พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่838 สั่งสอน

บทที่838 สั่งสอน

หลังจจากที่ฮารุฮิ กันตะได้ยินคำพูดของฝนสุดาแล้วนั้น ก็แสดงรอยยิ้มเหยียดหยามออกมา รู้สึกว่านี่เรื่องตลกที่สุดที่เคยได้ยินมา

“น้องสาว แกพูดแบบนี้ ดูถูกพี่แกเกินไปแล้วนะ ช่วงนี้ฉันเรียนนินจากับปรมาจารย์มานะ และแกไม่เห็นอันธพาลที่ล้อมอยู่รอบๆนี้หรอ? ฉันจะจัดการมัน ง่ายนิดเดียว” ฮารุฮิ กันตะกล่าว

ฝนสุดาบึนปาก ถ้าคนพวกนี้จัดการกับรพีพงษ์ได้ งั้นพวกเขาก็ดูถูกรพีพงษ์เกินไปแล้ว

รพีพงษ์ดูออกว่าฮารุฮิ กันตะเป็นพวกไม่ถึงจุดหมายจะไม่ยอมเลิกรา วันนี้ให้เขาเจ็บปวดสักหน่อย ไม่งั้นเขาไม่มีทางออกไปง่ายๆแน่

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลารพีพงษ์ยืนขึ้น ยิ้มพลางมองไปที่ฝนสุดา แล้วถาม “ถ้าผมต่อยพี่คุณ คุณไม่หาเรื่องผมใช่มั้ย?”

ฝนสุดาเหลือบไปมองฮารุฮิ กันตะ กล่าว “ฉันดีใจล่ะสิไม่ว่า ทำไมต้องหาเรื่องคุณ ไอ้เชี้ยนี่จะให้ฉันแต่งกับปีศาจ ฉันไม่ลงมือเองก็ถือว่าดีขนาดไหนแล้ว”

ได้ยินฝนสุดาพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็พยักหน้า แล้วกล่าว “งั้นก็ง่ายล่ะ”

จากนั้น เขาหันไปมองฮารุฮิ กันตะ แล้วกล่าว “เอาตรงๆ แกให้คนของแก ลุมเข้ามาพร้อมกัน แกเป็นพี่ชายของฝนสุดา ฉันไม่ฆ่าแก หลังจากที่พวกแกโดนต่อยแล้วก็รีบกลับไปซะ อย่ามาหาเรื่องกันอีก”

ฮารุฮิ กันตะได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ราวกับว่ายังไม่ทันต่อยก็ชนะแล้ว ก็รู้สึกไม่โอเคขึ้นมา คิดว่าคนนี้อวดเก่งกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก ถ้าวันนี้ไม่สั่งสอนเขาอย่างรุนแรงล่ะก็ จะต้องเสียหน้าตระกูลฮารุฮิอย่างมาก

เขาถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก ให้เห็นกล้ามเนื้อบนแขน จากนั้นก็พูดกับคนข้างๆ คนพวกนั้นรีบหลีกไปด้านข้าง ทั้งฟลอร์มีพื้นที่ว่าง เพื่อเป็นสถานที่ต่อสู้

“เด็กน้อย ในเมื่อแกรนหาที่ตาย อย่าให้ว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน ถ้าถูกตีตาย ฉันไม่รับผิดชอบหรอกนะ” ฮารุฮิ กันตะพูดต่อ จากนั้นก้เดินไปที่ฟลอร์

รพีพงษ์ยิ้ม และเดินไปที่นั่นเช่นกัน

ฝนสุดาเห็นดังนี้ ก็รีบกล่าว “อย่าเอาเขาจนตายนะ เพราะยังไงเขาก็เป็นพี่ชายฉัน แค่สั่งสอนก็พอแล้ว”

รพีพงษ์หันหน้าไป ยิ้มพลางกล่าว “สบายใจได้ ผมรู้”

ทุกคนในผับเห็นฮารุฮิ กันตะจะต่อสู้กับรพีพงษ์ที่ฟลอร์ ก็รู้สึกตกใจขึ้นมา

เพราะพวกเขาไม่รู้ฝีมือของรพีพงษ์ ดังนั้นจึงรู้สึกว่าที่รพีพงษ์ท้าทายฮารุฮิ กันตะนั้น เป็นการรนหาที่ตายชัดๆ

“เด็กน้อยกล้ามากนะ แม้แต่คุณชายของตระกูลฮารุฮิก็ยังกล้าหาเรื่อง แกไม่กลัวตายหรือไง?

“กล้าท้าทายตระกูลฮารุฮิของเมืองโตเกียว นี่เป็นครั้งแรกล่ะสิ ไม่กลัวคุณชายฮารุฮิ กันตะก็แล้วไป แต่ไม่เห็นพวกอันธพาลมี่มากับคุณชายด้วยหรือไง?

“ไม่ว่าจะยังไง วันนี้ก็มีอะไรให้ดูแล้ว พวกแกว่าไอ้นี่จะถูกคุณชายฮารุฮิ กันตะจัดการยังไง?”

……

ฮารุฮิ กันตะขยับตัว ยืดไม้ยืดมือ แล้วกล่าว “ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าเรียนมาแล้วเป็นไง วันนี้ฉันเอาแกเป็นคู่ซ้อมล่ะกัน”

“แกแน่ใจจะไม่ให้พวกนั้นเข้ามาพร้อมแกใช่มั้ย?” รพีพงษ์มองไปยังพวกอันธพาลเหล่านั้น

ฮารุฮิ กันตะดูแคลน กล่าว “หยุดขี้โม้ได้ล่ะ ผ่านด่านฉันไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งไปที่รพีพงษ์โดยตรง

“ว้าว คุณชายฮารุฮิ กันตะออกโรงเองแล้ว หล่อจัง”

“อยากลูบไล้กล้ามของเขาจัง คุณชายฮาฮุริ กันตะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไอ้น่ารังเกียจนั่นจะเป็นคู่ต่อกรของเขาได้ไง”

ผู้หญิงรอบๆเริ่มบ้าผู้ชายขึ้นมา

“เด็กน้อย เตรียมตัวตายได้เลย!”

ฮารุฮิ กันตะชกไปที่รพีพงษ์ ดูพลังมหาศาล

รพีพงษ์เห็นหมัดนี้ของฮารุฮิ กันตะ ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ฝีมือระดับนี้ ในสายตาเขา ก็เป็นแค่เด็กน้อยชกต่อยก็เท่านั้น

ในตอนที่ฮารุฮิ กันตะพุ่งไปที่เขานั้น รพีพงษ์ก็ลอยขึ้น เตะไปที่ท้องเขาในทันใด

ฮารุฮิ กันตะตาโตขึ้น หมัดของเขาไม่ได้ชกลงไปที่รพีพงษ์ จากนั้น เขาก็ลอยไปด้านหลัง ชนเข้ากับโต๊ะที่อยู่ไม่ไกล

ทั้งผับเงียบสงัด

คุณชายตระกูลฮารุฮิที่มาบารมีเมื่อกี๊ ถูกรพีพงษ์ถีบบินไปแล้ว?

ทุกคนดูเหตุการณ์อย่างไม่คาดคิด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

ฮารุฮิ กันตะอดทนกับความเจ็บปวดแล้วยืนขึ้นมา เขาก็ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกรพีพงษ์ถีบเอาง่ายๆแบบนี้ เทียบกับพลังก่อนหน้านี้ที่เขาแสดงออกมา มันเหมือนกับตบเขาแรงๆหลายฉาดจริงๆ

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์เก่งกาจขนาดนี้ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ ถ้าวันนี้จัดการเด็กคนนี้ไม่ได้ อนาคตเขาต้องถูกคนหัวเราะเยาะแน่นอน

“พวกแกยืนดูอะไรอยู่ เข้ามาสิ กดมันไว้!” ฮารุฮิ กันตะตะคอกไปที่เหล่าอันธพาลพวกนั้น

อันธพาลพวกนั้นรีบพุ่งเข้าไปที่ฟลอร์นั้น ไม่นานก็ล้อมรพีพงษ์ไว้

แต่ทว่าเหล่าอันธพาลพวกนี้ฝีมือธรรมดา แม้จะหลายคน สำหรับรพีพงษ์แล้ว ไม่ต่างอะไรกันมาก ก็แค่ต้องออกหลายหมัดแค่นั้น

ไม่นาน อันธพาลพวกนั้นของตระกูลฮารุฮิก็ถูกต่อยล้มลงกับพื้น ร้องโอดครวญขึ้นมา

ฮารุฮิ กันตะเห็นเหตุการณ์ดังนี้ คิดไม่ถึงว่าอันธพาลที่ตัวเองฝึกฝนมา จะล้มเร็วขนาดนี้

คนรอบข้างที่ดูการต่อสู้ก็อ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีคนที่ร้ายกาจขนาดนี้

ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่มีศิลปะการต่อสู้ที่ลึกซึ้งขนาดนี้ ดังนั้นฝีมือที่คนทั่วไปรู้ ก็เป็นพวกที่สืบทอดมานานอย่างนินจา ในชีวิตทั่วไป ยากที่จะเห็นคนเก่งกาจขนาดนี้

ฝนสุดาเห็นคนของฮารุฮิ กันตะถูกต่อยจนล้มไป ก็ดีใจ วิ่งไปด้านหน้าของฮารุฮิ กันตะ แล้วกล่าวอย่างมีความสุขว่า “ฉันเตือนพี่แล้วว่าพี่ไม่ชนะเขาหรอก สุดท้ายพี่ไม่ฟัง ไงล่ะตอนนี้เสียใจแล้วล่ะสิ”

ฮารุฮิ กันตะ กำลังมองน้องสาวที่กำลังหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ ด้วยความโกรธแค้น เขากล่าว “สะใจให้น้อยๆหน่อย วันนี้ฉันเพิ่งจะเจอปรมาจารย์ฝีมือดีมา ปรมาจารย์ท่านนี้ตอบรับที่จะช่วยตระกูลฮารุฮิแล้ว ไอ้นี่ฝีมือไม่ธรรมดาจริง แต่หน้าเทียบกับปรมาจารย์แล้ว ก็แค่คนไร้ความสามารถ”

“แกกล้าให้ฉันเรียกปรมาจารย์ท่านนั้นมาป่ะล่ะต่อกรกับเขาเกินสองหมัด ถึงเวลานั้นแกก็จะรู้ว่าอะไรคือยอดฝีมือที่แท้จริง!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท