ทที่723 ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์
ห้องทำงานของผู้คุม
ในเวลานี้สงควนขมวดคิ้วจ้องไปที่ภาพหน้าจอกล้องวงจรปิดบนคอมพิวเตอร์
รพีพงษ์และ“จรัส”ต่อสู้กันอย่างดุเดือด รพีพงษ์มีฝีมือที่สูสีพอกันกับจรัสที่ย่างเข้าสู่แดนเครึ่งปรมาจารย์ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ พอตอนหลังฝ่ามือดาวฟ้าของรพีพงษ์ทำให้จรัสได้รับบาดเจ็บ ยิ่งทำให้สงควนชื่นชมศักยภาพของรพีพงษ์มากขึ้น
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของแดนเครึ่งปรมาจารย์ ท้ายที่สุดก็ไม่ใช่ว่าเน่ยจิ้งขั้นกลางจะสู้ได้ ในความคิดของสงควน รพีพงษ์สามารถฉวยโอกาสทำให้จรัสบาดเจ็บด้วยฝ่ามือดาวฟ้า อย่างที่หนึ่งเป็นเพราะฝ่ามือดาวฟ้าทรงพลังจริงๆ สามารถเพียงพอที่จะทำให้คนระเบิดพลังการต่อสู้ที่ทรงพลังออกมาได้ อีกหนึ่งอย่างเป็นเพราะความประมาทของจรัส
ตอนนี้จรัสโกรธมาก จึงใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกทันที ค้อนกระแทกฟ้า ท่วงท่านี้เป็นกระบวนท่วงท่าที่มีชื่อเสียงของจรัสในตอนนั้น ใช้ออกมาด้วยระดับแดนเครึ่งปรมาจารย์ อานุภาพของมัน สามารถเทียบได้กับการโจมตีของแดนปรมาจารย์
ในความคิดของสงควน ไม่ว่ายังไงรพีพงษ์ไม่สามารถรับมือกับท่วงท่านี้ได้อยู่ดี
ตั้งแต่ครั้งก่อนหลังจากที่รพีพงษ์ใช้ฝ่ามือดาวฟ้า สงควนก็ให้ความสนใจกับรพีพงษ์เป็นพิเศษ คิดว่ารพีพงษ์เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษคุ้มค่ากับการฝึกฝน เข้าคุกที่ห้าเป็นเพียงเพราะหัวร้อนฆ่าคนธรรมดาเพื่อแก้แค้น ไม่ได้มีปัญญาใหญ่ในตัวเอง
ดังนั้นเขายังคงต้องการดูแลสอดส่องรพีพงษ์ ใครจะไปรู้ว่ารพีพงษ์จะเป็นคนไปยั่วโทสะคนที่แข็งแกร่งที่สุดในคุกที่ห้า ตอนนี้กำลังบีบบังคับให้จรัสใช้ท่วงท่าที่แข็งแกร่งที่สุด สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกจนปัญญาอย่างฉับพลัน
ในขณะนี้สงควนถือรีโมตคอนโทรลอยู่ในมือ มีปุ่มกดอยู่ด้านบน เพียงแค่เขากดปุ่มนี้ สร้อยข้อมือบนมือของจรัสก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา ขัดขวางการโจมตีของจรัส
เมื่อเห็นว่าหมัดของจรัสกำลังจะกระแทกลงมาที่บนตัวรพีพงษ์ สงควนตั้งใจที่จะกดปุ่มนั้น เพื่อช่วยชีวิตรพีพงษ์ ในขณะนี้ บนตัวรพีพงษ์ก็ระเบิดพลังอานุภาพที่ไม่น้อยไปกว่าจรัส ทำให้สงควนตะลึงชั่วขณะ
“ท่วงท่านี้ของเขา ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าค้อนกระแทกฟ้าของจรัสมาก เด็กคนนี้ มีเบื้องหลังอะไรกันแน่ ไปเรียนรู้ท่วงท่าที่ทรงพลังเช่นนี้มาจากไหน?”
……
บนเขาอารี การต่อสู้ระหว่างรพีพงษ์และ“จรัส”เกิดขึ้นภายในพริบตา ค้อนกระแทกฟ้าของ“จรัส”กระแทกลงไป รพีพงษ์รับมือด้วยเชิญพระจันทร์ ในช่วงเวลาที่ทั้งสองปะทะกัน คลื่นแห่งความผันผวนที่มองไม่เห็นกระจายไปรอบๆ ไออ้วนและคนอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรรู้สึกถึงความผันผวน รีบกัดฟันเพื่อต้านทาน
หลายคนที่ถูกกำจัดเน่ยจิ้งถึงกับนั่งลงบนพื้นทันที
“นี่…..นี่มันก็น่ากลัวเกินไปแล้ว นี่เป็นการต่อสู้ที่ระดับต่ำกว่าปรมาจารย์จริงๆเหรอ? ถ้าไม่รู้ความแข็งแกร่งของพวกเขาแน่ชัด ฉันก็คิดว่าพวกเขาสองคนบรรลุถึงแดนปรมาจารย์แล้ว”ไออ้วนพึมพำกับตัวเอง
หลังจากดึงสติกลับมาได้ เขารีบมองไปที่รพีพงษ์และจรัสอย่างรวดเร็ว อยากรู้ว่าผลสุดท้ายของการปะทะนี้จะเป็นอย่างไร
บนพื้นห่างออกไป มีหลุมขนาดใหญ่ที่มีรัศมีประมาณหนึ่งเมตรปรากฏขึ้น รพีพงษ์ยืนอยู่ในหลุม หายใจแรง ซึ่งดูเหมือนจะใช้แรงไปมาก
และอีกด้านหนึ่ง จรัสล้มลงกับพื้น โดยนิ่งไม่ขยับ ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ทุกคนตกตะลึง พวกเขาต่างก็คาดไม่ถึง การต่อสู้ครั้งนี้ จรัสที่บรรลุถึงแดนเครึ่งปรมาจารย์ กลับพ่ายแพ้!
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ อย่างน้อยถึงขั้นแดนครึ่งปรมาจารย์แล้ว
“โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เขาเพิ่งจะยี่สิบกว่าเอง เทียบกับเขาแล้ว รู้สึกว่าฉันหลายปีมานี้แม้แต่คนทำสวนก็ยังเทียบไม่ได้ เฮ้อ เฮ้อ ไม่ถูกสิ ตอนนี้ฉันก็เป็นคนทำสวน”ไออ้วนพึมพำกับตัวเอง
รพีพงษ์จ้องมอง“จรัส”ที่ล้มลงบนพื้นแวบหนึ่ง หายใจเข้าลึกๆ และรู้สึกถึงความเหนื่อยล้า แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า นี่ยังไม่ใช่ระดับสูงสุดของเขา
เขายกเท้า เดินไปด้านหน้า มาถึงตรงหน้าจรัส และก้มลงมองไปที่เขาแวบหนึ่ง
ท่วงท่าเมื่อกี้นี้ความจริงแล้วสามารถคร่าชีวิตเขาได้เลย แต่สุดท้ายรพีพงษ์ก็ออมมือ เพียงแค่ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส
ความเหลือเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ“จรัส” หลังจากที่เห็นรพีพงษ์เดินเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย และถามว่า: “ทำ….ทำไม ฉันสามารถสัมผัสได้ ความแข็งแกร่งของนายมีเพียงเน่ยจิ้งขั้นกลาง แต่ทำไมนายถึงสามารถใช้ท่วงท่าที่ทรงพลังเช่นนี้ออกมาได้ล่ะ?”
รพีพงษ์จ้องมองเขาแวบหนึ่ง พูดว่า: “บนโลกใบนี้ ไม่ได้มีแค่ความแข็งแกร่งเน่ยจิ้งเท่านั้น”
“จรัส”ครุ่นคิด รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า จากนั้นเขาก็หลับตาลง
รพีพงษ์นึกว่าจรัสได้ตายไปแล้ว คิดในใจทั้งๆที่เมื่อกี้นี้ตัวเองไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ในขณะนี้ จรัสที่ตอนแรกหลับตาลงแล้วจู่ๆก็ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมา
“เขาตายแล้ว ในที่สุดเขาก็ตาย ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลย เขาจะหายไปจากร่างของฉันด้วยวิธีนี้ รพีพงษ์ ขอบคุณที่นายออมมือ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะต้องไปพบพญายมพร้อมกับเขา”จรัสหัวเราะ ไม่ใส่ใจกับอาการบาดเจ็บทางร่างกายของตัวเองแม้แต่น้อย
รพีพงษ์ก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะฆ่าบุคลิกที่แยกตัวออกมาจากจรัสคนนั้นตายไปแล้ว มองไปจรัสที่นอนอยู่กับพื้นด้วยความประหลาดใจ
“นายแน่ใจ…..เขาฆ่าฉันตายแล้ว?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม
จรัสพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นก็หยิบตราสัญญาลักษณ์ออกมาจากเสื้อผ้า ข้างบนเขียนอยู่หนึ่งคำว่า“ลอบ”อยู่หนึ่งคำ
“ตราสัญลักษณ์นี้ถือเป็นคำขอบคุณที่ฉันมอบให้กับนาย ตอนนั้นที่ฉันยังไม่ถูกจับเข้ามา ได้สร้างองค์กรนักฆ่าไว้ที่ด้านนอก ชื่อว่าลอบสังหาร อยู่ในนานาชาติก็ยังถือได้ว่ามีอิทธิพล นายถือตราสัญลักษณ์นี้ไว้ สามารถที่จะสั่งพวกเขาได้ แน่นอนว่า ประเด็นหลักคือนายต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน”
“แต่ว่าฉันมั่นใจ ถ้าหากว่าเป็นนาย คงจะไม่มีทางถูกขังไว้ที่ไปตลอด”
จรัสกล่าวด้วยรอยยิ้ม
รพีพงษ์รับตราสัญญาลักษณ์มาดูแวบหนึ่ง โดยไม่ได้เกรงใจ
จรัสพูดถูก เขาไม่เคยตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ไม่ช้าก็เร็วก็จะออกไป
สำหรับตราสัญลักษณ์แผ่นนี้ ต่อให้เขาไม่ได้ใช้ แต่ตระกูลลัดดาวัลย์ก็สามารถใช้มันได้อย่างแน่นอน กองกำลังที่สร้างโดยแดนเครึ่งปรมาจารย์คนนี้ ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
รพีพงษ์พยุงจรัสขึ้นมา พาไปที่กระท่อมไม้ของตัวเอง เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องฆ่าจรัส เนื่องจากจรัสคนที่ทารุณโหดร้ายได้ตายไปแล้ว จรัสที่เหลืออยู่ ก็ยังถือได้ว่าเป็นคนไม่เลว
เขาไม่ใช่ปีศาจสังหารคน ไม่ว่าจับใครได้ก็ต้องฆ่า
การต่อสู้กับจรัส ทำให้รพีพงษ์สะเทือนอารมณ์มากเกินไป เขาอาศัยความแข็งแกร่งของแดนเครึ่งปรมาจารย์ สืบเสาะถึงปรมาจารย์ที่แท้จริง ว่ามีพลังแบบไหน
ในเวลาเดียวกันเขาแน่ใจการคาดเดาในใจของตัวเอง ด้วยพลังวิเศษเสน เขาสามารถอาศัยเน่ยจิ้งขั้นกลาง มีพลังที่จะต่อสู้กับปรมาจารย์ได้ ที่สำคัญถ้าพยายามอย่างสุดความสามารถ เขาอาจไม่ใช่คนที่จะพ่ายแพ้
ท้ายที่สุดรพีพงษ์ยังมีท่วงท่าที่สามของกลยุทธ์ เขามั่นใจว่า เมื่อใช้ท่วงท่านี้ออกมา แม้แต่ปรมาจารย์ที่แท้จริง ยังต้องหาวิธีพลิกผันหลบหนี
ข่าวที่รพีพงษ์เอาชนะจรัสแพร่กระจายไปทั่วทั้งคุกที่ห้าอย่างรวดเร็ว ทุกคนประหลาดใจในความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ ในเวลาเดียวกันในใจก็รู้ดีว่า ในคุกที่ห้า ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคนนั้น จากจรัส กลายเป็นรพีพงษ์ที่เพิ่งเข้ามาที่คุกที่ห้าได้สี่เดือน
ผู้ควบคุมดูแลคุกต่างก็ให้ติดตามสอดส่องรพีพงษ์เป็นพิเศษ เพราะผู้ชายคนนี้ ทำให้พวกเขาทึ่งมากเกินไป
หลังจากนั้นไม่กี่วัน รพีพงษ์เดินออกมาจากกระท่อมไม้ มองดูไออ้วนที่กำลังสั่งให้ผู้คนยัดมันฝรั่งที่โตเต็มที่ลงถุง มัดผักป่า บิดเอวขี้เกียจเป็นเวลานาน
อยู่ในคุกที่ห้ามานานขนาดนี้ ตอนนี้ ก็ถึงเวลาที่ต้องหาวิธีออกไปได้แล้ว