พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 250 กล้าหาญ

บทที่ 250 กล้าหาญ

บทที่ 250 กล้าหาญ

หลังจากที่รชนิชลและจิรโชติทั้งสองคนลากตัวอันนาออก มาที่โซนเครื่องเล่นเกม ก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก “รพีพงษ์ก็โง่จริงๆเลย ยังจะหัวดื้อหัวรั้นรอให้ประดิพุทธิ์

มาถึง เขาไม่กลัวตายเลย”จิรโชติกล่าวขึ้นมา

“เขาอยู่รอที่นั่นมันก็มีเป็นเรื่องดีสำหรับเราด้วยเช่นกัน ถึง ยังไงคนพวกนั้นก็เจาะจงเข้ามาหาเขาอยู่แล้ว รอประดิพุทธิ์ มาถึง จัดการเขาเลยทันทีก็ดีแล้ว แล้วก็คงไม่หาเรื่องเดือด ร้อนมาให้พวกเรา ถ้าหากว่าเขาหนีมาพร้อมกับพวกเรา ถึง เวลาประดิพุทธิ์คงจะมาหาเขาอย่างแน่นอน ถ้าเกิดคนของ ประดิพุทธิ์ต้องการหาเขาเจอ แล้วมาหาพวกเราจะทำยังไง ดี”จิรโชติกล่าว

สีหน้าของอันนาเต็มไปด้วยความกังวลมองไปที่ด้านใน โซนเครื่องเล่นเกม แล้วพูด: “หรือว่าเราจะแจ้งตำรวจ ให้รพี พงษ์อยู่ที่นี่คนเดียว มันอันตรายเกินไป ถ้าแจ้งตำรวจพวกเขา ก็จะไม่กล้าทำอะไรรพีพงษ์”

“เธอนี่มันเด็กโง่จริงๆ รู้มั้ยว่าตำแหน่งของประดิพุทธิ์อยู่ ในอำเภอโซชิง ต่อให้แจ้งตำรวจ สุดท้ายคนที่จะซวยก็เป็นรพี พงษ์ ไม่แน่เราก็อาจโดนไปด้วย เธอไม่ต้องไปสนใจแล้วว่า มันจะเป็นหรือตาย มันเป็นคนเลือกเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา”จิร โชติกล่าว

“พวกเราก็มัวแต่ยืนเฉยๆอยู่ที่นี่เลย เดี่ยวประดิพุทธิ์พาคน มาด้วย เจอพวกเรา ไม่แน่อาจจะซวยไปด้วย พวกเราไปนั่งที่ ร้านกาแฟตรงข้ามดีกว่า”
จิรโชติพูดขึ้น จากนั้นก็พารชนิชลและอันนาเดินไปร้าน กาแฟตรงข้ามถนน

ทั้งสามคนจงใจหาที่ตำแหน่งนั่งที่ใกล้กับหน้าต่าง ก็เพื่อ

จะสังเกตดูสถานการณ์ในโซนเครื่องเล่นเกม หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรถตู้สีดำหลายคันก็มาจอดที่ด้าน หน้าประตูโซนเครื่องเกม ประดิพุทธิ์เดินลงมาจากรถ ด้าน หลังตามมาด้วยกลุ่มลูกน้องใส่ชุดสูทสีดำ

จิรโชติและรชนิชลมองเห็นตอนที่ประดิพุทธิ์กำลังลงมา พอดี ในใจก็รู้สึกกระวนกระวาย คิดไม่ถึงว่าประดิพุทธิ์จะ ทำให้มันกลายเป็นศึกครั้งใหญ่ขนาดนี้ คนพวกนั้นที่สวมใส่ ชุดสูทสีดำดูไปแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะยั่วยุง่ายๆ ต่อให้รพีพงษ์จะ สามารถต่อสู้ได้เก่งแค่ไหน ก็คงสามารถต่อสู้กับผู้คนที่ แข็งแกร่งมากมายได้ขนาดนี้ ครั้งนี้ก็กลัวว่ารพีพงษ์จะโชค ร้ายจริงๆเข้าซะแล้ว

“รพีพงษ์ก็ไม่กลัวตายจริงๆ คนที่ประดิพุทธิ์พามานั้น น่า จะเป็นลูกน้องที่เก่งกาจมากฝีมือ คนเพิ่มขึ้นมาหมายขนาดนี้ ต่อให้รพีพงษ์จะมีความฝีมือมากมาย ก็คงจะรับมือได้ไม่ไหว ตอนนี้อยากจะหนีก็หนีไม่พ้น”จิรโซติกล่าว

“คือเขารนหาที่ตายด้วยตัวเขาเอง เรื่องนี้จะโทษใครไม่ ได้ ไอ้หมอนั้นมันทุบตีทัศน์พลไปสักขนาดนั้น ประดิพุทธิ์ก็ คงจะช่วยทัศน์พลแก้แค้นแน่นอน ก็หวังว่าไอ้หมอนี้จะมีชีวิต อยู่ได้นานกว่านี้ สามารถรอดชีวิตจากเงื้อมมือของประดิพุทธิ์ ได้”รชนิชลพึมพำ

เมื่ออันนาได้ยินคำพูดของพวกเขาสองคน สีหน้าก็ ซีดเซียวขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อคิดไปถึงว่ารพีพงษ์ถูกคนของ ประดิพุทธิ์ทุบตีจนตาย หล่อนก็ไม่สามารถนิ่งสงบได้
“ไม่ได้นะ ฉันต้องไปช่วยรพีพงษ์” อันนายืนขึ้นมาทันที รชนิชลจับมือของเธอไว้ แล้วดึงกลับไปนั่งลงที่เดิม

“เธอจะไปช่วยยังไง? เธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคน หนึ่ง ไปแล้วก็เท่ากับรนหาที่ตาย เธอนั่งรออยู่ตรงที่นี่เฉยๆดี กว่า ไหนเธอบอกว่าเขาเก่งมากไงล่ะ ถ้าเกิดว่าเขาเก่งจริง อย่างนั้นก็สามารถหนีรอดพ้นจากเงื้อมมือประดิพุทธิ์ได้ เธอก็ ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก”รชนิชลกล่าว

หล่อนก็ไม่ได้รู้สึกว่ารพีพงษ์จะสามารถหนีรอดพ้นจาก เงื้อมมือของประดิพุทธิ์ได้ ที่พูดแบบนี้ ก็เพื่อปลอบใจอันนา เท่านั้นเอง

ในโซนเครื่องเล่นเกม ห้องสำนักงาน

รพีพงษ์นั่งลงที่บนเก้าอี้หนึ่งตัว รอให้ประดิพุทธิ์มาถึง เมื่อ ก็สู้กับทัศน์พลและกลุ่มคนมากมาย ทำให้เขาลมหายใจแรง ขึ้น ดังนั้นนั่งลงเพื่อพักสักครู่

ยาที่วีธราวางให้รพีพงษ์ทำให้เขาปวดหัว ไม่สามารถฟื้นฟู ความแข็งแกร่งคืนกลับมาได้ ทุกๆครั้งที่อยากจะสั่งสอนพวก นักเลง หายใจลำบากตลอด ถ้าอยู่ในตอนที่สภาพของเขา ปกติสมบูรณ์สูงสุด จัดการทัศน์พลและคนพวกนี้ คงจะไม่ อยู่ในสภาพแบบนี้

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูขึ้นมา โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดตอนที่จักรพันธ์ไปที่เมืองริเวอร์เพื่อ หาเรื่องเดือดร้อนให้กับอารียา เขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ ที่แย่

ทัศน์พลนั่งอยู่บนพื้น โดยมีกริชปักอยู่ที่บนขาของเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะดึงมันออกมา ตอนนี้ประดิพุทธิ์ยังมาไม่ถึงเขาก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาล ทำได้เพียงแค่กัดฟันและอดทน

“พี่ทัด พี่อดทนไว้ก่อนนะ รอเดี่ยวพี่พุดมา พวกเราก็จะส่ง พี่ไปโรงพยาบาลทันที ถึงเวลานั้นพี่พุดก็จะช่วยแทงไอ้หมอนี้ กลับไปหนึ่งที่”จิรโชติกล่าว

“เชี่ยเอ้ย ถ้าพี่พุดมาถึง ฉันจะเป็นคนแทงไอ้หมอนี้ด้วยตัว เอง ใครให้มันมาอวดเก่งกับฉัน ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว ฉันไม่ เคยต้องรับโทษแบบนี้มาก่อนเลย”ทัศน์พลจ้องมองไปที่รพี พงษ์อย่างเคียดแค้นแล้วพูด

ชรินทร์ทิพย์เหลือบมองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดด้วยท่าทาง ที่โมโห : “รพีพงษ์ นายยังมีกะจิตกะใจที่จะนั่งอยู่ตรงนี้อยู่อีก ดูท่าทางที่สงบและผ่อนคลายของนายแล้ว คงจะไม่รู้ว่าเดี่ยว นายจะเจอกับคนแบบไหน จะบอกนายให้นะ เพียงแค่พี่พุดมา ถึง วันนี้นายจบเห่แน่ๆ”

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดว่า: “ฉันไม่มองเห็นอะไรเลย”

“เซอะ พูดเหมือนกับว่านายรู้จักกับพี่พุด พี่ทัดและก้อง เป็นคนข้างกายของพี่พุด ครั้งนี้นายมีเรื่องกับพวกเขาสองทั้ง สอง ถึงยังไง พี่พูดก็ไม่ปล่อยนายไว้แน่”ชรินทร์ทิพย์กล่าว อย่างดูถูก

ในเวลานี้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นอยู่ข้างนอกห้องสำนักงาน และก้องภพก็เหลือบมองไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับ แสดงสีหน้าประหลาดใจ

“พี่พุดมาแล้ว แล้วยังพาลูกน้องมาด้วยไม่น้อย ไอ้หมอนี้

วันนี้หนีไม่รอดแน่”ก้องภพกล่าวขึ้น จากนั้นเขาก็ตะโกนออกไปข้างนอก: “พี่พุด พวกเราอยู่ ตรงนี้!”
ประดิพุทธิ์พาลูกน้องตัวเองเดินไปที่ห้องสำนักงาน ตอน นั้นเขาได้รับโทรศัพท์จากก้องภพ ก้องภพบอกว่าเขาและทัศน์ พลถูกชายคนหนึ่งทุบตี ในใจก็ตกใจ ไม่รู้ว่าใครที่มีความกล้า หาญได้ขนาดนี้ ถึงทุบตีคนทั้งสองของเขาในครั้งเดียว

ตอนนี้รพีพงษ์ยังอาศัยอยู่ที่เขา เขาอยากจะโชว์ความ สามารถให้รพีพงษ์เห็น เขาจะทำให้รพีพงษ์เห็นถึงความ สำเร็จหลายปีมานี้ของเขา ทำให้รพีพงษ์รู้ ว่าอยู่ในอำเภอโช ซิง ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขาประดิพุทธิ์

แต่ว่าตอนนี้กลับมีใครบางคนกล้าที่จะทุบตีลูกน้องทั้งสอง คนที่สำคัญของเขา เห็นได้ชัดแบบนี้เท่ากับว่าท้าทายเขา ดัง นั้นหลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์ ก็รีบพาคนที่มีฝีมือเก่งๆของ ตัวเองมา มาถึงที่โซนเครื่องเล่นเกม

วันนี้เขาจำเป็นต้องมาพิสูจน์กับคนที่ท้าทายเขาว่าใครแน่ กว่ากัน ไม่อย่างนั้น รพีพงษ์ก็จะหัวเราะเยาะเขาแน่

หลังจากที่ก้องภพทักทายกับเขาเสร็จ ประดิพุทธิ์ก็รีบพา เข้ามาในห้องสำนักงาน

ก้องภพออกมา ทักทายกับประดิพุทธิ์ ชรินทร์ทิพย์รีบ

ทักทายเรียกพี่พุด “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”ประดิพุทธิ์ถาม

“พี่พุด มีชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หาเรื่องหาพวกเรา ผมให้ทัศน์พลจัดการกับเขา แต่ปรากฏว่าเขากลับจัดการ ทุบตีกับคนของทัศน์พล ทัศน์พลก็ถูกไอ้หมอนี่แทง ตอนนี้ยัง อยู่ที่นี่ ไอ้หมอนี่ไม่เอาพี่ไว้ในสายเลย ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ถึง ได้โทรเรียกพี่มา”ก้องภพอธิบาย

“ให้ตายเถอะ กล้าที่จะไม่เห็นฉันประดิพุทธิ์อยู่ในสายตาเลย ดูไปแล้วไปเอาความกล้าหาญแบบนี้มาจากที่ไหน ให้ฉัน ดูหน่อยสิ เป็นใคร ถึงกล้าท้าทายฉันประดิพุทธิ์”ประดิพุทธิ์ ตะโกนขึ้นมา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท