พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่217 จักรพันธ์

บทที่217 จักรพันธ์

บทที่217 จักรพันธ์

ณ Blue love

รพีพงษ์กับโยษิตานั่งที่ข้างหน้าของหน้าต่างม่าน ยาว พลางจิบกาแฟ พลางชมวิวทิวทัศน์ของดงเย็น

“ความจริงบางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ แก มีความสามารถที่จะให้ทุกคนเคารพในตัวแกแท้ๆ แต่แก กลับอดทนมาโดยตลอด แกไม่เก็บท่าทีที่คนพวกนั้นมี ต่อแกมาใส่ใจจริงๆหรอ?” โยษิตาถาม

ปกติไม่แสดงออกใดๆ แต่จู่ๆก็ทำขึ้นมา ความยิ่ง ใหญ่ของฉันจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางครั้งถ้าใช้ อำนาจตัวเองมั่วซั่ว ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดี” รพีพงศ์กล่าว

“ดูๆแล้วหลายปีมานี้แกโตขึ้นเยอะเลยนะ” โยษิ ตาหัวเราะพลางพูด

“ทุกอย่างเป็นไปเพราะคุณ ไม่โตไม่ได้หรอก” รพี พงษ์เพ่งไปที่โยษิตาแล้วกล่าว

“ดูแล้วแกยังคงเกลียดแค้นฉันนะ ฉันมาเชิญคุณ กลับไปด้วยตัวเองแล้ว หรือมันไม่สามารถทำให้แกลืม เรื่องราวในตอนนั้นได้เลยหรอ?” โยษิตากล่าว

“นี่มันคนล่ะเรื่องกัน ผมไม่เคยพูดว่าจะตกลงกลับ ไปพร้อมคุณ แล้วต้องยกโทษให้คุณ แล้วที่ผมกลับไปก็ เพราะจดหมายฉบับนั้นที่พ่อฝากไว้ให้ผมต่างหาก ไม่ได้ เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย” รพีพงษ์กล่าว
โยษิตาทำได้เพียงหัวเราะเท่านั้น แล้วไม่พูด อะไรอีก ทั้งคู่นั่งกันอย่างเงียบสงบ เมื่อต่างคนต่างดื่ม กาแฟในแก้วของตัวเองหมด โยษิตาก็เริ่มพูดต่อ

“วันนี้ตอนกลางคืนฉันจะกลับไปเกียวโต แกยัง ต้องอีกนานเท่าไหร่ถึงจะกลับไป?” โยษิตารู้นิสัยของรพี พงษ์ดี ว่าเพื่อจดหมายฉบับนั้นแล้ว เขาจะต้องกลับไป เกียวโตแน่นอน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลับไปพร้อมกับ รพีพงษ์

“รอให้จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก่อน ก็น่าจะเป็นช่วง สองสามวันนี้แหละ

โยษิตาพยักหน้า แล้วกล่าว “ประตูของตระกูลลัด ดาวัลย์ เปิดรอรับการกลับมาของแกตลอดเวลา”

“กลัวก็แค่หลังประตูจะมีมีดซ่อนอยู่” รพีพงษ์ หัวเราะ

โยษิตาสะดุ้ง ประหลาดใจเล็กน้อย เหมือนรพี พงษ์จะรู้อะไรมาแล้ว?

แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา สีหน้ายัง คงมองไปที่รพีพงษ์ดังเดิม

“พี่สาวฉันมีแค่แกคนเดียว ตอนนั้นเป็นเพราะ

ร้อนรน ถึงได้ไล่แกออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ หลายปีมา นี้เธอได้คิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพียงแค่แกกลับ ไป หัวหน้าคนต่อไปของตระกูลลัดดาวัลย์ ก็คือแก ไม่ว่า แกจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ มันคือความจริงที่ได้กำหนด ไว้แล้ว
เมื่อโยษิตาพูดจบ ก็ยืนขึ้นจากเก้าอี้ หันเดินลง บันไดไป

“เจอกันที่เกียวโต”

รพีพงษ์หันไปมองนอกกระจก มองไปที่เงาของ โยษิตาที่เดินจากดงเย็นไป เขาก็หลับตาลง

“พวกคุณให้ผมกลับ เพื่อให้ผมไปรับมรดกของ ตระกูลลัดดาวัลย์จริงหรอ? หรือคุณมั่นใจแล้วว่าหลัง จากที่ผมได้รับมรดกของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น จะไม่ ทำอะไรพวกคุณแล้ว? เกรงว่ากลับไปครั้งนี้ เรื่องราวจะ ไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้” รพีพงษ์พึมพำ

จากนั้นเขาไม่คิดมากอะไรอีก ยืนขึ้น แล้วกลับ บ้าน หลังจากที่ศศินัดดาและศักดารู้ว่ารพีพงษ์เป็น

ทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น ท่าทีต่อรพีพงษ์ก็

เปลี่ยนไปต้อนรับขับสู้ทันที

เสียงในการพูดของศศินัดดาก็เปลี่ยนเป็นอ่อน โยนขึ้นมาก เมื่อเสียงของเธอนุ่มขึ้น ทั้งครอบครัวก็แลดู สามัคคีขึ้นเยอะ

รพีพงษ์ดีใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อย่างน้อยครอบครัวก็จะไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ทุกๆ วันล้วนได้ยินแต่เสียงด่าของศศินัดดา

เกียวโต คฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์

ในห้องลับใต้ดิน มีผู้หญิงมาที่นี่แต่งกายอย่างหรูหรา หยิบกุญแจขึ้นมา เปิดประตูห้องล่างนี้

อายุของผู้หญิงคนนี้ราวๆสี่สิบใกล้จะห้าสิบ ถึงแม้ บนใบหน้าจะมีรอยตีนกาอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงมองออกว่า เมื่อตอนวัยรุ่นนั้นเธอชั่งสวยงามเหลือเกิน

ดวงตาของผู้หญิงคล้ายคลึงกับของโยษิจา ถ้า มองให้ดีๆล่ะก็ สามารถมองเห็นหน้าของรพีพงษ์ได้เลย ทีเดียว

คนนี้คือหัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลลัดดาวัลย์ พอดี พี่วาวของโยษิตา แม่ของรพีพงษ์ วิธรา

เธอเดินเข้าไปในห้องใต้ดิน แล้วเปิดไฟภายใน ห้อง ห้องใต้ดินนี้มีแค่เตียงหนึ่งใบและโต๊ะหนึ่งตัว เท่านั้น ขณะนี้ก็มีวัยรุ่นหนึ่งคนกำลังนอนอยู่บนเตียง เมื่อเปิดไฟ เขาก็ลืมตาขึ้น แล้วนั่งขึ้นจากเตียง

วันรุ่นคนนี้หล่อเหลา เพียงแต่เป็นเพราะต้องอยู่ ในห้องใต้ดิน ดูๆไปจะสกปรกโสโครกมาก แต่ถ้าดูดีๆ แล้ว จะเห็นได้ว่า รูปร่างเด็กวัยรุ่นคนนี้กับรพีพงษ์นั้น คล้ายคลึงกันมาก ถ้าไม่ดูให้ละเอียด แยกความแตกต่าง ของทั้งคู่ไม่ออกเลยทีเดียว

คนนี้มีชื่อว่าจักรพันธ์ เป็นพี่น้องแม่เดียวกันแต่ ต่างพ่อ คนที่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่นั้นน้อยมาก

จักรพันธ์เห็นวีธรา ก็รีบกล่าวอย่างดีใจทันทีว่า “แม่ คุณช่วยผมหาตัวตายตัวแทนได้หรือยัง?”

วีธราเดินไป นั่งข้างๆจักรพันธ์ ด้วยใบหน้าแห่ง ความรักแล้วกล่าว “จักรพันธ์ แกรออีกสองวันนะ อีกสักสองวัน ไอ้สวะรพีพงษ์มันจะกลับมาแล้ว

ถึงเวลานั้นพวกเราส่งมันให้กับหอการค้าสมน แกก็จะปลอดภัยแล้ว”

จักรพันธ์ได้ยินคำพูดของวีธรา สีหน้าบิ้งตึง อารมณ์ไม่ดีแล้วกล่าว “อีกสองวันอีกแล้ว ครั้งที่แล้วคุณ ก็พูดแบบนี้ ผมอยู่ที่ลับนี่มานานหลายวันแล้วนะ ร่างกาย จะมีขนออกมาแล้วเนี่ย แล้วผมก็ไม่ได้แตะต้องผู้หญิงมา หนึ่งเดือนแล้วนะ คุณรู้บ้างไหมว่าผมต้องอดกลั้นขนาด ไหน?”

วีธราเห็นจักรพันธ์โมโห ก็รีบปลอบโยน

“จักรพันธ์ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครั้งนี้ไอ้สวะรพีพงษ์จะ ต้องกลับมาแน่นอน รอให้เขากลับมา ฉันจะหาวิธีจับตัว มัน ถึงเวลานั้นพวกเราส่งเขาออกไป แล้วพูดว่าคุณผู้ หญิงของหอการค้าสมนนั้นรพีพงษ์เป็นคนจับไป ถึง เวลานั้นแกก็สามารถออกไปได้อย่างเฉิดฉายแล้ว และ คุณผู้หญิงของหอการค้าสมน.นั้นฉันได้ขังเอาไว้ในที่ลับ แล้ว ถึงเวลานั้นก็จะได้ลิ้มลองคุณผู้หญิงของหอการค้า สมน.แล้ว”

“ครั้งนี้มันก็สั่งซวยจริงๆ ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคน นั้นเป็นคุณผู้หญิงของหอการค้าสมน. ที่สำคัญที่สุดคือ หอการค้าสมน.ยังเข้าใจผิดคิดว่าพวกเราได้ฆ่าคุณผู้ หญิงของพวกเราตายแล้วเสียอีก ซึ่งน่าปวดหัวเหลือ เกิน” จักรพันธ์อารมณ์ไม่ดี

วีธราหัวเราะ แล้วกล่าว “จักรพันธ์ เพียงแค่แก ชอบ แม่จะช่วยให้แกได้เธอมา แม้จะเป็นคุณผู้หญิงของหอการค้าสมน. ฉันก็จะหามาให้ ความจริงคนของหอการ ค้าสมน.คิดว่าคุณผู้หญิงของพวกเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว ก็เป็นแผนที่ฉันวางไว้ ถึงเวลานั้นรพีพงษ์จะเป็นตัว ตายตัวแทนที่จะถูกส่งไปยังหอการค้าสมน. แกก็ สามารถที่จะเอาคุณผู้หญิงของหอการค้าสมน.เป็นทาส ข้างกายได้ตลอดกาลแล้ว คนของหอการค้าสมน.ไม่คิด ไม่ฝันว่าคุณผู้หญิงของพวกเขาถูกฉันขังเอาไว้ในที่ลับ แห่งหนึ่ง”

“คุณคิดว่าคนของหอการค้าสมน.จะเชื่อไหมว่า รพีพงษ์เป็นคนจับตัวคุณหญิงของพวกเขาไป? จักรพันธ์ ถาม

“เรื่องนี้แกสบายใจได้ ที่หอการค้าสมนนั้นมีรูป ตอนที่แกจับคุณหญิงของพวกเขาเพียงรูปเดียวเท่านั้น พวกเขาก็ดูตามรูปนี้แล้วแกะรอยมาถึงตระกูลลัดดาวัลย์ ของเรา แกกับรพีพงษ์คล้ายคลึงกันมาก คนของหอการ ค้าสมน.คิดว่าเรื่องนี้รพีพงษ์เป็นคนทำ ถึงเวลานั้นพวก เราเอารพีพงษ์ส่งให้กับหอการค้าสมน. ถึงแม้รพีพงษ์จะ ปฏิเสธเขาก็คิดว่ากำลังแก้ตัว” วีธราหัวเราะแล้วกล่าว

“งั้นก็ดี แต่รพีพงษ์ก็เป็นลูกชายของคุณ คุณทน เห็นเขาตายแทนผมได้หรอ?”จักรพันธ์ถาม

สีหน้าของวีธราเปลี่ยนไปทันที แล้วกล่าว “ไอ้ สวะนั่นก็ถือเป็นลูกชายของฉันได้ไง ลูกชายของฉันมีแค่ แกคนเดียวเท่านั้น เขาก็แค่เมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้าย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นลูกชายฉัน เลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นไม่ได้ฆ่าเขา ก็ถือว่าฉันมีไมตรีต่อเขาแล้ว”

จักรพันธ์ยิ้ม แล้วกล่าว “พูดอีกก็ถูกอีก ตอนนั้น คุณก็โดนบีบให้แต่งงานเข้าตระกูลลัดดาวัลย์ ในตัวรพี พงษ์มีเลือดของตระกูลลัดดาวัลย์อยู่ เขาไม่คู่ควรที่จะ เป็นลูกชายของคุณ ผมได้ยินมาว่าตอนที่เขาอยู่เมืองริ เวอร์ทุกคนต่างมองเขาว่าเป็นไอ้สวะ ขยะแบบนี้ ตอนนั้น น่าจะฆ่าทั้งไปเลย”

“จักรพันธ์ แกก็อย่าพูดแบบนี้ ตอนนั้นถ้าฉันฆ่า เขาแล้ว ตอนนี้พวกเราจะไปหาตัวตายตัวแทนที่ไหนได้ อีก ต่อให้ตระกูลลัดดาวัลย์มีอำนาจ ก็แตะต้องหอการค้า สมน.ไม่ได้ แกอยากได้คุณผู้หญิงของหอการค้าสมน. แล้วยังไม่อยากดูหอการค้าสมุน.เพ่งเล็ง ก็มีแค่วิธีนี้วิธี เดียว” วีธรากล่าว

“รู้แล้ว รู้แล้ว ผู้หญิงของหอการค้าสมน.นั้นดูให้

ผมดีๆ อย่าให้ใครแตะต้องได้ รอให้ผมออกไปได้จะต้อง

มีความสุขกับเธอให้สาสมหน่อย” จักรพันธ์พูดอย่างเสีย อารมณ์ ถึงแม้จักรพันธ์จะเสียอารมณ์ แต่วีธราก็ไม่โกรธ เคืองใดๆ ในใจของเธอจักรพันธ์คือพระเจ้าของเธอ ไม่

ว่าจักรพันธ์อยากได้อะไร เธอก็จะหามาให้จักรพันธ์เสมอ

“แกไม่ต้องเป็นห่วง แม่จะดูเด็กผู้หญิงคนนั้นให้ ผู้หญิงที่จักรพันธ์ของฉันชอบ จะให้คนอื่นจับต้องได้ อย่างไรกัน” วีธรากล่าว

“แม่ ผมได้ยินมาว่ารพีพงษ์ได้แต่งงานอยู่ที่เมืองริเวอร์ ภรรยาสวยอยู่นะ ไม่งั้นคุณก็เอาภรรยาของเขา กลับมาให้ผมด้วยซิ ให้ผมได้ปลดปล่อย” ใบหน้าของ จักรพันธ์สะท้อนรอยยิ้มแห่งความลามกออกมา

วีธราพยักหน้า แล้วกล่าว ได้ได้ได้ รอให้รพีพงษ์ มาก่อนจัดการเรื่องของหอการค้าสมน.จบ ฉันจะเอา ภรรยาของรพีพงษ์นั้นมาให้แก แกไอ้เด็กคนนี้ ความ ต้องการด้านนี้ไร้ขีดจำกัดจริงๆ”

“อิอิ ใครให้ผมเป็นลูกชายของแม่ล่ะ” จักรพันธ์ หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท