พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่928 นายก็คู่ควรกับฐานะสูงศักดิ์เหรอ

บทที่928 นายก็คู่ควรกับฐานะสูงศักดิ์เหรอ

บทที่928 นายก็คู่ควรกับฐานะสูงศักดิ์เหรอ

เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้วทันที คาดไม่ถึงว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้จะอันธพาลขนาดนี้ คาดไม่ถึงกลับยังบอกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ นี่เป็นครั้งแรกที่รพีพงษ์เจอกับคนแบบนี้

“นายฟังสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปไม่รู้เรื่องเหรอ?”รพีพงษ์จ้องไปที่ชายหนุ่มแล้วถาม

“นายพูดอะไร?”ชายหนุ่มพูดอย่างเมินเฉย

“ฉันบอกว่าเดี๋ยวเพื่อนของฉันจะมา ไอคิวของนายไม่พอหรือจงใจแกล้งเป็นบ้าใบ้ที่นี่?”รพีพงษ์พูดอย่างไม่เกรงใจ

เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ดวงตาก็เบิกกว้างทันที เขาคาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ขับรถ รถSantanaจะกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเขา นี่เท่ากับว่าไม่เสียดายชีวิต

“เย็ดแม่ง แกว่าใครแกล้งเป็นบ้าใบ้เหรอ? แกก็แค่คนยากจน ก็กล้าใช้ท่าทีแบบนี้มาพูดคุยกับฉันเหรอ?”ชายหนุ่มตะโกนใส่รพีพงษ์ทันที

ในเวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามา และเมื่อเขาเห็นคนในรถ ก็รีบเอ่ยปากพูดว่า: “คุณสรณ์ คุณผู้ชายคนนี้บอกว่ามาหาเพื่อนที่นี่ เรื่องนี้น่าจะเป็นการเข้าใจผิด คุณได้โปรดใจเย็นๆ”

“เข้าใจผิดบ้าอะไร คาดไม่ถึงว่าไอ้โง่นี่กล้าบอกว่าฉันแกล้งเป็นบ้าใบ้ นายดูรถSantanaคันนี้ที่เขาขับ จะมีเพื่อนในชุมชนนี้ได้อย่างไร ฉันว่าเขาก็แค่อยากเข้าไปขโมยของในชุมชนนี้ นายรีบจับตัวเขาไว้แล้วทุบตี ฐานะที่สูงศักดิ์ของฉัน ก็ใช่ว่าคนอย่างเขาจะมาดูถูกได้ตามใจชอบเหรอ?”ชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเต็มไปด้วยความลำบากใจ หันหน้ามองไปทางรพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “นี่….ไม่ค่อยดีมั้ง?”

รพีพงษ์มองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาเยาะเย้ย และเอ่ยปากพูดว่า: “ก็แค่ซื้อบ้านอยู่ที่นี่หลังหนึ่งเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ? นายก็คู่ควรกับฐานะสูงศักดิ์เหรอ?”

เมื่อชายหนุ่มเห็นรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ความโกรธในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ตะโกนด่าใส่รพีพงษ์เสียงดัง: “เย็ดแม่ง กูสามารถมีคฤหาสน์อยู่ที่นี่ ก็คือฐานะสูงศักดิ์ แกแค่ยาจกคนหนึ่งก็มีสิทธิ์มาพูดกับฉันเหรอ?”

ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าธิติสรณ์ เมื่อก่อนเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาคนหนึ่ง พ่อของเขาเป็นคนขับรถของตระกูลตรีศาสตร์ ขับรถให้กับตระกูลตรีศาสตร์มาครึ่งชีวิต

แม้ว่าตระกูลตรีศาสตร์จะเป็นตระกูลที่หลบซ่อนจากทางโลก ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่อาจไม่มีมากเท่าตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ทรัพย์สมบัติเก่าก็ยังมีอยู่ ดังนั้นตอนที่ซื้อคฤหาสน์ ก็ซื้อสองหลัง

พ่อของธิติสรณ์เป็นคนขยันขันแข็งมีความรับผิดชอบ เป็นคนขับรถให้กับตระกูลตรีศาสตร์มาทั้งชีวิต เมื่อใดก็ตามที่ตระกูลตรีศาสตร์ต้องการ ว่าจะฝนตกฟ้าร้อง หรือฟ้าผ่าฟ้าแลบ ก็ไม่เคยที่จะลาออก ที่สำคัญพ่อของธิติสรณ์ก็เป็นคนที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ เขารู้ความลับมากมายของตระกูลตรีศาสตร์ แต่ไม่เคยพูดออกไปสักครั้ง ปีนั้นก็ได้ช่วยชีวิตเมธีราไว้หนึ่งครั้ง

เมธีราเพื่อเป็นการขอบคุณพ่อของธิติสรณ์ ได้มอบคฤหาสน์ที่นี่ให้กับครอบครัวของเขาหนึ่งหลัง ที่สำคัญตอนที่พ่อของเขาจะเกษียณ ก็ให้เงินบำนาญก้อนโตให้

เงินบำนาญก้อนนั้น ถูกธิติสรณ์นำมาซื้อรถแลนด์โรเวอร์คันนี้

เพราะจู่ๆจากคนพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง กลายมาเป็นคนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ระดับหรูหราในชุมชน ในใจของธิติสรณ์ก็ค่อนข้างจองหองพองขน รวมทั้งหลังจากที่ซื้อรถแลนด์โรเวอร์ ก็เริ่มใช่สายที่สูงส่งดูถูกคน

เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า เมื่อเห็นคนที่ขับรถธรรมดา ก็จะดูถูกเหยียดหยาม คิดว่าพวกเขาเป็นคนยากจน ไม่มีทางเทียบตัวเองได้

เพราะรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของตัวเองกับตระกูลตรีศาสตร์ ดังนั้นบางครั้งธิติสรณ์ก็หยิ่งผยองมาก เมื่อมีปัญหา เขาก็จะขอให้พ่อตัวเองไปขอร้องคนของตระกูลตรีศาสตร์ ตระกูลตรีศาสตร์เห็นแก่หน้าพ่อของธิติสรณ์ โดยทั่วไปแล้วจะช่วยแก้ปัญหาให้

ในเวลานี้ธิติสรณ์กำลังมองดูรพีพงษ์ที่ขับรถSantanaคันนี้ รู้สึกว่าคนแบบนี้เข้าไปในชุมชนเดียวกันกับเขาจะลดฐานะของเขา ดังนั้นจึงเยาะเย้ย

“โง่”รพีพงษ์จ้องมองธิติสรณ์แล้วพูด

“แม่ง ฉันว่าแกไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครจริงๆ คาดไม่ถึงยังกล้าพูดแบบนี้กับฉัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นายจะไล่เขาไปหรือไม่ไล่?”ธิติสรณ์มองไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเต็มไปด้วยความลำบากใจ แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ารพีพงษ์ที่ขับรถSantanaคงจะไม่ใช่คนรวยอะไร แต่เขาก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับตัวเอง

เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนเฉยอยู่ที่เดิม ธิติสรณ์ก็ส่งเสียงเย็นชา มองไปที่รพีพงษ์แล้วพูดว่า: “เขาไม่ไล่แกไป ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะสั่งสอนแกด้วยตัวเอง รถพังๆคันนี้ขวางทางของฉัน ชนมันพังให้กับนาย อย่าโทษฉันแล้วกัน!”

หลังจากพูดจบ ธิติสรณ์ก็เหยียบคันเร่ง

รพีพงษ์มองไปที่ท่าทางของธิติสรณ์ที่ต้องการจะชนรถคันนี้ของตัวเอง สีหน้าก็ไม่พอใจ พูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้านายกล้าชนรถคันนี้ ฉันก็จะทำให้นายเข้าใจว่าความเสียใจคืออะไร”

“ขู่เข็ญใครเหรอ? คิดว่ากูกลัวมึงจริงๆเหรอ? ยังจะทำให้ฉันเสียใจด้วย รถขยะแบบนี้ของแก กูชนไปเป็นร้อยๆคันก็ไม่รู้สึกแย่!”

หลังจากพูดจบ ธิติสรณ์ใส่เกียร์ทันที เหยียบคันเร่งลง และพุ่งชนเข้าใส่รถSantanaที่อยู่ข้างหน้า

รพีพงษ์มองดูฉากนี้ด้วยความอย่างเย็นชา และไม่พูดอะไร

รถคันนี้ไม่ใช่ของเขา คือเขายืมมาจากพ่อบ้าน ตอนนี้ธิติสรณ์ชนแล้ว รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแบบนี้เป็นธรรมดา

เมื่อเห็นท้ายรถSantanaที่ผิดรูปจากการถูกชน แต่รถของตัวเองยังคงสภาพเดิม ธิติสรณ์ได้แสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะบนใบหน้า

“เห็นหรือยัง รถพังๆของแกคุณเหมือนกับกระดาษ ไม่มีเงินแกก็คู่ควรที่จะขับรถแบบนี้”ธิติสรณ์ตะโกน

ในตอนนี้ธีรนุชเดินออกจากชุมชน หลังจากที่หล่อนได้รับข้อความของรพีพงษ์ ก็รีบออกมาข้างนอกอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์เป็นคนสำคัญที่จะช่วยพี่สาวของหล่อน รวมทั้งท่าทีก่อนหน้านี้ของหล่อนที่มีต่อรพีพงษ์ ก็รู้สึกละอายใจจริงๆ ดังนั้นคิดว่าไม่สามารถละเลยต่อรพีพงษ์ได้

เมื่อตอนที่หล่อนเดินออกมา บังเอิญเห็นรถแลนด์โรเวอร์ชนรถSantanaพอดี รถแลนด์โรเวอร์คันนี้หล่อนจำได้ เป็นของลูกชายคนขับรถคนเก่าของบ้านหล่อน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะชนรถของคนอื่นในทันที

เมื่อธีรนุชเห็นรพีพงษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าก็มึนงง คิดในใจเรื่องนี้อย่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรพีพงษ์ ไม่อย่างนั้น ทั้งหมดนี้จบเห่แน่

หล่อนเดินออกมาจากด้านใน หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักความปลอดภัยเห็นหล่อน รีบทำความเคารพทักทาย: “คุณธีรนุช”

ธิติสรณ์ก็เห็นธีรนุช ดวงตาก็เปล่งประกาย ด้วยรูปลักษณ์ของธีรนุช ธิติสรณ์ก็ชื่นชอบเป็นธรรมดา ที่สำคัญก็เคยตามจีบธีรนุช เพียงแต่ว่าธีรนุชไม่ชอบเขา

เขารีบลงมาจากบนรถ ยิ้มทักทายธีรนุช: “นุช คุณกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอ? ผมไปส่งคุณ คุณอย่าได้เดินไปทางผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนี้เป็นยาจก อย่าให้เขาทำให้ตาของคุณสกปรก”

ธีรนุชเขม็งตาใส่ธิติสรณ์ สีหน้าก็เยือกเย็นสุขุม จากนั้นรีบเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์อย่างรวดเร็ว เอ่ยปากถามว่า: “ คุณรพี คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนี้สร้างปัญหาให้คุณเหรอ?”

เมื่อเห็นฉากนี้ ธิติสรณ์ก็นิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม แววตาเผยถึงความเหลือเชื่อ

คุณหนูของตระกูลตรีศาสตร์ทำไมถึงได้ให้ความเคารพกับยาจกคนนี้ขนาดนี้?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท