พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่843 งานประมูล

บทที่843 งานประมูล

บทที่843 งานประมูล

ทางเข้างานประมูล

ตอนที่รพีพงษ์ทั้งสามคนเดินเข้าไปนั้น มีคนเข้ามาขวางพวกเขาไว้ทันใด แล้วกล่าวอย่างมีมารยาทว่า “คุณผู้ชาย คุณมีการ์ดเชิญของงานประมูลในครั้งนี้มั้ย?”

รพีพงษ์ส่ายหัว

คนนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญแต่อย่างใด กล่าวอย่างอดกลั้นว่า “คืองี้คุณผู้ชาย ผู้ที่ไม่มีบัตรเชิญแต่อยากเข้าร่วม ต้องเข้ารับการตรวจสอบทรัพย์สินก่อน มีเพียงแขกที่ทรัพย์สินมีจำนวนถึงสิบล้านดอลล่าร์ ถึงจะสามารถเข้าไปได้ มิทราบว่าคุณจะเข้ารับการตรวจสอบหรือไม่?”

รพีพงษ์หยิบบัตรธนาคารของตัวเองออกมา กล่าว “ตรวจสอบ”

คนนั้นมิเชื่องช้า รีบพารพีพงษ์เข้าไปในห้อง ฝนสุดาและอุเอสึงิทั้งคู่รออยู่ด้านนอก

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์เดินออกมาจากด้านใน คนที่พารพีพงษ์เข้าไปนั้นตอนนี้ได้มองรพีพงษ์ราวกับเป็นกองทองเคลื่อนที่ได้อย่างไรอย่างนั้น ท่าทียินดีจนไม่รู้จะยินดียังไงแล้ว

“คุณผู้ชาย ผมได้ให้พวกเขาจัดที่นั่งที่ใกล้ที่สุดให้กับคุณแล้ว ที่นั่นคุณจะมองรายละเอียดของสิ่งของประมูลได้อย่างชัดเจน” คนนั้นมองไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า เรียกอุเอสึงิ ฮารุ และฝนสุดาทั้งสอง เดินเข้าไปด้านในด้วยกัน

ที่พวกเขาได้รับการปรนนิบัติแบบนี้ เป็นเพราะยอดคงเหลือในบัตรของรพีพงษ์ พนักงานคนนั้นไม่เคยเห็นยอดมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เขามองว่า แม้วันนี้รพีพงษ์จะซื้อของทุกอย่างที่อยู่ในงานประมูลทั้งหมดก็ไม่มีปัญหาอะไร แขกแบบนี้ เขาต้องปรนนิบัติอย่างดีอยู่แล้ว

เดินตรงเข้าไปด้านใน โดยมีพนักงานนำทาง รพีพงษ์ทั้งสามคนนั่งตำแหน่งที่ใกล้เวทีประมูลที่สุด คนรอบข้างเห็นรพีพงษ์ผู้ซึ่งหน้าตาไม่คุ้นได้นั่งที่แบบนั้นได้ ก็รู้สึกแปลกใจ

แต่ไม่นานก็มีคนรู้ว่าผู้หญิงที่นั่งข้างรพีพงษ์ทั้งสองคน คนหนึ่งคือคุณหนูของตระกูลฮารุฮิ คนหนึ่งคือคุณหนูของตระกูลอุเอสึงิ ดังนั้นทุกคนจึงเข้าใจว่าทำไมรพีพงษ์ถึงได้นั่งที่ด้านหน้าขนาดนั้น

“น่าอิจฉาจริงๆ มีคุณหนูตระกูลฮารุฮิกับคุณหนูตระกูลอุเอสึงิอยู่ข้างๆ คนนี้มันทำได้ไงเนี่ย อยากจะให้เขาสอนวิธีจีบสาวให้จัง”

“ชิ แมงดาเกาะผู้หญิงกิน แม้เขาจะนั่งด้านหน้าได้ขนาดนี้แล้วไง เขาจะให้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆเขาประมูลของให้ด้วยหรือไง มากสุดก็คือดูชัดขึ้นก็แค่นั้น ไม่เห็นจะน่าอิจฉาตรงไหน”

“เหอะเหอะ ถ้าเขาพึ่งสองคุณหนูนี้ขยับฐานะ ก็เกินไปล่ะ ทรัพย์สินของทั้งสองตระกูลนี้ ไม่มีทางตกอยู่ในมือของผู้หญิงอย่างแน่นอน อย่างมากสุดพวกเธอแค่มีชีวิตที่ดีก็เท่านั้น อย่างงานประมูลระดับนี้ คุณหนูแบบนี้ไม่มีปัญญาประมูลได้หรอก ถ้าเป็นคุณชายของทั้งสองตระกูลใหญ่ก็พอได้หน่อย

“เค้าอาจจะอยากลองดูว่าการนั่งหน้าสุดมันเป็นยังไงก็ได้นะ คนแบบนี้ ฉันเห็นมาเยอะแล้ว”

……

ฝนสุดากำลังฟังคนรอบข้างพูดคุยกัน ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา แล้วกล่าว “งี่เง่าชะมัด ให้ตัวเองรู้สึกเท่าเทียมกัน จึงต้องพูดให้ร้ายคนอื่น คนพวกนี้ ก็แค่มีเงินมากกว่าคนทั่วไปก็เท่านั้น ดูจากพื้นฐานแล้ว ก็เหมือนกันอะ”

“เดี๋ยวรอตอนที่รพีพงษ์ให้ราคา ดูว่าพวกแกจะพูดแบบนี้อีกมั้ย”

ผ่านไปไม่นาน ฮารุฮิ กันตะก็มาถึงงานประมูล จากนั้นก็นั่งลงข้างๆฝนสุดา

เขาหันไปมองฝนสุดาและรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “บังเอิญจริงๆ ไม่คาดคิดว่าพวกแกก็มาร่วมงานประมูลครั้งนี้ด้วย”

ฝนสุดาและรพีพงษ์ล้วนหันไปมองฮารุฮิ กันตะ ฝนสุดาขมวดคิ้ว กล่าวด้วยสีหน้ารังเกียจว่า “ซวยจริงๆ งานประมูลดีๆ สุดท้ายกลับมาไอ้โรคจิตมานั่งข้างๆ ทำเอาฉันไม่อยากนั่งตรงนี้ล่ะ”

พูดจบ ฝนสุดาก็ยืนขึ้น พูดกับรพีพงษ์ที่อยู่ข้างๆว่า “แลกที่กันหน่อยเหอะ ฉันอยากนั่งข้างๆอุเอสึงิ ฮารุ”

รพีพงษ์ไม่ถือสา แล้วได้เปลี่ยนที่กับฝนสุดา

ฮารุฮิ กันตะมองไปยังรพีพงษ์ที่นั่งข้างเขา ยิ้มพลางกล่าว “แกนั่งที่ด้านหน้าอย่างงี้ได้ น่าจะพึ่งบารมีของน้องสาวฉันสินะ เธอนี่มันโง่จริงๆ เอาคอนเน็คชั่นของตระกูลฮารุฮิ ให้กับคนนอกใช้”

“ฉันเข้าใจว่าทุกคนก็อยากลิ้มลองการบริการระดับสูงแบบนี้ ฉันจะไม่พูดอะไรอีก แต่แกคิดให้ดีๆ ฉันต่างหากทายาทของตระกูลฮารุฮิ ทรัพย์สินของตระกูลฮารุฮิ สุดท้ายก็ต้องตกอยู่ในมือของฉัน แต่น้องสาวฉัน ได้ส่วนแบ่งแค่นิดเดียวเท่านั้น”

“เดี๋ยวถ้าชอบอะไร บอกฉันได้นะ ฉันประมูลให้แกได้ แต่ก่อนอื่นแกต้องคืนน้องสาวมาให้ฉันก่อน แม้แกจะชกต่อยเก่ง ก็ไม่คู่ควรกับเธอ เธอต้องแต่งงานกับคนของตระกูลอุเอสึงิ”

ฟังฮารุฮิ กันตะพูดจบ รพีพงษ์ก็พอจะเข้าใจความหมายของเขาโดยคร่าวๆ ที่คุณชายตระกูลฮารุฮิปรากฏตัวที่นี่ น่าจะมาเพื่อเหยียบย่ำรพีพงษ์

ได้ยินน้ำเสียงของเขา น่าจะมั่นใจว่ารพีพงษ์เป็นคนไม่มีเงิน แม้จะนั่งด้านหน้า ก็เป็นเพราะฝนสุดา

รพีพงษืยิ้มพลางส่ายหน้า คิดในใจว่าถ้าฮารุฮิ กันตะจะพูดแบบนี้จริงๆล่ะก็ วันนี้เขาจะต้องถูกรพีพงษ์ทำให้เสียหน้าอย่างมากแล้วล่ะ

“ผมรับความหวังดีของคุณ แต่ถ้าฉันชอบ ฉันจะซื้อเอง ไม่รบกวนคุณ” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว

ฮารุฮิ กันตะเหยียดหยาม รู้สึกว่าไอ้นี่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริงๆ งานประมูลครั้งนี้ของที่ถูกที่สุด ล้วนทำให้คนรวยหมดตัวได้ ที่รพีพงษืกล้าพูดประโยคนี้ จะต้องไม่รู้แน่ๆว่าของที่จะประมูลในคืนนี้ราคาเท่าไหร่

แต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจรพีพงษ์ เดี๋ยวรอตอนประมูล รพีพงษ์จะได้รู้ว่าตัวเองโง่เขลาขนาดไหน

ผ่านไปไม่นาน งานประมูลเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

สิ่งของที่จะประมูลในค่ำคืนนี้ล้วนเป็นของเก่าแก่โบราณ และรูปภาพศิลปะ

เหมือนกับงานประมูลอื่นๆ สิ่งของที่งานประมูลนำขึ้นมาราคาไม่ค่อยสูงมาก แต่ราคาเริ่มต้นของสิ่งของประมูลเหล่านี้ มันชั่งน่าตกใจยิ่งนัก

ราคาประมูลในครั้งนี้เอาสกุลเงินดอลล่าร์เป็นหลัก ราคาเริ่มต้นประมูลที่ต่ำที่สุดคือห้าล้าน ในการเพิ่มราคาทุกครั้งจะต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งแสนดอลล่าร์

เมื่องานประมูลเริ่มขึ้น ฮารุฮิ กันตะประมูลของโบราณมาได้หลายชิ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเดินห้างซื้อของอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีความลังเลใดๆ

คนที่อยู่ในงานล้วนตะลึง ในเวลาเดียวกันก็อิจฉาฮารุฮิ กันตะอย่างมาก ไม่แปลกที่เป็นคนของตระกูลฮารุฮิ ไม่มองว่าเงินสำคัญแต่อย่างใด

ทุกครั้งหลังจากที่ประมูลของได้ ฮารุฮิ กันตะหันไปมองรพีพงษ์ เหมือนกับโอ้อวด ด้วยสีหน้าสะใจ

แต่รพีพงษืไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ

สุดท้าย งานประมูลมาถึงตอนจบ พนักงานเข็นกล่องกระจกรูปทรงยาวขึ้นมา ในกล่องบรรจุ ดาบเล่มยาวที่สมบูรณ์ ละเอียดอ่อน ดูก็รู้ว่าเป็นอาวุธ

ดาบมารมุรามาสะ!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท