พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่197

บทที่197

บทที่197 ถึงเป็นใคร

สีหน้าของศศินัดดาก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เธอไม่รู้ ความสัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์และจิรายุศ ดังนั้นจึงคิด ว่าเมื่อเธอถูกไล่ออก ตระกูลเขมพงศ์ก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น ทันที

อารียามองรพีพงษ์อย่างแปลกใจ เธอรู้ความ สัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์และจิรายุศ ถ้าดูตาม สถานการณ์แล้ว จิรายุศไม่มีทางเอาตระกูลเขมพงศ์ไว้ ในสายตา ตอนนี้จิรายุศมาร่วมฉลองวันเกิดให้กับ ไวทยุต น่าจะเป็นเพราะให้เกียรติรพีพงษ์

“พวกแก รีบไปยืนตรงนั้น อย่าขวางทางของท่าน ยุด” ตุลยวัตเดินมา ให้ศศินัดดาพวกเขาหลบไปข้างๆ

ศศินัดดาโมโห แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียง พาอารียาพวกเขาไปยืนข้างๆ หลายวันมานี้ที่อยู่ในอำเภอหยก ศศินัดดาก็ได้รู้

ถึงความเก่งกาจของท่านยุดแล้ว รู้ว่าพวกเขาแตะต้อง

ไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะให้ดีตอนนี้แอบๆหน่อยดีกว่า

ไม่นาน นอกประตูก็มากลุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา คน เดินนำคือจิรายุศ และมีผู้เฒ่าผมขาวเดินอยู่ข้างๆเขา ผู้เฒ่าสวมใส่เครื่องแต่งกายในราชวงศ์ถัง ซึ่งแลดูมี ความงามซึ่งเป็นอมตะ

ท่านนี้เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณที่มีชื่อเสียงของอำเภอหยก ทัตพงศ์

ในขณะนี้ในมือของทัตพงศ์ได้ถือรูป (ตกปลาใต้

เขาเขาซี) ที่ถูกบจีโยนออกไป ไวทยุตตื่นเต้น ไม่คาดคิดว่าไม่เพียงแค่ท่านยุดมา เท่านั้น อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณทัตพงศ์ก็

มาด้วย

เขาเดินทางข้างหน้า ด้วยใบหน้ายินดี แล้วกล่าว “ท่านยุดท่านทัตพงศ์ หากผิดพลาดประการใดต้อง ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย ไม่คาดคิดว่าพวกคุณจะมาร่วมงาน ฉลองวันเกิดของฉันด้วย ซึ่งเป็นเกียรติให้กับตระกูล เขมพงศ์ของเราจริงๆ

จิรายุศมองไปที่รอบๆสวน หารพีพงษ์ ถึงแม้ ตระกูลเขมพงศ์จะถือว่าเป็นตระกูลที่ไม่เล็ก แต่เทียบ กับจิรายุศแล้วยังห่างกันไกล ดังนั้นจิรายุศไม่มีทางเอา พวกเขาไว้ในสายตาแน่นอน

เขามาที่นี่ เป็นเพราะทำตามคำสั่งของรพีพงษ์

หลังจากเห็นรพีพงษ์ยืนอยู่ในมุมแล้ว จิรายุศต้อง การจะไปทักทายทันที รพีพงษ์ส่งสายตาให้เขา จิรายุ ศรู้ ก็ไม่ได้เดินเข้าไป

เพราะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างรพีพงษ์และไวทยุ ต ดังนั้นจิรายุศจึงกล่าวอย่างเคารพว่า “ร่างกายของ ท่านไวทยุตชั่งแข็งแรงจริงๆ อยู่ได้ถึงร้อยปีไม่น่าจะมี

ปัญหา”
ไวทยุตยิ้ม แล้วกล่าว “ท่านยุดช่างอารมณ์ขัน เหลือเกิน คนแก่อย่างผม จะจากไปวันไหนก็ได้”

“ท่านไวทยุต ครอบครัวคุณชั่งฟุ่มเฟือยเหลือเกิน เอาภาพจิตรกรรมของแท้ของTang Yinทิ้งไว้นอก ประตู หรือของล้ำค่าแบบนี้พวกคุณไม่มีที่วางแล้ว ดัง นั้นจึงทิ้งไว้ข้างนอก?”ทัศพงศ์ยิ้มพลางกล่าว

บจีรีบวิ่งเข้ามาใกล้ๆกับจิรายุศและทัตพงศ์ หัวเราะพลางกล่าว “ท่านอาจารย์ทัตพงศ์อย่าพูดตลก หน่อยเลย รูปนี้เป็นของปลอม ของจริงอยู่ที่ท่านไวทยุ ตูน มีไอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนหนึ่งเอารูปนี้มาหลอกท่าน ไวทยุต แต่ไม่สำเร็จเพราะท่านไวทยุตมีของจริงอยู่ แล้ว ดังนั้นจึงโยนรูปภาพปลอมนี่ออกไป”

“พูดถูกแล้ว ของแท้นั้นผมได้ไปตลาดโบราณ สวรรค์ซื้อกลับมาเมื่อสองสามวันก่อน พูดๆไปก็เหมือน ได้ของดีแต่ถูกมา รูป (ตกปลาใต้เขาเขาซี) ของTang Yin ถูกผมซื้อมาในราคาสามแสน ถือว่าโชคดีเอามากๆ เลยล่ะ” ไวทยุตกล่าวอย่างมั่นใจ

“เอารูปนั้นของฉันออกมา ให้ท่านทัตพงศ์ดูหน่อย”

หลังจากทัตพงศ์ได้ยินคำพูดของไวทยุต แล้ว ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แล้วรีบเพ่งไปที่รูปในมือของตน เมื่อกี้เขาได้ดูอย่างละเอียดแล้ว รูปนี้เป็นจิตรกรรม ของTang Yiทจริงๆ ถึงแม้เขาจะเป็นแค่อาจารย์ เชี่ยวชาญวัตถุโบราณของอำเภอเท่านั้น แต่จิตรกรรม ของTang Yin เขาก็แยกออกชัดเจน
ไวทยุตให้คนเอารูปนั้นถือออกมา แล้วส่งไปยังทัต พงศ์

“ท่านทัตพงศ์ ขอท่านได้โปรดดูให้หน่อย จากที่ ผมดูมา รูปนี้จึงจะเป็นจิตรกรรมจริงของTang Yin รูป ที่อยู่ในมือท่านนั้น ไม่แน่ว่าซื้อมาจากข้างทางที่ไหน ก็ได้นะ ไม่มีค่าใดๆ” ไวทยุตกล่าว

ทัตพงศ์เอารูปนั้นของไวทยุตมา แล้วดูอย่าง ละเอียด จากนั้นก็แสดงรอยยิ้มอันดูถูกออกมา แล้ว กล่าว “ท่านไวทยุต คุณอย่ามาเล่นตลกกับผมอีกเลย การผลิตของรูปนี้ดูออกอย่างชัดเจนว่าใช้เครื่องเลียน แบบออกมา บางรอยเส้นมีการขาดตอนอย่างชัดเจน และน้ำหนักมือก็อ่อนยิ่งนัก นี่จะเป็นจิตรกรรม ของTang Yinได้อย่างไร”

เมื่อเขาพูดคำนี้ออกมา ไวทยุตก็ตาโต พวกคน ของตระกูลเขมพงศ์นั้นก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าทัตพงศ์จะบอกว่ารูปที่ไวทยุตซื้อกลับมานั้น

เป็นของปลอม

“ท่านทัตพงศ์ ท่านลองดูให้ละเอียดอีกสักครั้ง ดู ผิดไปบ้างไหม รูปนี้เป็นรูปที่ออกมาจากมือของ Tang Yinเลยนะ ผมใช้เวลานานในการดู มั่นใจมากๆด้วย” ไวทยุตกล่าวอย่างซีเรียส

ในขณะนี้ทัตพงศ์ก็ตบไปที่หัวทันที แล้วกล่าว “รูป นี้ของคุณซื้อจากไอ้เด็กคนหนึ่งที่ชื่อกุศะในตลาด โบราณสวรรค์ใช่ไหม?”
สายตาของไวทยุตประกายขึ้นมาทันใด รีบพยัก หน้า เขาคิดว่าเมื่อกี้ทัตพงศ์ดูผิดไป ในใจเริ่มมีความ หวังขึ้นมา

“ถูกต้อง เขานั่นแหละ ไม่รู้คุณค่าของมัน เอาแต่ บอกว่าเป็นของปลอม ผมเลยซื้อมาได้ในราคาสาม แสน ท่านทัตพงศ์รู้ว่าจอตรกรรมของจริงนี้อยู่ที่ เขา?”ไวทยุตกล่าว

ทัตพงศ์หัวเราะอย่างดัง แล้วกล่าว “ท่านไวทยุต สายตาของคุณนี่ไม่โอเคเลยนะ รูปนี้ของคุณเป็นของ ปลอมจริงๆ ไอ้เด็กกุศะนั่นผมรู้จัก ขายรูปปลอมโดย เฉพาะ เฉกเช่นรูปนี้ของคุณ ในหนึ่งวันเขาสามารถ ผลิตออกมาได้เป็นร้อยๆใบ รูปล่ะสามร้อยผมยังว่า แพง แล้วเขาก็พูดแล้วว่าเป็นของปลอม คุณยังจ่ายให้ สามแสนอีก นี่คุณไม่ใช่ซื้อของดีในราคาถูก แต่ เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคนะ ดูๆแล้วท่านไวทยุตน่า จะไม่มีอะไรทำจริงๆ หรือที่ทำแบบนี้เพื่อสร้างบุญสร้าง กุศลหรอ อยากจะช่วยไอ้เด็กกุศะนั่น?”

ไวทยุตแข็งเป็นหิน ทัตพงศ์พูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้า เขายังหาข้ออ้างบอกว่ารูปนี้ของเขาเป็นของจริงอีกล่ะ ก็ไม่มีความหมายใดๆอีกต่อไป ไม่ว่าจะยังไง ความ เชี่ยวชาญต่อวัตถุโบราณของเขา ก็เทียบไม่ได้กับทัต พงศ์

ยิ่งกว่านั้นตอนแรกกุศะก็บอกแล้วว่าเป็นของ ปลอม เป็นเขาเองที่อยากให้สามแสน ไม่งั้นถ้ากุศะพบว่ารูปนี้เป็นของจริงแล้วต่อไปจะมาหาเรื่องเขาได้

ตอนนี้คิดๆดูแล้ว สมงสมองเขาไปหมดแล้วจริงๆ จ่ายสามแสนเพื่อซื้อภาพปลอมในราคาสามร้อยหยวน แล้วยังจะให้เงินเค้ามากขนาดนั้นอีก เกิดเป็นความ อับอายขายขี้หน้าขึ้นมาทันที

ทุกคนของตระกูลเขมพงศ์ต่างเงียบสงัด รู้สึกว่า ไวทยุตทำแบบนี้ มันค่อนข้างบ้าจริงๆ “รูปนี้จึงจะเป็นจิตรกรรมของTang Yinอย่าง แท้จริง รูปนี้ถ้าเอาออกไปขาย เกรงว่าจะขายได้ใน

ราคาหลักร้อยล้านนะ”ทัตพงศ์ดูรูปนั้นที่ศศินัดดานำมา

อีกครั้ง แล้วรู้สึกหดหู่

สีหน้าของไวทยุตบึ้งตึง ภาพนี้ความจริงแล้วศศิ นัดดาให้เขาเป็นของขวัญ แต่ตอนนั้นเขาได้ไล่ศศิ นัดดาออกจากตระกูลเขมพงศ์แล้ว รูปนี้ก็ถูกบจีโยน ออกไปแล้ว รูปนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเขาอีกต่อไป

บจีก็เสียใจ ไม่คิดว่ารูปที่ศศินัดดาเอามานั้นจะ เป็นของจริง ตอนนั้นเธอได้โยนของราคาร้อยล้านออก ไป ตอนนี้คิดๆดูแล้ว ในใจก็เกิดกลัวขึ้นมา

เธอหันไปมองรอบๆ แล้วเดินไปข้างหน้าของทัต พงศ์ ยื่นมือไปหยิบรูปนั้นที่ไวทยุตซื้อมาแล้วโยนออก ไป ยิ้มพลางก่าว “ท่านทัตพงศ์เข้าใจผิดแล้ว ภาพนี้ถึง จะเป็นภาพที่ท่านไวทยุตของพวกเราซื้อกลับมาต่าง หาก ภาพนั้นเป็นของปลอมจริงๆ ก่อนหน้านี้ฉันโยน ผิด”
ไวทยุตมองไปที่บจีอย่างตกใจ ไม่คาดคิดว่าเธอ จะทำแบบนี้

ศศินัดดาเห็นดังนี้ ก็รีบขึ้นมาทันทีวิ่งไปที่บจีนั้น แล้วด่า “บจี แกไอ้หน้าด้าน นั่นมันรูปของฉัน แกเอามา คืนฉันนะ!”

บจีชักตาไปที่ศศินัดดา แล้วกล่าว “อะไรเป็นของ แก นี่เป็นของท่านไวทยุต เกี่ยวข้องอะไรกับแก?”

ฉันมีหนังสือรับรอง ไม่เชื่อพวกแกดู!”

ทัตพงศ์เห็นดังนี้ ก็รีบเดินเข้าไปดู

“อะไรหนังสือรับรอง นั่นแกปลอมขึ้นมา ศศินัดดา แกหยุดไร้สาระได้ล่ะ หรือแกได้ยินว่าภาพนี้ขายได้ใน ราคาหลักร้อยล้าน ก็เอารูปนี้เป็นของตนแล้วหรอ? บจี

กล่าว

“รูปนี้เป็นของเธอจริงๆ ในหนังสือรับรองนี้เป็นราย เซ็นของปรมัตถ์ท่านปรมัตถ์ อันนี้ปลอมแปลงไม่ได้ แน่นอน ทำไมคุณเป็นแบบนี้ หนังสือรับรองอยู่ในมือ ของเธอ ทำไมคุณถึงพูดว่าเป็นของท่านไวทยุต?” ทัต พงศ์ขมวดคิ้วแล้วกล่าว

บจีอับอาย ยังไงเธอก็ไม่คาดคิดว่าทัตพงศ์จะดู หนังสือรับรองของศศินัดดาออก

ใบหน้าของไวทยุตเริ่มดูไม่ดี บจีทำเช่นนี้ ทำให้ สถานะของตระกูลเขมพงศ์ที่มีต่อจิรายุศและทัตพงศ์ นั้นลดลงอย่างไม่ต้องพูดถึง
“บจี แกหยุดพูดจากมั่วๆแถวนี้ได้แล้ว ภาพนี้ศศิ นัดดาเป็นคนเอามา คืนให้เธอ”ไวทยุตกล่าวอย่างนิ่ง ส่งบ

บจีไม่เต็มใจ นี่เป็นภาพราคาหลักร้อยกว่าล้านเลย นะ แม้แบ่งให้เธอเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะให้ ครอบครัวเธอมีชีวิตอย่างสุขสบายตลอดไปแล้ว

“ท่านไวทยุต ตอนนั้นศศินัดดาก็พูดด้วยตัวเอง แล้ว นี่เป็นของขวัญที่เธอให้กับคุณ ของที่ให้ไปแล้วจะ เอากลับได้ไง แล้วเธอเป็นลูกสาวของคุณ มอบภาพนี้ ให้ก็เหมาะสมแล้วนี่”บจีกล่าว

“เหอะเหอะ เมื่อกี๊ตอนที่แกบีบให้ท่านไวทยุตไล่ ฉันและครอบครัวออกไป ไม่ได้พูดแบบนี้หนิ ตอนนี้ เห็นประโยชน์ ก็รีบหาข้ออ้างขึ้นมา แกคิดว่าครอบครัว เราโง่หรอไง?”

“พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลเขมพงศ์ ของพวกเธออีกต่อไป ภาพนี้ให้พวกแก แต่เสียดายที่ ถูกพวกแกโยทิ้งไป ดังนั้นพวกแกไม่คู่ควรกับภาพวาด นี้”

รพีพงษ์ยืนขึ้นมา แล้วกล่าว

ไวทยุตเสียใจ รพีพงษ์พูดไม่ผิด เขาได้ไล่ศศิ นัดดาทั้งครอบครัวออกจากตระกูลเขมพงศ์แล้ว ตอนนี้ ศศินัดดาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับเขาอีกแล้ว ภาพนั้น ก็รับไว้ไม่ได้อีกแล้ว
บจีเห็นคนที่พูดคือรพีพงษ์ ก็มองอย่างเหยียด หยามทันที “ไอ้สวะอย่างแก แกมีสิทธิ์พูดด้วยหรอ แก รีบไสหัวไปซะ มิเช่นนั้นฉันจะให้ยามของตระกูลเขม พงศ์ของเรามาลากตัวแกออกไป!”

ตอนนี้จิรายุศทนไม่ไหวแล้ว ตอนที่บจีตะโกนใส่ ศศินัดดานั้น เขาอยากที่จะสั่งสอนบจีขึ้นมาในทันที เพราะยังไงศศินัดดาก็คือแม่ยายของรพีพงษ์ แต่ก็ได้ อดทนไว้

ตอนนี้เห็นบจีแม้แต่รพีพงษ์ก็เริ่มด่าแล้ว เขาอดทน ไม่ได้แล้วจริงๆ แล้วเดินไปที่ด้านหน้าของบจี แล้วตบ

เธอสองฉาด

“แม่งเอ้ย ถึงเป็นใคร ก็ตะโกนใส่คุณรพี จึงไม่ อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรอ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท