บทที่928 นายก็คู่ควรกับฐานะสูงศักดิ์เหรอ
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้วทันที คาดไม่ถึงว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้จะอันธพาลขนาดนี้ คาดไม่ถึงกลับยังบอกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ นี่เป็นครั้งแรกที่รพีพงษ์เจอกับคนแบบนี้
“นายฟังสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปไม่รู้เรื่องเหรอ?”รพีพงษ์จ้องไปที่ชายหนุ่มแล้วถาม
“นายพูดอะไร?”ชายหนุ่มพูดอย่างเมินเฉย
“ฉันบอกว่าเดี๋ยวเพื่อนของฉันจะมา ไอคิวของนายไม่พอหรือจงใจแกล้งเป็นบ้าใบ้ที่นี่?”รพีพงษ์พูดอย่างไม่เกรงใจ
เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ดวงตาก็เบิกกว้างทันที เขาคาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ขับรถ รถSantanaจะกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเขา นี่เท่ากับว่าไม่เสียดายชีวิต
“เย็ดแม่ง แกว่าใครแกล้งเป็นบ้าใบ้เหรอ? แกก็แค่คนยากจน ก็กล้าใช้ท่าทีแบบนี้มาพูดคุยกับฉันเหรอ?”ชายหนุ่มตะโกนใส่รพีพงษ์ทันที
ในเวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามา และเมื่อเขาเห็นคนในรถ ก็รีบเอ่ยปากพูดว่า: “คุณสรณ์ คุณผู้ชายคนนี้บอกว่ามาหาเพื่อนที่นี่ เรื่องนี้น่าจะเป็นการเข้าใจผิด คุณได้โปรดใจเย็นๆ”
“เข้าใจผิดบ้าอะไร คาดไม่ถึงว่าไอ้โง่นี่กล้าบอกว่าฉันแกล้งเป็นบ้าใบ้ นายดูรถSantanaคันนี้ที่เขาขับ จะมีเพื่อนในชุมชนนี้ได้อย่างไร ฉันว่าเขาก็แค่อยากเข้าไปขโมยของในชุมชนนี้ นายรีบจับตัวเขาไว้แล้วทุบตี ฐานะที่สูงศักดิ์ของฉัน ก็ใช่ว่าคนอย่างเขาจะมาดูถูกได้ตามใจชอบเหรอ?”ชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเต็มไปด้วยความลำบากใจ หันหน้ามองไปทางรพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “นี่….ไม่ค่อยดีมั้ง?”
รพีพงษ์มองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาเยาะเย้ย และเอ่ยปากพูดว่า: “ก็แค่ซื้อบ้านอยู่ที่นี่หลังหนึ่งเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ? นายก็คู่ควรกับฐานะสูงศักดิ์เหรอ?”
เมื่อชายหนุ่มเห็นรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ความโกรธในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ตะโกนด่าใส่รพีพงษ์เสียงดัง: “เย็ดแม่ง กูสามารถมีคฤหาสน์อยู่ที่นี่ ก็คือฐานะสูงศักดิ์ แกแค่ยาจกคนหนึ่งก็มีสิทธิ์มาพูดกับฉันเหรอ?”
ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าธิติสรณ์ เมื่อก่อนเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาคนหนึ่ง พ่อของเขาเป็นคนขับรถของตระกูลตรีศาสตร์ ขับรถให้กับตระกูลตรีศาสตร์มาครึ่งชีวิต
แม้ว่าตระกูลตรีศาสตร์จะเป็นตระกูลที่หลบซ่อนจากทางโลก ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่อาจไม่มีมากเท่าตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ทรัพย์สมบัติเก่าก็ยังมีอยู่ ดังนั้นตอนที่ซื้อคฤหาสน์ ก็ซื้อสองหลัง
พ่อของธิติสรณ์เป็นคนขยันขันแข็งมีความรับผิดชอบ เป็นคนขับรถให้กับตระกูลตรีศาสตร์มาทั้งชีวิต เมื่อใดก็ตามที่ตระกูลตรีศาสตร์ต้องการ ว่าจะฝนตกฟ้าร้อง หรือฟ้าผ่าฟ้าแลบ ก็ไม่เคยที่จะลาออก ที่สำคัญพ่อของธิติสรณ์ก็เป็นคนที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ เขารู้ความลับมากมายของตระกูลตรีศาสตร์ แต่ไม่เคยพูดออกไปสักครั้ง ปีนั้นก็ได้ช่วยชีวิตเมธีราไว้หนึ่งครั้ง
เมธีราเพื่อเป็นการขอบคุณพ่อของธิติสรณ์ ได้มอบคฤหาสน์ที่นี่ให้กับครอบครัวของเขาหนึ่งหลัง ที่สำคัญตอนที่พ่อของเขาจะเกษียณ ก็ให้เงินบำนาญก้อนโตให้
เงินบำนาญก้อนนั้น ถูกธิติสรณ์นำมาซื้อรถแลนด์โรเวอร์คันนี้
เพราะจู่ๆจากคนพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง กลายมาเป็นคนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ระดับหรูหราในชุมชน ในใจของธิติสรณ์ก็ค่อนข้างจองหองพองขน รวมทั้งหลังจากที่ซื้อรถแลนด์โรเวอร์ ก็เริ่มใช่สายที่สูงส่งดูถูกคน
เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า เมื่อเห็นคนที่ขับรถธรรมดา ก็จะดูถูกเหยียดหยาม คิดว่าพวกเขาเป็นคนยากจน ไม่มีทางเทียบตัวเองได้
เพราะรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของตัวเองกับตระกูลตรีศาสตร์ ดังนั้นบางครั้งธิติสรณ์ก็หยิ่งผยองมาก เมื่อมีปัญหา เขาก็จะขอให้พ่อตัวเองไปขอร้องคนของตระกูลตรีศาสตร์ ตระกูลตรีศาสตร์เห็นแก่หน้าพ่อของธิติสรณ์ โดยทั่วไปแล้วจะช่วยแก้ปัญหาให้
ในเวลานี้ธิติสรณ์กำลังมองดูรพีพงษ์ที่ขับรถSantanaคันนี้ รู้สึกว่าคนแบบนี้เข้าไปในชุมชนเดียวกันกับเขาจะลดฐานะของเขา ดังนั้นจึงเยาะเย้ย
“โง่”รพีพงษ์จ้องมองธิติสรณ์แล้วพูด
“แม่ง ฉันว่าแกไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครจริงๆ คาดไม่ถึงยังกล้าพูดแบบนี้กับฉัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นายจะไล่เขาไปหรือไม่ไล่?”ธิติสรณ์มองไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเต็มไปด้วยความลำบากใจ แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ารพีพงษ์ที่ขับรถSantanaคงจะไม่ใช่คนรวยอะไร แต่เขาก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับตัวเอง
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนเฉยอยู่ที่เดิม ธิติสรณ์ก็ส่งเสียงเย็นชา มองไปที่รพีพงษ์แล้วพูดว่า: “เขาไม่ไล่แกไป ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะสั่งสอนแกด้วยตัวเอง รถพังๆคันนี้ขวางทางของฉัน ชนมันพังให้กับนาย อย่าโทษฉันแล้วกัน!”
หลังจากพูดจบ ธิติสรณ์ก็เหยียบคันเร่ง
รพีพงษ์มองไปที่ท่าทางของธิติสรณ์ที่ต้องการจะชนรถคันนี้ของตัวเอง สีหน้าก็ไม่พอใจ พูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้านายกล้าชนรถคันนี้ ฉันก็จะทำให้นายเข้าใจว่าความเสียใจคืออะไร”
“ขู่เข็ญใครเหรอ? คิดว่ากูกลัวมึงจริงๆเหรอ? ยังจะทำให้ฉันเสียใจด้วย รถขยะแบบนี้ของแก กูชนไปเป็นร้อยๆคันก็ไม่รู้สึกแย่!”
หลังจากพูดจบ ธิติสรณ์ใส่เกียร์ทันที เหยียบคันเร่งลง และพุ่งชนเข้าใส่รถSantanaที่อยู่ข้างหน้า
รพีพงษ์มองดูฉากนี้ด้วยความอย่างเย็นชา และไม่พูดอะไร
รถคันนี้ไม่ใช่ของเขา คือเขายืมมาจากพ่อบ้าน ตอนนี้ธิติสรณ์ชนแล้ว รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแบบนี้เป็นธรรมดา
เมื่อเห็นท้ายรถSantanaที่ผิดรูปจากการถูกชน แต่รถของตัวเองยังคงสภาพเดิม ธิติสรณ์ได้แสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะบนใบหน้า
“เห็นหรือยัง รถพังๆของแกคุณเหมือนกับกระดาษ ไม่มีเงินแกก็คู่ควรที่จะขับรถแบบนี้”ธิติสรณ์ตะโกน
ในตอนนี้ธีรนุชเดินออกจากชุมชน หลังจากที่หล่อนได้รับข้อความของรพีพงษ์ ก็รีบออกมาข้างนอกอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์เป็นคนสำคัญที่จะช่วยพี่สาวของหล่อน รวมทั้งท่าทีก่อนหน้านี้ของหล่อนที่มีต่อรพีพงษ์ ก็รู้สึกละอายใจจริงๆ ดังนั้นคิดว่าไม่สามารถละเลยต่อรพีพงษ์ได้
เมื่อตอนที่หล่อนเดินออกมา บังเอิญเห็นรถแลนด์โรเวอร์ชนรถSantanaพอดี รถแลนด์โรเวอร์คันนี้หล่อนจำได้ เป็นของลูกชายคนขับรถคนเก่าของบ้านหล่อน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะชนรถของคนอื่นในทันที
เมื่อธีรนุชเห็นรพีพงษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าก็มึนงง คิดในใจเรื่องนี้อย่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรพีพงษ์ ไม่อย่างนั้น ทั้งหมดนี้จบเห่แน่
หล่อนเดินออกมาจากด้านใน หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักความปลอดภัยเห็นหล่อน รีบทำความเคารพทักทาย: “คุณธีรนุช”
ธิติสรณ์ก็เห็นธีรนุช ดวงตาก็เปล่งประกาย ด้วยรูปลักษณ์ของธีรนุช ธิติสรณ์ก็ชื่นชอบเป็นธรรมดา ที่สำคัญก็เคยตามจีบธีรนุช เพียงแต่ว่าธีรนุชไม่ชอบเขา
เขารีบลงมาจากบนรถ ยิ้มทักทายธีรนุช: “นุช คุณกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอ? ผมไปส่งคุณ คุณอย่าได้เดินไปทางผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนี้เป็นยาจก อย่าให้เขาทำให้ตาของคุณสกปรก”
ธีรนุชเขม็งตาใส่ธิติสรณ์ สีหน้าก็เยือกเย็นสุขุม จากนั้นรีบเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์อย่างรวดเร็ว เอ่ยปากถามว่า: “ คุณรพี คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนี้สร้างปัญหาให้คุณเหรอ?”
เมื่อเห็นฉากนี้ ธิติสรณ์ก็นิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม แววตาเผยถึงความเหลือเชื่อ
คุณหนูของตระกูลตรีศาสตร์ทำไมถึงได้ให้ความเคารพกับยาจกคนนี้ขนาดนี้?