พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่901 สิ่งที่เจอมา

บทที่901 สิ่งที่เจอมา

บทที่901 สิ่งที่เจอมา

อารียาได้ยินมีผู้หญิงมาหารพีพงษ์ ก็เหลือบไปมองเขา ด้วยสายตาที่มีคำถาม

“หงส์คนนี้เป็นใคร? ทำไมฉันไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีเพื่อนที่ชื่อหงส์ด้วย?” อารียาถาม

รพีพงษ์ยิ้มอย่างอึดอัดให้อารียา กล่าว “เธอคือ……เอ่อ เพื่อนร่วมงาน”

เขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกตัวตนของหงส์ให้อารียาว่าไงดี เขาไม่ได้เล่าเรื่องกลุ่มสิงโตให้อารียาฟัง ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าจะอธิบายหงส์เพื่อนร่วมงานคนนี้ว่าอย่างไรดี

“เพื่อนร่วมงาน?” อารียาชะงัก จากนั้นก็วางตะเกียบที่อยู่ในมือลง ชักตาไปที่รพีพงษ์แล้วกล่าว “คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า คุณจะมีเพื่อนร่วมงานได้อย่างไรกัน รพีพงษ์ คุณโกหกให้เนียนหน่อยได้ไหม”

รพีพงษ์ตบหัวตัวเอง รู้สึกว่าเรียกหงส์แบบนั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้ยุ่งเรื่องบริษัท แล้วจะมีเพื่อนร่วมงานได้ไงกัน

“คืองี้ ช่วงที่ผมออกไปได้เข้าร่วมกลุ่มกลุ่มหนึ่ง หงส์คนนี้คือคนในกลุ่มนั้น ดังนั้นผมจึงพูดว่าเธอคือเพื่อนร่วมงานของผม เมียจ๋า หงส์นี่นางเป็นแม่เสือ ผมจะไปคิดอะไรกับเธอได้”

“อะไรนะ! คุณยังคิดจะคิดอะไรกับเธออีกงั้นหรอ!” อารียาส่งเสียงแปลกใจขึ้นมา

รพีพงษ์อยากตายขึ้นมาแล้ว ไม่เข้าใจสมองของผู้หญิงจริงๆว่าเป็นยังไงกันแน่

“ผมกลัวคุณคิดมาก ดังนั้นจึงอธิบาย เรียกเธอเข้ามาคุณก็จะเข้าใจแล้ว” พูดจบ รพีพงษ์ก็ให้คนเรียกหงส์เข้ามา

รพีพงษ์คิดว่าถ้าหงส์มาหาเรื่องเขา แม้เขาจะต้องทำผิดต่อรุ่นพี่ทั้งสาม ก็ต้องสั่งสอนหงส์สักครั้ง

ผ่านไปไม่นาน คนใช้ของตระกูลลัดดาวัลย์นำหงส์เข้ามาอยู่ต่าหน้าของรพีพงษ์และอารียา หน้าตาของหงส์ในขณะนี้ค่อนข้างตื่นตระหนก รพีพงษ์จำได้ว่าเมื่อก่อนเธอชอบแต่งตัว บนเรือนร่างมีเครื่องประดับมากมาย แต่ตอนนี้หงส์ไม่ใส่อะไรทั้งนั้น ผมก็ค่อนข้างยุ่งเหยิง สีหน้าดูซีดๆ ดูๆไปเหมือนจะหิวมานาน ท่าทางตอนนั้นที่อยู่ในกลุ่มสิงโตได้หายวับไปกับตา

รพีพงษ์กำลังมองไปที่หงส์อย่างสงสัย ไม่ว่าจะยังไง ก็มีพี่ชายแดนดั่งเทพทั้งสาม จะมาอยู่จุดนี้ได้อย่างไรกัน?

อารียาก็มองไปที่หงส์ตั้งแต่หัวจรดเท้า พบว่าลักษณะของหงส์ไม่เลว แต่ดูๆไปเหมือนจะมอมแมมไปหน่อย ไม่รู้ว่าไปเจอกับอะไรมา

หงสืก็สังเกตไปที่อารียาเช่นกัน เห็นลักษณะของอารียา เธอก็ชื่นชม คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะหาภรรยาที่สาวแบบนี้ได้ เทพเจ้าตาบอดจริงๆ

แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้เจอมา หงส์ก็อับอายขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีทางออกจริงๆ เธอจะมาหารพีพงษ์ที่ต่างคนต่างไม่ชอบขี้หน้าได้ไงกัน

“คุณเป็นอะไร?” รพีพงษ์จ้องไปที่หงส์แล้วถาม

หงส์ไม่ได้ตอบรพีพงษ์ แต่จ้องไปที่อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ อารียาเห็นดังนี้ จึงรีบยืนขึ้น ยิ้มแล้วกล่าว “พี่สาวนาจะยังไม่ได้ทานข้าว นั่งลงแล้วกินด้วยกันนะ”

พูดไป เธอก็พยุงหงส์มาที่โต๊ะ แล้วให้เธอนั่งลง

หงส์ไม่เกรงใจใดๆ ก็รีบหยิบตะเกียบและถ้วยขึ้นมา กินเข้าไปอย่างมูมมาม ดูออก ว่าเธอหินจนไม่ไหวแล้ว

กินไปพอประมาณ หงส์ก็เริ่มมีพลังขึ้น จึงได้วางตะเกียบลง ท่าทางก็ดีขึ้นกว่ามีกี่ไม่น้อย

เธอจ้องไปที่รพีพงษ์ คิดว่าจะพูดกับรพีพงษ์เหตุผลที่ตนมาหา “ฉันมาหาคุณ……”

เธอเพิ่งพูด รพีพงษ์ก็รีบสวนขึ้นมาว่า “คุณไม่ต้องรีบ อธิบายให้ภรรยาผมฟังก่อนว่าคุณเป็นใคร ไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด”

หงส์คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะให้เธออธิบายตัวตนให้ภรรยาของเขาฟัง ทำอย่างกับเธอกับรพีพงษ์ใช้ขาด้วยกันอย่างไรอย่างนั้น ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

แต่เมื่อนึกถึงตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ตระกูลลัดดาวัลย์ เพิ่งจะกินอาหารของเค้าไป ไม่แน่อนาคตอาจต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลลัดดาวัลย์ก็เป็นได้ ดังนั้นจึงได้อดกลั้นไว้

เธอหันไปหาอารียา ยิ้มพลางกล่าว “น้องสาว ไม่ต้องกังวลนะ ฉันกับรพีพงษ์เราอยู่กลุ่มเดียวกันเท่านั้น ฉันเพิ่งจะรู้จักเขาไม่นาน ครั้งนี้ก็เป็นเพราะโดนบีบจนไม่มีทางเลือกจึงต้องมาหาเขา”

อารียามองท่าทางของหงส์ ก็รู้แล้วว่าเธอต้องเจอเข้ากับปัญหาจึงได้มาหารพีพงษ์ ตอนนั้นที่ถามรพีพงษ์ก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะให้เค้าอธิบายจริงๆ ก็รู้สึกอับอายขึ้นมา

เธอหันไปชักตาใส่รพีพงษ์ แล้วกล่าวต่อหงส์ว่า “ไอ้หยา รพีพงษ์นี่ก็บ้า ไม่คิดว่าเขาจะให้คุณอธิบายจริงๆ ฉันไม่มีทางสงสัยอะไรอยู่แล้ว เขาเป็นคนดึงดัน คุณอย่าถือสา”

หงส์ยิ้มแล้วกล่าว “อันนี้ฉันรู้ เขาเป็นคนดึงดันจริงๆ ฉันไม่ถือสาแน่นอน”

รพีพงษ์เซ็งๆ ทำไมสุดท้าย กลายเป็นพวกเธอทั้งสองมาว่าตนเองได้?

“แป๊ปๆ รีบพูดมาดีกว่าว่าคุณเจออะไรมา ทำไมคุณถึงมาเกียวโต?” รพีพงษ์ถาม

หงส์ไม่พูดพร่ำทำเพลง ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองเจอมาให้รพีพงษ์และอารียาฟัง

ที่แท้หลังจากที่หงส์ได้รับภารกิจจากกลุ่มสิงโต หลังจากที่รพีพงษ์กลับมาเกียวโตไม่นาน ก็มีคนตรวจสอบว่ามีการก่ออาชญากรรมผ่านจิต

กลุ่มสิงโตได้เจอเบาะแสบางส่วน ที่หวงส์มาที่นี่ เพื่อจับผู้กระทำผิดไปลงโทษตามกฎหมาย

เป้าหมายของหงส์เป็นผุ้ชายชื่อทัดธน คนนี้เป็นนายใหญ่ของตระกูลปิยะศักดิ์ตระกูลระดับสองของเกียวโต จากการตรวจสอบของกลุ่มสิงโต คนนี้มีพลังควบคุมผู้อื่น ผ่านทางพลังจิต หลอกลวงหญิงสาวผู้ไร้เดียงสา ชักนำให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย ชักนำผู้อื่นเปิดเผยความลับทางการค้า

เดิมทีหงส์คิดว่าตัวเองแค่ต้องไปจับทัดธนนั้นก็ได้แล้ว แต่เรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดไว้ ฝีมือของทัดธนนี้ เก่งกาจมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก

คนนี้ไม่ใช่แค่มีพลังจิตที่คนปกติไม่มีเท่านั้น ยังสามารถควบคุมจิตใจของคนอื่นได้อีกด้วย และยังมีฝีมือระดับแดนปรมาจารย์อีกด้วย เป็นยอดฝีมือที่แอบซ่อนอยู่บนโลก

หงส์ไปต่อสู้กับทัดธนถึงที่ ทัดธนไม่หวาดกลัว ที่จะต่อสู้กับหงส์แม้แต่น้อย แม้หงส์จะเป็นแดนปรมาจารย์ขั้นสูงสุด จากระดับแล้วสามารถชนะทัดธนได้ แต่พลังจิตของทัดธนนั้นยากที่จะป้องกันไว้ ในระหว่างการต่อสู้ทุกครั้ง ทัดธนสามารถใช้พลังจิตทำให้จิตใจของหงส์วุ่นวาย ทำให้ตนลืมว่าต่อไปจะทำอะไร

ในการต่อสู้ถ้าลืมว่าตัวเองจะทำอะไร เป็นสิ่งที่ห้ามทำ แม้จะแค่ชั่วขณะ อีกฝั่งก็สามารถจับจุดอ่อนของตนได้ นำไปสู่การพ่ายแพ้

สิ่งที่น่ากลัวกว่าก็คือ ทัดธนสามารถใช้พลังจิตสะกดจิตใจคนอื่นได้ แม้หงส์จะควบคุมจิตใจตัวเองเก่งมากกว่าคนทั่วไป แต่จากการต่อสู้หลายๆครั้งที่ผ่านมา สุดท้ายเธอก็ต้องตกหลุมของทัดธนอยู่ดี

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท