พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1176 ช่วยตระกูลของพวกเราด้วย

บทที่ 1176 ช่วยตระกูลของพวกเราด้วย

ในขณะที่ขับรถ โทรศัพท์ของรพีพงษ์ก็ดังขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์มองไปแวบเดียวที่แท้ก็เป็นท่านวิทย์ที่โทรมา

รพีพงษ์ให้สัญญาณนลินขับรถด้วย และรับสายโทรศัพท์

“ท่านวิทย์ โทรมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?” รพีพงษ์ถามด้วยใบหน้าที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม

“ชายหนุ่ม จากกันครั้งก่อนก็ไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน พอดีว่าฉันกำลังปฏิบัติภารกิจในเมืองของนาย มีเวลามาพบเจอกันมั้ย?” ท่านวิทย์ถาม

“ได้ ผู้อาวุโสอย่างท่านรอสักครู่ ตอนนี้ผมจะไปเยี่ยมเพื่อนท่านหนึ่ง เดี๋ยวค่อยติดต่อท่านทีหลัง” รพีพงษ์ด้วยการแสดงสีหน้าเข้มงวด ตอบกลับด้วยความเคารพ

“ก็ได้ ชายหนุ่ม รอโทรศัพท์จากนาย ไม่เจอไม่กลับ” ท่านวิทย์วางสายโทรศัพท์ไปด้วยความพอใจ

รถของนลินขับได้เร็วมาก ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลที่ผลอุดมอยู่

รพีพงษ์เตรียมไปดูผลอุดมก่อนว่าตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีความจำเป็น เขาจะลงมือช่วยเหลือด้วยตัวเอง

ในโรงพยาบาลในเวลานี้ ผลอุดมเพิ่งถูกเข็นออกจากในห้องฉุกเฉิน เนื่องจากการผ่าตัดยังอยู่ในระยะการดมยา ผลอุดมยังไม่ฟื้นตัว

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นลินพารพีพงษ์เดินเข้าไป เมื่อเห็นผลอุดมที่นอนอยู่บนเตียง ในที่สุดนลินก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้ได้ กระโจนไปที่ข้างเตียง และจับมือของผลอุดมไว้

“คุณหนู คุณหมอบอกว่าคุณท่านพ้นขีดอันตรายแล้ว”

พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆรีบเอ่ยปากพูด

เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อบ้าน ในที่สุดหัวใจที่วิตกกังวลอยู่ของนลินก็โล่งอกลงมา

ในเวลานี้รพีพงษ์เดินถึงที่ข้างเตียง เตรียมใช้พลังจิต ดูอาการผ่าตัดของผลอุดม

ในเวลานี้ผลอุดมลืมตาขึ้นมา ส่งเสียงที่อ่อนแอออกมา

“นลินลูกมาแล้ว หาคุณรพีพบมั้ย?”

ในเวลานี้ผลอุดมได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว นลินรีบดึงรพีพงษ์มาแล้วพูดกับผลอุดมว่า

“หนูพาคุณรพีมาแล้ว”

“คุณรพี ขอร้อง คุณได้โปรดช่วยตระกูลพวกเราด้วยเถอะ”

เมื่อผลอุดมเห็นรพีพงษ์ก็พยายามลุกขึ้นมานั่งทันที รพีพงษ์รีบพยุงเขาๆไว้ทันที ในใจเต้นเล็กน้อย

ร่างกายของผลอุดมล้มลงกลายเป็นแบบนี้ ยังห่วยใยตระกูลณัฐรัชต์ ความรับผิดชอบแบบนี้ ทำให้ในใจของรพีพงษ์ตื้นตัน

“ในระหว่างทางนลินได้บอกทุกอย่างกับผมแล้ว คุณพักรักษาให้หายดีก่อน ผมช่วยพวกคุณอย่างแน่นอน”

ผลอุดมก็รู้ดี รพีพงษ์มีพลังที่แข็งแกร่งมากเพียงใด ดังนั้นได้ยินคำพูดนี้ ก็วางใจในทันที

“ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขอร้องคุณแล้ว”

ในเวลานี้ในตระกูลณัฐรัชต์ยุ่งวุ่นวายจนเหมือนโจ๊กหนึ่งหม้อแล้ว กองกำลังของผลอุดม ตอนนี้เกือบจะถึงขั้นจนมุมของชีวิตแล้ว

ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของโรเบิร์ต และปิยะพลที่ควบคุมตระกูลณัฐรัชต์ก่อนหน้านี้ก็ถูกฆ่าแล้ว คนในตระกูลณัฐรัชต์ที่เหลือถูกกักบริเวณในบ้านตระกูลณัฐรัชต์

โรเบิร์ตยืนอยู่กลางห้องประชุม และตะโกนเสียงดังอย่างเย่อหยิ่ง

“ในเมื่อผู้ดูแลรับผิดชอบก็ถูกฉันฆ่าตายแล้ว ถ้าอย่างตอนนี้ ฉันก็ควรเป็นใหญ่ในบ้านใช่มั้ย?”

“โรเบิร์ต ทางที่ดีนายอย่าเย่อหยิ่งเกินไป แม้ว่าพวกเราจะอยู่ในกำมือของนาย แต่ผลอุดมยังอยู่ นายยังไม่มีสิทธิ์มาพูดที่นี่!”

ทันใดนั้นก็มีคนเอ่ยปากตะโกนด้วยความโกรธ

“ฮ่าๆ ฉันยังไม่มีสิทธิ์พูด ตอนนี้ฉันก็จะบอกแกให้ ไม่นึกเลยว่าผลอุดมจะกล้าฆ่าลูกชายของฉันตาย เขาก็มีเพียงตายทางเดียวเท่านั้น”

โรเบิร์ตตะคอกใส่คนเมื่อกี้นี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“แค่ลูกนอกสมรสเท่านั้นเอง เขาตายไปแล้วก็ตายไปแล้ว หรือว่าแกกับคนข้างนอกทำให้ตระกูลพวกเราล่มสลาย เขาก็สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้งเหรอ?”

คนคนนั้นเอ่ยปากพูดอีกครั้งในทันที ในน้ำเสียงไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

“ฆ่าเขาแล้วเอาไปให้สุนัขกิน”

ลูกน้องของโรเบิร์ตลากผู้ชายคนนั้นออกไปทันที ในไม่ช้าด้านนอกก็มีเสียงสุนัขเห่าดังมาอย่างฉับพลัน และเสียงร้องโอดโอยเจ็บปวดมาเป็นพักๆ

ผู้คนในห้อง ได้แต่มองดูกันไปมา ต่างก็ถูกพฤติกรรมที่โหดร้ายของโรเบิร์ต ทำให้หวาดกลัว

“ช่างเถอะๆ ในความคิดของฉันผลอุดมทำเรื่องนี้ ไม่ค่อยจะเหมาะสมจริงๆ เนื่องจากลงมือฆ่าคนในตระกูลตัวเอง ถ้านลินถูกฆ่า เกรงว่าผลอุดมก็ไม่เสียดายของแลกเปลี่ยนทุกอย่างทำเรื่องแบบนี้ออกมา”

“ฮ่าฮ่าฮ่า คำพูดนี้สิถึงพูดได้เข้าท่าจริง เด็กคนนี้มีความตื่นตัว ฉันต้องให้ตำแหน่งที่ดีกับนายอย่างแน่นอน!”

โรเบิร์ตหัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที เต็มไปด้วยความเห็นดีเห็นชอบมองไปที่คนอยู่ข้างๆคนนั้น

ความจริงโรเบิร์ตไม่ได้สนใจว่าลูกนอกสมรสคนนั้นของเขาจะเป็นหรือตาย เหตุผลที่เขาทำทั้งหมดนี้ เขาเพียงแค่ต้องการโอกาสที่จะแย่งชิงตำแหน่งของตระกูล

สองตระกูลที่โรเบิร์ตรวมตัวกันก่อนหน้านี้ได้กล่าวว่า ตราบใดที่เขาสามารถโค่นล้มตระกูลณัฐรัชต์ที่เหลือได้ ตำแหน่งนายใหญ่ของตระกูลณัฐรัชต์ก็เป็นของตัวเอง

โรเบิร์ตเดินมาถึงห้องโถงอย่างรวดเร็ว เอ่ยปากถามลูกน้องที่อยู่ข้างๆ

“ตอนนี้มีข่าวคราวของนลินมั้ย?”

มีคนเดินมาจากข้างหลังหนึ่งคนทันที เอ่ยปากพูดว่า

“นายใหญ่ ตามความต้องการของท่าน ผมได้จัดให้ผลอุดมอยู่ในโรงพยาบาลของพวกเราแล้ว เมื่อกี้นี้ นลินก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องผู้ป่วยของผลอุดมแล้ว”

“บัดซบ! เรื่องสำคัญขนาดนี้ แกไม่บอกฉันเร็วกว่า?” โรเบิร์ตก็ตบหน้าของคนคนนั้นอย่างรุนแรง ลูกน้องคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ

โรเบิร์ตบีบนิ้วมือ สีหน้าก็บึ้งตึงไม่พอใจ

ลูกชายของตัวเองตายด้วยอุบัติเหตุ โรเบิร์ตไม่เคยสนใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไร สิ่งที่เขาสนใจ ก็คือตำแหน่งของตัวเอง

เรื่องของลูกชาย เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาควบคุมอำนาจใหญ่!

ตั้งแต่ที่โรเบิร์ตเริ่มแย่งชิงตำแหน่ง จนถึงผลอุดมเข้ารักษาในโรงพยาบาล ตอนนี้คนที่เป็นใหญ่ในทั้งตระกูลณัฐรัชต์ ก็มีเพียงนลิน ที่ไม่อยู่ในการควบคุมของเขา

จับตัวนลินได้ แผนการทุกอย่างถึงจะเรียกว่าสำเร็จลุล่วง

“พวกเราก็ควรไปเจอยัยนั่นแล้ว”

เมื่อท้องฟ้าค่อยๆมืดลง รพีพงษ์อยู่เป็นเพื่อนในห้องผู้ป่วยกับผลอุดและนลิน เพราะเขารู้ว่าผลอุดมเป็นเพียงเหยื่อล่อที่โรเบิร์ตจะจับตัวนลิน

เขาเพียงต้องรอให้ฝ่ายตรงข้ามมาหาถึงที่ก็พอแล้ว

ในขณะนี้ รพีพงษ์ได้ติดต่อกับพ่อบ้านในบ้านแล้ว เงินทุนจำนวนมากมายได้ถูกรวบรวมไว้แล้ว เพื่อที่เขาจะสามารถถอนได้ตลอดเวลา สะดวกในการจัดการกับอีกสองตระกูลใหญ่

ในเวลานี้ ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออกอย่างกะทันหัน และโรเบิร์ตก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท