหน้าเขา แล้วพูดขึ้น: “อารีมีเรื่องด่วน ที่บริษัท เรื่องหย่าาของพวกเธอทำทีหลังก็ได้ แต่ว่าแกต้อง ให้เงินสิบล้านกับฉันก่อน”

“แม่ครับ หยุดสร้างปัญหาสักทีเถอะครับ อารีไม่ทางหย่า กับผม”รพีพงษ์พูดไม่ออก ในเวลาแบบนี้ ศศินัดดายังคิด แต่เรื่องจะเอาเงินของเขา
OF Who

“ใครบอกว่าไม่หย่า เมื่อวานอารีเป็นคนบอกกับฉันเอง ว่า แกนอกใจเธอ เธอไม่สามารถทนอยู่กับแกได้แล้ว เงินสิบ ล้านั้นถือว่าชดเชยความเสียใจของลูกสาวฉัน”ศศินัดดา พูดออกมาอย่างหมดเปลือก

“นอกใจ?”รพีพงษ์อึ้ง ก็นึกออกว่าต้องเป็นรูปใบนั้นที่

บุษบากรแอบถ่ายแน่ๆ แต่ว่าบุษบากรส่งรูปภาพใบนั้นส่งให้อารียาจริงเหรอ?

ถ้าเกิดเป็นแบบจริงล่ะก็ ก็เข้าใจเลยว่าทำไมท่าทางของ อารียาถึงแบบนั้น

เขาบ่นด่าในใจ แล้วไม่สนใจศศินัดดา แล้วเดินออกจาก บ้านไป

ศศินัดดาตะโกนด่า: ” แกนี่มันไอ้ดาบทุกข์นับพันเล่ม ได้ยินฉันพูดเรื่องเงินยังจะกล้าหนี ฉันรู้ดีว่าแกไม่เต็มใจจะ ให้เงินสิบล้านกับลูกสาวฉัน”

ในเวลานั้นธีริทธิ์ก็เดินออกมา หลังจากที่คำพูดได้ยิน ของศศินัดดา ก็พูดขึ้น: “คุณป้าครับ อย่ามาดูถูกพี่เขยผม นะ เงินสิบล้านไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา”

ศศินัดดาเบะปาก แล้วพูด: “อย่างมันเหรอ?อย่ามาตลก นะ มันก็แค่ขยะ แค่เงินสิบล้านนี้ต้องแลกกับชีวิตมันล่ะ”

“คุณป้า ถ้าพี่เขยผมแค่สิบล้านก็ไม่มี แล้วเขาจะมีปัญญา ซื้อคฤหาสน์นี้ได้เหรอ”ธีริทธิ์ยิ้มแล้วพูด

แต่ธีริทธิ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขารู้สึกเงินของรพีพงษ์ นั้นไม่ได้หามาด้วยตัวเอง คิดแค่ว่าเงินของรพีพงษ์นั้นได้จากคุณย่า

“มันซื้อคฤหาสน์นี้ก็ไม่ใช่เงินของมัน นั่นมันคือเงินที่ คุณย่าฉัตรให้มา ไม่การได้ล่ะ เดียวฉันจะต้องให้มันเอา เงินสิบล้านออกมาให้ได้ ไม่รู้ว่าคุณย่าให้เงินมันไปตั้งเท่า ไหร่”ศศินัดดาพึมพำ

อารียามาถึงที่บริษัท เมื่อกี้เลขาเป็นคนโทรหาเธอ บอก ว่าผู้จัดกการโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์มีเรื่องด่วนจะพบ เธอ ให้เธอรีบมา

หลังจากที่มาถึงห้องทำงาน อารียาก็พบว่าโสรธัสอยู่รอที่ ห้องทำงานแล้ว

โสรธัสอายุสี่สิบกว่า ถึงแม้ว่าจะวัยกลางคน แต่ว่าผมนั้น ขาวไปครึ่งหัวแล้ว

เขาคือพ่อเขาพงศ์เทพ เรื่องเมื่อวานที่พงษ์เทพแพ้พนัน เสียโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์ไปไม่ได้เขาบอก เกิดเขารู้ เขาก็คงหักขาพงศ์เทพทิ้ง ดังนั้นพงศ์เทพอยากยื้อเวลา

ณตอนนี้ โสรธัสยังคิดว่าโรงงานวัสดุก่อสร้างโฮมาท์เป็น สมบัติของเขา ดังนั้นถึงมาคุยข้อเสนอกับอารียา

“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส ให้คุณรอนานแล้ว เชิญนั่งค่ะ เดี๋ยวให้พวกเขาไปชงชาให้คุณค่ะ”อารียาพูด

ผู้จัดการโรงโสรธัสยิ้ม เดินไปปิดประตูห้องทำงาน แล้ว พูด”ดื่มชาก็ไม่จำเป็นแล้ว เราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ผมมา หาคุณ ก็เพื่อคุยเรื่องวัสดุก่อสร้าง”
อารียาเห็นว่าผู้จัดการโสรธัสปิดประตู ก็รู้สึกอึดอัดเล็ก

น้อย

“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส สัญญาของพวกเราใกล้จะเสร็จ แล้วค่ะ ไม่รู้ว่าผู้จัดการโรงงานโสรธัสมีเรื่องอะไรจะคุยเห

รอคะ?”อารียาถาม

“ช่วงนี้ฉันเพิ่งจะรู้วัสดุก่อสร้างที่พวกคุณได้รับจากพวก เรา สำหรับโครงการของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป โครงการนี้ ผมได้ยินมาว่า ได้กำไรมาก ผู้จัดอารียาก็คงได้ไม่น้อย คุณก็น่าจะรู้ดีว่า ภายใต้โรงงานวัสดุก่อสร้างของผมนั้น มี คนที่ต้องเลี้ยงอีกมากมาย ดังนั้นผู้จัดการอารียาควรจะขึ้น ราคาให้ผมหน่อย ก็น่าจะให้ผมได้มีกำไรหน่อย?”โสรธัส กล่าว

อารียาขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าโสรธัสจะมาเพื่อขึ้นราคา ของ

“ผู้จัดการโรงงานโสรธัส คุณก็จัดหาวัสดุก่อสร้างให้กับ บริษัทอื่น ในราคานี้ หากคุณต้องการเพิ่มราคา คุณก็ควร เพิ่มทั้งหมดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงขึ้นแค่บริษัทพวก เรา?”อารียาถาม

โสรธัสเดินไปตรงหน้าอารียา แล้วพูด :”ผมก็พูดอยู่แล้ว ว่า โครงการนี้ของพวกคุณกำไรดี ผมเองก็อยากดื่มน้ำซุป ร้อนด้วย”

“อย่างงั้นคุณอยากขึ้นซักเท่าไหร่?”อารียาถาม วัสดุก่อสร้างเป็นส่วนสำคัญของโครงการบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป หากไม่สามารถจัดการวัสดุก่อสร้างได้ จะไม่ สามารถดำเนินการอื่น ๆ

ดังนั้นอารียาก็ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาอะไรเกี่ยวกับ วัสดุก่อสร้าง โสรธัสก็คงจะเห็นความสำคัญตรงนี้ ก็เลยมา ของขึ้นราคากับเธอ

หากว่าราคาของโสรธัสไม่แพงมากเกินก็ยังดีต่อพวกเขา ก็ไม่เป็นไร

“เพิ่มเป็นสองเท่า”โสรธัสยิ้มแล้วพูด

เขามาที่นี่ ไม่ได้ต้องการที่จะเพิ่มราคา แต่มาทำตามที่ธา ยุกรบอกเพื่อ สร้างความลำบากใจให้กับอารียา

เขาปรารถนาความงามในตัวของอารียา ถ้าเกิดอารียา เสียสละตัวเองเพื่อบริษัทละก็ เขาก็ได้มัน

สีหน้าของอารียาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเธอกล่าว ว่า: “ผู้จัดการโรงงานโสรธัส คุณอย่ามาล้อเล่นน่ะ ขึ้นเป็น สองเท่า แบบนี้บริษัทพวกเราก็ไม่สามารถดำเนินการได้ต่อ ไป”

โสรธัสมทำหน้าเฉยเมย แล้วพูด: “ขึ้นราคาเป็นสองเท่า สำหรับพวกคุณแล้ว ก็แค่ว่ากำไรน้อยลงหน่อยนึ่ง ผมคิด ว่าผู้จัดการอารียาก็พอรับได้อยู่”

“เป็นไปไม่ได้! เงื่อนไขของคุณมันมากเกินไป!”สีหน้าอารี

ยาเคร่งเครียด

ตอนแรกเพราะเรื่องขอรพีพงษ์ทำให้รู้สึกรำคาญคิดมาก อยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าเขามาถึงบริษัทก็เจอเรื่องแบบนี้ เธอก็รู้สึกอึดอัด

โสรธัสยิ้ม แล้วพูด: “ผู้จัดการอารียาถ้าหากในยินยอมให้ ขึ้นราคาเป็นสองเท่า ผมยังมีวิธีอื่น ขอแค่คุณยอมผม ผมก็ จะไม่พูดถึงเรื่องขึ้นราคา”

“วิธีอะไร?”อารียาถาม

โสรธัสโน้มตัวไปเข้าหาอารียา ยื่นมือไปจับที่คางของ เธอ พูดด้วยรอยยิ้ม: “คุณก็สวยขนาดนี้ น่าเสียดายไม่น่า แต่งงานกับไอ้ขยะนั้นเลย ถ้าคุณยอมขึ้นเตียงกับผม ผม รับรองจะไม่ขึ้นราคากับคุณ ว่าไง?”

อารียาถอยหลังทันที สีหน้าไม่พอใจแล้วมองไปที่โสรธัส “ผู้จัดการโรงงานโสรธัส ให้เกียรติกันด้วย ที่นี่มันบริษัท ของฉัน”อารียากล่าว

“หือ?คุณหมายความว่า ถ้าไม่อยู่ในบริษัทของคุณก็ได้ งั้นเหรอ?งั้นเราออกไปเปิดห้องกันตอนนี้เลย”โสรธัสยิ้ม แล้วพูด

“คุณอย่าเข้าใจผิดฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คำขอนี้ฉันไม่สามารถทำได้”ความโกรธของอารียาทวีเพิ่ม ขึ้นในใจ

ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า คนที่จริงจังแบบโสรธัส จะพูด เรื่องแบบนี้กับเธอ

“ไม่ตกลงอย่างงั้น ผมจะหยุดการจัดหาวัสดุก่อสร้างให้ กับบริษัทของคุณตอนนี้ ถึงเวลานั้นโครงการไม่สามารถ ดำรงต่อไปได้ พวกคุณจะต้องสูญเสียมากแค่ไหน คุณก็น่าจะรู้ดีแก่ใจ”โสรธัสซู่

“คุณโสรธัส มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”อารียาตะโกนใส่ หน้าโสรธัส

“นี่มันเกินไปละเหรอ? ฉันก็แค่ต้องการช่วยคุณ ได้ยินว่า คุณแต่งงานกับไอ้ขยะรพีพงษ์แล้ว เขาไม่เคยแตะเนื้อต้อง ตัวคุณเลย นี่สำหรับผู้หญิงแล้ว มันคือความอัปยศไม่ใช่เห รอ?ไอ้แมงดานั้นไม่สามารถที่จะตอบสนองคุณได้ ฉันมา ตอบสนองความพอใจให้เอง ที่สำคัญไม่มีผลกระทบต่อ สัญญาของเรา มันก็เป็นสองเรื่องที่ดีที่สุดของไม่ใช่เห รอ”โสรธัสกล่าว

เมื่อได้ยินโสรธัสพูดสิ่งนี้ อารียาก็กัดริมฝีปากตัวเอง ใน ใจก็เกิดอารมณ์มากมาย

“เรื่องของครอบครัวฉันคุณไม่ต้องยุ่ง ถ้าคุณยังไม่หยุด สร้างปัญหา ฉันจะเรียกรปภขึ้นมาเดี๋ยวนี้”อารียาพูดอย่าง โกรธๆ “ฟังจากที่คุณพูดแล้วหมายความว่า ไอ้เศษสวะอย่างพึ

รพงษ์ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวคุณจริงเหรอ จุจุจุ ช่างน่าสง

สารจริงๆ ไม่งั้นคุณก็ยอมผม ผมรับรองว่าจะทำให้คุณฟิน

แน่”โสรธัสเต็มไปด้วยการแสดงออกที่เลวร้ายพร้อมกับยื่น มือไปจับใบหน้าของอารียา อารียาสะบัดมือออก โดยตบเสียงดังเพี๊ยะไปที่หลัง

โสรธัส

“คุณอย่าคิดว่าถ้าไม่มีโรงงานของคุณแล้ว โครงการของฉันจะไม่สามารถดำเนินต่อไป คนเลวทรามแบบแก ตอน นั้นฉันไม่น่าร่วมลงทุนกับแก!”อารียาย่า

โสรธัสจ้องมองอารียา แล้วพูด: “อวดดีนัก ฉันจะคอยดู ไม่มีโรงงานของฉันแล้ว พวกแกจะดำเนินโครงการต่อยัง ไง!”

หลังจากพูดจบ โสรธัสก็หันกลับออกไปและกระแทก ประตู

อารียานั่งลงที่โต๊ะทำงาน และก้มลงบนโต๊ะแล้วร้องไห้ เสียใจ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท