พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่801 คงไม่หมดอายุแล้วหรอกนะ

บทที่801 คงไม่หมดอายุแล้วหรอกนะ

บทที่801 คงไม่หมดอายุแล้วหรอกนะ

“ตอนแรกกูคิดว่าไอ้ห้าตระกูลใหญ่นั่นจะจัดการกับมึงได้ ดังนั้นจึงได้มอบยาชั้นนำให้ห้าอัน ให้พวกมันฆ่ามึงได้ง่ายๆ แต่ใครจะรู้ว่าไอ้สวะพวกนั้นหลังจากที่กินยาเข้าไปแล้ว ร่วมมือกัน ยังฆ่ามึงไม่ได้ กูประเมินค่าพวกสวะนั่นสูงเกินไป แดกยากูไปฟรีๆเลยห้าเม็ดโดยเปล่าประโยชน์”

“ในเมื่อพวกมันฆ่ามันไม่ได้ งั้นกูก็ต้องลงมือเอง ตอนนี้เมียมึงกินยาพิษเข้าไป ในโลกนี้มีแค่กูคนเดียวที่แก็ได้ ถ้ามึงไม่เชื่อ ก็ฆ่ากูดู จากนั้นก็รอดูเมียมึงตายตามไปได้เลย”

“แต่ถ้ามึงอยากให้เมียมึงมีชีวิตต่อไป ก็เอาชีวิตมึงมา ถึงเวลาทดสอบความรักที่มึงมีต่อเมียมึงแล้ว มึงยอมทำเพื่อเมียมึง โดยการแลกกับชีวิตของมึงเองมั้ย?”

เมื่อชายชุดดำยาวพูดจบ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา ราวกับกำลังเยาะเย้ยรพีพงษ์อยู่อย่างไรอย่างนั้น

รพีพงษ์ไม่คิดว่ายาที่นายใหญ่ของห้าตระกูลใหญ่กินเข้าไปนั้นคนนั้นเป็นคนให้ไป ตอนนั้นเขาก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมห้าตระกูลใหญ่ถึงได้มีพลังเพิ่มมากขึ้น ที่แท้ก็เป็นเพราะชายชุดดำนี้อยากจะให้ทั้งห้าตระกูลมีเปอร์เซ็นต์ในการชนะเพิ่มมากขึ้น

สามารถเอายาเพิ่มพลังออกมาได้มากขนาดนี้ในครั้งเดียว ชายชุดดำนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

“รพีพงษ์ คุณไม่ต้องสนฉันแล้ว คุณรีบฆ่ามันซะ ยาที่มันให้ฉันกินน่าจะเป็นยาเรื้อรัง ครึ่งชั่วโมงไม่มีทางตาย คุณฆ่ามัน แล้วพวกเราค่อยหาทางแก็” อารียาตะโกนออกมา

“เหอะเหอะ พวกมึงจะลองดูก็ได้นะ ฆ่ากูดู แล้วมึงจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีคนที่แก็ทางยาพิษนี้ได้อีกหรือไม่” ชายชุดดำเยาะเย้ย

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว มองไปที่ชายชุดดำแล้วถาม “บอกกูหน่อยได้ไหมว่าทำไมต้องฆ่ากู? แม้กูจะยอมเอาชีวิตของกูแลกกับชีวิตของเมียกู มึงก็ควรจะต้องบอกกูว่าทำไมต้องทำป่ะ?”

“ทำไม?” ชายชุดดำดูแคลน “เพราะมึงฆ่าเพื่อนรักกู กูมาล้างแค้นแทนมัน!”

“เพื่อนรักมึงเป็นใคร?” รพีพงษ์ถามต่อ

ชายชุดดำมองไปที่รพีพงษ์ ภายใต้ชุดดำ มีความอาฆาตพยาบาทแฝงอยู่

“ชินาธิป!”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ รพีพงษ์จึงเข้าใจทันใด ว่าทำไมชายชุดดำนี้ถึงได้ลงมือต่อเขา

ไม่คาดคิดว่าเขามาเพื่อล้างแค้นให้ชินาธิป

“ชีวิตนี้ มีเพียงชินาธิปเท่านั้นที่เป็นเพื่อนรักของกู มึงฆ่ามัน กูต้องล้างแค้นให้มันอยู่แล้ว ตอนแรกกูคิดว่าด้วยฝีมือกู บวกกับยา น่าจะฆ่ามึงได้โดยไม่มีปัญหา แต่ไม่คิดว่ามึงจะเก่งกาจขนาดนี้ ดังนั้นกูทำได้เพียงใช้วิธีนี้เท่านั้น”

“ไม่ว่ายังไง มึงกับเมียมึงต้องมีคนใดคนหนึ่งตาย จากการสังเกตในช่วงหลายวันมานี้ กูพบว่ามึงดีต่อเมียมึงมาก ถ้ามันตาย สำหรับมึง ถือว่าเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ของชีวิตเลยสินะ”

พูดจบ ชายชุดดำได้หยิบยาออกมาจากชุดของตัวเอง โชว์ให้รพีพงษ์ดู แล้วกล่าว “ยาเม็ดนี้ เป็นยาที่กูทำออกมาแล้วมีฤทธิ์ร้ายแรงที่สุดในตอนนี้ ถ้ากินมันเข้าไป เลือดในร่างกายจะระเบิดออกทันใด กล้ามเนื้อกระตุก เจ็บปวดปางตาย และมันก็ไม่มียาแก้ด้วย แม้จะเป็นเทพเซียนก็แก้ยาก”

“ตอนนี้มึงเลือกได้แล้ว ว่าจะกินมันลงไป หรือจะฆ่ากู จากนั้นก็ดูเมียมึงตายไปอย่างช้าๆ”

รพีพงษ์มองไปยังยาในมือของชายชุดดำ สูดหายใจลึกๆ ในสมองคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำกับชายชุดดำนี้อย่างไร

เขาไม่อยากเห็นอารียาตายไปต่อหน้าต่ตาอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่อยากแลกชีวิตของตัวเอง

ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะควบคุมชายชุดดำไว้ในทันที จากนั้นก็บีบถามมันถึงวิธีทางแก้ยาพิษของอารียา แต่ไม่รู้ว่าชายชุดดำจะบอกวิธีทางแก็ให้หรือเปล่าถ้าถูกบีบ นั่นก็เป็นอีกเรื่อง

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังลังเลว่าจะทำอย่างไรดีนั้น อารียาได้จ้องไปที่ยาในมือของชายชุดดำนั้น จากนั้นก็กัดฟัน แล้วรีบพุ่งไปที่ชายชุดดำอย่างเร็ว อ้าปากแล้วกินยาที่อยู่ในมือของชายชุดดำนั้นเข้าไปในท้อง

รพีพงษ์และชายชุดดำไม่คิดว่าอารียาจะทำแบบนี้ รพีพงษ์สีหน้าถอดสี แล้วพุ่งไปที่ชายชุดดำนั้น ถีบไปที่อกเขา ทำเอาเขาลอยไปไกล

จากนั้นเขารีบกอดอารียาไว้ อยากให้อารียาอ้วกเอายาที่กินเข้าไปออกมา

แต่อารียาได้กลืนยาเข้าไปแล้ว จะให้อ้วกออกมานั้นเป็นไปไม่ได้

“รพีพงษ์ ถ้าฉันไปแล้วคุณต้องดูแลหนูลินดีๆนะ อย่าให้พี่สาต้องมาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้อีก คุณต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง”

“อีกอย่าง ฉันรักคุณ รักคุณตลอดไป”

อารียาพูดพลาง น้ำตาก็ไหลออกมา เมื่อกี๊ที่ชายชุดดำพูดถึงฤทธิ์ของยาเธอได้ยินมันแล้ว รู้ว่าถ้ากินเข้าไปแล้วต้องตาย

“มึงพูดบ้าอะไร! กูไม่ให้มึงตาย!”

รพีพงษ์ตะคอก เขาคิดไม่ถึงว่าอารียาไม่อยากให้เขาตาย ถึงขั้นเลือกที่จะกินยาพิษเอง ตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

เขามองไปยังชายชุดดำที่ถูกเขาถีบไปไกล จากนั้นก็รีบพุ่งเข้าไป อยู่ด้านหน้าของชายชุดดำ บีบคอเขา ยกเขาขึ้นจากพื้น และตะโกน “รีบเอายาถอนพิษออกมาให้กูเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นกูจะฆ่ามึง!”

แม้ชายชุดดำจะเป็นแดนปรมาจารย์ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับรพีพงษ์ที่เกรี้ยวกราด เขาก็ต้านทานไว้ไม่อยู่

“ยาพิษนี้ไม่มียาแก้ กูบอกแล้ว มันแย่งกินเอง โทษกูไมไ่ด้นะ!” ชายชุดดำกล่าว

รพีพงษ์พาชายชุดดำไปอยู่ต่อหน้าอารียา แล้วตะคอก “กุไม่สนว่ามึงจะมียาแก้ไหม ตอนนี้มึงต้องรักษาเธอให้หาย! มิเช่นนั้นกูจะให้มึงตายทั้งเป็น!”

ชายชุดดำกัดฟันมองรพีพงษ์ กำลังคิดว่าจะเลือกทางไหนดี

เขาหันไปมองอารียา จากนั้นก็ชะงัก

รพีพงษ์เห็นเขามองอารียาไม่ขยับ พลังวิเศษเสนในตัวก็เริ่มไหลเวียน จะลงมือกับเขาในทันใด

“มึงชะงักเชี้ยไร! รีบช่วยคนสิวะ!”

ชายชุดดำหันไปมองรพีพงษ์ แล้วกล่าวอย่างคาดไม่ถึงว่า “มึงดูท่าทีของเธอสิวะ……เหมือนโดนยาพิษไหม?”

รพีพงษ์มองอารียาอย่างขะมักขะเม่น เห็นหน้าเธอแดงมีเลือดฝาด มีกำลังวังชา ไม่เหมือนคนที่โดนวางยาเลยแม้แต่น้อย

“มึงบอกว่ายานี้เมื่อกินไปเลือดจะระเบิดในร่างกาย กล้ามเนื้อกระตุกไม่ใช่หรอวะ? ทำไมเธอไม่เป็นไรเลย?” รพีพงษ์ถาม

ชายชุดดำมึนงง กล่าว “ใช่ เธอต้องมีปฏิกิริยาอย่างที่กูพูดถึงจะถูกสิ แต่นี่ทำไมไม่เป็นไรเลยวะ?”

อารียาร้องไปสักพัก คิดว่าตัวเองต้องทนรับกับความเจ็บปวดอย่างจินตนาการไม่ออก บวกกับต้องแยกจากรพีพงษ์ เธอรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งนัก

แต่สักพัก เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไรเลย

อาจเพราะรู้สึกอาย อารียาจึงหยุดร้อง เช็ดน้ำตา มองไปที่ชายชุดดำ ถาม “ยาพิษของแกคงไม่หมดอายุใช่ไหม ทำไมฉันไม่รู้สึกอะไรเลยอะ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท