พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1212 รายชื่อเศรษฐีอันดับหนึ่ง

บทที่1212 รายชื่อเศรษฐีอันดับหนึ่ง

“คุณหนูของคุณ?”

รพีพงษ์ค่อนข้างสงสัย แม้จะบอกว่าครั้งที่แล้วมาที่เมืองนี้แล้ว แต่ ตนก็ไม่ได้เจอคนรู้จักที่นี่เลยนะ?

รพีพงษ์คิดในใจ แต่ไม่นานก็ปฏิเสธทันที

ก่อนหน้านี้ไปสำนักเทพยาเซียน ตนไม่ได้บอกพ่อ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครรับรู้

“คุณหนูของคุณคือใคร ทำไมเธอเห็นผมไปแล้วผมจะต้องไปด้วย”

น้ำเสียงรพีพงษ์เย็นชา เขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องแคร์ใครทั้งนั้น

ชายชุดดำสีหน้าอับอาย “คุณชายรพี คุณหนูของเราบอกว่า ถ้าคุณไม่ไปละก็ เธอจะเกลียดคุณตลอดชีวิต”

“หา?”

ตอนนี้แม้แต่รพีพงษ์ก็เริ่มงงๆแล้ว

“คุณชายรพี ผมรู้ว่าฝีมือคุณแข็งแกร่ง พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ ขอร้องนะครับ อย่าทำให้เราลำบากใจเลย” ชายชุดดำกล่าว

รพีพงษ์ยักไหล่ เห็นอีกฝ่ายแบบนี้ จึงไม่คิดจะทำร้าย

“ก็ได้ ผมจะไปกับคุณ”

เขตถนนที่สาม โรงแรมไม้คู่

“คุณหนูของคุณอยู่ที่นี่?” รพีพงษ์ถาม

เดิมทีตนก็วางแผนจะมาที่โรงแรมนี้เช่นกัน ตอนนี้ดีเลย ดูๆแล้วยังมีคนที่รู้จักรอเขาอยู่ที่นี่

“คุณรพี กรุณามากับผมครับ”

พลางพูด ชายชุดดำพารพีพงษ์เดินเข้าไป

เพิ่งจะเข้ามาในล็อบบี้ รพีพงษ์ก็ได้ยินเสียงหนึ่งในนั้นเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งกำลังทะเลาะกับรปภ.คนหนึ่งที่ล็อบบี้

“คุณรพีเชิญนั่งบนโซฟา อีกสักครู่ผมจะพาคุณไปพบกับคุณหนู”

ชายชุดดำกล่าว

“ตามสบาย” รพีพงษ์กล่าวอย่างสบายๆ

ชายชุดดำรีบมาข้างๆชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่นั่น

“ต้น เกิดอะไรขึ้น”

ชายชุดดำพูดกับรปภ.คนนั้น

“ผู้จัดการเซจึนะ สองคนนี้จะเข้าพักโรงแรมของเราให้ได้ แต่ตอนนี้เป็นสภาวะฉุกเฉิน เจ้านายสั่งไว้ ว่าทุกวันเปิดได้มากสุดยี่สิบห้อง วันนี้โควตาเต็มแล้ว” รปภ.กล่าวอย่างน้อยใจ

เซจึนะพยักหน้า “โอเค หน้าของคุณไปโดนอะไรมา?”

“ผมไม่ให้พวกเขาเข้า ชายคนนั้นจึงตบหน้าผม” รปภ.รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

“โอเค คุณไม่มีธุระอะไรที่นี่แล้ว คุณทำดีมาก ไปพักที่ห้องพักผ่อนก่อนนะ”

หลังจากที่รปภ.จากไปแล้ว เซจึนะมาด้านหน้าของทั้งสองคน

“ท่านทั้งสอง ไม่ทราบว่ารปภ.ของที่นี่บอกพวกคุณชัดเจนหรือยัง ถ้าไม่ชัดเจน ผมจะพูดอีกครั้ง โควตาเข้าพักของวันนี้เต็มแล้ว เชิญท่านทั้งสองกลับครับ” เซจึนะมาที่ด้านหน้าของทั้งคู่แล้วกล่าว

“แม่ง มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร ถึงได้กล้าพูดกับกูแบบนี้อะ!” ผู้ชายตะคอกเสียงดังออกมา ด้วยความยโสโอหัง

“ไม่ทราบครับ ” เซจึนะพูดความจริง

“กูคือธมล เป็นคนที่เมืองพวกมึงเชิญมาสำรวจการลงทุน จะไปรู้ได้ไงว่ามาครั้งนี้จะเจอกับเรื่องบ้าๆแบบนี้ โชคร้ายแม่งจริงๆ”

ผู้ชายพูดพลาง ถุยน้ำลายลงพื้น

“ในเมื่อคุณผู้ชายรู้สึกโชคร้าย ก็ออกไปได้แล้วครับ” เซจึนะพูดไหลไปตามอีกฝ่าย

“แกเป็นใคร กล้าพูดกับบอสธมลแบบนี้!” หญิงที่อยู่ข้างๆแทรกเข้ามา

“จะบอกให้นะ เจ้านายของเรามาที่นี่เพื่อลงทุน โครงการมูลค่ากว่าพันล้าน แกถ่วงเวลาไหวเหรอ?”

หลังจากที่เซจึนะได้ยินแล้ว ก็ไม่สนใจใดๆ “คุณผู้ชาย เชิญคุณทั้งสองออกไปครับ วันนี้โควตาของเราเต็มแล้ว”

“แม่ง มึงนี่แม่งหัวรั้นจริงๆเลยวะ” ธมลตะคอก “ในเมื่อโควตาเต็มแล้ว กูจะบอกวิธีให้ ไล่แขกออกไปหนึ่งห้อง ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ!”

“บอสธมลฉลาดจริงๆ วิธีนี้ดีมากเลย”

หญิงคนนั้นพูด พลางชำเลืองมองไปที่เซจึนะ “ได้ยินหรือยัง ยังไม่รีบไปไล่คนออกจากที่นี่อีก ให้เราทั้งสองไปพักผ่อนในห้องได้แล้ว”

“ขอโทษท่านทั้งสอง แขกที่เข้าพักในโรงแรมของเราทุกคน พวกเราจะปฏิบัติเหมือนกัน ให้ผมไล่แขกไป ทำไม่ได้จริงๆ” เซจึนะกล่าว

“มึงแม่งบ้าป่ะวะ!”

ธมลได้ยินแล้วเกรี้ยวกราด ด่าพลางเดินเข้าไปด้านใน “มึงไม่ไล่กูไล่เอง!”

“คุณผู้ชาย ไม่ได้ครับ” เซจึนะรีบขวางหน้าธมลไว้แล้วกล่าว

“แม่ง กล้าขวางทางกู รนหาที่ตาย!”

เขาพูดพลาง ยกมือขึ้น จะตบไปที่หน้าของเซจึนะ

จู่ๆ มีมือหนึ่งยื่นมาในอากาศ จับข้อมือของธมลไว้

รพีพงษ์ที่เดิมทีนั่งอยู่บนโซฟา ขณะนี้ได้ปรากฏกายอยู่ตรงนี้แล้ว

“มึงเป็นใคร ปล่อยมือ!” ธมลขมวดคิ้วพลางกล่าว

“อย่างกับหมา คู่ควรจะรู้ชื่อของฉัน?” รพีพงษ์พูดอย่างไม่พอใจ ยกขาขั้นมา ยันอีกฝ่ายลงไปกับพื้น

“ฆ่าคนแล้ว!”

หญิงที่อยู่ข้างๆ ร้องออกมาเสียงแหลม เสียงนั้นดังทะลุแก้วหู ถ้าไม่ไปร้องเพลงเสียดายแย่

“บอสธมล บอสธมลไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ”

ผู้หญิงรีบมาด้านหน้าของธมล พยุงธมลขึ้นจากพื้น

“แม่ง เจ็บชิบหาย”

ธมลเจ็บจนทวารทั้งห้าบิดเบี้ยวเข้าหากัน ตอนที่เขาล้มไปส่วนท้อง รอยเท้า ผิวหนังเปลี่ยนเป็นฟกช้ำอย่างชัดเจน

“ไอ้หนู มึงมาจากไหน มึงรู้หรือเปล่าว่ากูเป็นใคร?” ธมลโอบเอวของสาวคนนั้น แล้วพยุงตัวยืนขึ้นมา

“ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร”

รพีพงษ์ไม่เหลียวมองเขาแม้แต่น้อย เพียงแค่หันไปมองเซจึนะ “ต้องการให้ผมช่วยไล่สองคนนี้ออกไปมั้ย?”

“คุณรพี ขอบคุณที่ออกโรงครับ” เซจึนะกล่าว

ด้วยตำแหน่งการทำงานของเซจึนะทำให้ไม่สามารถลงมือกับคนได้ตามอำเภอใจ มิเช่นนั้น ด้วยกำลังของวัยเขา จะกดธมลนั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ

จากนั้น เซจึนะมองไปที่ธมล “คุณผู้ชาย เชิญพวกคุณออกไปจากที่นี่ครับ”

“แม่ง ถีบกู แล้วยังจะไล่กูอีก ฝันไปเถอะ!”

ธมลมองไปที่รพีพงษ์อย่างดุดัน แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรรพีพงษ์

“ยังไม่ไปอีก? ฉันเต็มใจจะถีบแกอีกครั้งนะ” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น

“ได้ พนักงานของโรงแรมนี้ทำลายร่างกายแขก ดูจะเปิดโปงพวกมึง!” ธมลกล่าว

“ใช่ เปิดโปงพวกมัน!” หญิงสาวพูดเสริมข้างๆ

เซจึนะมองอีกฝ่าย แล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ทั้งสองท่านเข้าใจผิดแล้วครับ คุณรพีไม่ใช่พนักงานของโรงแรมเรา กลับกัน เขาเป็นแขกคนสำคัญที่สุดของเราในวันนี้!”

“แขกสำคัญที่สุด?”

ธมลพูดย้ำอีกครั้ง พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วกล่าว “มึงโกหกกู! เมื่อกี๊มึงพูดว่า โควตาเข้าพักวันนี้เต็มแล้วไม่ใช่เหรอ แต่กูเห็นกับตา ว่ามันมาหลังจากที่กูเข้ามาที่โรงแรมนี้แล้วเสียอีก!”

“ใช่ ทำไมมันเข้าพักได้ แต่พวกเราพักไม่ได้!” เลขาสาวก็ตะคอกออกมา

“คุณรพีกับพวกคุณไม่เหมือนกัน เขาเป็นคนที่คุณหนูของเราเชิญมา” เซจึนะตอบไปตรงๆ

“คุณหนูห่าเหวอะไร เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกมึงสองมาตรฐาน!”

ธมลพูดพลาง จากนั้นก็มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความเหยียดหยาม “โรงแรมนี้เปิดห้องพักได้ยี่สิบห้องต่อวันไม่ใช่เหรอ? กูจะดู ถ้าพวกมึงเปิดห้องให้มันเพิ่มโดยเฉพาะ กูจะแฉให้หมด ว่าคนของโรงแรมไม้คู่พูดจาสุ่มสี่สุ่มห้า รังแกคนอื่นเกินไป!”

“ใช่ บอสธมล คุณพูดถูกค่ะ พวกเราจะรอที่นี่” เลขาสาวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

หลังจากที่รพีพงษ์ได้ยินแล้วนั้น ก็ไม่สบอารมณ์ หันไปมองเซจึนะ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน มากสุดก็แค่นอนบนรถไม่เป็นไร จะได้ไม่ลำบากพวกคุณ”

“ไม่ได้ครับ คุณรพี ถ้าตอนนี้คุณออกไปละก็ คุณหนูจะต้องไม่ปล่อยผมไว้แน่” เซจึนะรีบกล่าว

จากนั้น เขามองไปที่ธมลทั้งสองคนกล่าว “พวกคุณวางใจได้ โรงแรมไม้คู่ของเราเป็นอันดับหนึ่งเรื่องความน่าเชื่อถือ พูดว่าใช่ยี่สิบห้องต่อวัน ก็คือยี่สิบห้อง ไม่มีทางเปิดเกินมาแม้แต่ห้องเดียวแน่นอน”

“งั้นก็จะรอดูว่าพวกมึงจะทำยังไง ถ้าวันนี้มึงไม่ให้คำตอบกู กูก็จะไม่ไป!” ธมลกล่าวอย่างเหยียดหยาม

เซจึนะมาตรงหน้าของธมล แล้วกล่าวเบาๆว่า “คุณรพี คืนนี้เข้าพักที่ห้องของคุณหนูของเรา!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท