พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่884 ผมแต่งงานแล้ว

บทที่884 ผมแต่งงานแล้ว

บทที่884 ผมแต่งงานแล้ว

รพีพงษ์ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างนอก ก็ขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าหงส์จะมาเร็วขนาดนี้

เขาลุกจากคอมพิวเตอร์ เดินไปที่หน้าประตู หลังจากเปิดประตูออกแล้ว ก็เห็นหงส์ยืนอยู่หน้าประตูอย่างหน้าเกรี้ยวกราด และมีผู้ชายที่ทรงพลานุภาพกำลังยืนอยู่หลังเธอ

รพีพงษ์รับรู้ได้ถึงพลังที่มีในกายของทั้งสามคน มั่นใจอย่างมากว่าสามคนนี้เป็นแดนดั่งเทพแล้ว แล้วมีสองคนที่ดูๆไปแล้วไม่ได้เป็นแดนดั่งเทพที่ธรรมดา น่าจะเกินแดนดั่งเทพขั้นต้นไปแล้ว

หงส์เห็นรพีพงษ์ออกมา ก็จ้องไปที่เขา นึกถึงที่รุ่นพี่ตัวเองบอกว่าตัวเองชอบรพีพงษ์ เธอก็โมโหมากขึ้นอีก เธอจะชอบไอ้เด็กนี่ได้ไงกัน

“สามคนนี้คือรุ่นพี่ของฉัน ฝีมือของพวกเขาทั้งสาม ในกลุ่มสิงโต ถือว่าอยู่ระดับต้นๆ แกรีบขอโทษฉันซะ ฉันจะเห็นแกความเก่งแล้วแกแล้วไม่ถือโทษโกรธเคือง มิเช่นนั้น ฉันจะให้รุ่นพี่ของฉันจัดการแกซะ” หงส์กล่าว

รพีพงษ์มองสามคนที่อยู่หลังเธอ แล้วมองหงส์ต่อ แล้วกล่าวอย่างไม่ยอมว่า “ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องขอโทษคุณด้วย?”

หงส์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วกล่าว “แกลูบขาอ่อนฉัน นี่ยังไม่ถือว่าทำผิดอีกหรอ?”

“ผมอธิบายให้คุณฟังแล้ว ในการต่อสู้ ผมไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น” รพีพงษ์กล่าว

“พวกพี่เห็นหรือยัง ไอ้นี่มันหน้าด้านแบบนี้แหละ ตอนนี้ยังผยองขึ้นมาอีก” หงส์หันไปพูดกับมังกรกับพวกทั้งสามคน

รพีพงษ์ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดอะไร เขาคิดในใจว่าถ้าพวกเขาทั้งสามทำอะไรเขาล่ะก็ งั้นเขาก็จะต่อสู้กับพวกเขา แม้จะแพ้ แต่ก็จะทำตามที่ผู้หญิงให้ทำไม่ได้

หลังจากที่มังกรได้ยินคำพูดของหงส์แล้ว จากนั้นก็เดินไปด้านหน้าของรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “น้องชายพวกเราไปคุยกันด้านใน”

พยัคฆ์และเต่าทั้งสองก็เดินไปด้านหน้าของรพีพงษ์เข้าไป แล้วผลักรพีพงษ์เข้าไปในห้อง

รพีพงษ์ได้ระวังตัวแล้ว เพียงแค่พวกเขาลงมือ เขาก็จะใช้สูตรลับ ทำให้พลังตัวเองถึงขีดสูงสุด จากนั้นก็ลงมือกับสามคน

แม้ตัวเองเพียงคนเดียวจะเอาชนะแดนดั่งเทพทั้งสามคนไม่ได้ แต่ในตอนระเบิดพลัง ก็สามารถทำให้พวกเขาลิ้มลองความเจ็บปวดได้เช่นกัน

“น้องชาย แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด พวกเราไม่ได้มาหาเรื่องแก แกไม่ต้องตกใจไป พวกเราไม่ลงมือกับแกหรอกนะ” มังกรสังเกตเห็นท่าทีของรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว

“ถูกถูกถูก พวกเราไม่ลงมือ พวกเราแค่อยากมาถามอะไรแกหน่อย” พยัคฆ์กล่าว

“พูดถูก พวกเราแค่อยากถามอะไรแกหน่อยก็เท่านั้น” เต่าก็พูดตามด้วย

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของทั้งสามคน ก็แปลกใจ ไม่รู้ว่าพวกเราคิดจะทำอะไร

“พวกคุณจะถามอะไร?” รพีพงษ์ถาม

“ฮ่าฮ่าฮ่า ความจริงพวกเราก็แค่อยากถามว่า แกชอบผู้หญิงแบบไหน ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิงอายุมากกว่ามั้ย รับได้กับความรักที่ผู้หญิงอายุมากกว่าผู้ชายหรือเปล่า?” มังกรถาม

รพีพงษ์ชะงัก นี่ถาม……ถามใครกับใครเนี่ย?

หงส์ที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาได้ยินเข้า ก็ตาโต ตะคอกไปที่มังกรว่า “ฉันให้พวกพี่มาจัดการไอ้นี่ พวกพี่ถามแบบนี้หมายความว่าไง!”

มังกรมองไปที่หงส์ แล้วกล่าว “น้องสาว พวกเรากำลังทำเพื่อแกอยู่นะ แกอย่าวุ่นวายสิ รอให้พวกเราถามให้จบก่อน แบบนี้แกจะได้ทำตัวถูกไง”

พูดจบ เขาก็มองไปที่รพีพงษ์ต่อ ถาม “แกคิดว่าน้องสาวของพวกเราเป็นไงบ้าง? อารมณ์เธอแปรปรวน ความจริงเธอก็แค่ปากร้ายใจดี ปกติอ่อนโยนมากเลยนะ”

“ถูกถูกถูก พวกเราเห็นเธอเติบใหญ่ พวกเราเอาใจเธอจนหยิ่งยโสไปหน่อย ความจริงถ้าแกสามารถทำให้เธออ่อนลงได้ เธอก็จะว่านอนสอนง่ายแน่นอน” พยัคฆ์กล่าวตาม

“น้องสาวของเราสวย และยังมีพรสวรรค์อีกด้วย ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว เจ้าสำนักบอกว่าเธอมีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นแดนดั่งเทพได้ ความเก่งกาจของแกกับเธอเหมาะสมกันดี จุดด้อยจุดเดียวของเธอก็คือแก่กว่าแกก็เท่านั้น แต่โบราณกล่าวไว้ว่า ภรรยาแก่กว่าสามีมีข้อดีสามประการ แกได้สองข้อ นี่เป็นเรื่องดีเลยนะ” เต่ากล่าวตาม

รพีพงษ์มองสามคนอย่างงงงงวย เขาคิดว่าสามคนนี้จะมาคิดบัญชีให้กับหงส์ ไม่คิดว่าจะมาให้เขากับหงส์อยู่ด้วยกัน นี่มันอะไรกันเนี่ย?

หงส์ได้ยินน้ำเสียงของทั้งสามเหมือนกับให้เธอนัดดูตัวอย่างไรอย่างนั้น ก็โมโหจนทนไม่ไหว อยากจะมุดพื้นดินหายไป

“ท่านทั้งสามน่าจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมแต่งงานแล้ว มีลูกสาวแล้วหนึ่ง ผมว่าพวกคุณหาคนผิดแล้วล่ะ” รพีพงษ์กล่าว

มังกรและพวกทั้งสามคนได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ก็ตาโตขึ้นมา มังกรกล่าวอย่างตกใจว่า “อะไรนะ! แต่งงานแล้ว? หมดกัน ไม่ง่ายเลยที่จะมีคนที่ปรามหงส์ได้ สุดท้ายสิ้นหวังอีกแล้ว แบบนี้ต่อไป เมื่อไหร่น้องสาวจะได้แต่งงานเนี่ย”

ขณะนี้หงส์ไม่มีหน้าจะเจอใครอีกแล้ว เธอเดินไปด้านหน้าของมังกร แล้วดึงหูมังกร กล่าว “พวกพี่ทั้งสามเกินไปแล้วนะ ตอนนี้ฉันเสียหน้าสุดๆแล้ว วันนี้ฉันไม่หาเรื่องมันแล้ว ฉันจะเอาอารมณ์มาลงที่พี่ทั้งสามนี่ลง!”

พูดจบ หงส์ก็ดึงหูของมังกรแล้วลากออกไปด้านนอก

พยัคฆ์และเต่าเห็นเหตุการณ์ ก็รีบออกไป

หงส์ชักตาใส่พวกเขาทั้งสองแล้วกล่าว “พวกพี่ทั้งสองก็เหมือนกันอย่าคิดจะหนีไปไหน! วันนี้เจ๊จะจัดการทุกคนเอง!”

รพีพงษ์เห็นพวกเขาเดินออกจากห้องนี้ไปอย่างวุ่นวาย ก็ยังคงงงงวยและมึนงงต่อไป พี่ชายทั้งสามของหงส์ ทำไมถึงคิดว่าตนจะปรามหงส์ได้ แล้วยังจะจับคู่ให้ตนและหงส์อีก

แค่คิด รพีพงษ์ก็ขนลุกแล้ว

แต่อายุของหงส์ก็ถึงเวลาที่จะแต่งงานได้แล้ว ถ้ายังไม่แต่ง อารมณ์จะยิ่งแย่ลงไปอีก

ความจริงเขาก็สังเกตเห็น ว่าความจริงหงส์ไม่ได้เป็นคนไม่ดี แค่แข็งแกร่งไปหน่อย ถ้าเธออ่อนโยนสักหน่อย บางทีเธอได้เจอกับคู่ครองที่เหมาะสมแล้วก็ได้

แน่นอน หงส์จะเจอคู่ครองหรือไม่นั้น ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำ ก็คือจะสะสมผลงานให้ครบสามแสน แล้วเอาหยกโยงจิตให้อาจารย์

เมื่อคิดแบบนี้ รพีพงษ์ก็กลับไปที่คอมพิวเตอร์อีกครั้ง ท่องเว็บไซต์ต่อไป

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท