พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่752 คนจากกลุ่มสิงโต

บทที่752 คนจากกลุ่มสิงโต

บทที่752 คนจากกลุ่มสิงโต

ในวันจัดเลี้ยงฉลอง ในตอนเช้า ในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ครึกครื้นขึ้นมา

ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศรู้ล่วงหน้าว่าไม่กี่วันตระกูลลัดดาวัลย์จะจัดงานเลี้ยงฉลอง ดังนั้นจึงได้เตรียมของขวัญไว้แต่เนิ่นๆ ทันทีที่วันนี้มาถึง ก็ให้คนส่งมาให้

ก่อนตอนเที่ยง ในลานหน้าของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ ของขวัญกองเต็มจนกลายเป็นภูเขา ของส่วนใหญ่ เป็นของเล่นสำหรับเด็ก คาดว่าอาจเป็นของขวัญที่ขวัญนลินต้องการตั้งแต่อายุหนึ่งปีจนถึงสิบแปดปี ทั้งหมดก็กองอยู่ที่นี่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นในโรงจอดรถใต้ดินของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ มีรถสปอร์ตชั้นนำเพิ่มขึ้นมาหลายคัน เป็นของใหม่เอี่ยมทั้งหมด ตามคำบอกกล่าวของผู้ที่ให้ของขวัญ แม้ว่าขวัญนลินจะอายุไม่ถึงหนึ่งขวบ ไม่สามารถขับรถได้ แต่รถสปอร์ตเหล่านี้สามารถใช้เป็นรถของเล่นให้กับขวัญนลินได้ เล่นพ่อแม่ลูกอะไรในนั้นก็ได้

หากบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตเหล่านี้รู้ว่ารถสปอร์ตชั้นนำของระดับโลกที่มีจำนวนจำกัดพวกเขาผลิตออกมาเป็นเพียงรถของเล่นสำหรับขวัญนลิน คงจะต้องตกใจมากอย่างแน่นอน

และบนเปลของขวัญนลิน ก็มีกุญแจคฤหาสน์แขวนอยู่ห้าหลัง ยังมีคนมอบปราสาทหนึ่งหลังให้ด้วย บอกว่าขวัญนลินในฐานะเจ้าหญิง จำเป็นจะต้องมีปราสาทเป็นของตัวเอง

เดิมทีรพีพงษ์จะแจ้งให้ทราบในครั้งนี้ มีเพียงบริษัทหรือตระกูลระดับเดียวกับตระกูลลัดดาวัลย์เท่านั้นที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลอง และไม่ได้ใช้ระดับของนายน้อยของกิสนามาเชิญแขก ดังนั้นขนาดของของขวัญ ไม่น่าจะใหญ่ขนาดนี้

แต่ชลาธิปรู้สึกว่านี่เป็นงานเลี้ยงฉลองอย่างทางการครั้งแรกที่จัดขึ้นให้กับขวัญนลิน จะต้องเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นในฐานะตระกูลพงศ์ธนธดาตระกูลอันดับต้นๆของโลก จึงต้องเชิญตระกูลระดับโลกเข้าร่วมในงานเลี้ยงฉลองครั้งนี้ด้วย

ทรัพย์สินทางการเงินที่ถือครองโดยตระกูลระดับโลกเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้ ดังนั้นของขวัญที่มอบให้จะต้องมีคุณภาพสูง รถสปอร์ตคฤหาสน์เหล่านั้นจะถูกส่งมาจากพวกเขา

เวทัสกับดำเกิงและไออ้วนที่อาศัยอยู่บนภูเขามาโดยตลอดทั้งปีได้เห็นของขวัญเหล่านี้ที่ถูกส่งมา รู้สึกว่าทัศนคติสามอย่างที่มีต่อโลกของตัวเองก็เปลี่ยนแปลงไป

พวกเขาคิดมาโดยตลอดว่า ผู้คนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ไม่ควรถูกผูกมัดด้วยสิ่งของนอกกาย แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นความฟุ่มเฟือยของคนรวยเหล่านี้ พวกเขารู้สึกได้ทันทีว่าช่วงเวลาครึ่งชีวิตของตัวเองได้ใช้ไปอย่างไร้ประโยชน์

นี่อาจเป็นสาเหตุที่ยอดฝีมือเน่ยจิ้งหลายคนยินยอมที่จะเป็นที่นับถือเลื่อมใสของคนในครอบครัวตระกูลทางโลก ไม่มีใครจะปฏิเสธความมั่งคั่งร่ำรวยและยศศักดิ์ได้ เช่นเดียวกันกับอาจารย์รพีพงษ์ เหตุผลที่บอกว่าเงินเป็นของนอกกาย เป็นเพราะพวกเขามีประสบการณ์ชีวิตที่หรูหราแบบนี้มาก่อน

สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์ไม่คาดคิดมาก่อนในครั้งนี้คือ ตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณก็ส่งของขวัญมาให้ตระกูลลัดดาวัลย์ ตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณมักไม่ค่อยปรากฏตัวในทางโลก แต่ในครั้งนี้กลับมาเป็นจำนวนมากมาย สิ่งนี้เกินความคาดหมายของรพีพงษ์เป็นอย่างมาก

แน่นอนว่า รพีพงษ์รู้ดีว่า คนเหล่านี้จะวิ่งออกมา ทั้งหมดเป็นเพราะข่าวคราวที่เขาฆ่าชินาธิปและจิรภาสปรมาจารย์ทั้งสองคน ได้แพร่กระจายไปในแวดวงศิลปะการต่อสู้โบราณ

คนเหล่านี้บอกว่ามาแสดงความยินดีที่รพีพงษ์ได้ลูกสาว แต่กลับกันคือมาดูว่าคนที่ฆ่ายอดฝีมือแดนปรมาจารย์ทั้งสองคนนี้ ปีศาจที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่ามีลักษณะอย่างไร

ที่สำคัญเมื่อมีโอกาส พวกเขาก็ต้องการทำความรู้จักกับยอดฝีมืออย่างรพีพงษ์ ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือแวดวงศิลปะการต่อสู้โบราณ ความแข็งแกร่ง จะเป็นสิ่งที่ผู้คนเคารพนับถืออยู่เสมอ

แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ต้องสนใจเรื่องราวในงานเลี้ยงฉลอง ทั้งหมดนี้มีท่านคทามาควบคุมดูแล แต่เริ่มตั้งแต่เช้า รพีพงษ์เริ่มต้อนรับผู้คนที่มาให้ของขวัญ ก็ยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้

ทั้งในคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ คนที่สบายที่สุด คงไม่หนีไม่พ้นอารียาและขวัญนลินทั้งสองคน สองแม่ลูกไม่ต้องกังวลอะไร เริ่มแกะของขวัญตั้งแต่เช้า เล่นได้สนุกสนานกันมาก

ในห้องนั่งเล่น หลังจากส่งแขกออกไปแล้ว รพีพงษ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ บิดเอวขี้เกียจ

“เดี๋ยวคนที่จะมาให้ของขวัญ เป็นคนของตระกูลนบวรจากเมืองดวงแก้ว ประภูนายใหญ่ของพวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตอันดับหนึ่งในเมืองดวงแก้ว แต่เมื่อเทียบกับคนที่ต้อนรับก่อนหน้านี้ก็แย่กว่าไปบ้าง”ท่านคทาที่อยู่ข้างๆเอ่ยปาก

รพีพงษ์เลิกคิ้วขึ้น ถ้าหากเขาจำไม่ผิด พวกคนที่หลอกลวงเขาและไออ้วนดำเกิงครั้งหนึ่ง ล้วนนามสกุลนบวร หากไม่มีเหตุการณ์ที่คาดคิดไม่ถึง คนพวกนั้น น่าจะเป็นคนของตระกูลนบวร

“ฉันเหนื่อยแล้ว ให้เขารอข้างนอกไปก่อนเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ท่านคทาพยักหน้า โดยไม่พูดอะไร

รพีพงษ์เดินออกจากห้องนั่งเล่น ตั้งใจที่จะออกไปสูดอากาศข้างนอก

เพิ่งมาถึงที่ลานบ้านไม่นาน เขารู้สึกถึงลมปราณที่แข็งแกร่งที่ปรากฏบนหลังคา ลมปราณแบบนี้ ต่อสู้กับชินาธิปหนึ่งครั้ง จะมีเฉพาะตอนที่มีชัยชนะ

ที่สำคัญสามารถหลบพ้นจากการตรวจจับของนักฆ่าที่ซ่อนอยู่ได้ ก็มีเพียงยอดฝีมือปรมาจารย์ระดับสูงเท่านั้น

เขาเลิกคิ้ว เอ่ยปากตะโกนว่า: “ในเมื่อมาแล้ว ก็ปรากฏตัวมาเถอะ ลมบนหลังคาแรง อย่าโดนลมพัดจนเป็นหวัด”

ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างสองร่างก็ปรากฏตัวตรงหน้ารพีพงษ์

รพีพงษ์มองดูอย่างละเอียด พบว่าในคนทั้งสอง มีใบหน้าหนึ่งคน ไม่ใช่คนแปลกหน้า

“ครองสุข?”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ครองสุขก็ยิ้มขึ้นทันที เอ่ยปากบอกว่า: “คาดไม่ถึงว่านายยังจำฉันได้ ถ้าเป็นในอดีต ฉันก็คงไม่ให้ความสำคัญ แต่ว่าตอนนี้ ฉันก็คงต้องบอกว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

“ขอโทษด้วย ที่ฉันจำได้ ก็เป็นเพราะลิสา คำนั้นของนายมันน่าขยะแขยงเกินไป”รพีพงษ์ตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ

บนใบหน้าของครองสุขก็แสดงถึงความกระอักกระอ่วน แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์เขาเคยได้ยินมา เขาเป็นเพียงแต่เน่ยจิ้งขั้นกลาง จะกล้าเหิมเกริมต่อหน้ารพีพงษ์ที่ฆ่าปรมาจารย์ได้สบายๆได้อย่างไร

รพีพงษ์ไม่ได้ให้ความสนใจกับครองสุขต่อไป แต่กลับหันหน้าไปมองชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ลมปราณที่แข็งแกร่งกว่าชินาธิป ก็แผ่กระจายออกมาจากบนตัวของเขา

ชายชรายังมองไปที่รพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าแวบหนึ่ง พร้อมกับรอยยิ้มที่พอใจบนใบหน้า เอ่ยปากว่า: “เหมือนกับในข่าวลือจริงๆด้วย อายุแค่ยี่สิบกว่าเท่านั้น ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลย”

“แนะนำตัวก่อน ผู้อาวุโส ผนึกสินของกลุ่มสิงโต”

รพีพงษ์พยักหน้าให้กับเขา แล้วพูดว่า: “ชื่อของฉันคุณก็น่าจะรู้จัก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ”

“ไม่ทราบว่าพวกคุณทั้งสองคนมาที่ตระกูลลัดดาวัลย์ของฉันในเวลานี้ทำไม ถ้ามาเพื่อต่อสู้ รบกวนอีกสามค่อยมา สามวันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองของลูกสาวฉัน ฉันไม่อยากลงมือในเวลาแบบนี้”

ผนึกสินยิ้มบางเบา แล้วพูดว่า: “นายเข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่ได้มาหานายเพื่อต่อสู้ ในทางตรงกันข้ามกัน พวกเรามาที่นี่ อยากจะเชิญชวนนายให้เข้าร่วมกลุ่มสิงโตของพวกเรา พวกเราต้องการคนมีความสามารถอย่างนาย เข้าร่วมกับพวกเรา คุณค่าของนายจะแสดงความสามารถออกมาเป็นอย่างมาก”

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเขา รพีพงษ์ก็เลิกคิ้ว เอ่ยปากว่า: “ขอโทษด้วย ไม่สนใจ”

“โลกนี้มีความลึกลับมากมายที่นายไม่สามารถเข้าใจได้ เชื่อว่านายบรรลุมาถึงระดับในตอนนี้ ก็น่าจะค้นพบเบาะแสบางอย่าง ถ้าหากนายต้องการทำความเข้าใจกับความจริงของโลกใบนี้ เข้าร่วมกลุ่มสิงโต เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของนาย ที่สำคัญเป็นทางเลือกทางเดียว”ผนึกสินเอ่ยปาก

“ฉันแค่อยากมีช่วงเวลาที่ดีอยู่กับภรรยาและลูกของฉัน ไม่ต้องการเข้าใจกับความจริงของโลก พวกคุณกลับไปเถอะ”รพีพงษ์โบกมือ

“หื้อ? ถ้าอย่างนั้นถ้าฉันจะบอกว่าตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกนายกำลังจะเผชิญกับหายนะ มีเพียงนายเข้าร่วมกลุ่มสิงโต ถึงจะคลี่คลายได้ล่ะ?”ผนึกสินหัวเราะขึ้นมา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท