พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 540 ก็แค่เรื่องของประโยคเดียว

บทที่ 540 ก็แค่เรื่องของประโยคเดียว

บทที่ 540 ก็แค่เรื่องของประโยคเดียว

ในอพาร์ตเมนต์

รพีพงษ์นั่งอยู่ข้างเตียง อยู่ในท่านี้ทั้งบ่าย

ในหัวของเขาคิดถึงทุกสิ่งที่เขาได้พบกับอารียาในมหาวิทยาลัยฟูตันในวันนี้ กับสายตาที่ไม่คุ้นเคยของอารียาที่มองมาที่เขา

ตอนนั้น ขนมปังพาอารียาออกไปรพีพงษ์ไม่ได้ตามออกไปอีก เขาได้ตัดสินจากสายตาของอารียาแล้วว่า ตอนนี้เธอไม่รู้จักเขาจริงๆ

นอกจากนี้ อารียายังมีตัวตนใหม่และชื่อใหม่ คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ดารินทร์

ด้วยเหตุผลหลายประการ รพีพงษ์จึงไม่ได้พาอารียาไปอย่างดื้อ เพราะยังไงตอนนี้เขาก็รู้ว่าอารียาอยู่ไหนแล้ว จะตามหาเธออีกครั้งไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือต้องรู้ว่าอารียาประสบอะไรมา

สิ่งหนึ่งที่เดาได้คือ หลังจากที่อารียาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจมีอาการความจำเสื่อมซึ่งสิ่งนี้จึงทำให้เธอไม่คุ้นเคยเลยเมื่อเห็นตัวเอง ราวกับว่าเธอไม่รู้จักเขาเลย

นอกจากนี้ รพีพงษ์เดาว่าตระกูลพงศ์ธนธดา อาจเป็นบ้านที่แท้จริงของอารียา เบาะแสที่ศักดาให้รพีพงษ์คือเซี่ยงไฮ้ หลังจากรพีพงษ์มาถึงที่นี่ เขาได้พบกับอารียาจริงๆ แต่อารียากลับกลายเป็นคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา เมื่อนำสิ่งเหล่านี้มารวมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คิดได้มากที่สุด ก็คือสิ่งนี้

รพีพงษ์ไม่สนใจตัวตนของอารียา ไม่ว่าเธอจะเป็นคุณหนูของตระกูลพงศ์ธนธดาหรือตระกูลฉัตรมงคล ขอแค่เป็นอารียาก็ยังรักภรรยาอยู่ สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ

รพีพงษ์มีความคิดนี้อยู่แล้ว เมื่อเขารู้ว่าอารียาไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของ ศักดากับศศินัดดา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่ทำให้รพีพงษ์ไม่รู้จะทำยังไง คืออารียามีแนวโน้มที่จะความจำเสื่อมและไม่ทราบระดับความจำเสื่อมนี้ หากเป็นความจำเสื่อมระยะสั้น รพีพงษ์ยังสามารถยอมรับได้ หากเป็นความจำเสื่อมนี้เป็นแบบถาวร อารียาจำไม่ได้ว่ารพีพงษ์คือใคร งั้นมันก็ไม่ต่างจากการตายไป

รพีพงษ์รู้สึกว่าเขาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้ ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่ข้างเตียงเป็นเวลานาน

โทรศัพท์ดังขึ้น ดึงความคิดของรพีพงษ์กลับมา

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าวิไลพรเป็นคนโทรมา

“ นายน้อย เราพบเบาะแสของบุคคลที่คุณกำลังตามหาแล้ว เพราะเราไม่ได้คิดถึงด้านนั้นมาก่อน ซึ่งทำให้เรามองข้ามความเป็นไปได้บางอย่างไป เมื่อฉันเปรียบเทียบภาพถ่ายในวันนี้ ฉันพบว่าคนรักที่คุณกำลังตามหา หน้าตาเหมือนกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา ดารินทร์ นายน้อย คุณจะมาที่ฉันไหม มีนาจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาให้คุณฟัง “เสียงของวิไลพรเริ่มออดอ้อนขึ้นมา

“ผมรู้แล้ว” รพีพงษ์ตอบอย่างเรียบง่ายแล้ววางสายโทรศัพท์

เขาหายใจเข้าลึกๆ จุดประสงค์ของเขาในการมาที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อมาตามหาอารียา ตอนนี้ได้พบอารียาแล้ว เขากลับไม่มีความสุขเลย

หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานรพีพงษ์ก็ลุกขึ้นและวางแผนที่จะไปหาวิไลพร แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาคืออารียาแต่เขาก็ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับตระกูลพงศ์ธนธดา สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องถามจากวิไลพร

เขาเดินลงไปข้างล่าง พบว่าเยาวเรศกับนิษฐา ทั้งคู่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อรพีพงษ์ออกมาเยาวเรศก็ลุกขึ้นยืนทันทีและถามรพีพงษ์ด้วยความกังวล “รพีพงษ์คุณไม่เป็นไรใช่ไหมวันนี้ที่มหาวิทยาลัย .. . …”

“ผมสบายดี” รพีพงษ์ตอบแล้วเดินไปที่ประตู

เยาวเรศอยากถามรพีพงษ์ว่าเขากำลังจะไปทำอะไร แต่เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยในวันนี้ เธอก็กลืนน้ำลายอีกครั้ง

หลังจากที่รพีพงษ์จากไปนิษฐาจึงค่อยกล่าวด้วยการดูถูก “จิมมี่ คุณอย่าไปคิดชอบคนอื่นเลย เขาเป็นถึงศาสตราจารย์รับเชิญที่คิดว่าตัวเองสูงส่ง เป้าหมายของพวกเขาคือคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา คุณไม่เห็นสายตาที่เขามองคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาในวันนี้เหรอ”

เยาวเรศถอนหายใจ แน่นอนว่าเธอได้เห็นเหตุการณ์ตอนหลังเลิกเรียนในวันนี้แล้ว แม้แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะเสียมารยาทต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้

“ และคิดไม่ถึงว่า เขาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญแท้ๆ จะใช้วิธีการต่ำทรามแบบนั้น เพื่อขึ้นไปพูดกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นภรรยาของเขา ซึ่งมันไร้ยางอายจริงๆ” นิษฐาวิจารณ์รพีพงษ์อีกครั้ง

แม้ว่าในชั้นเรียนวันนี้รพีพงษ์ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้เกาะผู้หญิงกินด้วยความสามารถของเขา ทำให้นิษฐารู้สึกว่าเธอเข้าใจรพีพงษ์ผิดและรู้สึกผิดเล็กน้อย

แต่เมื่อเธอกำลังจะไปขอโทษรพีพงษ์ก็ผลักเธอออกไป ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมาก

รวมถึงเมื่อเห็นขนมปังกล่าวหารพีพงษ์ว่าไร้ยางอาย บอกว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาเป็นภรรยาของเขา สิ่งนี้ทำให้นิษฐาดูถูกรพีพงษ์มากกว่าเดิม

แม้ว่ารพีพงษ์จะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน ทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ ก็ยังไม่สามารถทำให้เธอหยุดดูถูกเขาได้

“ อาจจะมีความเข้าใจผิดบางอย่างในนั้นก็ได้” เยาวเรศพูดอย่างผิดหวังเล็กน้อย

“ เข้าใจผิดเหรอ?ตกลกหน่ะ เรื่องของวันนี้คุณยังดูไม่ออกเหรอ คุณหนูตระกูลซูพงศ์ธนธดาไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ หญิงสาวคนนั้นก็บอกว่าเขาไร้ยางอาย เห็นได้ชัดว่าเขาใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้เพื่อเข้าใกล้คุณหนูตระกูลซูพงศ์ธนธดา”

“ฉันยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีการศึกษาเมื่อเขาบรรยายในวันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนจะหยาบคายมาก แม้ว่าเขาจะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญในมหาวิทยาลัยของเราแล้วจะยังไง ยังไงเขาก็ไม่คู่ควรกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา”

นิษฐายิ่งพูดก็ได้โมโห ราวกับว่าจับจุดอ่อนของรพีพงษ์ได้ ทำหน้าเหมือนสั่งสอนรพีพงษ์อย่างรุนแรง

เยาวเรศก็นึกไม่ออกว่าทำไมรพีพงษ์ถึงทำแบบนี้ หลังจากถอนหายใจแล้วเธอก็หันกลับไปที่ห้อง

“หึ เธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาที่ร่ำรวย คุณเป็นแค่ศาสตราจารย์รับเชิญ คุณจะคู่ควรกับเธอได้อย่างไร คางคกอยากกินเนื้อห่านฟ้าจริงๆ” นิษฐาพึมพำ จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ห้อง

อาคารลานคอน

ในห้องทำงานของวิไลพร

หลังจากที่รพีพงษ์เปิดประตูและเดินเข้ามา วิไลพรก็ทักทายเขาด้วยความกระตือรือร้น

วันนี้เธอสวมชุดกี่เพ้าสีม่วง รูปร่างที่งดงามของเธอได้เผยออกมาจนหมด การแต่งหน้าที่เย้ายวนของเธอ ทำให้เธอมีเสน่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด “สาวงาม” นั้น สองคำนี้เหมือนเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับเธอ

“นายน้อย ในที่สุดคุณก็มาหามีนาสักที มีนาคิดถึงคุณแทบบ้า”

วิไลพรยื่นมือออกไปและกอดรพีพงษ์

เมื่อรพีพงษ์เห็นสิ่งนี้ ก็เอามือมาโอบรอบเอวของเธอ มีครู่หนึ่ง วิไลพรคิดว่าชุดของเธอดึงดูดรพีพงษ์ได้สำเร็จ ดังนั้น รพีพงษ์จึงวางแผนที่จะทำบางอย่างกับเธอ

แต่ว่า วิไลพรยังไม่ทันดีใจ ก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอเสียสมดุล ศีรษะของเธอก็หมุนไปและมีเสียงกรีดร้องในห้องทำงาน

รพีพงษ์ยกตัวของวิไลพรขึ้นไปหมุนเล่นสองสามครั้งเหมือนกระบองกายสิทธิ์ในอากาศ จากนั้นวางเธอลงบนพื้น

วิไลพรรู้สึกว่าโลกหมุนไปชั่วขณะ หลังจากที่ถูกรพีพงษ์วางลง จุดศูนย์ถ่วงของเธอก็ยังไม่เสถียร เธอก้าวถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อทำให้ร่างกายของเธอคงที่

หลังจากนั้น เธอก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ เบะปากมองไปที่รพีพงษ์เกือบจะร้องไห้ออกมา

เธอคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะปฏิบัติต่อเธอ ผู้หญิงที่อ่อนโยนและบอบบางเช่นนี้ นายน้อยของเธอไม่รู้จักทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรีเลย

จนถึงตอนนี้ วิไลพรได้รู้ซึ้งถืงความสามารถของผู้ชายทื่อๆแล้ว แม้แต่ดาวในมหาลัยของเซี่ยงไฮ้อย่างเธอ ก็ยอมแพ้ในความทื่อของเขา

รพีพงษ์เดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของวิไลพรและนั่งลง

แม้ว่าวิไลพรจะน้อยใจ แต่เธอก็ดูออกว่าวิไลพรไม่ค่อยมีความสุขมากนัก หลังจากจัดเสื้อเสร็จ เธอก็รีบเดินไปที่ด้านข้างของรพีพงษ์

เธอสามารถเป็นผู้รับผิดชอบเทือกเขากิสนาในเซี่ยงไฮ้ได้ แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าเวลาไหนควรเล่น เวลาไหนไม่ควรเล่น เห็นได้ชัดว่ารพีพงษ์มีเรื่องกลุ้มใจ ถ้าเธอยังเพิกเฉยและยังคงขี้เล่นตามใจตนเอง กลัวว่าเธอคงจะถูกรพีพงษ์ใช้เป็นกระบองกายสิทธิ์โยนทิ้งไปแน่

“บอกเกี่ยวกับข้อมูลทุกอย่างที่คุณรู้เกี่ยวกับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา” รพีพงษ์ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระและตรงไปที่เรื่องหลัก

วิไลพรก็ไม่รีรอและกล่าวว่า“ ในช่วงนี้คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาคนนี้ พึ่งปรากฏตัวต่อสายตาทุกคน ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครรู้ว่ามีคุณหนูคนนี้ในตระกูลพงศ์ธนธดาด้วย เธอปรากฏตัวออกมากะทันหัน แต่ไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของคุณหนูคนนี้ ”

“ หลังจากที่รู้ว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาตรงกับคนที่คุณกำลังตามหา ฉันจึงส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาคนนี้ ดูเหมือนจะประสบอุบัติเหตุ จึงทำให้มีปัญหาด้านความจำ ดังนั้น ได้เชิญคุณหมอที่ดีที่สุดในเซี่ยงไฮ้ไปรักษาให้คุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดา.”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของรพีพงษ์ก็แน่นขึ้น เป็นเพราะความจำเสื่อมของเธอ จึงทำให้เธอจำรพีพงษ์ไม่ได้

“ หัวหน้าตระกูลพงศ์ธนธดาชลาธิปรักคุณหนูคนนี้มาก ดูแลเธออย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของตระกูลพงศ์ธนธดาได้ดีขึ้นชลาธิปได้สมัครคอร์สมากมายให้เธอ เธอไปที่มหาวิทยาลัยฟูตันเพื่อเรียนบริหารธุรกิจ ”

“ปัจจุบันเรามีข้อมูลสำหรับคุณหนูตระกูลพงศ์ธนธดาคนนี้เท่านั้น ส่วนเธอมาจากไหน ยังไม่พบ”

หลังจากฟังวิไลพรพูดจบ รพีพงษ์พยักหน้า เขาเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อารียาได้บังเอิญมาในเซี่ยงไฮ้หลังจากเกิดอุบัติเหตุ

“ ตระกูลพงศ์ธนธดาโดดเด่นอะไรในเซี่ยงไฮ้?” รพีพงษ์ถาม

ไม่ว่าอารียาจะความจำเสื่อมหรือไม่ก็ตาม รพีพงษ์จะพาเธอไปในที่สุด ถ้าตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ห้าม เรื่องนี้ก็จะไม่ยาก หากตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ยอมให้อารียาไป รพีพงษ์ก็จะไม่ยอมอย่างแน่นอนดังนั้นตอนนี้เขาจึงจำเป็นต้องเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลพงศ์ธนธดา เพื่อทำการตัดสินอย่างคร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำในภายหลัง

“ ตระกูลพงศ์ธนธดาอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นตระกูลชั้นนำในเซี่ยงไฮ้ แตกต่างจากเกียวโตคือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ธุรกิจก้าวหน้า แม้ว่าตระกูลพงศ์ธนธดาจะเป็นเพียงตระกูลใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ความจริงแล้วพวกเขายังมีภูมิหลังตระกูลระดับโลก อำนาจมี่แสดงออกมาในเซี่ยงไฮ้ มีเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น ”

“ ถ้านับดูอย่างจริงจังแล้ว ตระกูลพงศ์ธนธดานี้เป็นตระกูลที่มีอำนาจมากพอๆกับตระกูลวัชรากิจกุลที่เจ้านายทำลายล้างเมื่อครั้งก่อน”

รพีพงษ์พยักหน้า เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลพงศ์ธนธดาจะมีภูมิหลังเช่นนี้ หากรพีพงษ์มีเพียงตระกูลลัดดาวัลย์อยู่เบื้องหลัง การแย่งคนจากตระกูล พงศ์ธนธดาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แน่นอนว่า ตระกูลลัดดาวัลย์ ไม่ใช่ตระกูลเดียวที่อยู่เบื้องหลังเขา พ่อของเขา ทำลายตระกูลวัชรากิจกุลโดยไม่แม้แต่กะพริบตา ในฐานะนายน้อยแห่งเทือกเขากิสนา แน่นอนว่ารพีพงษ์จะไม่เห็นอำนาจแค่นี้ของตระกูลพงศ์ธนธดาอยู่ในสายตา

“ ในเซี่ยงไฮ้ ตระกูลพงศ์ธนธดาไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด ถ้าจะให้พูดจริงๆว่าตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ควรจะเป็นตระกูลธาดาวรวงศ์ ตระกูลธาดาวรวงศ์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในตระกูลอันดับต้นๆ ของโลก ไม่ได้ปรากฏในเซี่ยงไฮ้ โดยแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ทางธุรกิจในเซี่ยงไฮ้ ต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงในเซี่ยงไฮ้เท่านั้นที่จะได้รู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลธาดาวรวงศ์”

“เรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวขวัญคือ ตระกูลธาดาวรวงศ์นี้มีความสัมพันธ์กับตระกูลนิธิวรสกุล ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ตอนนั้นที่ชายชราถูกขับออกจากตระกูลนิธิวรสกุล แน่นอนว่าตระกูลธาดาวรวงศ์ต้องเผชิญกับการถูกซ้ำเติมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

วิไลพรในฐานะผู้ดูแลเทือกเขากิสนาในเซี่ยงไฮ้ กับเรื่องของนนทภู เธอก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะว่ามีเพียงรู้สิ่งเหล่านี้ เธอจึงจะรู้ว่าศัตรูคนไหนที่เธอควรสู้ด้วย

รพีพงษ์หรี่ตาลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของวิไลพร เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีตระกูลดังกล่าวที่ซ่อนตัวอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เมื่อลองคิดดู ตระกูลธาดาวรวงศ์และพ่อของเขา ถือได้ว่ามีความคับข้องใจต่อกันไม่น้อยเลย

“คุณ ลานคอนกรุ๊ปเป็นเพียงบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ แม้ว่าคุณจะเป็นคนชอบเข้าสังคม มีเครือข่ายการติดต่อที่กว้างขวาง แต่ถ้าผมต้องการโจมตีตระกูลธาดาวรวงศ์ คุณสามารถช่วยผมจัดการพวกเขาได้หรือไม่?” รพีพงษ์พิจารณาถามซู่ถิงเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ถามวิไลพรหนึ่งคำ

มุมปากของวิไลพรยกขึ้น จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสบายๆ”ลานคอนกรุ๊ปเป็นเพียงการปลอมตัวเท่านั้น เพื่อทำให้คนอื่นไม่สามารถเข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเรา ถือว่าเป็นไพ่ใบสุดท้าย ฉันดูแลเซี่ยงไฮ้แล้วฉันจะแค่ควบคุมบริษัทเครื่องสำอางเล็กๆเพียงแห่งเดียวได้อย่างไรล่ะ”

“ ถ้านายน้อยต้องการทำลายตระกูลธาดาวรวงศ์ ก็แค่ประโยคเดียว”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท