พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่665 คุณไม่มีสิทธิ์

บทที่665 คุณไม่มีสิทธิ์

บทที่665 คุณไม่มีสิทธิ์

ณ คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์

สนามหน้าห้องของอารียา รพีพงษ์เดินไปเดินมาอย่างร้อนรน ระดับสูงของตระกูลลัดดาวัลย์รวมทั้งธฤตญาณเธียรวิชญ์และคนอื่นๆก็เฝ้าอยู่ที่นี่

ในห้อง ได้มีหมอสูติดีที่สุดจองเมืองเกียวโตอยู่แล้ว วันนี้ อารียาครบกำหนดคลอด

ศักดาและชนิสราทั้งคู่หุบยิ้มไม่อยู่ ด้วยความที่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน ดูออกชัดเจนว่าสงบกว่าคนที่ไม่เคยเจอมาก่อน

จารุณรก็ตื่นเต้น ยืนอยู่ที่ประตูคนเดียว ตาสองข้างมองเข้าไปในห้อง แล้วพึมพำเป็นระยะ ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่

รพีพงษ์เดินไปที่ด้านหน้าของธฤตญาณ แล้วถาม “แน่ใจนะว่ารอบๆคฤหาสน์แกได้จัดคนเพียงพอแล้ว ไม่มีทางเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นนะ?”

“แน่นอน ดัมพ์รงค์พวกเขาทั้งสามได้แยกกันไปอยู่สามจุดของคฤหาสน์ ล้อมไว้จนน้ำก็เข้ามาไม่ได้แล้วจริงๆ แกสบายใจเถอะ” ธฤตญาณพูดอย่างเบื่อหน่าย รพีพงษ์ในวันนี้ราวกับสูญเสียความทรงจำเลยอย่างนั้น เรื่องเดียวกัน ถามไปสามรอบแล้ว

รพีพงษ์หันไปหาเธียรวิชญ์อีกครั้ง แล้วถาม “แกแน่ใจนะว่าหมอที่ดีที่สุดของเมืองเกียวโตสแตนด์บายรอไว้แล้ว? ถ้าด้านในมีปัญหา พวกเขาสามารถมาได้ในทันทีเลยใช่ไหม?”

“พวกเขาพักผ่อนอยู่ที่ห้องรับแขก ไม่งั้นพี่ไปดูกับผมไหม?” เธียรวิชญ์จ้องนพีพงษ์อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“ไม่จำเป็น ฉันเชื่อแก” รพีพงษ์ตอบ

เธียรวิชญ์พึมพำในใจ “เชื่อผมแล้วยังถามเป็นสิบๆรอบ นี่มันไม่เชื่อกันชัดๆ!”

“รพีพงษ์ คุณไม่ต้องเครียดขนาดนี้ แค่คลอดลูกเอง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด คุณผ่อนคลายสักหน่อยเถอะ” ชนิสรายิ้มพลางปลอบประโลมรพีพงษ์

“พี่สา คุณพูดถูก แต่ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ไม่สบายใจตลอดเลย” รพีพงษ์ตอบกลับ

“ธรรมดา ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ แม้จะเป็นผู้ชายที่สงบ รออยู่ด้านนอกห้องคลอดของภรรยา ก็ต้องเครียด เดี๋ยวลูกคลอดออกมา แกจะโล่งใจเอง” ศักดายิ้มพลางกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรแสดงออกว่าเครียดขนาดนี้ อย่าให้ลูกสาวเกิดมา แล้วขำตนได้

อืม ต้องนิ่งไว้หน่อย ต้องเริ่มตั้งแต่เกิด ให้เธอเห็นภาพพจน์พ่อที่เข้มงวด

ขณะนี้รพีพงษ์ได้เพ่งไปยังจารุณีที่พึมพำอยู่ที่ประตู แล้วเดินเข้าไป ถาม “คุณพึมพำอะไรตรงนี้?”

จารุณีหันหน้าไปหารพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “ฉันกำลังคิดอยู่ว่าอนาคตจะเรียกคุณว่าพ่อสามีหรือพี่ชายดี คุณว่าฉันควรจะเรียกคุณยังไงดี?”

รพีพงษ์มึน เขายังไม่ได้บอกจารุณีว่าตอนที่ตรวจครรภ์ได้รู้แล้วว่าเด็กในท้องเป็นผู้หยิง ดังนั้นหญิงสาวคนนี้คิดมาตลอดว่าเด็กในท้องคือผู้ชาย

และตามสัญญาที่รพีพงษ์ได้ให้เธอไว้ในตอนแรก ถ้าจารุณีจีบลูกชายของรพีพงษ์ รพีพงษ์ห้ามยุ่งเกี่ยว

“อะแห่ม ทำไมคุณถึงมั่นใจว่าเป็นลูกชาย? ถ้าเป็นลูกสาวล่ะ ผมว่า คุณอย่ามัวแต่คิดเรื่องไร้สาระเหล่านี้เลย” รพีพงษ์กลัวว่าถ้าพุดความจริงกับจารุณีแล้ว เธอจะร้อนรอแล้วพุ่งเข้าไปในห้องทันที จึงเสนอแนะไป

จารุณีจ้องไปที่รพีพงษ์ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ คุณหมายความว่าไง คุณจำไม่ยอมรับแล้วใช่ไหม? จะบอกให้นะ ฉันได้อิงตามเนื้อหาในอินเตอร์เน็ตตรวจดูพี่สะใภ้แล้ว ส่วนใหญ่จะไปทาง พี่สะใภัได้ลูกชาย”

รพีพงษ์อาย ไม่คาดคิดว่าจารุณีจะเชื่อหน้าเว็บเหล่านั้น หรือหน้าเว็บพวกนั้นจะน่าเชื่อถือกว่าหลักวิทยาศาสตร์อีกหรอ

“เหอะ จะบอกให้นะ รอให้ลูกชายคุณคลอดออกมาก่อน อย่าให้ฉันทำอะไร อนาคตรฉันจะเป็นภรรยาของเขา ไม่งั้นจะมั่วกันไปใหญ่” จารุณีพูดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ติดในใจว่าให้เธออยู่ในห้วงแห่งจินตนาการไปสักพักแล้วกัน รอให้คลอดลูกออกมา เธอก็จะได้รู้ว่าเนื้อหาบนอินเตอร์เน็ตนั้นไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์

ในขณะที่ทุกคนรออย่างกระวนกระวาย คนใช้ตระกูลลัดดาวัลย์คนหนึ่งวิ่งมา กล่าวอย่างเร่งรีบว่า “นายใหญ่ ด้านนอกมีคนที่เรียกตัวเองว่าแม่ยายจะบุกรุกเข้ามา พวกเราห้ามเธอเอาไว้ในสวน ท่านรีบไปดูหน่อยเถอะค่ะ” รพีพงษ์ขมวดคิ้ว คนแรกที่นึกถึง ก็คือศศินัดดา

“ชั่งเป็นผู้หญิงที่บ้าจริงๆ หลอนยังจะมาหาเรื่องในวันคลอดลูกของอารีอีกหรือไง? คิดๆไปที่วันนั้นเลือกที่จะหย่านั้นเป็นความคิดที่ถูกต้องจริงๆ” ศักดาก็เดาออกว่าเป็นใคร จึงได้กล่าวอย่างไม่พอใจออกมา

“ผมไปดูก่อนล่ะกัน พวกคุณรอที่นี่ ถ้าอารีคลอดแล้ว ต้องแรกผมเลยนะ” รพีพงษ์พูด แล้วเดินออกไปที่สวน

ทุกคนพยักหน้า

เดินเข้าไปในประตูแรกของสวน ศศินัดดาเผชิญหน้ากับการ์ดหลายคนของตระกูลลัดดาวัลย์อย่างบ้าคลั่ง สถานการณ์ตึงเครียด ดัมพ์รงค์ยืนอยู่บนหลังคา จ้องไปยังหญิงด้านล่างที่ไร้ซึ่งเหตุผล

“พวกแกออกไปนะ ฉันจะบอกอะไรให้ อารียาเป็นลูกสาวของฉัน เธอคลอดลูก ฉันมาดู ก็ไม่ผิดอะไร ใครก็ไม่มีทางขวางฉันได้!” ศศินัดดาตะคอกอย่างไม่มีเหตุผล

การืดเหล่านั้นจ้องไปที่ศศินัดดาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าคนที่จะบุกรุกเข้าไปเป็นคนอื่น พวกเขาลงมือไปนานแล้ว

แต่คนที่อยู่ข้างหน้านี้เป็นแม่ของอารียา พวกเขาไม่กล้าลงมือแต่อย่างใด ดังนั้นจึงทำได้เพียงขวางเธอไว้ตรงนี้

“แล้วพวกมึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่าไอ้สวะรพีพงษ์นั่นได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ลูกสาวกูกุมอำนาจตระกูลลัดดาวัลย์ กูในฐานะแม่ของอารี พวกมึงต้องเคารพกูด้วยซิ ตอนนี้พวกมึงขวางกูไว้ ถ้าอารีรู้ เธอจะต้องจัดการพวกมึงแทนกูแน่ๆ!”

ตอนนี้ที่ศศินัดดากล้ามาเกียวโต ก็เพราะได้ยินว่ารพีพงษ์ได้ตายไปแล้ว เรื่องนี้โด่งดังในเกียวโต ที่เมืองริเวอร์ก็ไม่แพ้กัน

หลังจากที่เธอได้ยินแล้ว ก็รู้สึกว่าศัตรูตัวฉกาจของตัวเองได้หายไปแล้ว แล้วยังได้ยินมาว่าอารียาคือนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์อีก เธอจึงได้รีบมาเพื่อเสพสุข

ศศินัดดาทำอะไรรพีพงษ์ไม่ได้ แต่สำหรับลูกสาวของตัวเองและไอ้สวะศักดานั่น เธอกล้าลงมือ ลูกสาวของตนชอบให้พูดดีๆ แค่เธอทำสักหน่อย อารียาก็ใจอ่อนแล้ว

ถึงเวลานั้นเธอก็ถือเป็นแม่ของผู้กุมอำนาจตระกูลอันดับหนึ่งของเกียวโต ครอบงำได้ง่าย

“รีบหลีกทางไปซะ รพีพงษ์ตายแล้ว ลูกสาวฉันใหญ่สุดที่นี่ ในฐานะที่เป็นแม่ พวกแกคิดว่าจะหาเรื่องฉันได้หรอ?”

ศศินัดดาพุมพำ จากนั้นก็จะเข้าไปด้านในให้ได้

“งั้นคงทำให้คุณผิดหวังแล้วแหละ ผมยังมีชีวิตอยู่” ในขณะเดียวกันนี้เอง เสียงของรพีพงษ์ก็ดังขึ้น

ศศินัดดาชะงัก รีบเงยหน้าขึ้นไปดู พบว่ารพีพงษ์กำลังเดินมาหาเธอ

เธองงมาก ความหวาดกลัวภายในใจของเธอที่มีต่อรพีพงษ์ก็เริ่มผุดขึ้นมา

“แก……ทำไมแกยังมีชีวิตอยู่ แกตายไปแล้วไม่ใช่หรอ?” ศศินัดดาเสียงสั่นคลอน

“คนอื่นพูดคุณก็เชื่อ? หรือคุณจะโดนคนทั้งโรงแรมหลอกมาแล้ว” รพีพงษ์ประชดประชัน

สีหน้าศศินัดดาดูไม่ดี จากนั้นก็สูดหายใจลึกๆ แล้วกล่าว “รพีพงษ์ ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็เป็นแม่ของอารี ไหนๆฉันก็มาแล้ว คงไม่ใช่จะไล่ฉันกลับไปหรอกนะ?”

“วันนี้เป็นวันที่อารีคลอดลูก ผมไม่อยากให้เกิดปัญหาใดๆขึ้น ดังนั้นคุณมาจากไหน ก็กลับไปทางนั้น มิเช่นนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน” รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

ศศินัดดาตาโต แล้วกล่าว “วันนี้อารีคลอดลูก? เรื่องใหญ่ขนาดนี้พวกแกไม่บอกฉัน พวกแกยังคิดว่าฉันเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้างไหม? ไม่ได้ วันนี้ฉันต้องเข้าไปให้ได้ ลูกสาวฉันคลอดลูก ฉันในฐานะที่เป็นแม่จะไม่อยู่ข้างๆลูกได้ไงกัน พวกแกรีบหลีกไปซะ คลอดลูกคือเรื่องใหญ่นะ ประสบการณ์ฉันเยอะ ให้พวกแกทำคลอดอารี ฉันไม่สบายใจ”

รพีพงษ์เอือมระอา หากให้เธอเข้าไปจริงๆ เขานั่นแหละที่จะไม่สบายใจ

“คุณรีบออกไปจากที่นี่ ผมไม่อยากพูดมาก” รพีพงษ์กล่าว

“รพีพงษ์ มีความเป็นมนุษย์หน่อยได้ไหม ลูกฉันคลอดลูก ทำไมแกไม่ให้ฉันเข้าไป!” ศศินัดดาตะโกน

รพีพงษ์บึนปาก แล้วกล่าว

“เพราะคุณไม่มีสิทธิ์

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท