บทที่886 ปัญหาใหญ่
คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์
ณ ห้องรับแขก ดิลวิลและประวีร์ทั้งสองกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ คนใช้ของตระกูลลัดดาวัลย์ได้ชงชาให้พวกเขา ขณะนี้ครองภพกำลังจ้องมายังสองคน แม้พวกเขาจะบอกว่าตัวเองเป็นญาติของอารียา แต่ครองภพรู้สึกว่าสองคนนี้มีความคิดที่ไม่ดี
ผ่านไปไม่นาน อารียาและชลาธิปกลับมาจากข้างนอก เห็นประวีร์นั่งอยู่ในห้องรับแขกแล้วนั้น อารียาก็ขมวดคิ้ว
เมื่อกี๊เธอได้ยินว่าญาติของตระกูลฉัตรมงคลมาหาก็รู้สึกแปลกใจ คิดไม่ออกว่าญาติคนไหนมาหาเธอ
ตอนนี้เห็นประวีร์ อารียาก็รู้สึกต่อต้าน หลังจากครั้งนั้นที่เกาะพระจันทร์ เธอก็ไม่ได้มองว่าประวีร์คือญาติของเธออีก ไม่คิดว่าตอนนี้เขาจะมาหาเองที่บ้าน
มองไปที่ดิลวิลที่อยู่ข้างๆประวีร์ อารียามีความทรงจำที่เลือนรางสำหรับคนคนนี้ ถ้าเธอจำไม่ผิดล่ะก็ คนนี้น่าจะเป็นพ่อของประวีร์
ชลาธิปไม่รู้ว่าสองคนนี้คือใคร แค่ได้ยินมาว่าเป็นญาติของอารียา ดังนั้นเมื่อเข้ามาก็ต้อนรับอย่างกระตือรือร้น แต่ก็ถูกอารียาลากไว้
ชลาธิปสงสัย แต่เห็นสีหน้าของอารียาไม่ดี พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้ไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร
“พวกคุณมาที่นี่ทำไม?” อารียาถามอย่างสงบ
ประวีร์เห็นท่าทีของอารียาที่มีต่อพวกเขา ก็เป็นไปตามที่คิดไว้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน อารียาทำแบบนี้กับพวกเขา เขาก็จะไม่กล้าทำอะไร แต่ตอนนี้เขามาทำธุระแทนปรินทร มีความกล้าไม่น้อย ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“อารียา ยังไงพวกเราก็เป็นญาติของแกนะ พ่อของฉันแก่กว่าแก แล้วฉันก็แก่กว่าแก แกเห็นพวกเราแล้วไม่ทักทายก็แล้วไป แต่นี่ยังกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับพวกเราอีกหรอ แกคิดว่าตัวเองแต่งเข้าตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วจะดูถูกพวกเราได้งั้นหรอ?” ประวีร์ประชดประชัน
ครองภพที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดของประวีร์ ก็ก้าวมาข้างหน้า แล้วจ้องไปที่ประวีร์ด้วยความโกรธแค้น แล้วกล่าว “แกไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้วใช่มั้ย? กล้าพูดแบบนี้กับคุณนายน้อยของตระกูลลัดดาวัลย์ได้ไงกัน!”
ครองภพเป็นเน่ยจิ้งขั้นกลาง พลังในตัวเขาคนธรรมดาอย่างประวีร์เอาไม่อยู่ หลังจากที่ประวีร์ได้ยินคำพูดของครองภพแล้วก็ตกใจขึ้นมา
เขารีบห่อไหล่ แสร้งทำเป็นเงียบสงบ จากนั้นก็หันไปมองอารียา แล้วกล่าว “อย่าคิดว่าแกให้คนข่มฉัน แล้วฉันจะกลัวนะ อารียา จะบอกอะไรให้ จุดจบของแกกำลังจะมาถึง แม้แกจะมีตระกูลลัดดาวัลย์คอยคุ้มกะลาหัวอยู่ แต่แกก็หนีไม่พ้นหรอก”
อารียาขมวดคิ้วมองไปที่ประวีร์ แล้วถาม “แกหมายความว่าไง?”
ดิลวิลยิ้มให้กับอารียา แล้วกล่าว “ประวีร์พูดตรงไป หนูอย่าถือสา ความจริงเรื่องนี้สำหรับหนู ไม่ได้เป็นเรื่องร้ายอะไร ที่พวกเรามานี่ ก็เพื่อมาบอก ว่าหนูถูกผู้ยิ่งใหญ่จ้องอยู่ เขาให้เวลาสามวันให้หนูไปหาเขา ถ้าไม่ไปล่ะก็ ตระกูลลัดดาวัลย์จะพลอยพังกับหนูไปด้วย”
อารียาขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก มองไปที่ดิลวิลแล้วกล่าว “ฉันให้เกียรติที่คุณอายุมากกว่า ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคุณ แต่ขอความกรุณาอย่างพูดมั่วตรงนี้”
“เหอะเหอะ พ่อฉันไม่ได้มั่ว เขาพูดจริง ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น ตระกูลลัดดาวัลย์เอาไม่อยู่หรอกนะ แกไปกับพวกเราเสียโดยดีจะดีที่สุด มิเช่นนั้น แกจะเสียใจ” ประวีร์กล่าว
“มีคนชอบฉัน แล้วทำไมต้องให้พวกแกมาหาฉัน? เมืองยองห่างจากเกียวโตขนาดนี้ หรือไอ้ผู้ยิ่งใหญ่นี่ไปที่เมืองยองเพื่อไปหาพวกแกให้มาหาฉัน?” อารียาเริ่มรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลของเรื่องนี้แล้ว
ประวีร์รู้สึกอับอายขึ้นมา แน่นอนว่าเขาไม่สามารถจะพูดว่าเป็นเพราะเขาหลีกเลี่ยงภยันตราย ดังนั้นจึงส่งอารียาเข้าปากเสือ
“ก่อนอื่นฉันได้ส่งสารแล้ว แกมีเวลาแค่สามวันให้คิด หลังจากสามวันถ้าแกไม่ยินยอม ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นจะมาหาแกถึงที่ ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่ตระกูลลัดดาวัลย์เลย แม้แต่เทพเจ้าก็ปกป้องอะไรแกไม่ได้” ประวีร์หลีกเลี่ยงตอบคำถามของอารียา
“หยุดยโสโอหังได้แล้ว ที่เกียวโต ไม่มีใครกล้าพูดแบบนี้กับตระกูลลัดดาวัลย์ ฉันว่าพวกแกนั่นแหละที่ใกล้ตายแล้ว จะให้ฉันส่งพวกแกไปลิ้มลองความเจ็บปวดก่อนดีมั้ย?”
ครองภพเดินไปที่ด้านหน้าของทั้งสอง เผชิญหน้ากับพวกเขาเหมือนจะลงมือ
ประวีร์และดิลวิลทั้งคู่รู้หวาดกลัว ประวีร์กล่าว “ถ้าแกกล้าลงมือกับพวกเรา ผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่ ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นคือยอดฝีมือแดนดั่งเทพในนิยาย อย่างพวกแก ไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย”
“แดนดั่งเทพ?” ครองภพชะงัก เขาไม่เคยได้ยินชื่อเรียกนี้ จึงได้สงสัยขึ้นมา
ประวีร์กลัวว่าพวกเขาไม่เชื่อ ดังนั้นจึงรีบหยิบมือถือขึ้นมา หาวิดีโอ ถ่ายตอนที่ปรินทรกำลังแสดงพลังตอนอยู่ที่ตระกูลฉัตรมงคลที่เมืองยอง
ครองภพรับมือถือของประวีร์มา จ้องไปที่คลิปนั้น จากนั้นก็ตาโต
เขาไม่เคยเห็นแดนดั่งเทพมาก่อน เห็นปรินทรเหมือนใช้แอฟเฟ็กต์อย่างไรอย่างนั้น ก็รู้สึกตะลึงขึ้นมาถ้านี่เป็นความจริง งั้นคนนี้มันจะเก่งสักเท่าไหร่เชียว?
“แกหลอกใคร นี่มันแอฟเฟ็กต์ชัดๆ แกคิดจะใช้วิธีหลอกเด็กมาหลอกพวกเรา?” ครองภพชักตาใส่ประวีร์
“ในคลิปนี้เป็นความจริงทั้งหมด ไม่งั้นแกว่าทำไมตอนนี้เราถึงได้นิ่งสงบล่ะ?” ประวีร์รีบพูด
ครองภพได้ยินก็รู้สึกว่ามีเหตุผล หยิบมือถือแล้วให้อารียากับชลาธิปดู พวกเขาทั้งสองดูแล้วก็ขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีคนร้ายกาจขนาดนี้อยู่ด้วย
“ฉันว่าให้ปวัตรปวิชสองพี่น้องดูสักหน่อยดีกว่า ฝีมือของพวกเขา น่าจะดูออก” ชลาธิปกล่าว
อารียาพยักหน้า จากนั้นก็ให้คนไปเรียกปวัตรปวิชสองพี่น้องเข้ามา
ไม่นาน ปวัตรปวิชสองพี่น้องเข้ามา จ้องไปที่มือถือ และขมวดคิ้วขึ้นมา
“แดนดั่งเทพ ครั้งนี้มีปัญหาใหญ่แล้วล่ะ” ปวิชที่รู้ถึงความน่ากลัวของแดนดั่งเทพกล่าวขึ้นมา
ประวีร์ละดิลวิลเห็นปฏิกิริยาของทั้งสอง ก็รู้สึกพอใจขึ้นมา
“ในเมื่อพวกแกรู้ถึงความเก่งกาจของแดนดั่งเทพ งั้นก็เชื่อฟังพวกเราซะ ผู้ยิ่งใหญ่ต้องการแค่อารียาเท่านั้น พวกแกแค่ให้เธอไปเจอเขาพร้อมกับพวกเราก็พอแล้ว” ประวีร์กล่าว