พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่850 เลื่อนวันเลื่อนขั้น

บทที่850 เลื่อนวันเลื่อนขั้น

บทที่850 เลื่อนวันเลื่อนขั้น

“นี่ฉัน เนื้อเข้าปากเสือแล้วหรือนี่?” รพีพงษ์บ่นกับตัวเอง ฟังวิธีที่ทาจิมะ ฮซาโกะสอนฝนสุดาจบ ก็รู้สึกตัวเองติดกับดัก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาบังเอิญได้ยินทั้งสองคนคุยกัน ไม่แน่อาจจะหลงกลของทาจิมะ ฮิซาโกะจริงๆแล้วก็ได้

แม้ฝนสุดาจะพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รพีพงษ์มา แต่ผู้หญิงคนนี้ไร้เดียงสา แต่ทาจิมะ ฮิซาโกะหญิงที่ใช้ชีวิตมาครึ่งค่อนชีวิตแล้วไม่เหมือนกัน เธอรู้ดีว่าการที่จะจับผู้ชายนั้นต้องทำอย่างไร ถ้ารพีพงษ์ไม่ป้องกันไว้ก่อน บางทีอาจตกหลุมพรางจริงๆก็ได้

ในเวลาเดียวกันรพีพงษ์ก็เข้าใจว่าทำไมฝนสุดาถึงมีความคิดแปลกๆ มีแม่แบบนี้ แม้ฝนสุดาจะไร้เดียงสาก็ไม่ได้

“งั้นตอนนี้ฉันควรจะอยู่ที่นี่ต่อไป หรือไปอยู่ด้านนอกดี เทียบกับตระกูลอุเอสึงิ ผู้หญิงพวกนี้น่ากลัวยิ่งกล่าว” รพีพงษ์พึมพำ

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดว่าจะอยู่ที่นี่ต่อดีมั้ยนั้น ก็มีเสียงดังมาจากด้านใน

“แม่ แม้วิธีนี้จะทำให้รพีพงษ์ทิ้งหนูไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่หนูอยากได้ ตั้งแต่ไหนแต่ไร หนูอยากให้เขามีหนูแค่คนเดียว วิธีแบบนี้มีแต่จะทำให้เขาเกลียดหนูมากเข้าไปอีก หนูไม่อยากกลายเป็นคนที่เขาเกลียด แบบนั้นสู้หนูไม่เจอเขาเลยตลอดชีวิตจะดีกว่า” ฝนสุดากล่าว

จากนั้นเธอก็ดันยาที่อยู่ตรงหน้าเธอไป แสดงจุดยืนของตัวเอง

ทาจิมะ ฮิซาโกะเห็นฝนสุดาปฏิเสธวิธีการของเธอ ก็รู้สึกงงงวย ได้อ้อนวอนต่อว่า “ลูกสาว นี่น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของลูกแล้ว ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป ต่อไปไม่ว่าลูกจะทำยังไง ก็ยากแล้ว”

“แม่ไม่ต้องพูดแล้ว หนูไม่มีทางใช้วิธีนี้กับรพีพงษ์แน่นอน หนูไม่ได้ใจเขามา ก็หมายถึงหนูยังไม่ดีพอ หนูไม่อยากให้เขามองหนูว่าเป็นหญิงเลวที่เล่ห์เหลี่ยมจัด”

พูดจบ ฝนสุดาก็ยืนขึ้น สูดหายใจเข้าลึกๆ กับความรู้สึกที่ผ่อนคลาย

รพีพงษืที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่คิดว่าฝนสุดาจะเลือกวิธีนี้ นี่ทำให้รพีพงษ์มองเธอในมุมมองใหม่

แต่ในความคิดเขา ฝนสุดาไม่ใช่ไม่ดีพอ แต่เขามีอารียาแล้ว ดังนั้นเขาไม่สามารถรักใครได้อีก

ถ้าจะโทษก็โทษได้เพียงที่ฝนสุดาเจอเขาช้าไป

ได้ยินเหมือนฝนสุดาจะออกมา รพีพงษ์ก็รีบหยิบมุรามาสะลงด้านล่างไป

หลังจากที่ฝนสุดาออกมาจากห้องแล้ว รู้สึกแปลกๆ แล้วได้พึมพำกับตัวเองว่า “แปลกจัง ทำไมรู้สึกเหมือนมีคนแอบฟังพวกเราคุยกันนะ หรือฉันรู้สึกไปเอง?”

……

ตระกูลอุเอสึงิ

ในห้องของอุเอสุงิ ทาคิโนะ

แสงไฟสลัวในห้อง มีเทียนจุดอยู่หลายอัน ข้างๆเป็นกระถางธูป ด้านในปักธูปหอมไว้

ตรงกลางของห้อง มีโต๊ะวางอยู่ บนโต๊ะ วางของบูชาไว้หลายชนิด เหมือนกับกำลังบวงศรวงอะไรอยู่

อุเอสึงิ ทาคิโนะกำลังคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของโต๊ะ หลับตา ท่องบทสวด เหมือนกับกำลังทำพิธีอะไรอยู่

ผ่านไปนาน อุเอสึงิ ทาคิโนะเปิดตาขึ้น เป่าลมออกมา แล้วกล่าวอย่างช้าๆว่า “มีเรื่องอะไร พูดมา”

ในมุมของห้อง เงาๆหนึ่งที่ไม่รู้ว่าปรากฏกายที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ หลังจากได้ยินคำพูดของอุเอสึงิ ทาคิโนะแล้ว เงานั้นก็ได้โค้งคำนับให้กับอุเอสึงิ ทาคิโนะ แล้วกล่าว “คนของเราพบคุณหนูอุเอสึงิ ฮารุที่งานประมูลและโรงแรมซากุระ เธออยู่กับคุรหนูตระกูลฮารุฮิ แล้วยังมีวัยรุ่นยี่สิบกว่าปีอีกคน”

“ถ้าพวกเราทายไม่ผิดล่ะก็ คุณหนูอุเอสึงิ ฮารุได้แปรพักตร์แล้ว”

อุเอสึงิ ทาคิโนะได้ยินคำพูดนี้ ก็กล่าว “ทำไม เธอบอกเรื่องของตระกูลอุเอสึงิ ให้กับคนของตระกูลฮารุฮิฟังหรอ?”

“แม้จะยังไม่แน่ใจ แต่น่าจะเป็นไปได้สูง มิเช่นนั้นหลังจากที่เธอกลับเข้ามาในประเทศแล้ว ก็น่าจะกลับมาเป็นที่แรกจึงจะถูก” เงาดำกล่าว

อุเอสึงิ ทาคิโนะเยาะเย้ย กล่าว “คิดไม่ถึงว่าหญิงคนนี้จะทรยศตระกูลอุเอสึงิได้ เธอมันแย่ยิ่งกว่าหมาจริงๆ หมาอย่างน้อยมันจะไม่ทรยศต่อเจ้าของ”

“ถ้าก่อนหน้านี้รู้เรื่องนี้ ฉันจะได้จับมันมา แต่ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นอะไรแล้ว แม้มันจะเล่าเรื่องของฉันให้ตระกูลฮารุฮิฟังก็แล้วไง ฉันไม่ต้องการคุณหนูของตระกูลฮารุฮินั่นแล้ว”

พูดจบ เขาหยิบหยกออกมาจากเสื้อผ้า เอามาดูอย่างละเอียด หยกนี้คือเหตุผลที่รพีพงษ์มาญี่ปุ่น หยกโยงจิต

“ฉันก็คิดไม่ถึงว่าหยกนี่ที่มาจากประเทศจีนก็ลี้ลับขนาดนี้ ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น แล้วยังกำจัดความชั่วร้ายออกไปอีก มีหยกนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นหลังจากเลื่อนขั้นต้องมีอะไรกับผู้ที่ยังมีพรหมจรรย์แล้ว”

“ดังนั้นหญิงสาวคนนั้นจะบอกเรื่องของฉันกับตระกูลฮารุฮิหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้ว”

เงาดำเมื่อได้ยินคำพูดของอุเอสึงิ ทาคิโนะ ก็กล่าว “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”

อุเอสึงิ ทาคิโนะยืนขึ้นมาจากพื้น จ้องไปที่ของดำที่อยู่บนโต๊ะนั้น แล้วกล่าว “วันนี้ทุกคนได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว แล้วยังมีหยกนี้อีก ฉันก็ไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไป”

“เดี๋ยวฉันจะเริ่มการเลื่อนขั้น การเลื่อนขั้นครั้งนี้ต้องใช้เวลา ถ้าฉันเดาไม่ผิด น่าจะเสร็จทันวันงานแต่ง”

“เรื่องเลื่อนขั้นของฉันอย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด งานแต่งของตระกูลฮารุฮิก็ยังคงดำเนินต่อไป ถ้าตระกูลฮารุฮิมีปัญหาอะไร ให้พวกมันได้ลิ้มลองความร้ายกาจของตระกูลอุเอสึงิ ไม่ว่าคนของตระกูลฮารุฮิคิดอะไรอยู่ งานแต่งจะต้องดำเนินต่อไป”

“อีกอย่าง หลังจากที่ฉันเลื่อนขั้นสำเร็จ ความสามารถจะแตกต่างจากเมื่อก่อน ปรมาจารย์ทั้งหลายในประเทศญี่ปุ่น จะไม่เป็นคู่ต่อสู้กับฉันอีก ฉันต้องการจะให้ทุกคนในประเทศญี่ปุ่นรู้ถึงความสามารถของฉัน ดังนั้นช่วยฉันจัดการ เชิญปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงสักกี่คนมาร่วมงานแต่งในครั้งนี้ ถึงเวลานั้นฉันจะต่อสู้กับพวกมันในงานแต่ง”

“ถึงตอนนั้น ปรมาจารย์ทั้งหลายตายด้วยน้ำมือของฉัน ก็จะไม่มีใครก็ท้าทายตระกูลอุเอสึงิอีก!”

ชายชุดดำโค้งคำนับ แล้วตอบ “รับทราบ!”

หลังจากจัดการเสร็จแล้ว อุเอสึงิ ทาคิโนะยื่นมือไปหยิบของสิ่งนั้น กลิ่นเหม็นครุ้งไปทั่ว อุเอสึงิ ทาคิโนะไม่สนใจ จากนั้นก็ยกมือขึ้น ดื่มของที่อยู่ในถ้วยจนหมด

หลังจากดื่มเสร็จ อุเอสึงิ ทาคิโนะรีบลุกขึ้นจากพื้น ควันดำอยู่รอบๆตัวเขา นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดดำ มองไปแล้วชั่งน่าเกรงขามยิ่งนัก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท