พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่885 วิกฤตของอารียา

บทที่885 วิกฤตของอารียา

บทที่885 วิกฤตของอารียา

เมืองเกียวโต

สถานีรถไฟ

สามคนเดินออกมา คนหนึ่งเป็นคนแก่อีกคนเป็นเด็กเดินตามคนหนึ่งที่รูปร่างสาวยาว เดินอย่างรวดเร็ว ดูๆไปเป็นผู้ชายที่อายุราวๆห้าสิบกว่าปี น่าเคารพอย่างยิ่ง

อีกคนที่มีอายุและวัยรุ่นนั้น เป็นญาติห่างๆของตระกูลฉัตรมงคลที่เมืองยองที่เจอกับรพีพงษ์และอารียาที่เกาะพระจันทร์ ประวีร์

ตอนนั้นที่อยู่ที่เกาะพระจันทร์ ประวีร์และแฟนสาวของเขาได้หาเรื่องรพีพงษ์กับอารียา ถือว่าการท่องเที่ยวของพวกเขาครั้งนั้น เป็นจุดเดียวที่ไม่พอใจ

ผู้เฒ่าที่เดินมากับประวีร์ คือพ่อของเขา ดิลวิล คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของนภทีป์ แต่ทั้งสองครอบครัวไม่ค่อยไปมาหาสู่กัน ที่ผ่านมาตระกูลฉัตรมงคลที่เมืองยองมองว่าตระกูลฉัตรมงคลที่เมืองริเวอร์เป็นตัวตลก

จนกระทั่งถึงตอนที่ประวีร์อยู่บนเกาะพระจันทร์ได้ยินจากปากของฝนสุดาว่ารพีพงษ์คือคุณชายของตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต อารียาได้เป็นคุณนายน้อยของตระกูลลัดดาวัลย์ ตระกูลฉัตรมงคลของเมืองยองจึงได้เคารพตระกูลฉัตรมงคลเมืองริเวอร์ขึ้นมา

แต่ตอนนั้นประวีร์ถือว่ายั่วโมโหรพีพงษ์และอารียา หลังจากที่พวกเขารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของรพีพงษ์ เพราะกลัวรพีพงษ์ล้างแค้น ดังนั้นจึงออกจากเกาะพระจันทร์ก่อนกำหนด หลังจากกลับไปก็หวาดผวาอยู่พักใหญ่ ตระกูลฉัตรมงคลของเมืองยองทุกคนก็พากันหวาดกลัวอยู่นาน

ต่อมาพบว่ารพีพงษ์ไม่ได้ไปหาเรื่องพวกเขาแล้วนั้น จึงได้หมดกังวล

ตอนนั้นดิลวิลยังคิดที่จะพึ่งญาติห่างๆตีสนิทกับตระกูลลัดดาวัลย์ แต่คิดแล้วคิดอีกรพีพงษ์ไม่ไปหาเรื่องพวกเขาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ถ้ายังประชิดอยู่ ไม่แน่อาจยั่วโมโหตระกูลลัดดาวัลย์ก็เป็นได้ ดังนั้นจึงเลิกล้มความคิดไป

คนที่เดินอยู่ด้านหน้าของดิลวิลและประวีร์ทั้งสองเต็มไปด้วยบารมี คนที่อยู่ข้างๆรับรู้ได้ถึงบารมีแล้วนั้นก็ต้องรีบหลบไป รับรู้ได้ทันทีว่าคนนี้แตะต้องไม่ได้

ถ้ารพีพงษ์อยู่ที่นี่ล่ะก็ เขาต้องรู้ ว่านี่คือปรินทรคนที่เจ็ดที่อยู่ในอันดับรางวัลนำจับของกลุ่มสิงโต

แม้ตอนนี้ลักษณะของปรินทรแตกต่างจากในรูปอยู่มาก แต่รายละเอียดบางส่วนก็ยังทำให้ดูออกว่าเป็นปรินทร

แต่หลายปีมานี้ปรินทรได้เปลี่ยนตัวตนมามากมาย แม้จะเป็นกลุ่มสิงโต อยากจะหาเขาให้เจอ ก็ไม่ง่าย

ที่ปรินทรอยู่กับตระกูลฉัตรมงคลของเมืองยอง ถือเป็นเรื่องบังเอิญ ปรินทรที่ตอนนั้นอยู่เมืองยอง อยากหาผู้หญิงปลดปล่อย แล้วดันไปชอบเอาผู้หญิงคนหนึ่งของตระกูลฉัตรมงคลเมืองยองพอดี

ตอนนั้นเขาเพียงแค่เห็นแผ่นหลังของหญิงคนนี้เท่านั้น รู้สึกว่าลักษณะไม่เลย จึงได้ตามไปที่ตระกูลฉัตรมงคลอย่างลับๆ

แต่หลังจากที่ถึงตระกูลฉัตรมงคลเมืองยองแล้วนั้น ปรินทรพบว่าหญิงคนนั้นธรรมดา ก็ดูดีนิดหน่อย ก็เกิดโมโหขึ้นมา

ปรินทรที่เป็นแดนดั่งเทพมีความต้องการเกี่ยวกับเรื่องทางเพศอย่างสูง ช่วงหลายปีมานี้เหล่าผู้หญิงที่ถูกเขาทำลาย ไม่มีใครที่ไม่สวย หลังจากที่เห็นความสวยของหญิงคนนั้นของตระกูลฉัตรมงคลแล้ว ปรินทรก็รู้สึกเหมือนโดนหลอก

ดังนั้นในตอนนั้นเขาคิดจะล้างบางตระกูลฉัตรมงคลของเมืองยองทิ้ง แล้วจากเมืองยองไป

ปรินทรได้แสดงพลังแดนดั่งเทพต่อหน้าผู้คนตระกูลฉัตรมงคลของเมืองยอง แล้วยังแสดงกิริยาว่าตัวเองโมโห จะฆ่าพวกเขาทิ้งเสีย

คนของตระกูลฉัตรมงคลเมืองยองได้เห็นฝีมือของปรินทร คิดว่าปรินทรคือเทพมาจุติ บนมือสามารถปล่อยไฟออกมา แล้วทำหินอ่อนของบ้านเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ มันชั่งน่ากลัวยิ่งนัก ดังนั้นจึงรีบอ้อนวอนขอชีวิต

ปรินทรแสดงท่าทีว่าตัวเองไม่ได้เอาสาวสวยมานานแล้ว ดังนั้นขอร้องก็ไม่มีประโยชน์

ในเวลานั้นประวีร์ได้สติขึ้นมา บอกปรินทรว่าครอบครัวเขามีญาติอยู่ที่เกียวโต สวยงามติดท็อป ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเกียวโตอีกด้วย ถ้าปรินทรได้เห็นต้องชอบแน่นอน

ทุกคนของตระกูลฉัตรมงคลเมืองยองได้ยินคำพูดนี้ของประวีร์แล้วนั้นก็เข้าใจความหมายของเขา ก็เลยแสดงเห็นด้วยกับคำที่เขาพูด

เพราะความสวยของอารียา นั้นอยู่แนวหน้าจริงๆ เธอมีฉายาว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองริเวอร์ แม้จะไม่ได้เป็นอย่างที่ประวีร์พูดว่าเป็นสาวสวยอันดับหนึ่งของเกียวโต แต่ในเวลานี้ เขาต้องพูดให้ดูดีเข้าไว้ เพื่อดึงดูดความสนใจของปรินทร

เมื่อปรินทรได้ยินก็สนใจขึ้นมา จึงได้ถามพวกเขาว่าญาติที่สวยคนนี้อยู่ที่ไหน ประวีร์พูดว่าเพียงแค่ปรินทรปล่อยพวกเขาไป เขาจะพาปรินทรไปหาญาติที่สวยคนนี้

ปรินทรลามก โดยเฉพาะกับสาวสวย เมื่อฟังประวีร์พูดจบ เขาก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยใดๆ จึงได้ตอบตกลงประวีร์

ดังนั้นขณะนี้ทั้งสามคนจึงได้ปรากฏตัวที่สถานีรถไฟของเมืองเกียวโต

ประวีร์กับดิลวิลไม่กังวลว่าถ้าทำแบบนี้จะยั่วโมโหตระกูลลัดดาวัลย์ได้ เพราะปรินทรได้แสดงฝีมือให้เห็นแล้ว แล้วจะกลัวตระกูลที่ทำธุรกิจที่เกียวโตได้ไงกัน

ต่อหน้าพลังที่เห็นแน่ชัด เงินกับชื่อเสียง ถือเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว

“ถ้าญาติที่พวกแกบอกว่าสวยแล้วไม่ได้สวยอย่างที่ปากของพวกแกพูด พวกแกน่าจะรู้นะว่าต้องพบกับจุดจบยังไง” ปรินทรกล่าว

ประวีร์รีบยิ้มออกมาแล้วกล่าวต่อปรินทรว่า “ผู้ยิ่งใหญ่คุณวางใจได้ ความสวยของอารียา ไม่มีทางทำให้คุณผิดหวังแน่นอน แต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ดีนั่นคืออารียาแต่งงานแล้ว”

“หรอ? หญิงที่แต่งงานแล้ว ฉันชอบ หญิงที่แต่งงานแล้วนี่สิสนุก” ปรินทรเลียริมฝีปาก แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

ประวีร์และดิลวิลทั้งสองยิ้มขึ้นมาตามๆกัน

“ผู้ยิ่งใหญ่ เพียงแค่ตอนนี้อารียาเป็นคุณนายน้อยของรพีพงษ์ ที่เกียวโตรพีพงษ์มีอำนาจมาก ผู้ยิ่งใหญ่ไปถึงที่แล้วไปเอาคน เกรงว่าจะต้องเจอกับการต่อต้านของตระกูลลัดดาวัลย์ สู้พวกเราไปหาตระกูลลัดดาวัลย์แทนคุณก่อนมั้ย? ดิลวิลถาม

ปรินทรครุ่นคิด ปัจจุบันเขาเป็นคนที่กลุ่มสิงโตกำลังตามจับอยู่ ทำอะไรต้องไตร่ตรองให้ดีๆ แม้รพีพงษ์จะเป็นตระกูลทางโลก แต่ถ้าความสามารถของพวกเขามากพอ ก็จะทำให้เบาะแสของปรินทรรั่วไหลได้

ถึงเวลานั้นปรินทรก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวตน เพื่อหลบหลีกการจับกุมของกลุ่มสิงโตอีก

ดังนั้นแม้เขาจะลามกมากเท่าไหร่ แต่ก็มีสติ ไม่ได้คิดที่จะไปแย่งคนมาโดยตรง

ตอนนี้ได้ยินดิลวิลพูด เขาก็พยักหน้า ถ้าดิลวิลสองพ่อลูกสามารถทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์มอบอารียาให้กับตนได้ ก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะให้เวลาพวกแกสามวัน ในสามวันนี้ฉันจะเที่ยวที่เกียวโต ถ้าจะให้ดีพวกแกทำให้เร็วๆหน่อย ถ้าผ่านไปสามวันฉันยังไม่เห็นคนล่ะก็ ฉันจะไปที่ตระกูลลัดดาวัลย์เอง พวกแกทั้งสอง อย่าได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเลย” ปรินทรกล่าว

“ผู้ยิ่งใหญ่สบายใจได้ มีบารมีของผู้ยิ่งใหญ่อยู่ แม้ตระกูลลัดดาวัลย์จะกล้าหาญ ก็ไม่กล้าที่จะไม่ส่งคนให้” ประวีร์รีบยิ้มพลางกล่าว

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท