ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนตกใจ เดิมทีทุกคนคิดว่าเข็มเงินของธุวชิตจะได้ผล คิดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาอันสั้น อาการของแม่นลินจะทรุดลงไปแบบนี้
หลังจากคนที่ชื่นชมธุวชิตเมื่อครู่เห็นภาพตรงหน้า ก็รีบหุบปากลงทันทีและไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
ผลอุดมเห็นอาการของภรรยาตัวเองทรุดลง สีหน้าของเขาร้อนรนขึ้นมาทันที เขารีบหันไปถามธุวชิต “นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับหมอเทวดาชิต ทำไมเหมือนอาการของภรรยาทรุดหนักลงอีก คุณช่วยเธอด้วยนะครับ ขอร้องล่ะ”
ธุวชิตมีสีหน้ามึนงง เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขามองแม่ของนลิน เขาดูออกว่าอีกฝ่ายจะอยู่ได้อีกไม่นาน ทำให้เขาตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
ถ้าวันนี้รักษาอาการของผู้ป่วยคนนี้ไม่ได้ ชื่อเสียงหมอเทวดาของเขาจะต้องป่นปี้อย่างแน่นอน
ตอนนี้เหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผากของเขา มือที่หยิบเข็มเงินก็เริ่มสั่นขึ้นมา
รพีพงษ์หัวเราะแล้วมองธุวชิต จากนั้นจึงเอ่ยถามว่า “หมอเทวดา ทำไมถึงไม่รักษาล่ะ ผู้ป่วยจะขาดใจแล้ว อย่าบอกนะว่าคุณจะให้ผู้ป่วยตายไปต่อหน้าต่อตา”
ธุวชิตหันไปจ้องรพีพงษ์แล้วแผดเสียงออกมาว่า “แกจะไปรู้อะไร ฉันแค่ตรวจดูอาการของเธอเท่านั้น เดี๋ยวถ้าฉันรักษาเธอไม่หาย ก็เพราะแกที่มาวุ่นวาย”
ธีรเดชจ้องรพีพงษ์เขม็งแล้วแผดเสียงออกมาว่า “แกได้ยินแล้วยัง หมอเทวดาชิตบอกให้แกหุบปาก ฉันว่าแกจงใจให้หมอเทวดาชิตรักษาไม่หาย ถึงใช้วิธีการแบบนี้ หน้าไม่อายจริงๆ!”
รพีพงษ์หันไปมองธีรเดชแล้วพูดว่า “ผมว่าเสียงของคุณดังกว่าผมอีกนะ คนที่ไม่อยากให้เขารักษาหายควรจะเป็นคุณมากกว่านะ”
จู่ๆ ธีรเดชก็พูดอะไรไม่ออก ปิยะพลหันไปจ้องเขา เขาจึงทำได้เพียงหุบปากเงียบ
ธุวชิตมีสีหน้าร้อนใจ เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี หลังจากที่เขาจ้องเข็มเงินที่อยู่ในมือ เขากำลังจะฝังเข็มลงไปอีกครั้งเพื่อจะดูว่ามีผลไหม
ครั้งนี้เขาเปลี่ยนตำแหน่งการฝังเข็ม หลังจากที่เขาฝังเข็มลงไปตัวแม่ของนลิน เธอกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง สีหน้าของเธอซีดกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย
ครั้งนี้ธุวชิตตื่นตระหนกจริงๆ เขาไม่มีวิธีรักษาแม่ของนลินจริงๆ และหลังจากที่เขารักษาเธอไปสองครั้ง แม่ของนลินก้าวไปหาความตายแล้วครึ่งหนึ่ง ถึงแม้ว่าเทวดาจะมาก็ไม่สามารถช่วยได้
เขาสูดหายใจเฮือกและกลอกตาไปมา และหันหลังมาพูดว่า “อาการของเธอหนักจนไม่สามารถรักษาได้ ฉันไม่สามารถรักษาได้ พวกเธอเตรียมตัวหลังจากนี้เถอะ”
พูดจบ เขาก็มองนักเรียนแพทย์และส่งสัญญาณทางสายตาให้เขา
นักเรียนแพทย์เข้าใจความหมายทันที เขารีบเก็บกล่องยา
ผลอุดมสับสนไปหมด เขาคิดไม่ถึงว่าธุวชิตที่ถูกเรียกว่าหมอเทวดาจะพูดออกมาว่าไม่สามารถรักษาอาการป่วยของภรรยาเขาได้
เขารีบเข้าไปหาธุวชิตและพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน “หมอเทวดา ช่วยรักษาภรรยาของผมด้วยเถอะครับ ความหวังทั้งหมดของผมอยู่ที่คุณแล้วนะครับ”
ธุวชิตผลักเขาออกแล้วพูดว่า “อาการของเธอมาถึงขนาดนี้ นายถึงเรียกฉันมา นายคิดว่าฉันเป็นเทวดาหรือไง ถ้าพวกนายมาหาฉันเร็วกว่านี้ อาจจะมีโอกาสช่วยชีวิตเธอได้ ตอนนี้อย่ามาเสียเวลาเลย!”
ผลอุดมทรุดลงกับพื้น
ตอนนี้ธุวชิตตื่นตระหนกไปหมด เขาอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ถ้าคนตระกูลณัฐรัชต์หาเรื่องเขาขึ้นมาแล้วจะซวย
ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ และเดินไปที่เตียง
เมื่อคนตระกูลณัฐรัชต์เห็นเช่นนั้นต่างก็พากันมีสีหน้าสงสัยและหวาดระแวง
“ไอ้หมอนั่นจะทำอะไร อย่าบอกนะว่าเขาจะลงมือรักษาอย่างนั้นเหรอ”
“เขาบ้าไปแล้วหรือไง หมอเทวดาชิตยังรักษาไม่ได้ เขาคิดว่าตัวเองจะรักษาได้อย่างนั้นเหรอ”
“การที่หมอเทวดาชิตไม่สามารถรักษาได้ อาจจะเป็นผลกระทบมาจากเขาก็ได้ ตอนนี้เขายังจะมาสร้างความวุ่นวายอีก โง่จริงๆ”
……
ธีรเดชมองรพีพงษ์แล้วแผดเสียงออกมา “ไอ้เด็กนี่ แกจะทำอะไร รีบไสหัวไปซะ การที่อาการของพี่สะใภ้ไม่สามารถรักษาได้ก็เพราะแก อย่าบอกนะว่าตอนนี้แกต้องการชีวิตของเธอ”
ผลอุดมหันไปมองรพีพงษ์ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไม ทำไมนายต้องทำร้ายภรรยาของฉันด้วย พวกเราไม่ได้มีอะไรเคียดแค้นกับนาย ทำไมนายต้องทำร้ายพวกเราด้วย!”
ธีรเดชหันไปมองปิยะพลแล้วพูดว่า “พ่อรีบไล่ไอ้หมอนี่ออกไปเลย!”
“น่ารำคาญ!” รพีพงษ์แผดเสียงออกมาอย่างเย็นชา ความกดดันที่ไม่สามารถมองเห็นได้แผ่ซ่านไปทั่วห้องรับแขก ทุกคนพากันเงียบลง ไม่รู้ว่าทำไมว่าหลังจากที่ได้ยินเสียงของรพีพงษ์ พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
ขนาดนักเรียนแพทย์คนนั้นก็ไม่กล้าเก็บของต่อ เพราะกลัวว่าจะทำให้รพีพงษ์ไม่พอใจและตบเขาจนตาย
ธุวชิตยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่กล้าหนีออกไปในตอนนี้
รพีพงษ์มองแม่ของนลินที่อยู่บนเตียง เขายืนนิ้วออกไปสองนิ้วและออกแรงลงไป จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปกดจุดบนร่างกายของแม่นลิน เมื่อแรงถูกส่งเข้าไปในร่างกายของเธอ พิษที่กำลังออกฤทธิ์ก็สงบลง
หลังจากที่รพีพงษ์เอามือไปวางบนข้อมือของแม่นลิน และปลดปล่อยพลังออกไปตามเส้นเลือดภายในร่างกาย และเข้าไปในอวัยวะภายในของเธอ
หลังจากที่พลังไปสัมผัสกับลมปราณสีดำที่อยู่ในร่างกายของแม่นลิน มันเริ่มสลายตัวลงทันที
หลังจากที่ลมปราณสีดำพวกนั้นสัมผัสกับพลังของรพีพงษ์ ราวกับเจอผีอย่างไรอย่างนั้น และกะจะไหลออกจากร่างกายของแม่นลิน แต่ทว่ารพีพงษ์เตรียมการมาอย่างดี เขาปิดเส้นเลือดภายในร่างกายของแม่นลินทั้งหมด ดังนั้นลมปราณสีดำจึงไม่สามารถไหลออกมาได้ และทำได้เพียงรอให้สลายไป
จากความสามารถของรพีพงษ์ในตอนนี้ การที่จะสลายลมปราณสีดำพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย พละกำลังของเขามีผลต่อลมปราณสีดำพวกนี้ เพราะฉะนั้นการที่จะสลายลมปราณสีดำพวกนี้ ต้องใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง ลมปราณสีดำที่อยู่ในร่างกายแม่ของนลินถูกกำจัดไปกว่าครึ่ง อาการแม่ของนลินดีขึ้นมามาก
ทุกคนต่างพากันมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบๆ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงรบกวนรพีพงษ์
ธุวชิตคิดไม่ถึงเช่นกันว่ารพีพงษ์จะมีวิธีรักษาแม่ของนลิน เขาหรี่ตามองรพีพงษ์
ผ่านไปพักใหญ่ รพีพงษ์กำจัดลมปราณสีดำออกไปจากร่างกายแม่ของนลินจนหมด จากนั้นเขาจึงส่งพลังของตัวเองส่วนหนึ่งไปในตัวของเธอ เพื่อรักษาอวัยวะภายในของเธอ เพื่อรักษาชีวิตของเธอจากการบาดเจ็บเมื่อครู่
ตอนนี้ลมปราณสีดำที่อยู่ในตัวของแม่นลินหายไปหมดแล้ว สีหน้าของเธอก็ดีกว่าเมื่อครู่มาก นอกจากอาการอ่อนเพลียก็ไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วงอีก
หลังจากทุกคนเห็นภาพตรงหน้า ต่างก็พากันตกตะลึง