พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่778 ความลับของหยก

บทที่778 ความลับของหยก

บทที่778 ความลับของหยก

ณ โรงแรม

เรื่องราวของตระกูลจนกวีได้ผ่านไปแล้วสองวัน

วันนั้นหลังจากที่จัดการเรื่องเสร็จแล้ว รพีพงษ์ก็พาอารียาออกจากภัตตาคารพูคาย ไม่ได้ใส่ใจคำขอของคำรนแต่อย่างใด คนนี้เขาเห็นผลประโยชน์มาเกินไป ถ้ารพีพงษ์ปล่อยเขาไว้ก็แย่ล่ะ

ผลอุทัยและอรรจยาทั้งสอง รพีพงษ์ไม่คิดจะคิดเล็กคิดน้อยใดๆกับทั้งสองคน เพราะอยู่กันคนล่ะชั้น ก็แค่มดทำเก่งต่อหน้าช้าง ช้างไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับมดแน่นอน

แต่รพีพงษ์ไม่ได้บอกว่าจะยอมทั้งสองคน เมื่ออรรจยาคุกเข่าลงก็ไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย รอให้รพีพงษ์บอก รพีพงษ์ไม่สนใจเธอ เกรงว่าตอนนี้เธอก็ยังคงอกสั่นขวัญหาย

ความทุกข์ระทมในใจ บางครั้งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากความทุกข์กายมากนัก

รพีพงษ์พาอารียาเที่ยวเมืองเย็นหยางเกือบหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ ช่วงสองวันนี้ทั้งคู่พักผ่อนอยู่ในโรงแรม เที่ยวมาเยอะ ก็จะรู้สึกเหนื่อย ดังนั้นรพีพงษ์อยากพักผ่อนให้เพียงพอก่อนแล้วค่อยกลับไป

กลับเป็นอารียา หลังจากที่กินไม้นั้นไปแล้ว ก็ไม่เคยอ่อนแอลงเลย ช่วงสองวันนี้อยู่โรงแรม เธอก็ยังคงรู้สึกมีพลังเหลือล้น เมื่อถึงกลางคืนก็……

สำหรับเรื่องนี้รพีพงษ์ก็ยังค่อนข้างปวดหัวกับมัน แม้จะเป็นเรื่องสนุก แต่ก็เอาอารียาไม่อยู่ ช่วงสองวันนี้รพีพงษ์อยากกินไม้ดู อยากรู้ว่าพลังตัวเองจะมีมากแค่ไหน เพิ่งจะได้ต่อกรกับอารียาได้

แต่ก่อนหน้าที่ยังไม่รู้ว่าไม้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร รพีพงษ์จะไม่มีทางกินตามใจได้ แม้อารียาจะไม่มีผลกระทบใดๆ แต่ก็ไม่มีใครรับรองได้ว่าหลังจากเขากินแล้ว จะไม่กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ด้านล่างขยับไม่หยุด ถึงตอนนั้นคนที่เหนื่อยก็จะเป็นอารียา

รพีพงษ์กำลังนั่งดูมือถืออยู่บนโซฟาในห้อง อารียากำลังนอนอยู่บนเตียง จับดูหยกที่รพีพงษ์ได้มาจากอาจารย์โอบนิธิ

ตอนที่หาข้อมูลในเว็บอยู่นั้น ข่าวในท้องถิ่นผุดขึ้นมาต่อหน้ารพีพงษ์ รพีพงษ์ยิ้มออกมา

“ตระกูลจนกวีกิจการใหญ่ที่สุดของท้องถิ่นได้กระทำความผิดขณะนี้ได้ถูกตรวจสอบจากแต่ล่ะหน่วยงานอยู่”

พูดยิ่งน้อยยิ่งดี ครั้งนี้ตระกูลจนกวีไม่น่าจะมีโอกาสได้กลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว

“ภรรยา หยกนั่นมีอะไรดี ครั้งหน้าคุณห้ามกินเข้าไปนะ” วางมือถือลง รพีพงษ์ก็ยิ้มให้กับอารียา

อารียามองบนต่อรพีพงษ์ กล่าว “จากการสังเกตการณ์ของฉันช่วงสองวันมานี้ หยกนี้เหมือนจะมีอะไรพิเศษจริงๆ”

รพีพงษ์ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่เตียง ถาม “มีอะไรพิเศษหรอ?”

“คุณไม่สังเกตหรอว่าด้านหน้าของหยกนูนเว้าไม่เสมอกัน ดูเหมือนว่าสลักอักษรอะไรไว้สักอย่าง แต่ฉันดูมานานแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าเขียนว่าอะไร” อารียากล่าว

รพีพงษ์รับหยกมาจากมือของอารียาแล้วดูอย่างละเอียด ด้านบนมีจุดที่ไม่เสมอกันจริงๆ แล้วยังดูลึกลับ แต่ถ้าจะบอกว่าด้านบนเป็นตัวอักษรล่ะก็ มันไม่ใช่ บวกกับวัสดุของหยกเอง ที่ที่ขรุขระมันดูไม่ชัดเจน

“บางทีหยกก้อนนี้อาจเป็นแบบนี้ก็ได้ ใครมันจะว่างจะสลักตัวอักษรไว้บนนั้น เขียนไว้บนกระดาษไม่ดีกว่าหรอ แล้วถ้ามันเป็นตัวอักษรจริงๆล่ะก็ คุณก็ต้องรู้สิ” รพีพงษ์กล่าว

อารียาส่ายหน้า รู้สึกแปลกๆ ในขณะเดียวกันนี้เอง นัยน์ตาเธอลุกวาวขึ้นมา จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียง

“ฉันคิดออกแล้วบางทีมันอาจเป็น คุณรีบไปซื้อหมึกมา แล้วกระดาษ” อารียากล่าว

“ซื้อหมึกมาทำไม?” รพีพงษ์ถามอย่างแปลกใจ

“ไอ้หยา ให้คุณซื้อคุณก็ซื้อเหอะ รอคุณซื้อกลับมาก็รู้แล้ว” อารียากล่าว

แม้ไม่รู้ว่าอารียาจะทำอะไร แต่เขาก็ออกไปจากโรงแรมอย่างเชื่อฟัง ซื้อหมึกและกระดาษกลับมา

หลังจากที่ได้หมึกแล้ว อารียาก็เดินมาที่โต๊ะ จากนั้นก็เทลงในที่เขี่ยบุหรี่ จากนั้นก็เอาหยกไปวางไว้ด้านใน แล้วรีบหยิบออกมาวางไว้บนกระดาษ

ตอนที่เธอหยิบหยกออกมาจากกระดาษ บนกระดาษนั้นได้ปรากฏตัวอักษรแปลกประหลาดขึ้นมา เป็นอักษรตัวเต็มที่พวกเขาคุ้นเคยกันดี

รพีพงษ์เพ่งมองบนกระดาษนั้น ไม่คาดคิดว่าบนหยกนี้จะมีตัวอักษรสลักอยู่จริง แต่อักษรพวกนี้กับสิ่งที่เขาคิดไว้ไม่เหมือนกัน ต้องใช้หมึกประทับบนกระดาษ

นี่เหมือนกับตัวปั๊มในสมัยก่อนใช้อย่างไรอย่างนั้น รูปแบบกับอักษรสลับกัน และเพราะต้องใช้หมึกปั๊มจึงจะเป็นตัวอักษร ดังนั้นจึงมีบางจุดที่ไม่เหมือนกับตัวอักษรทั่วไปอยู่มาก

บวกกับวัสดุของหยกนั้นพอเศษ ตัวอักษรเเว้าบนก็ตัวเล็ก ลึกลับซับซ้อน นี่ทำให้คนดูไม่ออกว่าเป็นอะไร

“ฉันว่าแล้วว่าหยกนี้ไม่ธรรมดา ตอนนี้เชื่อแล้วใช่ไหม” อารียามองรพีพงษ์อย่างสะใจ ราวกับเด็กที่แกปริศนาได้อย่างไรอย่างนั้น รู้สึกค่อนข้างประสบความสำเร็จ

รพีพงษ์ยิ้มแล้วจูบไปที่หน้าผากของอารียา กล่าว “ไม่คาดคิดว่าภรรยาของผมจะฉลาดขนาดนี้ ตอนนี้ผมขอประกาศ ว่าคุณคือเด็กน้อยมี่ฉลาดที่สุดของครอบครัวเรา ฉลาดกว่าขวัญนลินอีก” อารียามองบน จากนั้นก็ชกไปที่อกของรพีพงษ์สองครั้ง

จากนั้นรพีพงษ์ก็ทำตามวิธีของอารียา นำทุกส่วนของหยกไปวางไว้ในหมึก แล้วนำมาประทับบนกระดาษ

เพราะหนังสือนั้นล้วนแต่เป็นตัวอักษรเต็ม เพื่อจะได้เข้าใจในการอ่าน รพีพงษ์ได้หาข้อมูลมากมาย ดังนั้นตอนนี้เมื่อเห็นตัวเต็ม ถ้าไม่ยากเกินก รพีพงษ์ก็จะรู้จักตัวอักษรนั้น

หลังจากที่ดูกระดาษเหล่านั้นอย่างละเอียด รพีพงษ์พอจะรู้แล้วว่าตัวอักษรที่อยู่บนหยกนั้นพูดถึงอะไร ถ้าเดาไม่ผิด ตัวอักษรนี้เกี่ยวข้องกับพลังวิเศษเสน ดูๆไปด้านบนเหมือนจะเป็นพลังวิเศษอะไรทำนองนี้ แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่มาก

รพีพงษ์ทำตามวิธีด้านบน หมุนเวียนพลังวิเศษเสนที่อยู่ในร่างกาย ไม่นาน เขาก็รู้สึกว่าในร่างกายเริ่มมีพลังวิเศษเสนขึ้นมา เพียงแค่แวบเดียว รพีพงษ์ก็รู้สึกว่าพลังของตัวเองเพิ่มขึ้นอีกหลายขั้น

เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น รพีพงษ์จึงรีบหยุด จากนั้นก็ดูตัวอักษรที่เหลือให้จบ

สักพักใหญ่ รพีพงษ์ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก

“ด้านบนนี้พูดถึงอะไรกันแน่ ทำไมคุณตื่นตระหนกขนาดนั้น?” อารียาถาม

รพีพงษ์กอดอารีนา จูบเธอ แล้วกล่าว “ภรรยา ครั้งนี้พวกเราได้เยอะแล้ว สิ่งที่สลักไว้บนหยก คือวิธีลับ สามารถทำให้คนเพิ่มพลังอย่างมากได้ในเวลาไม่นาน นี่มันคือยาเม็ดไอกิแดนไร้จำกัดเลยนะ!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท